มาแบ่งปันพื้นฐานการลงโฆษณาเฟสบุ๊คสำหรับมือใหม่ครับ เป็นวิธีการลงโฆษณาแบบง่ายๆ
อย่างแรกที่คุณต้องเข้าใจก่อนที่จะสร้างแคมเปญโฆษณาก็คือ แคมเปญเฟสบุ๊คแต่ละแบบมีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป แต่โดยปกติแล้วแต่ละแคมเปญจะสามารถแยกย่อยออกมาได้เป็น 3 ส่วน ซึ่งก็คือ
1. Campaign - แคมเปญโฆษณาหลักซึ่งรวบรวมทุกส่วนประกอบของแคมเปญ
2. Ad Sets - กลุ่มเป้าหมายของโฆษณา ซึ่งถ้าคุณมีกลุ่มเป้าหมายหลายกลุ่ม (Audience)ที่แตกต่างกัน คุณควรจะแยก Ad Sets ในแต่ละแคมเปญ
3. Ads - โฆษณาสำหรับในแต่ละ Ad Sets ซึ่งอาจจะมีรูปแบบที่แตกต่างกันไป เช่น หัวเรื่อง, เนื้อหา, หรือรูปภาพ เป็นต้น
หลังจากที่สร้างแคมเปญเสร็จแล้วก็จะเจอ 3 อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับ
เมื่อเข้าใจในส่วนนี้แล้วเราก็มาเริ่มสร้างแคมเปญโฆษณากันเลย!
ขั้นตอนที่ 1: กด Create Ads หรือ สร้างโฆษณา
ปุ่มนี้จะอยู่ข้างในปุ่มลูกศรบนแถบด้านบนข้างๆปุ่มลูกโลกซึ่งเป็น Notification
ขั้นตอนที่ 2: เลือกเป้าหมายของแคมเปญ
Boost your posts - โปรโมทโพสเพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมกับโพส เช่น คลิกอ่านต่อ กดไลค์ หรือกดแชร์
Promote your Page - โปรโมทเพจ เพิ่มยอดไลค์ เพิ่มฐานผู้ติดตาม
Send people to your website - เพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์ของเราหรือทราฟฟิก (Traffic)
Increase conversions on your website - เพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์พร้อมวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เช่น การลงทะเบียน การกดสั่งซื้อสินค้า เป็นต้น แคมเปญนี้ต้องใส่ Conversion Pixel ในเว็บไซต์เพื่อติดตามผลลัพธ์ด้วย
Get installs of your app - เพิ่มจำนวนให้คนดาวน์โหลดแอพ ของเราไปใช้งาน
Increase engagement in your app - เพิ่มจำนวนคนใช้งานแอพ ซึ่งสามารถกำหนดให้ใช้งานในส่วนที่เราต้องการภายในแอพ
Reach people near your business - เข้าถึงคนที่อยู่บริเวณใกล้ๆกับสถานที่ตั้งของธุรกิจเรา เพื่อให้คนจดจำแบรนด์หรือร้านค้าของเรา (Local Brand Awareness)
Raise attendance at your event - โปรโมทอีเวนท์เพื่อให้คนรับรู้และเพิ่มจำนวนคนเข้าร่วม
Get people to claim your offer - โปรโมทข้อเสนอหรือโปรโมชั่นต่างๆ
Get video views - โปรโมทวีดีโอเพิ่มจำนวนคนดูวีดีโอ
Collect leads for your business - สร้างลิสต์รายชื่อเก็บรายละเอียดสำหรับกลุ่มผู้มุ่งหวังหรือลูกค้าของเรา เช่น ชื่อ อีเมล์ เบอร์โทร ที่อยู่ เป็นต้น
เมื่อเลือกเป้าหมายของแคมเปญเรียบร้อยแล้ว เฟสบุ๊คจะแสดงตัวเลือกต่างๆสำหรับเป้าหมายของแคมเปญนั้นๆขึ้นมาให้เลือก
ขั้นตอนที่ 3: เลือกกลุ่มเป้าหมาย
ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต้นทำแคมเปญโฆษณาบนเฟสบุ๊ค ในขั้นตอนนี้คุณควรที่จะทดสอบกลุ่มเป้าหมายหลายๆกลุ่มเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกตรงกับที่คุณต้องการมากที่สุด
