วิทยาศาสตร์คือศาสตรืที่ประกอบไปด้วยเหตุและผล
ดังนั้นแม้แต่มนต์ดำเขมร รึว่าเป็นวิญญาน ถ้าได้รับการพิสูจน์ และมีเหตุและผลเพียงพอ ศาสตร์นั้นก็จะกลายเป็นวิทยาศาสตร์ไปโดยประยาย
แต่...
สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์พึงระลึกไว้ก็คือ อย่าพึ่งเชื่อ หากว่ายังไม่ได้ผ่านการพิสูจน์ที่แพยงพอ และ
อย่าตัดสินว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณยังไม่รู้ว่ามันคืออะไรเพราะคุณไม่รู้ว่ามันคืออะไร แล้วคุณจะเอาเหตุและผลอะไรไปตัดสินว่ามันไม่ใช่แต่คนที่เรียนวิทยาศาสตร์ กลับพูดคำว่าเป็นไปไม่ได้ออกมาเป็นคำแรก เมื่อมีคนพูดถึงสิ่งที่ตัวเองไม่รู้จัก และไม่เคยเจอมาก่อน
โดยที่ไม่ได้ใช้เหตุผลด้วยซ้ำ มันเลยทำให้วงการวิทยาศาสตร์ก้าวหน้าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
เช่น
โคลัมบัสจะเดินทางรอบโลก นักปราชญ์ทั่วไปกลับบอกว่าเค้าจะตกโลกตาย
พี่น้องตระกูลไรท์ ถูกเหยียบหยามว่าเป็นคนบ้า เพราะคิดว่าคนต้องบินได้ - เหยียดหยามจากนักวิทยาศาสตร์ทั่วไป
ค้าน นักปราชญ์ชื่อก้องโลก กลับถูกนักปราชย์ในรุ่นเดียวกันและคนทั่วไปหาว่าเป้นคนบ้า จนเค้าตายมาหลายปีถึงได้รู้ว่า ทฤษฎีของเค้านั้นมันความสมเหตุสมผล
เพลโต ตายอย่างช้ำใจเพราะคนทั่วไปมองว่ากฎ 80/20 ของเค้าเป็นเรื่องไร้สาระ และหลอกลวง จนกระทั่งเค้าตายมาเป้นร้อยปี คนถึงได้รุ้ว่าทฤษฎีนี้นั้นยิ่งใหญ่ จนศาสตร์ทุกแขนงยังต้องเอามาใช้
และนักวิทยาศาสต์ชื่อก้องโลกอีกมากมาย ที่ตายอย่างข่มขื่น เพราะคนไม่เชื่อในทฤษฎีของเค้า แต่หลายร้อยปีต่อมาความจริงถึงถูกเปิดเผย
ไม่เพียงแต่นักวิทยาศาสตร์และนักปราชญ์เท่านั้น แต่ทุกวันนี้ ธุรกิจที่ประสบผลสำเร็จมักจะเป็นธุรกิจที่คนส่วนมากคิดว่าเป้นธุรกิจที่ต้องล้มเหลว และพยายามหาเหตุผลออกมาว่าทำไมมันถึงล้มเหลว
ถามว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น
ผมสรุปได้ว่าที่เป็นแบบนั้นเพราะ คนในสมัยนั้นไม่ได้มีเครื่องมือ หรือ กระบวนการคิดที่จะมาพิสูจน์เรื่องนั้นๆได้ แล้วโดยสันดาน(จิตใต้สำนึก) ที่ติดตัวมาแต่เกิดของคน ที่ต้องปฎิเสธในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้จัก ทำให้ตัดสินว่าสิ่งเหล่านั้นเป้นเรื่อง โกหก และไร้สาระ
ตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ สันดานอันนั้นยังติดตัวสิ่งมีชีวิตเรื่อยมา ทำให้กลายเป็นว่าขลาดกลัวในการจะพบกับสิ่งใหม่ๆ
ดังนั้น
ทั้งเรื่องมนุษย์ต่างดาวและวิญญาน เป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้ในตัวของมันเอง แต่มันก็มีเหตุและผลด้วย
แต่ก้ยังถูกคนที่ไม่เคยเห็น ไม่เคยแม้แต่จะค้นหาว่ามันมีจริงรึเปล่า พูดอย่างเหยียดหยามว่า "บ้ารึเปล่า เรื่องแบบนี้จะไปมีได้ยังไงกัน"
ตราบจนเรามีเครื่องมือที่จะพิสูจน์ว่า สิ่งเหล่านี้เป็นจริง คนที่เคยดูถูก อาจจะพูดถึงคนที่คิดค้นสำเร็จว่า
"ไอ้หมอนี่มันเป้นเพื่อนพ่อเอง มันเก่งมาก มันเคยมาพูดกับพ่อ พ่อเชื่อว่ามันต้องทำได้ แล้วมันก็ทำได้จริงๆ พ่อดีใจจริงๆที่ได้เป็นเพื่อนกับมัน"
คำกล่าวของคนที่ไม่เชื่อ พูดกับลูก ซึ่งขัดกับสิ่งที่เค้าเคยพูดไว้