นี่เป็น
เรื่องจริง 100% นะครับ ผมไม่มีใครให้ระบายจริงๆ ผมเจ็บและเสียใจเหลือเกิน รบกวนขอพื้นที่ใน ThaiSEO เป็นที่ระบายความอัดอั้นของผมหน่อยนะครับ
ผมกับแฟนรักกันมาก มากจนผมคิดว่าทั้งชีวิตนี้ผมคงไม่คิดที่จะรักใครได้อีกแล้ว เพราะผมกับแฟนนั้นได้หมั้นกันเรียบร้อยแล้วด้วยครับ ผมยอมเลิกบุหรี่ เลิกคุยกับผู้หญิงคนอื่นทุกๆคน เลิกเตะบอลกลางคืนกลับบ้านดึก และหลายๆอย่างที่ผมทำเพื่อเธอ โดยที่ผมเองก็คิดว่าเธอจะทำสิ่งที่ผมขอให้ผมบ้าง... และนี่คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อซักครู่ครับ (19 ก.พ. 2557 : 20.30 น.)
แฟนผมเธอเป็นคนน่ารัก เรียนเก่ง ขี้อ้อน เรียกได้ว่าเธอทำให้ผมรักทุกอย่างที่เป็นเธอ ...แต่ติดอยู่เรื่องเดียวเท่านั้นครับ นั่นก็คือ
เธอชอบคุยกับคนอื่น เรียกได้ว่าตั้งแต่เริ่มคบกันจนถึงปัจจุบันนั้นเราทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยมากๆครับ จากทุกเดือน เริ่มเปลี่ยนเป็น2อาทิตย์ และ1อาทิตย์ ถี่ขึ้นเรื่อยๆ จนล่าสุดเครียล์ตอนเช้าจบ บ่ายก็ซัดกันอีกแล้ว และนี่คือเหตุผลทั้งหมดที่ผมหมดความอดทนกับเธอ แต่ว่าผมไม่ได้หมดรักเธอนะครับ ยังรักเธอ รักมาก รักจนหมดหัวใจที่ผู้ชายคนนึงจะรักผู้หญิงคนหนึ่งได้ ...ผมขอเล่าย้อนกลับไปคืนวันวาเลนไทน์ ศุกร์ที่14 ก.พ. ที่พึ่งผ่านมา ตอนเช้าผมกับเธอก็ทะเลาะกันด้วยเรื่องเดิมๆ ผมขอเธอแล้วขอเธออีกว่าหยุดคุยซักทีได้ไหม เห็นในเฟซ ก็ไปมีในไลน์ จับได้ในไลน์ก็บ่ายเบี่ยงอ้างไม่จบ มีคุยอยู่เรื่อยๆไม่จบไม่สิ้นซักที มีนู่นนี่นั่นตลอดๆ แต่พอตกเย็นก็เครียล์กันจบ เธอบอกว่าคืนนี้ให้ผมไปรับเธอกับแม่เธอไปเวียนเทียนทำบุญที่วัดหน่อย ผมก็โอเคตกลงรับปาก ถึงเวลาก็รีบขับรถไปทันที แต่... ซักพักผมก็ล็อกอินเข้าไปดูเฟซเธอ เห็นเธอกำลังคุยแชทกับผู้ชายคนหนึ่ง มีแบบว่าเธอส่งรูปที่เธอถ่ายรูปผู้ชายคนนั้นเก็บไว้ไปให้เขาด้วย ผมโมโหจี๊ดขึ้นมาทันที รีบพิมพ์รัวไลน์ใส่เธอไม่ยั้งพอๆกับเท้าผมที่เหยียบคันเร่งแบบไม่ยั้งเหมือนกัน ถึงบ้านเธอปุ๊ป ผมจอดรถก่อนจะสวัสดีพ่อตาแล้วรีบขึ้นไปบนชั้น2ทันที ผมเปิดประตูพร้อมกับแหกปากลั่นฟ้องแม่ยายแบบไม่ให้เธอตั้งตัว เพราะว่าผมเกินทนแล้วจริงๆ หลังจากนั้นเธอก็คุยกับผม เราคุยกันแรงมาก เธอก็ให้เหตุผลว่าเป็นรุ่นพี่ๆๆ นู่นนี่นั่น ผมก็ให้เหตุผลว่ามันสมควรไหมที่ตัวเองเป็นผู้หญิงแต่ดันไปถ่ายรูปส่งให้ผู้ชาย สรุปเราเครียล์กันไม่ลง ผมตัดสินใจกลับบ้านทันที
พ่อแม่ผมเริ่มรู้เรื่อง แต่ท่านก็บอกให้ใจเย็นๆ ผมเองก็เริ่มเย็นลงจนในที่สุดก็เครียล์กับเธอจบ (ด้วยความที่รักมากๆ ผมจะให้อภัยเธอเสมอ) วันต่อมาผมก็มาหาเธอที่บ้าน ตกกลางคืนเอาอีกแล้วครับ... เธอนั่งอยู่กับผมแท้ๆ ประมาณ 4 ทุ่มเห็นจะได้ จู่ๆก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาหาเธอในขณะที่เธอกำลังคุยแชทในไลน์ เธอคุยไปซักพัก ผมก็เริ่มพูดละ ใคร? โทรมาทำไม? เธอก็ยังคุยๆต่อ จนในที่สุดผมเหลืออดก้เลยพุดแรงๆกับเธอจนเธอวางสาย ผมถามว่าใคร เธอก็โกหกว่าเป็นคนนู้นคนนี้ แต่ในที่สุดเธอก็ยอมรับว่าเป็นคนที่คุยกันในไลน์เมื่อกี้(รุ่นพี่อีกคน) ผมโมโห โมโหมากๆจริงๆครับ จะโกหกทำไม จะคุยทำไม เธอเห็นผมอยู่ในสายตาบ้างไหม เธอก็อ้างเหตุผลเดิมๆว่าผมไม่แยกแยะ แล้วเธอล่ะเคยนึกถึงจิตใจคนอย่างผมบ้างไหม ...