ต่อไป »

[lyric]

ส่งสินค้าไปแล้วสินค้าเกิดเสียครับ Return Policyที่ตั้งไว้ตอนแรกคือลูกค้าต้องเป็นคนจ่ายค่าขนส่งกลับ แต่ลูกค้าไม่ยอมแล้วขู่ว่าจะให้Negative feedbackถ้าไม่ทำตาม ผมจะมีวิธีแก้ไขปัญหานี้ยังไงบ้างครับที่ไม่ต้องคืนเงินโดยไม่ได้รับของกลับ และสามารถขอให้อีเบย์Remove Negative feedback ให้

สินค้าตัวนี้ผมขายไปมากกว่า50ชิ้นได้ Positive feedbackมาโดยตลอด แล้วยังไม่เคยเจอปัญหาใดๆ ประเด็นตรงนี้สามารถจะเอามาโต้กับอีเบย์ได้ไหมครับ ?

ขอบคุณทุกๆท่านมากครับ

[trudy]

น้องเข้าใจความหมายของ return policy ผิดแล้วค่ะ
Return Policy หมายถึง ลูกค้าได้รับสินค้าดี แต่ เกิดเปลี่ยนใจไม่อยากได้ของ กรณีนี้ลูกค้า ต้องจ่ายค่าส่งกลับ
สำหรับของแตก ของเสีย เป็นภาระรับผิดชอบของคนขายเท่านั้น
คนขายมีทางแก้ 3 ทาง ให้ลูกค้าเป็นคนเลือก
1 ส่งของไปให้ใหม่
2 คืนเงินเต็มจำนวนให้ลูกค้า
3 คืนเงิน ครึ่งหนึ่งหากสินค้าใช้ได้เสียหายเป็นบางส่วน

[lyric]

ขอบคุณคุณTrudy มากๆครับ ผมมีคำถามจะถามเพิ่มเติมอีกนิดนึงนะครับ

1. ถ้า Refund เงินครึ่งเดียว แล้วลูกค้าปฎิเสธ จะต้องทำยังไงต่อครับ คืนเงินเต็มจำนวน ?
2. ถ้า Refund เงินครึ่งเดียว แล้วลูกค้ายอมรับ แต่หลังจากคืนเงินแล้วลูกค้าให้ Negative Feedback จะสามารถขอให้อีเบย์ลบตรงนี้ออกได้ไหมครับ ?
3. เงินจำนวนที่คืนผมต้องคืนรวมทั้งค่าขนส่งด้วยไหมครับ เช่น ของราคา $200 US และShipping ราคา $100 US ผมต้องคืน $200US หรือ คืนเต็มจำนวน $300 US ครับ ?

ขอบพระคุณทุกๆท่านมากๆครับที่ช่วยเหลือ

[trudy]

ขอบคุณคุณTrudy มากๆครับ ผมมีคำถามจะถามเพิ่มเติมอีกนิดนึงนะครับ

1. ถ้า Refund เงินครึ่งเดียว แล้วลูกค้าปฎิเสธ จะต้องทำยังไงต่อครับ คืนเงินเต็มจำนวน ?
2. ถ้า Refund เงินครึ่งเดียว แล้วลูกค้ายอมรับ แต่หลังจากคืนเงินแล้วลูกค้าให้ Negative Feedback จะสามารถขอให้อีเบย์ลบตรงนี้ออกได้ไหมครับ ?
3. เงินจำนวนที่คืนผมต้องคืนรวมทั้งค่าขนส่งด้วยไหมครับ เช่น ของราคา $200 US และShipping ราคา $100 US ผมต้องคืน $200US หรือ คืนเต็มจำนวน $300 US ครับ ?

