ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comความรู้ทั่วไปInternet Marketing>>ข้อเสียของBitcoinก็มีนะครับ พี่VlogPP125ได้บอกไว้
หน้า: 1 [2] 3   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: >>ข้อเสียของBitcoinก็มีนะครับ พี่VlogPP125ได้บอกไว้  (อ่าน 25485 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Solid Snake
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 156
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,548



ดูรายละเอียด
« ตอบ #20 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 20:12:10 »

เมื่อกี้ถามคำถามไปมีคนมาตอบก็พอจะเข้าใจขึ้นอีก  ทีนี้สงสัยอีกแล้ว ^^'

เข้าใจว่า การขุดบิทคอน เหมือนการพิพม์แบ๊งใช่ไหมครับ โดยมี algorithm ควบคุมปริมาณบิทคอนไม่ให้มากเกินไป ( เหมือนอเมริกาพิมพ์แบ๊งได้เอง แต่ไม่พิมพ์มากเกินไปเพราะเดี๋ยวมูลค่าลดลง)

หากใช่ คนที่ขุดบิทคอน คือคนที่พิมพ์แบ๊งได้เอง ซึ่งต่อไปก็จะพิมพ์ยากเพราะขุดได้ยาก ก็จะควบคุมปริมาณบิทคอนในตลาดไม่ให้มากเกินได้ (supply ไม่มากเกินไป) แต่ทีนี้ระบบเศรษศาสตร์ตลาดบิทคอน จะเป็นแบบนี้ถูกไหม ถ้าผิดบอกได้นะ อันนี้ตอบตามความเข้าใจ

คนพิมพ์แบ๊ง = คนขุดบิทคอน = ธนาคารกลางสหรัฐ
คนทั่วๆไป = (ปกติ) ไม่สามารถขุดบิทคอนได้เอง = ประชาชนทั่วไป

กลายเป็น คนขุดบิทคอนสามารถพิมพ์เงินได้เอง ซึ่งค่อยๆเพิ่มขึ้น ค่อยๆมีความมั่งคั่งขึ้น แล้วก็สามารถซื้อของที่จ่ายด้วยบิทคอนได้

ฝั่งคนทั่วๆไป ก็ต้องยอมรับการมีค่าของบิทคอนก่อน  โดยยอมขายของราคาไม่แพงออกไปก่อนเช่น ก๋วยเตี๋ยวราคา 100 บาท แต่จะต้องจ่ายมูลค่าบิทคอนเทียบเท่า (ตามความรู้สึก) ในราคาสูงถึง 140 บาทก่อน คือคนขายของยอมเสี่ยงที่จะรับเงินสกุลใหม่แต่ต้องให้ราคาแพง

แล้วก็ให้มีธุรกรรมขายของแล้วรับเงินด้วยบิทคอนแบบนี้ให้มากๆ และเป็นวงกว้าง จนทุกๆคนมีบิทคอนเป็นของตนเอง เหมือนเงินทั่วๆไป ที่คนปกติไม่สามารถพิพม์แบ๊งได้เอง แต่จะมีธนาคารหลายแห่ง (หลายคนที่มีคอม) พิมพ์ให้

ส่วนเงินเฟ้อบิทคอนก็ควบคุมด้วย algorithm ซึ่งปริมาณเงินก็จะมากขึ้นอย่างช้าๆ จนถึงจุดนึงที่ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์มูลค่าสูงจนไม่คุ้มที่จะลงทุนมาขุด ตอนนั้นปริมาณเงินในตลาดบิทคอนจะค่อนข้างคงที่หรือเพิ่มอย่างช้าๆ

ถ้าตรรกกะแบบนี้ถูก คนที่ขุดบิทคอนตอนนี้ คือคนที่พิมพ์เงิน และสะสมเงินอยู่ และหากอนาคตบิทคอนได้รับการยอมรับจริง บิทคอนที่ตัวเองถืออยู่ก็จะมีค่า แต่ต้องเสี่ยงกับอัตราเงินเฟ้อของบิทคอนในช่วงแรกๆ ที่ราคาสินค้า และปริมาณบิทคอนในตลาดสูงมากขึ้นเรื่อยๆ   ทีนี้การมีบิทคอนในมือ เทียบกับฮาร์ดแวร์ที่ลงทุนไปก็อาจจะคุ้มหรือไม่คุ้มก็ได้  เช่น ซื้อคอมมาขุดราคา 200,000 บาท และขุดได้ 5,000,000 บาท  แต่มูลค่าบิทคอนตอนที่นิยมแล้ว (และต้องได้รับการยอมรับ)   มอเตอร์ไซค์ฟีโน่คันนึงราคา 400,000 บาทไปแล้ว ซึ่งบิทคอนในมืออาจจะไม่คุ้ม (หรือคุ้ม ก็ได้)