สำหรับในเบื้องต้น คุณอาจใช้ตัวมาตรวัดทางด้านขวาซึ่งเป็นเครื่องมือของเฟสบุ๊คเพื่อช่วยให้คุณเลือกกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น ซึ่งหลังจากที่คุณเลือกเป้าหมายของคุณแล้ว มาตรวัดตัวนี้จะแสดงความสามารถในการเข้าถึงโฆษณาของคุณ (Potential Reach) เป็นจำนวนออกมา
ตรงนี้ขึ้นอยู่กับเป้าหมายแคมเปญของคุณ ในบางแคมเปญเช่นการสร้างแบรนด์ให้คนจดจำ (Increase Brand Awareness) หรือการโปรโมทโปรโมชั่นหรือข้อเสนอต่างๆ คุณอาจใช้การกำหนดเป้าหมายที่กว้าง (Broad) ในขณะที่หากคุณต้องการคนเข้าเว็บไซต์ที่เพิ่มขึ้น หรือเพิ่มจำนวนการลงทะเบียนต่างๆ คุณควรจะใช้การกำหนดเป้าหมายที่แคบลงมาเพื่อให้แน่ใจว่าคนที่เห็นโฆษณาของคุณ คือคนที่สนใจในธุรกิจ สินค้า หรือบริการของคุณ
สำหรับการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย คุณสามารถเลือกได้ดังนี้
Custom Audiences กลุ่มเป้าหมายแบบกำหนดเอง - กลุ่มเป้าหมายนี้อาจจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่คุณมีอยู่แล้วซึ่งอาจเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นรายชื่อลูกค้าบริษัทของคุณ คนที่เคยเข้าเว็บไซต์ของคุณ กลุ่มเป้าหมายในแคมเปญก่อนๆที่เคยเซฟไว้ หรือกลุ่มเป้าหมายที่คุณสร้างจากเครื่องมือ Audience Insight.. ในขั้นตอนนี้เราจะเริ่มต้นที่ตัวเลือกถัดไปและผ่านตัวเลือกนี้ไปก่อนครับ
Location สถานที่ - คุณสามารถระบุสถานที่ตั้งของกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ ซึ่งสามารถกำหนดได้ทั้งประเทศ เช่น ประเทศไทย หรือจังหวัด เช่น กรุงเทพฯ, เชียงใหม่ หรืออำเภอ เช่น อำเภอเมืองภูเก็ต
ปัจจัยในการเลือกสถานที่ตั้งของกลุ่มเป้าหมายนั้นขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจของคุณ เช่น ถ้าคุณทำธุรกิจร้านกาแฟในเขต สุขุมวิท จังหวัดกรุงเทพฯ คุณก็อาจจะเลือกเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงในส่วนนี้ แต่หากคุณทำธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์ คุณอาจจะกำหนดกลุ่มเป้าหมายเป็นทั้งประเทศไทย เพราะคุณสามารถจัดส่งสินค้าได้ทั่วทั้งประเทศ เป็นต้น
Age อายุ - การกำหนดอายุกลุ่มเป้าหมายนั้นขึ้นอยู่กับกลุ่มเป้าหมายของคุณว่าเป็นช่วงอายุไหน ซึ่งอาจจะอิงตามประเภทสินค้า ประเภทธุรกิจ หรือเนื้อหาในเว็บไซต์หรือแฟนเพจ เช่น หากคุณขายสินค้าสำหรับเด็กเล็ก เป้าหมายของคุณอาจจะเป็นกลุ่มคนซึ่งมีอายุขึ้นมาหน่อย ซึ่งอาจจะเป็นคุณพ่อคุณแม้วัย 25-35 ปี แต่หากคุณขายสินค้าเกี่ยวกับแฟขั่นวัยรุ่น กลุ่มเป้าหมายของคุณก็อาจจะเป็นช่วงอายุ 18-25 เป็นต้น
Gender เพศ - เช่นเดียวกันกับอายุ การกำหนดเพศของกลุ่มเป้าหมายก็ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า ประเภทธุรกิจ หรือแม้กระทั่งเนื้อหาเว็บไซต์หรือแฟนเพจของคุณ เช่น คุณขายเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้หญิง กลุ่มเป้าหมายของคุณก็คือเฉพาะผู้หญิง แต่หากคุณทำเพจเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล กลุ่มเป้าหมายของคุณก็คือผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ หรือหากคุณทำเว็บไซต์เกี่ยวกับเนื้อหาทั่วๆไป คุณอาจจะเลือกทั้งหมดเลยก็เป็นไปได้