ขอบพระคุณทุกๆท่านมากๆครับที่ช่วยเหลือ

1 เขียนเป็นหัวข้อให้เขาเลือก
2 ebay ไม่สามารถลบให้ได้ค่ะ
3 300$

หากของพอซ่อมได้ คุณต้องออกค่าขนส่งสินค้านั้นให้กลับมาไทย เพิ่ม

[lyric]

ชัดเจนครับคุณTrudy เสียตังอีกแล้วผม 

ถ้าหยั่งงี้ลูกค้าแกล้งหักของนิดนึงแล้วบอกว่าของเสียหาย เราก็ต้องรับกรรมสิครับนี่ 

[trudy]

ชัดเจนครับคุณTrudy เสียตังอีกแล้วผม 

ถ้าหยั่งงี้ลูกค้าแกล้งหักของนิดนึงแล้วบอกว่าของเสียหาย เราก็ต้องรับกรรมสิครับนี่ 

ก่อนคืนเงิทุกครั้ง ให้ลูกค้าถ่ายรูปมาก่อนว่าของเสียหายยังไง พี่เคยเจอใช้ Photoshopตัดแต่ง
หา email ของลูกค้าใน paypal
ส่ง mail ไป บอกว่าจะดูรูปสินค้าก่อน จากนั้น ค่อยว่ากัน

[trudy]

เป็นพี่ พยายามคืนเงินให้ครึ่งหนึ่ง ถ้าเขาสามารถซ่อมเองได้
พยายามเจรจาให้ได้ข้อนี้นะคะ

[lyric]

ขอบคุณครับพี่Trudy

ปกติผมต้องคืนเงินประมาณ 10%ของกำไรจากทุกๆเคสใน1เดือน มันเยอะเกินไปหรือเปล่าครับ ? และพี่trudy พอจะบอกได้ไหมว่าในเดือนนึงคืนเงินลูกค้าประมาณกี่%ของกำไร

รบกวนถามคำถามสุดท้ายนะครับ ถ้าตกลงแล้วว่าให้ส่งของกลับมาแต่เมื่อของมาถึงดันแตกเพิ่ม ตรงนี้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบครับ ?

ขอบคุณมากครับ

[touchapong]

การตั้งราคาขายต้องให้ Cover ความเสี่ยงคิดเผื่อไว้ทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ลูกค้าโกง ขอคืนเงิน สินค้าเสียหาย ของหายระหว่างขนส่ง เป็นต้น แต่ถ้าตั้งราคาขายแพงเกินไปก็ขายไม่ได้
เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเข้าเนื้อตัวเอง เพราะระบบของ E-commerce ที่ฝรั่งมันคิด มันเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อให้พวกฝรั่งมันได้เปรียบอยู่แล้ว พวกฝรั่งมันแทบจะไม่มีความเสี่ยงเลย มีแต่คนขายเท่านั้นที่เสี่ยง พูดง่าย ๆ พอจ่ายเงินเสร็จก็กระดิกเท้ารอสินค้าได้เลย ถ้าได้รับแล้วไม่พอใจก็ขอเงินคืน สินค้าหายระหว่างทางก็ขอเงินคืน สินค้าเสียหายก็ขอเงินคืน พูดง่าย ๆ พวกนี้เป็นปัจจัยเรื่องการขนส่งเป็นสิ่งที่เราคนขายควบคุมไม่ได้เลย(แล้วแต่ดวง ว่าจะเกิดอะไรขึ้น) ต่างจากพวกเราที่เป็นคนขาย ต้องคอยลุ้นว่าสินค้าจะเป็นยังไง มันจะขอเงินคื่นรึเปล่าวะ

ทุกวันนี้ผมพูดตรงๆ ว่าหวังจะขายของราคาแพงก็เสี่ยงถูกโกง ขายถูกก็กำไรน้อย ไม่คุ้ม ฝรั่งมันก็รู้เยอะ ไหนจะคนไทยตัดราคากันเองอีก พวกฝรั่งที่มันเข้ามาซื้อ เดาว่าก็คงเป็นลูกค้าระดับล่างหาของราคาถูก ลูกค้าระดับแบบพร้อมยอมจ่ายหายากมาก