ที่สำคัญทุกอย่างจะสูญเปล่าหาก bitcoin เกินสะดุดแบบไม่คาดฝันขึ้นมา

ถ้าว่าด้วยระบบเศรษฐศาสตร์ ผมเข้าใจถูกป่ะ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 มกราคม 2014, 20:18:40 โดย Solid Snake » บันทึกการเข้า

Phi999
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 25
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 358



ดูรายละเอียด
« ตอบ #21 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 20:18:08 »

ระบบ Bitcoin นี้มีจุดอ่อนอยู่ข้อเดียวครับ
ถ้าถูก hack ด้วยคอมพิวเตอร์สมัยใหม่ชนิด quantum ที่สามารถปลดรหัสทุกชนิดได้ใน 10 นาที (เงินแสนล้านถูกแฮคหมด)
Crypto currency ก็จะกลายเป็นระบบที่ขาดความน่าเชื่อถือในทันที

 www.dailynews.co.th/Content/foreign/206068/ เอ็นเอสเอลงทุนสร้าง
บันทึกการเข้า

ต้นหญ้าบนภูเขาลูกใหญ่
tanutsun
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 98
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 485



ดูรายละเอียด
« ตอบ #22 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 20:21:57 »

ตอนนี้ น่่าจะตกขบวนแล้วมั้ง มาช้าไป ถ้าเริ่มตอนต้นปีที่แล้ว พอได้ลุ้นขุดกับเขามั่งอยู่

ส่วนข้อเสียที่ว่ามา
1. ถ้าเอาบิทคอย แลกเป็นเงินสกุลอื่น แล้วแลกกับมาเป็นเงินไทยหล่ะ ธปท. รับได้รึเปล่า เพราะหลายๆ ประเทศ บิทคอยใช้ชำระสินค้าได้แล้ว
2.  เป็นไปไม่ได้ที่จะครอบครองจำนวนมากๆ
3.  ฟองสบู่ ของบิทคอย คืออะไร ? ถ้าเปนค่าเงินบิทคอย ก็ปรับตามดีมาน ซัพพาย ปกติอยู่แล้ว
4.  เจ้าหลักๆ แลกได้ก็โอเคแล้ว

ความน่าเชื่อถือ BitCoin ลองดูเรื่อง Cryptography ใช้การอ้างมูลค่าอ้างอิงจาก Hash SHA256 ที่ประมวลผลได้และตรงตามที่ข้อตกลงครับ โดยในระบบเชือว่าการได้ซึ่ง Hash มานั้นเป็นการยาก (เหมือนการขุดทอง)

http://youtu.be/Um63OQz3bjo

ส่วนที่คนแห่ไปขุดมากๆ ก็ไม่เปนไรหรอกครับ เพราะความยากจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนหมดบล็อก ตอนนั้นแหล่ะแพงหูฉี่ อาจจะ 1 บิทคอย ละล้านก็ได้เพราะขุดไม่ได้แล้ว เทรดได้อย่างเดียว

ปล.ผมไม่ได้ขุด บิทคอย

ปล. 2 ถ้าจะเปรียบให้เห้นภาพง่ายๆ ก็เหมือนเราเก็บ zeny ในแร็ก แล้วเอามาขายแลกสินค้าในโลกจริงได้  เพียงแต่ bitcoin มีจำักัด ทำให้ ความเฟ้อมีน้อย มีแต่มูลค่าจะเพิ่ม



สงสัยนะครับว่าอะไรคือตัวที่กำหนดให้มันเฟ้อมันไม่เฟ้อ ให้มันขุดง่ายขุดยาก มันคืออะไรครับ ไครเป็นคนคิดค้น ผม งงๆ ว่ามันมีมาได้ยังไง
บันทึกการเข้า
OrangeBlue
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 18
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 360



ดูรายละเอียด
« ตอบ #23 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 20:28:42 »

ตอนจีนแบน ราคาร่วง จาก 800 เหลือ 700
บันทึกการเข้า
chW4t4
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 79
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 496



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #24 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 20:30:56 »

เมื่อกี้ถามคำถามไปมีคนมาตอบก็พอจะเข้าใจขึ้นอีก  ทีนี้สงสัยอีกแล้ว ^^'

เข้าใจว่า การขุดบิทคอน เหมือนการพิพม์แบ๊งใช่ไหมครับ โดยมี algorithm ควบคุมปริมาณบิทคอนไม่ให้มากเกินไป ( เหมือนอเมริกาพิมพ์แบ๊งได้เอง แต่ไม่พิมพ์มากเกินไปเพราะเดี๋ยวมูลค่าลดลง)

หากใช่ คนที่ขุดบิทคอน คือคนที่พิมพ์แบ๊งได้เอง ซึ่งต่อไปก็จะพิมพ์ยากเพราะขุดได้ยาก ก็จะควบคุมปริมาณบิทคอนในตลาดไม่ให้มากเกินได้ (supply ไม่มากเกินไป) แต่ทีนี้ระบบเศรษศาสตร์ตลาดบิทคอน จะเป็นแบบนี้ถูกไหม ถ้าผิดบอกได้นะ อันนี้ตอบตามความเข้าใจ

