อาจจะไม่ได้จริง แต่แนวทาง แนวคิดเอาไปประยุกต์ได้ เอามาต่อเติมความคิดได้ ไม่ใช่ซื้อมาเพื่อหวังว่าจะเอาเงินอย่างที่เขาบอกไว้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากการกระตุ้น ถ้าผมบอกว่า ทำงานผ่านเฟซ รายได้ไม่ต่ำกว่าวันละ 10 บาท จะมีคนซื้อ จะมีคนสนใจไหม ตอนที่ผมเห็น Ebook เล่มแรกเขาออกมา 199 บาท ผมไม่ลังเลเลย ผมซื้ออ่านทันที และผมไมได้มองว่า จะทำเงินให้ได้วันละ 2000 ผมมองหาโอกาส มองหาความรู้ มองหาสิ่งที่จะต่อยอดแนวคิดเรา ถามว่า มันคุ้มไหมกับเงินที่ลงทุนไป ผมว่า เราซื้อความรู้ ซื้อแนวคิดคนอื่นมาอ่าน ผมว่าคุ้มแน่นอนอย่างผมก็เอามาทำอย่างอื่นต่อยอดกำไรหลายร้อยเท่าตัว ถ้าคิดจะลงมือทำอะไร อย่ามัวแต่กลัว อย่ามัวไปถามคนอื่น ถามใจตัวเองว่าจะสู้ไหม ถ้าสู้ก็ลุย ถ้าไม่สู้ก็เลิก
หวังว่าเคยอ่านนิทานเรื่องหนึ่งนะ
เมื่อแพะกลายเป็นสุนัข
สาระสำคัญ
ใจหนึ่งก็อยากจะซื้อ ใจหนึ่งก็เสียดายเงิน คำรำพึงของใครคนหนึ่ง
ขณะที่เดินดูสินค้าอาจทำให้รู้สึกเหมือนกับว่าคนเรานั้นมีสองใจ แท้ที่จริงใจ ในที่นี้คือ
ความคิด คนเราคิดได้หลายอย่าง ถึงได้มีสำนวนว่า หลายใจ ขึ้นมา คนที่เปลี่ยนใจคือ
คนที่เปลี่ยนความคิด ซึ่งไม่ใช่เรื่องเสียหาย ถ้าเปลี่ยนแล้วดีขึ้น แต่ถ้าเปลี่ยนบ่อยๆจน
ไม่อยู่กับร่องกับรอย ก็คงไม่มีทางรู้ว่าเปลี่ยนแล้วจะดีหรือไม่ดี กลายเป็นคน ใจโลเล
เหมือนไม้หลักปักเลนเอนไปมา คนที่เชื่อคนอื่นง่ายๆ โดยไม่ยั้งคิด ท่านว่าเป็นคน ใจ
เบา ราวกับ พกนุ่น ถ้าเชื่อง่าย ยินยอมง่ายๆ ให้เขาหลอกไปในทางมิดีมิร้าย คงต้อง
เรียกว่า ใจง่าย ส่วนคนที่ไม่เชื่อใครง่ายๆ ท่านว่าเป็นคน ใจหนักแน่นเหมือน พกหิน
ทีเดียว
แต่ก็ยังไม่แน่นัก ถึงจะใจหนักแน่นเหมือนดังที่หม่อมเจ้าอิศรญาณทรงนิพนธ์
ไว้ในสุภาษิตอิศรญาณ ว่า อันเสาหินแปดศอกตอกเป็นหลัก แต่วรรคต่อมาท่านว่า
ไปมาผลักบ่อยเข้าเสายังไหว สิ่งที่ผลักมานั้น ก็คือสิ่งที่เร้าหรือโน้มน้าวใจให้เห็น
ประโยชน์ที่น่าจะได้รับ ถ้าได้ยินหนึ่งครั้งสองครั้งก็ยังมี ใจหนักแน่น อยู่ได้แต่ถ้ามา
กรอกหูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก็คงไหวไปมาแรงชักจูง การโฆษณาสินค้า ที่เซ้าซี้เราอยู่ทุกวันนี้
ก็ใช่หลักเดียวกันมนุษย์มีความต้องการขั้นพื้นฐานที่ผลักดันให้คิด เชื่อ และทำสิ่งต่างๆ
ตามความต้องการความหิวผลักดันให้มนุษย์ออกไปแสวงหาอาหาร ความต้องการ
อยู่เป็นหมู่คณะผลักดันให้มนุษย์ทำตัวให้เหมือนคนอื่นๆ เป็นต้น คำชักชวนด้วยการ
โน้มน้าวใจ ว่าถ้าทำเช่นนั้นเช่นนี้แล้ว จะได้ประโยชน์หรือไม่เสียประโยชน์จึงกระทบ
ใจมนุษย์ได้ดี
