สวัสดีครับ ขอเกริ่นนิดนึงเนาะ ผมได้รู้จัก Thaiseoboard ตั้งแต่เรียนม.ปลาย แล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้สมัครสมาชิกได้ไม่กี่เดือนนี่เองครับ
มันแย่นะเวลาเราอยากถามอะไรแต่ทำไม่ได้เนี่ย ผมติดตามขอความช่วยเหลือมามากแล้ว วันนี้จึงอยากแชร์ประสบการณ์การทำเว็บของผมบ้างครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจจะเริ่มต้นทำ Internet Marketing หรือผู้ที่ทำอยู่แล้วก็ตามแต่
-จุดเริ่มต้น ทำเว็บไม้แกะสลัก-ตอนสมัยม.ปลาย ผมรู้สึกสนใจแนวทางการหาเงินออนไลน์ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้จริงจังกับมันมาก + กับชีวิตวัยเรียน มีเล่นเกมส์ เล่นบาสกับเพื่อนบ้าง สุดท้ายก็เลยห่างหายไป เพิ่งกลับมาสนใจจริงจังก็ตอนปี 2
จำได้เลยตอนนั้นมีความคิดที่ว่า “เราควรสร้างอะไรเป็นของตัวเองได้แล้วนะ” ถึงเรียนจบไปแรกๆอาจต้องทำงานเพื่อคนอื่นบ้าง เก็บประสบการณ์ แต่สุดท้ายแล้วเราต้องมีธุรกิจของตัวเองให้ได้
ด้วยความที่ผมมีเพื่อนคนหนึ่งขายไม้แกะสลักอยู่ แต่ยังไม่มีเว็บไซต์ของร้าน เว็บไซต์แรกของผมจึงเกี่ยวกับไม้แกะสลักครับ ที่เด็ดกว่านั้นคือการตั้งใจทำเว็บเป็นภาษาอังกฤษเพื่อขายให้กับฝรั่ง ผมเคยมีโอกาสไปอยู่ออสเตรเลียเกือบๆ 4 ปี ภาษาอังกฤษก็รู้เรื่องในระดับที่พอเขียนได้
ตอนนั้นผมอ่านหนังสือหลายแบบเลยนะ ทั้งวิธีการทำ SEO การค้น Keyword การเขียนบทความที่มี Keyword หนังสือไม้แกะสลัก etc. สุดท้ายก็ยึดหลักที่ว่า “Content is King” จากนั้นก็หา Domain+ Hosting ตอนนั้นใช้บริการของ sitesell.com ครับ มีครบวงจรเลย ตั้งแต่จดโดเมน มีสอนการเขียนบทความเป็นบทเรียนออนไลน์ด้วย มีเครื่องมือค้นหา keyword รายเดือนให้ ผมอ่านรีวิวลูกค้าที่ใช้ sitesell (ฝรั่ง) มากมาย รู้สึกว่าน่าสนใจ ก็ลองลงทุนกับมันไปซักตั้ง ซื้อแพ็คเกจ 1 ปี เลยครับ เสีย 9,000 บาท ($299) โอ้แม่เจ้า!! ตอนนั้นพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แถมคิดว่ามันเป็นการลงทุนเพื่ออนาคต ก็จัดเลยครับ
-ความล้มเหลวในปีแรก-พอได้โฮส โดเมนแล้วก็ลงมือเขียนบทความเกี่ยวกับไม้แกะสลักเลย ด้วยความทุลักทุเล เพราะยังเป็นมือใหม่มาก ไอ้เราก็วางฝันไว้สวยงาม ขายไม้ชิ้นนึง เราตั้งราคาเองได้ เป็นหมื่น เป็นแสน ได้ส่วนแบ่งจากการขายด้วย แต่ทุกอย่างมันก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด วันนึงมี Traffic ราวๆ 20-50 UIP เฉลี่ยๆกันไป ไม่มีใครส่งเมล์มาถามเลย
ผมก็เอาสินค้าไปลงที่ Alibaba กับ Craigslist เอาโดเมนไปลงที่ Dmoz ก็ยังเงียบ….เหมือนเดิม สินค้าอย่างไม้แกะสลักมันเคลื่อนไหวยากด้วย เพื่อนผมก็ไม่ยอมถ่ายรูปสินค้าเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้การทำเว็บช้าพอสมควร เพราะผมต้องการรูปสินค้าไปแสดงในเว็บ แล้วก็เว็บประกาศ แต่ก็ยังไม่ค่อยมีเลย