คนพิมพ์แบ๊ง = คนขุดบิทคอน = ธนาคารกลางสหรัฐ
คนทั่วๆไป = (ปกติ) ไม่สามารถขุดบิทคอนได้เอง = ประชาชนทั่วไป

กลายเป็น คนขุดบิทคอนสามารถพิมพ์เงินได้เอง ซึ่งค่อยๆเพิ่มขึ้น ค่อยๆมีความมั่งคั่งขึ้น แล้วก็สามารถซื้อของที่จ่ายด้วยบิทคอนได้

ฝั่งคนทั่วๆไป ก็ต้องยอมรับการมีค่าของบิทคอนก่อน  โดยยอมขายของราคาไม่แพงออกไปก่อนเช่น ก๋วยเตี๋ยวราคา 100 บาท แต่จะต้องจ่ายมูลค่าบิทคอนเทียบเท่า (ตามความรู้สึก) ในราคาสูงถึง 140 บาทก่อน คือคนขายของยอมเสี่ยงที่จะรับเงินสกุลใหม่แต่ต้องให้ราคาแพง

แล้วก็ให้มีธุรกรรมขายของแล้วรับเงินด้วยบิทคอนแบบนี้ให้มากๆ และเป็นวงกว้าง จนทุกๆคนมีบิทคอนเป็นของตนเอง เหมือนเงินทั่วๆไป ที่คนปกติไม่สามารถพิพม์แบ๊งได้เอง แต่จะมีธนาคารหลายแห่ง (หลายคนที่มีคอม) พิมพ์ให้

ส่วนเงินเฟ้อบิทคอนก็ควบคุมด้วย algorithm ซึ่งปริมาณเงินก็จะมากขึ้นอย่างช้าๆ จนถึงจุดนึงที่ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์มูลค่าสูงจนไม่คุ้มที่จะลงทุนมาขุด ตอนนั้นปริมาณเงินในตลาดบิทคอนจะค่อนข้างคงที่หรือเพิ่มอย่างช้าๆ

ถ้าตรรกกะแบบนี้ถูก คนที่ขุดบิทคอนตอนนี้ คือคนที่พิมพ์เงิน และสะสมเงินอยู่ และหากอนาคตบิทคอนได้รับการยอมรับจริง บิทคอนที่ตัวเองถืออยู่ก็จะมีค่ามหาศาล ตามหลัก ดีมานซับพลาย

ถ้าว่าด้วยระบบเศรษฐศาสตร์ ผมเข้าใจถูกป่ะ
 


ใช่ครับ
ถ้าบิทคอย ได้รับการยอมรับ มูลค่าก็จะขึ้น ที่เห็นราคาผันผวนตอนนี้ เพราะยังหาจุดตัดของดีมานกับซัพพายไม่ได้ครับ มีประเทศยอมรับบ้างไม่ยอมรับบ้างประปราย


อ้างถึง
สงสัยนะครับว่าอะไรคือตัวที่กำหนดให้มันเฟ้อมันไม่เฟ้อ ให้มันขุดง่ายขุดยาก มันคืออะไรครับ ไครเป็นคนคิดค้น ผม งงๆ ว่ามันมีมาได้ยังไง

ขอแปะลิ้งหน่อยนะครับ
http://www.blognone.com/node/47074
BitCoin คือเรื่องของ Peer-to-Peer

แม้ธนาคารจะทำหน้าที่ได้ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่มีหลายกรณีที่ธนาคารทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก ประเทศที่ขาดเสถียรภาพอาจจะมีธนาคารทำออกนโยบายแปลกๆ เช่น การยึดเงินในบัญชี, การอายัดบัญชีที่รัฐบาลพอใจ, ตลอดจนการปล่อยเงินออกมาในระบบมากขึ้นทำให้เงินเฟ้อ, ธนาคารเองบางครั้งก็ยกเลิกการโอนได้
นักวิจัยนิรนามที่ใช้ชื่อ Satoshi Nakamoto ประกาศว่าเขากำลังออกแบบระบบเงินที่ไร้ศูนย์กลาง (decentralized) อย่างสมบูรณ์ และเปิดเผยการออกแบบทั้งหมดออกมาในปี 2009 ในชื่อ BitCoin
การออกแบบทำให้ BitCoin มีคุณสมบัติพอที่จะทำหน้าที่แทนธนาคาร ได้แก่
สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ ทุกคนในระบบ BitCoin สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ด้วยตนเอง เป็นการสร้างกุญแจสาธารณะและกุญแจส่วนตัว กุญแจสาธารณะกลายเป็นหมายเลขบัญชีของแต่ละคน กุญแจส่วนตัวนี้สามารถใช้ยืนยันข้อความอะไรก็ได้ว่าเจ้าของบัญชีเป็นผู้ส่งความจริง
ตรวจสอบจำนวนเงินของทุกบัญชีได้ เมื่อได้รับหมายเลขบัญชีมา เราสามารถเข้าดูฐานข้อมูลได้ทันทีว่ามีเงินในบัญชีนั้นๆ เท่าใด พอที่จะจ่ายค่าบริการหรือสินค้าให้กับเราหรือไม่
บันทึกการโอน ทุกครั้งที่มีการโอน ข้อมูลการโอนจะถูกกระจายไปทั่วเครือข่ายให้ทุกคนรับรู้ร่วมกัน
https://www.blognone.com/node/35180