ผมพูดตรงๆ อีกเลยว่า ผมโดนตัดราคาโดยคนไทยกันเองมามาก จนตอนนี้ผมเริ่มเบื่อ เลยตัดราคามั่ง เอาความสะใจ (เพราะผมไม่เคยตัดราคาใครก่อน) กะให้ตายกันให้หมดไปเลย ซึ่งมันก็ได้ผลนะ ฝรั่งหันมาซื้อกับผมเยอะเลย ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นว่า ยังไงฝรั่งมันก็หาซื้อของถูกอยู่ดีแหละ กลยุทธ์ด้านราคายังใช้ได้เสมอ ( Top rated seller ก็เคยเป็นมาแล้ว, ปัจจุบันเป็น Power Seller อยู่ครับ)

วงการนี้ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้หรอกครับ ขอเตือนมือใหม่ทั้งหลายที่หวังรวยจากที่นี่ว่ามัันไม่ง่าย เปิดอบรมกันทุกอาทิตย์ หน้าใหม่เข้ามาเรื่อยๆ สินค้าตัวไหนขายดี ตัดราคากัน วนกันเป็นวัฏจักร

ขอแชร์ประสบการณ์ให้ฟังเท่านี้ ขอบคุณครับ ที่ทนอ่านจนจบ

[cloudsphere]

น้องเข้าใจความหมายของ return policy ผิดแล้วค่ะ
Return Policy หมายถึง ลูกค้าได้รับสินค้าดี แต่ เกิดเปลี่ยนใจไม่อยากได้ของ กรณีนี้ลูกค้า ต้องจ่ายค่าส่งกลับ
สำหรับของแตก ของเสีย เป็นภาระรับผิดชอบของคนขายเท่านั้น
คนขายมีทางแก้ 3 ทาง ให้ลูกค้าเป็นคนเลือก
1 ส่งของไปให้ใหม่
2 คืนเงินเต็มจำนวนให้ลูกค้า
3 คืนเงิน ครึ่งหนึ่งหากสินค้าใช้ได้เสียหายเป็นบางส่วน

ตามนี้ครับ ผมเคยส่งพระเครื่องไปแล้วหักครึ่งกลาง ก็เลยจ่ายเงินคืนไปครับ 

[trudy]

ขอบคุณครับพี่Trudy

ปกติผมต้องคืนเงินประมาณ 10%ของกำไรจากทุกๆเคสใน1เดือน มันเยอะเกินไปหรือเปล่าครับ ? และพี่trudy พอจะบอกได้ไหมว่าในเดือนนึงคืนเงินลูกค้าประมาณกี่%ของกำไร

รบกวนถามคำถามสุดท้ายนะครับ ถ้าตกลงแล้วว่าให้ส่งของกลับมาแต่เมื่อของมาถึงดันแตกเพิ่ม ตรงนี้ใครจะเป็นคนรับผิดชอบครับ ?

ขอบคุณมากครับ

เมื่อลูกค้าบอกว่าของแตก สิ่งที่คนขายจะต้องทำคือ
1 ส่งเมล์หาลูกค้าโดยใช้ที่อยู่จาก paypal หรือ ให้ลูกค้า attach รูปที่เสียหายผ่าน message บน ebay ค่ะ
2 คนขายต้องตรวจสอบว่าของแตกจริงหรือแตกปลอม
3 ถ้าของชำรุดเสนอทางเลือกให้ลูกค้า
4 หากลูกค้าบอกจะขอเงินคืนทั้งหมด ก็คืนให้เขาไป ถ้าบอกว่าหากเกิดกรณี ส่งของกลับมาแล้วพังเยอะกว่าเดิม
ก็บอกลูกค้าให้ห่อ Bubble กันกระแทก มาให้ เขาซื้อกันกระแทก เหมือนไปรษณีย์ที่บ้านเรา เราออกเป็นค่าใช้จ่ายให้เขาไป