Languages ภาษาที่ใช้ - ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณว่าเฉพาะเจาะจงแค่ไหนครับ ถ้าเป้าหมายของคุณคือคนต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษ แต่อยู่ในประเทศไทย คุณก็ควรเลือกภาษาอังกฤษเพื่อเจาะจงกลุ่มเป้าหมายนั้นๆ
Detailed Targeting เป้าหมายแบบเจาะจง - คุณสามารถกำหนดเป้าหมายที่เจาะจงรายละเอียดลงไปอีก เช่น
Demographics หรือ ลักษณะเฉพาะ เช่น ระดับการศึกษา, เชื้อชาติ, สถานะทางสังคม, ตำแหน่งงานที่ทำ
Interests หรือความสนใจส่วนตัว เช่น คนที่สนใจเรื่องธุรกิจ, แฟนชั่น, อาหาร, การท่องเที่ยว, หรืองานอดิเรกต่างๆ
Behaviors หรือพฤติกรรมต่างๆ เช่น เบราเซอร์หรือสมาร์ทโฟนที่ใช้ เป็นต้น
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นทำแคมเปญโฆษณา อาจจะดูแค่ส่วนที่เป็น Interest ก่อนก็ได้ครับ
Connections เครือข่ายกลุ่มเป้าหมาย - คุณอาจจะเลือกให้โฆษณาของคุณแสดงเฉพาะคนที่เป็นแฟนเพจของคุณ คนที่ยังไม่เป็นแฟนเพจของคุณ เป็นต้นครับ
เมื่อคุณเลือกกลุ่มเป้าหมายครบแล้ว คุณจะเห็นศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย (Potential Reach) ที่แถบมาตรวัดทางด้านขวามือครับ
ขั้นตอนที่ 4: กำหนดงบประมาณ
คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้งบประมาณโฆษณาของคุณเป็นรายวัน (Daily Budget) หรืองบประมาณทั้งหมดที่ใช้ตามจำนวนวันที่กำหนด (Lifetime Budget) ซึ่งข้อแตกต่างสำหรับงบประมาณทั้ง 2 แบบนี้ก็คือ
Daily Budget หรืองบประมาณรายวัน - ในกรณีที่คุณต้องการให้โฆษณาของคุณแสดงผลอย่างต่อเนื่องในทุกๆวัน คุณสามารถใช้ตัวเลือกนี้ครับ ซึ่งงบประมาณที่คุณจะจ่ายไปก็คืองบประมาณต่อวันที่คุณจะจ่ายในแต่ละวัน เช่น ถ้าคุณตั้งงบประมาณเป็น 30 บาทต่อวัน นั่นหมายถึงในแต่ละวันคุณจะเสียค่าโฆษณาจำนวน 30 บาท.. ทั้งนี้งบประมาณขั้นต่ำสำหรับแต่ละ Ad Set ก็คือ 30 บาท หรือ $1
Lifetime Budget หรืองบประมาณทั้งหมด - ในกรณีที่คุณต้องการให้โฆษณาของคุณแสดงผลตามระยะเวลาที่กำหนด คุณสามารถใช้ตัวเลือกนี้ได้ ซึ่งงบประมาณที่คุณจะจ่ายไปทั้งหมดก็คืองบประมาณที่คุณจะจ่ายสำหรับทั้งแคมเปญ เช่น ถ้าคุณตั้งงบประมาณทั้งหมดไว้ที่ 500 บาท แล้วตั้งให้โฆษณาแสดงผลทั้งหมด 5 วัน เฟสบุ๊คก็จะแสดงผลโฆษณาของคุณเฉลี่ยๆในแต่ละวันตลอดทั้ง 5 วันโดยไม่ใช้งบประมาณเกินตามที่คุณกำหนดซึ่งก็คือ 500 บาท
Optimization for Ad Delivery การปรับแต่งสำหรับเป้าหมายของการแสดงผลโฆษณา - โดยปกติแล้วสำหรับในส่วนนี้จะแตกต่างกันไปตามแคมเปญที่คุณเลือก แต่หลักๆจะมี 3 ตัวเลือก
ตัวเลือกแรก คือ เป้าหมายหลักแคมเปญของคุณ (ในกรณีนี้คือ Post Engagement)
ตัวเลือกที่สอง คือ Impression ซึ่งเป็นการเน้นการแสดงผลโฆษณาของคุณให้บ่อยที่สุด
ตัวเลือกที่สาม คือ Daily Unique Reach ซึ่งเป็นการเน้นการแสดงผลไม่เกิน 1 ครั้งต่อคนในแต่ละวัน
สำหรับมือใหม่คุณอาจจะเลือกแบบแรกไปก่อนครับ
Bid Amount การประมูลราคา - ในส่วนนี้จะเป็นการประมูลราคาซึ่งจะเป็นการแข่งขันราคากับผู้ลงโฆษณาคนอื่นๆว่าโฆษณาของคุณจะแสดงผมมากน้อยแค่ไหน ตรงนี้จะมี 2 ตัวเลือก ซึ่งก็คือ