การคำนวณค่า nonce และแฮชของแต่ละบล็อคนั้นเป็นงานที่มีต้นทุนสูงเพราะต้องใช้ไฟฟ้าและเครื่องที่แรงจึงคำนวณได้รวดเร็ว หลายค่ายสร้างชิปเฉพาะสำหรับการคำนวณค่าบล็อค กระบวนการนี้มีแรงจูงใจระบุให้ผู้ที่สามารถคำนวณ ค่า nonce และแฮชได้สำเร็จ สามารถประกาศนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้ 50 BTC (มูลค่าปัจจุบ้นคือ 600 ดอลลาร์หรือเกือบสองหมื่นบาท) เงินจำนวนนี้จะลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง ทุกๆ 210,000 บล็อคที่คำนวณได้ กระบวนการนี้เป็นแนวคิดที่จะจำกัดจำนวน BitCoin ไม่ให้เกิน 21,000,000 BTC


model เบื้องต้นผมว่า
เหมือง --- ขุดทอง --- ขายทอง
asic --- ขุดบิทคอย --- ขายบิทคอย
บันทึกการเข้า
Cyclops
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 101



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #25 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 20:34:39 »

ผมชอบอะไรที่มันจับต้องได้มากกว่าครับ
เกิดวันดีคืนดีมีคนใช้เทคโนโลยี่ขุดได้มากกว่าปกติ 1000 เท่านี่ ราคาคงร่วงระนาว
บันทึกการเข้า

chW4t4
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 79
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 496



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #26 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 20:39:41 »

ผมชอบอะไรที่มันจับต้องได้มากกว่าครับ
เกิดวันดีคืนดีมีคนใช้เทคโนโลยี่ขุดได้มากกว่าปกติ 1000 เท่านี่ ราคาคงร่วงระนาว
ก็คล้ายๆ อเมริกา ใช้ QE พิมพ์แบ้งเพิ่มเองแหล่ะครับ

อย่างว่าแหล่ะครับนานาจิตตัง

ปล.การลงทุนมีความเสี่ยง ลองศึกษากันดูครับ wanwan004
บันทึกการเข้า
ตงฟางปุ๊ป้าย
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 70
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 504



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #27 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 20:47:56 »

เมื่อกี้ถามคำถามไปมีคนมาตอบก็พอจะเข้าใจขึ้นอีก  ทีนี้สงสัยอีกแล้ว ^^'

เข้าใจว่า การขุดบิทคอน เหมือนการพิพม์แบ๊งใช่ไหมครับ โดยมี algorithm ควบคุมปริมาณบิทคอนไม่ให้มากเกินไป ( เหมือนอเมริกาพิมพ์แบ๊งได้เอง แต่ไม่พิมพ์มากเกินไปเพราะเดี๋ยวมูลค่าลดลง)

หากใช่ คนที่ขุดบิทคอน คือคนที่พิมพ์แบ๊งได้เอง ซึ่งต่อไปก็จะพิมพ์ยากเพราะขุดได้ยาก ก็จะควบคุมปริมาณบิทคอนในตลาดไม่ให้มากเกินได้ (supply ไม่มากเกินไป) แต่ทีนี้ระบบเศรษศาสตร์ตลาดบิทคอน จะเป็นแบบนี้ถูกไหม ถ้าผิดบอกได้นะ อันนี้ตอบตามความเข้าใจ

คนพิมพ์แบ๊ง = คนขุดบิทคอน = ธนาคารกลางสหรัฐ
คนทั่วๆไป = (ปกติ) ไม่สามารถขุดบิทคอนได้เอง = ประชาชนทั่วไป

กลายเป็น คนขุดบิทคอนสามารถพิมพ์เงินได้เอง ซึ่งค่อยๆเพิ่มขึ้น ค่อยๆมีความมั่งคั่งขึ้น แล้วก็สามารถซื้อของที่จ่ายด้วยบิทคอนได้

ฝั่งคนทั่วๆไป ก็ต้องยอมรับการมีค่าของบิทคอนก่อน  โดยยอมขายของราคาไม่แพงออกไปก่อนเช่น ก๋วยเตี๋ยวราคา 100 บาท แต่จะต้องจ่ายมูลค่าบิทคอนเทียบเท่า (ตามความรู้สึก) ในราคาสูงถึง 140 บาทก่อน คือคนขายของยอมเสี่ยงที่จะรับเงินสกุลใหม่แต่ต้องให้ราคาแพง