ทีนี้มันมีจุดเปลี่ยนผันครับ ที่ทำให้ผมต้องหยุดทำเว็บนี้ไปเลย….ความขี้เกียจครับ ผมเบื่อมาก เวลาที่เพื่อนนัดจะเอารูปมาให้ แต่ก็ไม่มีวี่แวว สมองตัน เขียนบทความไม่ออก ท้อใจเวลาไม่มีคนดูเว็บ แทบไม่มีใครติดต่อมาเลยด้วยซ้ำ ผมอยากลองจ้าง freelance เขียนดู แต่ก็ยังลังเล เพราะไม่รู้ว่าเพื่อนมันจะเอาจริงกับเราไปด้วยรึเปล่า นี่เป็นเว็บแรก ผมจึงตั้งความหวังไว้กับมันมาก… แล้วก็ทำให้ผิดหวังมากเลยครับ ล้มไม่เป็นท่าเลย เงิน 9,000 ก็สูญหายไปกับประสบการณ์ และความรู้เบื้องต้นการทำเว็บที่ได้มา แอบเสียดายนิดๆ รู้งี้ลองซื้อรายเดือนดีกว่าแต่ทำไงได้ ตอนนั้นมันไฟแรง
บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่าการทำเว็บเนี่ย มันน่าจะทำคนเดียวนะ ไม่ต้องขึ้นกับใคร ทำตามจังหวะของเราไปเรื่อยๆ บางทีระบบของ sitesell มันอาจดีอยู่แล้วก็ได้ แต่คงไม่เหมาะกับผม รูปแบบเว็บมันค่อนข้างจะล้าสมัยไปหน่อย นี่ก็เป็นที่มาของความคิดที่ว่า เราอยากออกแบบเว็บเอง ใช้ Dreamweaver ดีมั้ยน้อ??
-เริ่มต้นใหม่ เปิดเว็บเรียนภาษาอังกฤษ-สุดท้ายก็นึกได้ว่า Sitesell เน้นย้ำเสมอให้เราทำเว็บตาม Passion คือค้นให้เจอว่าเราถนัดอะไรกันแน่ มันจะทำให้เราพร้อมจะทำงานกับมันไปตลอด ผมก็ได้คำตอบว่า “ภาษาอังกฤษ” นี่แหละ ใช่เลย ก็เริ่มยก 2 เลยครับ ด้วย Dreamweaver แต่ปัญหาก็ตามมาอีกเยอะแยะ ด้วยความที่มีความรู้ Software น้อยนิด งมทางอยู่หลายวันกว่าจะเจอคำตอบ
ผมรู้ตัวอีกแล้วว่าไม่ชอบสไตล์แบบนี้เลย มันยากแฮะ ปรับแต่งไม่ได้ดั่งใจ…(เพราะทำไม่เป็นเองนี่แหละ 55555) สุดท้ายก็เบนเข็มไปหา Wordpress หลังจากทำ Dreamweaver ได้ 2 อาทิตย์กว่าๆ ก็เริ่มที่เบสิคทุกอย่าง หาโดเมน หาโฮส ได้โฮสจากพี่ใน Thaiseoboard นี่แหละครับ โฮสบริการดีมากครับ ผมเลือกขั้นต่ำปีละ 700 บาท พยายามจำกัดงบให้มากที่สุด เพราะเคยเจ็บมาแล้ว จดโดนเมนต้นมกราคม 2013 ตอนนั้นเองที่นึกได้ว่า “ทำไมเราไม่จับ Wordpress ตั้งแต่แรกวะเนี่ย” โดยรวมแล้วต้นทุนน้อยกว่ามากเลยครับ แต่ประสิทธิภาพยอดเยี่ยม
ผมเรียนรู้วิธีปรับแต่ง Wordpress ได้อย่างรวดเร็ว รวมไปถึงวิธีการปรับ Theme เบื้องต้นด้วย ได้เข้าไปค้นหาและซื้อธีมจาก Themeforest เจ้าของธีมก็ Support ดี มีปัญหาอะไรก็ไกด์ไลน์ให้ตลอด ส่วนผม…ปรับเองเลยครับ แก้ไฟล์ธีม ลง plugin ลองผิดลองถูก ทำเองทุกอย่าง มันดีอย่างนะที่เราทำเอง เพราะไม่ต้องไปจ้างใคร มีปัญหาอะไรไม่ยากไปก็ search Google แก้เอาเอง จากนั้นก็วางโครงเว็บเลยว่ามีหมวดหมู่อะไรบ้าง เขียน Unique Content ที่มี Focused Keyword เน้นที่คนเซิชเยอะๆนะครับ จาก Keyword Tool ของอากู๋นี่แหละ Traffic เดือนแรกๆก็ไม่ถึงร้อยนะครับ แต่ผมก็อดทนเขียนบทความต่อไป
ช่วงมีนา-เมษามีฝึกงานด้วย เลยไม่ค่อยได้ลงเท่าไหร่ แต่ก็สร้างเพจ Facebook ไว้เป็นช่องทาง