5 หากลูกค้าเปลี่ยนใจไม่ยอมรับสินค้า สินค้าอยู่ในสภาพดี ลูกค้าต้องส่งสินค้าโดยออกค่า shipping cost มาให้คนขาย
พี่ยกตัวอย่างนะคะ
สมมติว่า สินค้าราคา $20 ค่าส่ง $10
ลูกค้าเสียเงินค่าส่งกลับ $10 คนขายจะคืนเงินก็ต่อเมื่อ ได้รับสินค้าอยู่ในสภาพดีเท่านั้น ถ้าสินค้าที่ได้ไม่อยู่ในสภาพดี
ให้ติดต่อ ebay ส่งรูปไปให้ ลูกค้ามีสิทธิชวด เงิน $30
ในกรณีที่ของอยู่ในสภาพดี คนขายคืนเงิน $20
หากเราส่งเป็น free shipping คิดค่าส่งตามจริง เอาใบเสร็จให้ลูกค้าดู คิดค่าซอง ค่ากล่องด้วย
เช่น ของราคา $30 free shipping  ค่าส่งของเราคือ $8 ดังนั้นคืนเงินให้ลูกค้า $22

6 สำหรับพี่หากซื้อสินค้ามาแล้วไม่ถูกใจ พี่จะ เอาขายบน auction เพราะคนขายไม่มีความผิด
จะสังเกตว่าพี่ต้องเสีย $20 ไปฟรีๆ ต้องดู account ของลูกค้าด้วยนะคะว่าบัญชีของเขาสามารถขายของบน ebay ด้วยหรือเปล่า
แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะตินู่น ตินี่บางคนทำของพัง เพื่อนพี่เคยขายลิปสติก ลูกค้าก็เอาปลอกปากกาจิ่มลงไปบอกว่าของเสีย อยากได้ของฟรี พี่เลยบอกให้เพื่อนคืนเงินทั้งหมด และให้ส่งของกลับโดยออกค่าขนส่งไปให้ ลูกค้าส่งของช้ามาก ปรากฎว่าของที่ได้เป็นสิปส์ที่ใช้แล้ว ลูกค้าคนนี้คงนึกว่า คนขายยอม จากนั้นก็ไปซื้อสิปส์ติกใหม่ โดยไม่รู้ว่าเป็นร้านของเพื่อนพี่อีก ใช้วิธีการเหมือนเดิม ตอนนี้จับได้ ให้ paypal ดึงเงินจากการซื้อครั้งแรก ตอนนี้ ลูกค้าคนนี้ไม่มีบัญชีบน ebay แล้วค่ะ หากยังใช้ชื่อเดิม

7 ของพี่ไม่เคยโดนกรณี ของแตก ของเสียหาย 
ส่วนใหญ่จะเปิด case ไม่ได้รับของเดือนนึง 2-3 รายการ แต่ อีก 2 วันเขาก้ได้ของ เพราะพี่ลงทะเบียนทุกครั้ง
สินค้าที่พี่เลือกมาขายบน ebay จะเป็นของแบบนี้ค่ะ
เบา ไม่น้ำ ไม่แตก  กำไรงาม ebay ให้ขาย ไปรษณีย์ไทยส่งได้ ผ่านศุลกากรประเทศนั้น
หมายถึง สินค้านั้นน้ำหนักเบา ไม่เป็นน้ำ ไม่แตกง่าย กำไร อย่างน้อย 300 บาทต่อชิ้น  ไม่ผิดกฎ ebay
ไปรษณีย์ไทยส่งได้ ผ่านศุลกากรประเทศนั้น

[trudy]