แล้วก็ให้มีธุรกรรมขายของแล้วรับเงินด้วยบิทคอนแบบนี้ให้มากๆ และเป็นวงกว้าง จนทุกๆคนมีบิทคอนเป็นของตนเอง เหมือนเงินทั่วๆไป ที่คนปกติไม่สามารถพิพม์แบ๊งได้เอง แต่จะมีธนาคารหลายแห่ง (หลายคนที่มีคอม) พิมพ์ให้

ส่วนเงินเฟ้อบิทคอนก็ควบคุมด้วย algorithm ซึ่งปริมาณเงินก็จะมากขึ้นอย่างช้าๆ จนถึงจุดนึงที่ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์มูลค่าสูงจนไม่คุ้มที่จะลงทุนมาขุด ตอนนั้นปริมาณเงินในตลาดบิทคอนจะค่อนข้างคงที่หรือเพิ่มอย่างช้าๆ

ถ้าตรรกกะแบบนี้ถูก คนที่ขุดบิทคอนตอนนี้ คือคนที่พิมพ์เงิน และสะสมเงินอยู่ และหากอนาคตบิทคอนได้รับการยอมรับจริง บิทคอนที่ตัวเองถืออยู่ก็จะมีค่ามหาศาล ตามหลัก ดีมานซับพลาย

ถ้าว่าด้วยระบบเศรษฐศาสตร์ ผมเข้าใจถูกป่ะ
 


ใช่ครับ
ถ้าบิทคอย ได้รับการยอมรับ มูลค่าก็จะขึ้น ที่เห็นราคาผันผวนตอนนี้ เพราะยังหาจุดตัดของดีมานกับซัพพายไม่ได้ครับ มีประเทศยอมรับบ้างไม่ยอมรับบ้างประปราย


อ้างถึง
สงสัยนะครับว่าอะไรคือตัวที่กำหนดให้มันเฟ้อมันไม่เฟ้อ ให้มันขุดง่ายขุดยาก มันคืออะไรครับ ไครเป็นคนคิดค้น ผม งงๆ ว่ามันมีมาได้ยังไง

ขอแปะลิ้งหน่อยนะครับ
http://www.blognone.com/node/47074
BitCoin คือเรื่องของ Peer-to-Peer

แม้ธนาคารจะทำหน้าที่ได้ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่มีหลายกรณีที่ธนาคารทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก ประเทศที่ขาดเสถียรภาพอาจจะมีธนาคารทำออกนโยบายแปลกๆ เช่น การยึดเงินในบัญชี, การอายัดบัญชีที่รัฐบาลพอใจ, ตลอดจนการปล่อยเงินออกมาในระบบมากขึ้นทำให้เงินเฟ้อ, ธนาคารเองบางครั้งก็ยกเลิกการโอนได้
นักวิจัยนิรนามที่ใช้ชื่อ Satoshi Nakamoto ประกาศว่าเขากำลังออกแบบระบบเงินที่ไร้ศูนย์กลาง (decentralized) อย่างสมบูรณ์ และเปิดเผยการออกแบบทั้งหมดออกมาในปี 2009 ในชื่อ BitCoin
การออกแบบทำให้ BitCoin มีคุณสมบัติพอที่จะทำหน้าที่แทนธนาคาร ได้แก่
สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ ทุกคนในระบบ BitCoin สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ด้วยตนเอง เป็นการสร้างกุญแจสาธารณะและกุญแจส่วนตัว กุญแจสาธารณะกลายเป็นหมายเลขบัญชีของแต่ละคน กุญแจส่วนตัวนี้สามารถใช้ยืนยันข้อความอะไรก็ได้ว่าเจ้าของบัญชีเป็นผู้ส่งความจริง
ตรวจสอบจำนวนเงินของทุกบัญชีได้ เมื่อได้รับหมายเลขบัญชีมา เราสามารถเข้าดูฐานข้อมูลได้ทันทีว่ามีเงินในบัญชีนั้นๆ เท่าใด พอที่จะจ่ายค่าบริการหรือสินค้าให้กับเราหรือไม่
บันทึกการโอน ทุกครั้งที่มีการโอน ข้อมูลการโอนจะถูกกระจายไปทั่วเครือข่ายให้ทุกคนรับรู้ร่วมกัน
https://www.blognone.com/node/35180

การคำนวณค่า nonce และแฮชของแต่ละบล็อคนั้นเป็นงานที่มีต้นทุนสูงเพราะต้องใช้ไฟฟ้าและเครื่องที่แรงจึงคำนวณได้รวดเร็ว หลายค่ายสร้างชิปเฉพาะสำหรับการคำนวณค่าบล็อค กระบวนการนี้มีแรงจูงใจระบุให้ผู้ที่สามารถคำนวณ ค่า nonce และแฮชได้สำเร็จ สามารถประกาศนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้ 50 BTC (มูลค่าปัจจุบ้นคือ 600 ดอลลาร์หรือเกือบสองหมื่นบาท) เงินจำนวนนี้จะลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง ทุกๆ 210,000 บล็อคที่คำนวณได้ กระบวนการนี้เป็นแนวคิดที่จะจำกัดจำนวน BitCoin ไม่ให้เกิน 21,000,000 BTC


model เบื้องต้นผมว่า
เหมือง --- ขุดทอง --- ขายทอง
asic --- ขุดบิทคอย --- ขายบิทคอย