พอผ่านพ้นช่วงเดือนกรกฎาไปคนดูก็เริ่มกระเตื้องขึ้นมาเป็นหลายร้อย ช่วงนั้นทำการโปรโมตหลายแบบครับ ผ่านเว็บ Dek-d เว็บบอร์ดของพวก Eduzone Sanook Postjung Kapook เคยลองเอาไปลง Pantip มาเหมือนกัน แต่มันรู้สึกกดดันนิดๆแฮะ
เดือนกันยายนคนดูแตะหลักพันเป็นครั้งแรก ตอนนั้นดีใจสุดๆเลยครับ ผมก็เลยเปลี่ยนธีมใหม่ ปรับแก้ให้รองรับบทความหน้าแรกได้เยอะ แล้วก็สมัคร Adsense ไปด้วย สมัครไป 10 กว่าครั้งถึงจะผ่าน ก็เริ่มติดตอนเดือนพฤศจิกายน ถึงช่วงนี้ผมเน้นการอัพลง Facebook ครับ เอาภาพมาลงพร้อมกับให้ความรู้เบาๆ ลงบทความใหม่เรื่อยๆที่มีคน search เยอะเกี่ยวกับภาษาอังกฤษ พยายามเขียนบทความไม่ให้วิชาการมากเกินไป ไม่ยาวไปจนน่าเบื่อ คือเว็บมันเริ่มติดตลาดแล้ว เราก็ต้องส่งแรงผลักมันนิดหน่อย
Traffic ก็พุ่งขึ้นแตะ 2000 ตอนมกราคม จนต้องเปลี่ยน plan ของโฮสจากเดิม 50 GB เป็น 200 GB พอมาเดือนกุมภาพันธ์นี้มันก็ทะลุ 3000 ไปแล้ว บางวันสูงถึง 4000 ก็มี จน 200 GB ไม่พออีกต่อไป คงต้องเปลี่ยนเป็นแบบ VPS เร็วๆนี้ครับ โฮสใจดีมาก เพิ่มพื้นที่ให้รอดูไปก่อนว่าคนเข้าเว็บจะมากขนาดไหน
Adsense ที่ติดตั้งแต่ปีที่แล้ว ตอนนี้ได้เงินประมาณ $185 ครับ หรือประมาณ 6,000 บาท Google ได้ทำการส่งเช็คมาแล้ว ถ้าเฉลี่ยก็ได้เดือนละ 2000 อยู่ แต่สำหรับผมถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าพอใจมากๆเลย ปิดเทอมนี้จบปี 4 แล้ว ผมก็ยังคงมุ่งหน้ากับเส้นทางการทำเว็บต่อไป วางแผนไว้กับแฟนว่าอยากสร้างเพิ่มอีก 1-2 เว็บ เอารายได้จาก Adsense + Banner
ตั้งแต่เริ่มต้นทำมาได้เกือบ 2 ปีผมก็ได้ข้อคิดดีๆมากมายครับ แต่หลักๆก็คือ
1.
ห้ามขี้เกียจเด็ดขาด ตั้งใจจะทำอะไรก็วางแผนเอาไว้และทำตามให้ได้ ไม่งั้นมันจะผัดวันประกันพรุ่ง สุดท้ายก็ไม่ได้ทำอะไรซักอย่าง
2.
อย่ายอมแพ้ ลองแก้ไขปัญหาให้ถึงที่สุด พยายามแก้ไขด้วยตัวเอง internet มี webboard มี ถามคนอื่นให้ช่วยได้ แต่สุดท้าย “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” ครับ
3.
Work-life balance อันนี้สำคัญไม่แพ้กันเลย อย่าลืมให้เวลากับคนที่คุณรักรอบข้างด้วย รับรายได้เดือนละเป็นหมื่นเป็นแสน แต่ไม่มีเวลา พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนวันละ 2-3 ชั่วโมงแบบนี้ ไม่โอเคครับ ชีวิตมันต้องใช้ให้คุ้ม จัดสรรเวลาให้ดีๆ ออกไปเล่นกีฬากับเพื่อน ให้เวลากับครอบครัว พาพ่อแม่ พาแฟนไปเที่ยวบ้างไรบ้าง
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณพื้นที่ใน Thaiseoboard ที่ให้มาแชร์ประสบการณ์ และเก็บเกี่ยวความรู้ดีๆมากมายจากพี่ๆหลายๆคน ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จบนเส้นทางนี้กันถ้วนหน้าครับผม ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ
ความรู้ทั่วไป