ผมเริ่มทนไม่ไหวนับตั้งแต่คืนนั้น แต่ก็ได้แต่เก็บงำไว้ในใจ ผมเริ่มมองหาทางออก เพราะผมเริ่มคิดแล้วว่าผมคงทนไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะกี่ครั้งๆที่เธอสัญญากับผม เธอก็ไม่เคยหยุดซักที วันนั้นผมจึงรีบเข้านอนเพื่อระงับสติอารมณ์พร้อมกับนอนคิดแผนอะไรบางอย่างไว้ในใจ
วันรุ่งขึ้น วันนี้เป็นวันหยุด เราตกลงกันว่าจะไปเดินเล่นเซนทรัลลาดพร้าวและยูเนี่ยนมอลล์ด้วยกัน ระหว่างที่ผมขับรถไป ผมก็พูดกับเธอดีๆขอร้องเธอดีๆว่าอย่าทำอีกนะ สงสารผมบ้าง นึกถึงจิตใจผมบ้าง เธอก็ให้สัญญากับผมเป็นมั่นเป็นเหมาะว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีกแน่ๆ ...แต่แล้วก็เป็นอย่างที่ผมคิดอีกนั่นแหล่ะครับ ระหว่างที่เดินที่ยูเนี่ยนมอลล์ผมก็สังเกตุเห็นเธอเล่นไลน์ ผมไม่รอช้ารีบคว้าไอโฟนมาดูทันที ใช่แล้วครับ! เอาอีกแล้ว! ไอ้คนเมื่อคืนเลย โอ้โหหหห ผมปรี๊ดแตกเลยครับเพราะตอนนั่งรถมาด้วยกันนี่สัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะ เธอก็บอกแต่คำเดิมๆว่าผมไม่แยกแยะ แค่คุยแต่ไม่ได้คิดอะไร จะโมโหจะหึงทำไม บอกว่าผมไม่เคยเข้าใจเธอ ใช่ครับ ผมไม่เข้าใจเธอ แต่เธอก็ไม่เคยเข้าใจผมเหมือนกัน ด้วยความโมโหผมไล่เธอกลับบ้านทันที เธอเดินหายไปซักพักใหญ่ๆ ผมเริ่มรู้สึกเป็นห่วงเธอขึ้นมา กล้วว่าเธอจะเป็นอันตรายหรือกลับบ้านลำบาก ผมยืนรอเธออยู่หน้าร้าน MK ประมาณ 10 นาทีได้ ผมโทรไปเท่าไหร่เธอก็ไม่รับ แบตผมเหลือน้อยมาก ผมเลยตัดสินใจโทรไปบอกแม่เธอ และก็เล่าทุกอย่างให้แม่เธอฟัง แม่เธอรีบติดต่อหาเธอทันทีจนในที่สุดเธอก็เดินกลับมาหาผม ด้วยความโมโหผมจึงรีบคว้าแขนเธอทันทีและสบถด่าเธอด้วยคำหยาบเป็นชุดๆ ผมลากเธอตั้งแต่ห้างยูเนี่ยนกลับมาลานจอดรถที่เซนทรัลลาดพร้าว ระหว่างทางก็มีลงไม้ลงมือกันบ้างจนคนรอบข้างหันมามอง เธอร้องไห้มาตลอดทาง พอถึงรถเธอก็ทำท่าไม่ยอมขึ้นรถ ด้วยความโมโหผมจึงจับหัวเธอยัดเข้าไปในรถพร้อมกับตีเธอไปหนึ่งที ผมสาบานจริงๆว่าผมลงมือไปโดยที่ไม่รู้ตัวและไม่ได้ตั้งใจเลยซักนิด ผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าทำไมผมถึงหน้าตัวเมียขนาดนั้น แขนเธอเขียวเป็นจ้ำเพราะแรงฉุดของผม กว่าจะถึงบ้านเธอก็ตีผมหลายทีเหมือนกัน ผมก็สวนกลับบ้างด้วยความโมโหและไม่ได้ตั้งใจเลย แต่ผมก็ควบคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ
จนถึงบ้าน แม่เธอเริ่มรู้สึกแย่กับการกระทำของผมที่ทราบว่าผมทำร้ายลูกสาวท่าน ผมเองก็ผิดเต็มประดาไม่เถียงแม้แต่น้อย ได้แต่ก้มหน้ายอมรับทุกอย่าง ...แต่แปลกตรงที่ว่าเธอไม่ยอมขอเลิกกับผมและไม่ยอมให้ผมกลับบ้านด้วยซ้ำ เรานั่งกอดกันทายาให้กันด้วยความรักความทนุถนอม แต่ในใจของผมมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย ผมรู้สึกเอือมระอากับการกระทำของเธอมากๆ จนผมไม่อยากจะทนอีกต่อไปแล้ว...