+1 ขอบคุณครับ  ตามLinkไปอ่านแล้ว  ข้อมูลเยี่ยมเลยครับ   wanwan011  สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มศึกษาBitcoin ว่ามันคืออะไร ใครคิดค้นขึ้นมา  ทำงานยังไง ฯลฯ  wanwan008  แต่ดูๆแล้วยังมีข้อมูลเชิงลึกอีกมากเลยครับ บางทีอ่านบางคำศัพท์ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ  Tongue คงต้องศึกษาอีกหลายเดือนถึงจะเข้าใจข้อมูลเชิงลึกๆทั้งหมด(ถ้าใครจะลงทุนซื้อHardwareมาทำจริงๆ)
บันทึกการเข้า

tanutsun
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 98
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 485



ดูรายละเอียด
« ตอบ #28 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 21:14:26 »

เมื่อกี้ถามคำถามไปมีคนมาตอบก็พอจะเข้าใจขึ้นอีก  ทีนี้สงสัยอีกแล้ว ^^'

เข้าใจว่า การขุดบิทคอน เหมือนการพิพม์แบ๊งใช่ไหมครับ โดยมี algorithm ควบคุมปริมาณบิทคอนไม่ให้มากเกินไป ( เหมือนอเมริกาพิมพ์แบ๊งได้เอง แต่ไม่พิมพ์มากเกินไปเพราะเดี๋ยวมูลค่าลดลง)

หากใช่ คนที่ขุดบิทคอน คือคนที่พิมพ์แบ๊งได้เอง ซึ่งต่อไปก็จะพิมพ์ยากเพราะขุดได้ยาก ก็จะควบคุมปริมาณบิทคอนในตลาดไม่ให้มากเกินได้ (supply ไม่มากเกินไป) แต่ทีนี้ระบบเศรษศาสตร์ตลาดบิทคอน จะเป็นแบบนี้ถูกไหม ถ้าผิดบอกได้นะ อันนี้ตอบตามความเข้าใจ

คนพิมพ์แบ๊ง = คนขุดบิทคอน = ธนาคารกลางสหรัฐ
คนทั่วๆไป = (ปกติ) ไม่สามารถขุดบิทคอนได้เอง = ประชาชนทั่วไป

กลายเป็น คนขุดบิทคอนสามารถพิมพ์เงินได้เอง ซึ่งค่อยๆเพิ่มขึ้น ค่อยๆมีความมั่งคั่งขึ้น แล้วก็สามารถซื้อของที่จ่ายด้วยบิทคอนได้

ฝั่งคนทั่วๆไป ก็ต้องยอมรับการมีค่าของบิทคอนก่อน  โดยยอมขายของราคาไม่แพงออกไปก่อนเช่น ก๋วยเตี๋ยวราคา 100 บาท แต่จะต้องจ่ายมูลค่าบิทคอนเทียบเท่า (ตามความรู้สึก) ในราคาสูงถึง 140 บาทก่อน คือคนขายของยอมเสี่ยงที่จะรับเงินสกุลใหม่แต่ต้องให้ราคาแพง

แล้วก็ให้มีธุรกรรมขายของแล้วรับเงินด้วยบิทคอนแบบนี้ให้มากๆ และเป็นวงกว้าง จนทุกๆคนมีบิทคอนเป็นของตนเอง เหมือนเงินทั่วๆไป ที่คนปกติไม่สามารถพิพม์แบ๊งได้เอง แต่จะมีธนาคารหลายแห่ง (หลายคนที่มีคอม) พิมพ์ให้

ส่วนเงินเฟ้อบิทคอนก็ควบคุมด้วย algorithm ซึ่งปริมาณเงินก็จะมากขึ้นอย่างช้าๆ จนถึงจุดนึงที่ต้องลงทุนฮาร์ดแวร์มูลค่าสูงจนไม่คุ้มที่จะลงทุนมาขุด ตอนนั้นปริมาณเงินในตลาดบิทคอนจะค่อนข้างคงที่หรือเพิ่มอย่างช้าๆ

ถ้าตรรกกะแบบนี้ถูก คนที่ขุดบิทคอนตอนนี้ คือคนที่พิมพ์เงิน และสะสมเงินอยู่ และหากอนาคตบิทคอนได้รับการยอมรับจริง บิทคอนที่ตัวเองถืออยู่ก็จะมีค่ามหาศาล ตามหลัก ดีมานซับพลาย

ถ้าว่าด้วยระบบเศรษฐศาสตร์ ผมเข้าใจถูกป่ะ
 


ใช่ครับ
ถ้าบิทคอย ได้รับการยอมรับ มูลค่าก็จะขึ้น ที่เห็นราคาผันผวนตอนนี้ เพราะยังหาจุดตัดของดีมานกับซัพพายไม่ได้ครับ มีประเทศยอมรับบ้างไม่ยอมรับบ้างประปราย


