คือ ตอนนี้เห็นหคนนิยมนำเข้าสินค้าจากจีนกันเยอะ โดยเฉพาะการทำพรีออเดอร์นำเข้าสินค้าแฟชั่น
เราเองเป็นคนหนึ่งที่รับพรีออเดอร์เหมือนกันค่ะ เพราะการทำมาหากินแบบนี้ง่ายตรงที่ไม่ต้องสต็อกของ มีหน้าที่แค่เป็นตัวกลางในการดำเนินงานระหว่างร้านค้าที่จีนและลูกค้าเท่านั้น แต่กระบวนการสำคัญระหว่างนี้ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดที่แห่งความได้ปรียบเสียเปรียบทางการค้าของการรับพรีออเดอร์เลยก็ว่าได้ คือ ชิปปิ้ง
จากประสบการณ์ที่เคยใช้ชิปปิ้งมา 3 เจ้า ได้ขอสรุปดังนี้
ชิปปิ้งเจ้าที่ 1
- ชิปปิ้งอยู่เชียงใหม่ แต่เราอยู่กรุงเทพ เวลาโอนเงินต้องเสียค่าธรรมเนียม 30 บาท => ต้นทุนเพิ่ม
- ชิปปิ้งอยู่เชียงใหม่ แต่เราอยู่กรุงเทพ ทำให้การขนส่งนานขึ้น => ระยะเวลาที่จะส่งของให้ลูกค้าก็นานขึ้นไปด้วย
- ตอบเมล์ช้า => น่าหงุดหงิด
---------------------------- เราจึงเปลี่ยนชิปปิ้ง ------------------------
ชิปปิ้งเจ้าที่ 2
- ชิปปิ้งอยู่ลาดพร้าว => โอ้ว ว้าว เราไปรับเองได้ สะดวกมากๆ ไม่ต้องเสียค่าส่ง และค่าดำเนินการส่ง 50 บาท
- มีหน้าเว็บให้เข้าไปเช็คสถานะได้ว่าของมาถึงโกดังจีนหรือยัง => สะดวก แต่บางครั้งก็อัพช้า
- แรกๆ ตอบเมล์เร็วมาก แต่มาหลังๆ ไม่รู้งานเยอะขึ้นหรือเปล่า กว่าจะตอบได้ก็เย็นหรือไม่ก็มืดไปเลย
- คิดค่ากิโลปัดเศษขึ้นตลอด อย่าง 1.5 กก. ก็คิด 2 กิโลไปเลย แต่เราก็หยวน
-------------- เราถูกใจชิปปิ้งเจ้านี้ที่สุด แต่เราก็ขอลองอีกเจ้าเผื่อเป็นทางเลือกอีกทาง------------
ชิปปิ้งเจ้าที่ 3
- เป็นชิปปิ้งที่เปิดเว็บหลายชื่อ เว็บนี้ค่านำเข้าถูกดี แต่ก็ไกลบ้านเรา เราไปเอาเองไม่ได้ ก็เสียค่าส่งไปตามระเบียบ โดยชิปปิิ้งจะส่งแบบ EMS ให้ ถ้าให้ส่งแบบพัสดุธรรมดา ค่าใช้จ่ายก็ไม่ค่อยต่างกับ EMS บวกลบคูณหารค่านำเข้าเปรียบเทียบกับเจ้าที่ 2 แล้ว ถือว่าพอกัน แต่เจ้าที่ 3 นี้ต้องรอของทางไปรษณีย์ ทำให้เสียเวลาส่งของให้ลูกค้า
- ตอบเมล์ไวพอสมควร เวลาถามเกี่ยวกับแทร็ค แต่ไม่สะดวก เพราะต้องถามถึงจะได้รู้ ถ้าไม่ถามก็ไม่มีระบบหลังบ้านให้ตรวจสอบ
------------------------ สำหรับเจ้านี้ เราก็ไม่ปลื้ม จึงกลับไปใช้เจ้าที่ 2 เหมือนเดิม -----------------------
สรุปจากการรับพรีออเดอร์มา 1 ปีกว่า ปัญหาส่วนมากที่พบก็คือ "ได้ของช้า" ซึ่งสาเหตุของความล่าช้าจะมาจากปัจจัยต่อไปนี้
- ร้านค้าส่งของช้า
- ร้านค้าอยู่ไกลจากโกดังจีน ทำให้ระยะเวลาที่ของจะถึงโกดังจีนช้าไปด้วย
- ระบบการขนส่งที่จีนส่งของผิด ทำให้ต้องเสียเวลาตรวจสอบหาของนานกว่าจะเจอ
- ช้าที่ชิปปิ้งฝั่งจีน เพราะบางครั้งชิปปิ้งต้องขึ้นตู้ตามรอบ จึงต้องรอรอบ หรือ ลืมเอาของของเราขึ้นตู้ในรอบนี้ จึงต้องรอรอบหน้า
- ช้าที่ชิปปิ้งฝั่งไทย เพราะต้องเคลียร์ของ ว่าห่อไหนของใคร และต้องจัดการเตรียมห่อของส่ง (ถ้าคุณไปรับเอง ก็จะลดเวลาตรงนี้ไป)
- ช้าที่ระบบขนส่งของไทย รูปแบบการส่งว่าเป็น EMS ลงทะเบียน หรือ พัสดุธรรมดา ติดม็อบ ติดขบวนต่างๆ นานา
จึงอยากบอกทั้งผู้ที่จะเข้ามารับพรีออเดอร์ หรือ ลูกค้าที่จะสั่งพรีออเดอร์ ให้เข้าใจถึงปัญหาตรงนี้ค่ะ ว่าบางครั้งที่ท่านได้ของช้า ก็ไม่ใช่ว่าคนที่ดำเนินการเขาจะโกงเสมอไป แต่เพราะมันมีขั้นตอนแบบนี้ และการดำเนินการแต่ละขั้นตอนมันก็มีความล่าช้าในตัวมันเอง ดังนั้นในสมรภูมิของการพรีออเดอร์และชิปปิ้ง หากใครทนต่อแรงกดดันทั้งจากตัวเองและลูกค้าได้มากกว่ากัน ก็ยังคงอยู่รอดได้ บอกตรงว่าตอนนี้เราเริ่มท้อเหมือนกัน เพราะการเป็นคนกลางก็ไม่ใช่ว่าจะสบาย เราเองก็ร้อนรนว่าเมื่อไหร่ของจะมา ต้องร้อนรนกับกระบวนการที่เรามองไม่เห็นว่าไปถึงไหนแล้ว
แชร์ แชร์ กันค่ะ