1. Automatic - ให้เฟสบุ๊คเป็นคนจัดการการประมูลให้กับคุณเพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีสุดในราคาที่ดีที่สุด
2. Manual - คุณสามารถกำหนดราคาสูงสุดที่คุณเต็มใจจะจ่ายในแต่ละผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้
สำหรับมือใหม่ผมแนะนำให้ใช้ Automatic ครับ
When You Get Charged - ในส่วนนี้จะเป็นการกำหนดว่าคุณจะเสียค่าใช้จ่ายในกรณีใด
1. Impression (CPM) - เสียค่าใช้จ่ายตามจำนวนการแสดงโฆษณาต่อ 1000 ครั้ง
2. Post Engagement - เสียค่าใช้จ่ายตามจำนวนผลลัพธ์ที่คุณได้ (แตกต่างกันไปในแต่ละเป้าหมายแคมเปญ)
Ad Scheduling ตารางเวลาโฆษณา - คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้แสดงผลโฆษณาของคุณตามวันเวลาที่กำหนดหรือไม่ เช่น คุณสามารถกำหนดได้ว่าจะให้แสดงผลโฆษณาเฉพาะวันธรรมดาตอนเย็นถึงดึก และในวันเสาร์อาทิตย์ตลอดทั้งวัน
Delivery Type ประเภทของการแสดงผลโฆษณา - มี 2 ตัวเลือกให้คุณเลือก นั่นก็คือ
1. Standard - แสดงผลโฆษณาของคุณตลอดทั้งวัน
2. Accelerated - ใช้งบประมาณทั้งหมดที่คุณมีให้หมดเร็วที่สุด (ต้องใช้ Manual Bid เท่านั้น)
ขั้นตอนที่ 5: สร้างโฆษณา
ขั้นตอนนี้จะเป็นการสร้างโฆษณาของคุณเองซึ่งจะเป็นการกำหนดว่าคุณอยากให้โฆษณาของคุณมีลักษณะยังไง
อย่างไรก็ตาม รูปแบบของโฆษณาจะแตกต่างไปตามเป้าหมายของแคมเปญ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณสร้างแคมเปญโปรโมทโพส ตัวเลือกของรูปแบบของโฆษณาก็จะเป็นของแคมเปญโปรโมทโพส ในขณะที่หากคุณสร้างแคมเปญเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์ รูปแบบของโฆษณาก็จะเป็นของแคมเปญเพิ่มคนเข้าเว็บไซต์
สำหรับรูปแบบของโฆษณาแต่ละแคมเปญก็จะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป เช่น ขนาดของรูปภาพ,ปริมาณตัวอักษร, หัวเรื่อง, หรือรายละเอียดของเว็บไซต์ เป็นต้น
นอกจากรูปแบบของโฆษณาแล้วคุณยังสามารถเลือกตำแหน่งโฆษณาได้อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการเลือกว่าจะให้แสดงผลโฆษณาไว้ที่ไหนบ้าง โดยคุณสามารถเลือกได้ 3 แบบก็คือ
Desktop News Feed - การแสดงผลบนเดสก์ทอป
Mobile News Feed - การแสดงผลบนอุปกรณ์เคลื่อนที่
Desktop Right Column - การแสดงผลบนคอลัมน์ทางด้านขวาของเดสก์ทอป
หากคุณไม่ต้องการให้แสดงผลบริเวณไหน คุณสามารถกด Remove ออกได้เลยครับ แต่อย่างไรก็ตามคุณควรที่จะทำการทดสอบผลลัพธ์แต่ละตำแหน่งแยกกันด้วยเพื่อดูว่าตำแหน่งไหนให้ผลลัพธ์กับคุณดีที่สุด
หลังจากที่คุณเลือกทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คุณก็สามารถกด Place Order เพื่อทำการสั่งซื้อโฆษณาของคุณได้เลยครับ หลังจากนั้นก็รอแค่ให้เฟสบุ๊คอนุมัติแคมเปญโฆษณาของคุณเท่านั้น!
หวังว่าจะได้ประโยชน์กันนะครับ ในโอกาสต่อๆไปถ้ามีโอกาสจะมาแบ่งปันการวิเคราะห์ผลลัพธ์ของแคมเปญโฆษณาว่าแคมเปญที่เราลงไปมีประสิทธิภาพหรือไม่มีประสิทธิภาพ และมีปัจจัยอะไรบ้างที่จะต้องนำมาวิเคราะห์ครับ
สำหรับบทความอื่นๆเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์และการสร้างธุรกิจออนไลน์ คุณสามารถอ่านเพิิ่มเติมได้ที่นี่เลย
http://onlinepassiveincomeacademy.com/