อ้างถึง
สงสัยนะครับว่าอะไรคือตัวที่กำหนดให้มันเฟ้อมันไม่เฟ้อ ให้มันขุดง่ายขุดยาก มันคืออะไรครับ ไครเป็นคนคิดค้น ผม งงๆ ว่ามันมีมาได้ยังไง

ขอแปะลิ้งหน่อยนะครับ
http://www.blognone.com/node/47074
BitCoin คือเรื่องของ Peer-to-Peer

แม้ธนาคารจะทำหน้าที่ได้ดีเป็นส่วนใหญ่ แต่มีหลายกรณีที่ธนาคารทำหน้าที่ได้ไม่ดีนัก ประเทศที่ขาดเสถียรภาพอาจจะมีธนาคารทำออกนโยบายแปลกๆ เช่น การยึดเงินในบัญชี, การอายัดบัญชีที่รัฐบาลพอใจ, ตลอดจนการปล่อยเงินออกมาในระบบมากขึ้นทำให้เงินเฟ้อ, ธนาคารเองบางครั้งก็ยกเลิกการโอนได้
นักวิจัยนิรนามที่ใช้ชื่อ Satoshi Nakamoto ประกาศว่าเขากำลังออกแบบระบบเงินที่ไร้ศูนย์กลาง (decentralized) อย่างสมบูรณ์ และเปิดเผยการออกแบบทั้งหมดออกมาในปี 2009 ในชื่อ BitCoin
การออกแบบทำให้ BitCoin มีคุณสมบัติพอที่จะทำหน้าที่แทนธนาคาร ได้แก่
สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ ทุกคนในระบบ BitCoin สามารถเปิดบัญชีใหม่ได้ด้วยตนเอง เป็นการสร้างกุญแจสาธารณะและกุญแจส่วนตัว กุญแจสาธารณะกลายเป็นหมายเลขบัญชีของแต่ละคน กุญแจส่วนตัวนี้สามารถใช้ยืนยันข้อความอะไรก็ได้ว่าเจ้าของบัญชีเป็นผู้ส่งความจริง
ตรวจสอบจำนวนเงินของทุกบัญชีได้ เมื่อได้รับหมายเลขบัญชีมา เราสามารถเข้าดูฐานข้อมูลได้ทันทีว่ามีเงินในบัญชีนั้นๆ เท่าใด พอที่จะจ่ายค่าบริการหรือสินค้าให้กับเราหรือไม่
บันทึกการโอน ทุกครั้งที่มีการโอน ข้อมูลการโอนจะถูกกระจายไปทั่วเครือข่ายให้ทุกคนรับรู้ร่วมกัน
https://www.blognone.com/node/35180

การคำนวณค่า nonce และแฮชของแต่ละบล็อคนั้นเป็นงานที่มีต้นทุนสูงเพราะต้องใช้ไฟฟ้าและเครื่องที่แรงจึงคำนวณได้รวดเร็ว หลายค่ายสร้างชิปเฉพาะสำหรับการคำนวณค่าบล็อค กระบวนการนี้มีแรงจูงใจระบุให้ผู้ที่สามารถคำนวณ ค่า nonce และแฮชได้สำเร็จ สามารถประกาศนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเองได้ 50 BTC (มูลค่าปัจจุบ้นคือ 600 ดอลลาร์หรือเกือบสองหมื่นบาท) เงินจำนวนนี้จะลดลงเหลือครึ่งหนึ่ง ทุกๆ 210,000 บล็อคที่คำนวณได้ กระบวนการนี้เป็นแนวคิดที่จะจำกัดจำนวน BitCoin ไม่ให้เกิน 21,000,000 BTC


model เบื้องต้นผมว่า
เหมือง --- ขุดทอง --- ขายทอง
asic --- ขุดบิทคอย --- ขายบิทคอย


อ๋อมันก็เหมือนกับ   มีคนนึงขาย แล้ว อีกคนก็ขุดเจอแล้วก็เอาไปขาย ให้คนต่อไปเจอ แบบนี้ใช่ไหมครับ
ผมเข้าใจถูกไหม ?
บันทึกการเข้า
deebedding
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 199
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,784



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #29 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 21:32:23 »

บ้านเรายังไม่เป็นที่ยอมรับนะคะ
บันทึกการเข้า

smapan
Global Moderator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*****

พลังน้ำใจ: 643
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,272



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #30 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 22:10:40 »

ตอนจีนแบน ราคาร่วง จาก 800 เหลือ 700


ตอนนี้ 900+ ละครับ
บันทึกการเข้า

จูมล่าโฮส สยามโฮสเว็บ modty.com
รวมที่พัก เช่ารายวัน ที่พักเช่ารายเดือนมากที่สุดแจ่มจริง
***Tel 083-757-1515 ติดปัญหา Joomla ตรงไหนรับปรึกษาฟรี โทรมาเถอะครับ ถ้าตอบได้ช่วยแน่นอน ไม่มีกั้ก. ***
lnwgoogle
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 13
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 106