การตั้งราคาขายต้องให้ Cover ความเสี่ยงคิดเผื่อไว้ทุกอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ลูกค้าโกง ขอคืนเงิน สินค้าเสียหาย ของหายระหว่างขนส่ง เป็นต้น แต่ถ้าตั้งราคาขายแพงเกินไปก็ขายไม่ได้
เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะเข้าเนื้อตัวเอง เพราะระบบของ E-commerce ที่ฝรั่งมันคิด มันเป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อให้พวกฝรั่งมันได้เปรียบอยู่แล้ว พวกฝรั่งมันแทบจะไม่มีความเสี่ยงเลย มีแต่คนขายเท่านั้นที่เสี่ยง พูดง่าย ๆ พอจ่ายเงินเสร็จก็กระดิกเท้ารอสินค้าได้เลย ถ้าได้รับแล้วไม่พอใจก็ขอเงินคืน สินค้าหายระหว่างทางก็ขอเงินคืน สินค้าเสียหายก็ขอเงินคืน พูดง่าย ๆ พวกนี้เป็นปัจจัยเรื่องการขนส่งเป็นสิ่งที่เราคนขายควบคุมไม่ได้เลย(แล้วแต่ดวง ว่าจะเกิดอะไรขึ้น) ต่างจากพวกเราที่เป็นคนขาย ต้องคอยลุ้นว่าสินค้าจะเป็นยังไง มันจะขอเงินคื่นรึเปล่าวะ

ทุกวันนี้ผมพูดตรงๆ ว่าหวังจะขายของราคาแพงก็เสี่ยงถูกโกง ขายถูกก็กำไรน้อย ไม่คุ้ม ฝรั่งมันก็รู้เยอะ ไหนจะคนไทยตัดราคากันเองอีก พวกฝรั่งที่มันเข้ามาซื้อ เดาว่าก็คงเป็นลูกค้าระดับล่างหาของราคาถูก ลูกค้าระดับแบบพร้อมยอมจ่ายหายากมาก

ผมพูดตรงๆ อีกเลยว่า ผมโดนตัดราคาโดยคนไทยกันเองมามาก จนตอนนี้ผมเริ่มเบื่อ เลยตัดราคามั่ง เอาความสะใจ (เพราะผมไม่เคยตัดราคาใครก่อน) กะให้ตายกันให้หมดไปเลย ซึ่งมันก็ได้ผลนะ ฝรั่งหันมาซื้อกับผมเยอะเลย ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นว่า ยังไงฝรั่งมันก็หาซื้อของถูกอยู่ดีแหละ กลยุทธ์ด้านราคายังใช้ได้เสมอ ( Top rated seller ก็เคยเป็นมาแล้ว, ปัจจุบันเป็น Power Seller อยู่ครับ)

วงการนี้ไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้หรอกครับ ขอเตือนมือใหม่ทั้งหลายที่หวังรวยจากที่นี่ว่ามัันไม่ง่าย เปิดอบรมกันทุกอาทิตย์ หน้าใหม่เข้ามาเรื่อยๆ สินค้าตัวไหนขายดี ตัดราคากัน วนกันเป็นวัฏจักร

ขอแชร์ประสบการณ์ให้ฟังเท่านี้ ขอบคุณครับ ที่ทนอ่านจนจบ

พี่ทนอ่านจบแล้ว
คิดนอกกรอบนะคะคุณน้อง ทางแก้
1 ไปฟังสัมมนาของสำนัก ebay ที่แพงที่สุด
2 เอากระดาษกับปากกา จดชื่อร้านค้าที่เขาโชว์ยอดขายให้ดู
3 เอาชื่อร้านค้าเหล่านี้มาหาใน ebay ว่าเขาขายอะไรบ้าง
4 เห็นสินค้าแล้วจะตกใจ เขาขายถูกกว่าชาวบ้าน กำไรมีแต่เกิดจากการลดต้นทุน และค่าขนส่ง
5 ทำ keywords ให้ดีกว่าเขา ขายราคาแพงกว่า
6 ไปดูคำตอบอยู่ใน PM