ชายหกคนในนิทานเรื่อง หนึ่งในปัญจตันตระเห็นทีจะรู้หลักนี้ดี จึงโน้มน้าวใจ
พราหมณ์ผู้หนึ่งหลงเชื่อว่ากำลังแบกสุนัข นิทานเล่าว่าพราหมณ์จะทำพิธีบูชายัญจึงไป
หาซื้อแพะมาตัวหนึ่ง ขณะที่แบกแพะกลับบ้าน ชายหกคนเห็นเข้าก็คิดจะหลอกเอา
แพะจากพราหมณ์ คนแรกยืนดักหน้าพราหมณ์แล้วทักว่าจะแบกสุนัขไปไหน
พราหมณ์นึกขันตอบว่า สุนัขที่ไหนกัน แพะแท้ๆ เดินต่อไปอีกไม่กี่ก้าว ชายคนที่สอง
ก็เข้ามาทักด้วยคำถามคล้ายๆกัน พราหมณ์ไม่ขัน และยังตอบเหมือนเดิม ไปอีกหน่อย
พบชายคนที่สาม ถามอีกแล้ว คราวนี้พราหมณ์ชักลังเลวางแพะลงดูให้แน่อีกที
ครั้นเห็นว่ายังเป็นแพะตัวเดิมที่ซื้อมา ก็แบกขึ้นบ่าเดินต่อไป
สักพักชายคนที่สี่เดินเข้ามาหาถามว่า จะเอาสุนัขไปทำอะไร พราหมณ์ตอบว่า
นี่มันแพะนะจะเอาไปบูชายัญ ชายคนนั้นหัวเราะ แล้วยืนยันว่าเห็นๆอยู่ ว่าเป็นสุนัข
แท้ๆ พราหมณ์ไม่ค่อยสบายใจเดินต่อมาพบชายคนที่ห้า และต่อมาอีกก็พบชายคนที่หก
ทักถามเหมือนกันอีกแล้ว หรือว่าแพะตัวนี้จะเป็นปีศาจ ถึงได้กลายร่างเป็นสุนัขให้
ใครเห็นได้ ถ้าเราขืนแบกมันต่อไป กว่าจะถึงบ้าน มันก็คงแผลงฤทธิ์ทำร้ายเราแน่ๆ
คิดแล้วพราหมณ์ก็โยนแพะทิ้งแล้ววิ่งตัวเปล่ากลับบ้าน ชายทั้งหกคนจึงจับแพะไป
เชือดกินกัน
วิธีการของชายทั้งหกคน คือโน้มน้าวใจพราหมณ์ให้เปลี่ยนความคิดและ
เปลี่ยนการกระทำ คือคิดว่าสิ่งที่แบกมาไมใช่แพะ และเลิกแบกต่อไป แต่เป็นการ
โน้มน้าวใจที่แฝงเจตนาไม่ดี ชักจูงให้เขาทำเพื่อประโยชน์ของตนฝ่ายเดียว จึงเป็น
การชักจูงทำนองเดียวกับการโฆษณาชวนเชื่อ คนที่จะตกเป็นเหยื่อของการโน้มน้าวใจ
ในลักษณะนี้ได้ง่ายๆก็คือ "คนที่ขาดวิจารณญาณ" หลักความเชื่อในกาลามสูตร
จึงสอนไว้ข้อหนึ่งว่า "อย่าถือโดยตรึกตามอาการ"ซึ่งสมเด็จพระมหาสมณะเจ้า
กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงอธิบายไว้ว่า หมายถึง
"การได้ฟังเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ผู้ใดผู้หนึ่งพูดแล้ว ยังไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร แต่คิดเห็น
ว่า ถ้าเราถืออย่างนี้จะดีกว่า แล้วเชื่อถือตามความคิดเห็นนั้น อย่างนี้เรียกว่า ถือโดย
ตรึกตามอาการ"
ข้อคิด 1.ธรรมชาติของมนุษย์มักจะเชื่อและทำตามคำชักชวน โน้มน้าวใจ โดยเฉพาะ
เมื่อโน้มน้าวซ้ำๆ ก็จะคล้อยตามได้ในที่สุด
2. ถ้าเราคิดตรองทุกอย่างด้วยเหตุผลและสติแล้ว จะไม่มีใครมาหลอกลวงให้
เชื่อได้ง่ายๆ
3. การหลอกลวงมีอยู่ทั่วไป ต้องรู้จักระมัดระวัง ไม่หลงเชื่ออย่างง่ายๆโดย
ขาดเหตุผล
อ้างอิงที่มาของเรื่อง(
http://61.19.202.164/works/smtpweb52/C04/a3.html )