เวลาผ่านมา 3-4 วันจนถึงวันนี้ เธอทำตัวดีมากๆ ไม่คุยกับใครเลย แต่สำหรับผมเองผมคิดว่ามันคงสายไปแล้วสำหรับเธอ และแผนที่ผมคิดไว้ทั้งหมดก็เริ่มขึ้น ผมรู้ว่าเธอคงไม่เชื่อเด็ดขาดถ้าผมจะทำแผนแบบว่าทำให้เธอเห็นว่าผมคุยหรือแอบมีคนอื่น เพราะตั้งแต่คบกันมาผมไม่เคยมีเรื่องแบบนี้ ผมจึงเลือกทำสิ่งที่เลวถึงเลวมากๆเอาให้แบบที่ว่าเธอเกลียดผมไปเลยดีกว่า ผมตัดสินใจ
เอากล้องวางไว้ในห้องน้ำแต่วางแบบให้เหมือนกับว่าสังเกตุเห็นได้ง่ายๆ และก็เป็นไปตามที่ผมคิดไว้ครับ เธอเห็นกล้อง เธอด่าผมสารพัดสารเพ ตบผม ถามว่าผมต้องการอะไรจากเธอ ผมก็ได้แต่เงียบ ไม่รู้จะตอบอะไร มีแต่น้ำตาของผมที่มันไหลออกมา ไหลไม่หยุด ผมเสียใจ ผมรักเธอมากๆ แต่ผมต้องยอมไปจากเธอซักที เพราะอยู่ต่อไปผมก็คงจะมีแต่เจ็บกับเจ็บเท่านั้น ให้เธอเกลียดผมไปเลยซะดีกว่า ผมขอให้เธอได้ไปเจอชีวิตดีๆที่เธออยากมี และอีกไม่นานผมก็คงจะได้กลับมาคุยกับเธอเรื่องถอนหมั้นให้มันเป็นเรื่องเป็นราวไป และต่อจากนี้ผมก็คงไม่ขอรักใครอีกแล้วจริงๆครับ(บางท่านอาจจะมองว่าผมทำไม่ได้หรอก แต่ท่านเชื่อเถอะครับว่าผมน่ะทำได้แน่นอน เพราะตลอดชีวิตของผมมานั้น ผมมักจะโดนทุกๆคนทิ้งผมไปหมด นี่ขนาดหมั้นกันแล้วผมยังไม่แคล้วที่จะโดนทำร้ายจิตใจขนาดนี้) ผมคงใช้เวลากับพ่อแม่ให้มากขึ้นเพราะผมเป็นลูกคนเดียว เอาเวลาไปดูแลกิจการและทำงานให้เต็มที่มากขึ้น ปัจจุบันรายได้ผมเดือนละ6หลักแล้ว มีโอกาสมีเวลามากขึ้นก็อยากจะพัฒนาตัวเองและรายได้ให้เพิ่มมากขึ้นกว่านี้ครัับ
"เวลาหนามตำเท้า คุณจะเลือกที่จะเดินย่ำมันไปต่อแล้วทนเจ็บทนอักเสบแบบไม่รู้วันหาย หรือว่าคุณจะยอมทนเจ็บสุดๆกลั้นใจคว้านและดึงออกเพื่อไม่ให้มันเจ็บเรื้อรัง" ...สำหรับผม ผมเลือกกลั้นใจดีงออกครับ