ดูรายละเอียด
« ตอบ #31 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 22:25:02 »

ยังงงๆกับระบบของ BitCoin ต้องลองศึกษาซะหน่อยแระ
บันทึกการเข้า

Fanpage 20,xxx และ  19,xxx เพจละ  3,000  บาท
Soft666
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #32 เมื่อ: 06 มกราคม 2014, 22:28:11 »

รอดูอีกสักพัก

ถ้ามีเว็บใหญ่ๆ เปิดรับจ่ายสินค้าด้วย bitcoin เมื่อไหร่

เดี๋ยวลงทุนทำแน่นอน

แอบหวังว่า ebay จะเปิดรับ 55+  Tongue
บันทึกการเข้า
Turkster X
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 17
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 243



ดูรายละเอียด
« ตอบ #33 เมื่อ: 07 มกราคม 2014, 11:40:57 »

 wanwan004 ลองวิเคราะห์กันดูครับ

คนมีไม่พูด คนพูดไม่มี
ยิ่งคนเยอะการแข่งขันยิ่งสูง

ผมลงทุนไปเกือบ 2 แสนแล้วครับ

ลองหาวีดีโอ คุณ โฉลก ฟังดูครับ น่าจะได้รับอะไรเพิ่มขึ้น

ทุกการลงทุนมีความเสี่ยงทั้งนั้น เปิดผับ เปิดบาร์ ลงทุนเป็นล้านยังทำกัน ความเสี่ยง คนไม่เข้าเยอะแยะ
BTC ลงทุนแค่ 30,000 ได้เงินราวๆ 13,000 คิดเอาเล่นๆ ครับ 3 เดือน คืนทุนแล้ว แล้วที่เหลือหละครับ ?

ถ้าขุดเก็บไว้ ซัก สิ้นปี อาจจะได้ซัก 2-3 BTC ตอนนี้ราคา เกือบ ๆ 1,000 USD แล้ว สิ้นปีคิดเอาครับ

ส่วนเรื่องค่า Diff ไม่ต้องสนใจหลอกครับ ยิ่งขุดยาก คุณยิ่งขายได้แพง ตอนยังไม่เพิ่ม ขายได้แค่ 720USD
ตอนนี้เพิ่ม 1,400M ประมาณ ขายได้ 930USD จากแต่ก่อนได้วันละ 0.1 BTC เหลือ 0.09 BTC แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ

ลองคิดดูใหม่ ขุดในค่า DIFF เท่านี้ เก็บไว้ซัก 3-4 BTC แล้วถ้าต่อไปคนขุดเยอะขึ้น มันแพงขึ้นไปเท่าไหร่ ?
ถ้าวันนึง คนขุดได้วันละ 0.00001 BTC ความเร็วที่ 1000GH/s BTC ที่ขุดถืออยู่ ได้เสียว แน่นอนครับ

จำกัดแค่ 21 ล้านบิตคอย วันนึงหมด รับรองพุ่ง แล้วมาเสียใจไม่ได้นะครับ คืนทุน 3 เดือน คิดเอาครับ

ความเสี่ยงมีไหม มีอยู่แล้วแต่ยิ่งช้ายิ่งเสี่ยง ถ้าไม่อยากมีความเสี่ยงก็เป็น ข้าราชการ เงินเดือน 20,000 ต่อไปครับ

ผมยอมแลกเงิน 2 แสน ถ้าเสีย ผมก็ไม่เป็นไร
แต่ถ้าได้กำไร ครั้งนึงในชีวิต ผมมีเงินเดือนถึง 140k ต่อเดือน Shocked

หวังว่าข้อมูลนี้ จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยครับ  wanwan017
บันทึกการเข้า
jittapan
Verified Seller
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 28
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 850



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #34 เมื่อ: 07 มกราคม 2014, 12:12:49 »

ถ้า bitcoin ทุกๆ bitcoin เกิดไปอยู่ในมือของคน คนเดียว มันจะไม่มีค่าอะไร เลย


ไอ้คนนั้นซวบ    wanwan019
บันทึกการเข้า

boardseo
Global Moderator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*****

พลังน้ำใจ: 324
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 4,640



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #35 เมื่อ: 07 มกราคม 2014, 12:21:47 »

ผมว่าไม่รอดหรอก ทำอะไรแล้วตรวจสอบที่มาไม่ได้ มันก็ไม่ต่างกับการโจรกรรม  wanwan035
บันทึกการเข้า

geravet
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 34
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 720



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #36 เมื่อ: 07 มกราคม 2014, 12:42:09 »

ว่าจะใช้อยู่พอดีเบรกไว้ก่อนเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07 มกราคม 2014, 12:44:50 โดย geravet » บันทึกการเข้า

ฝากทำแบบสอบถามด้วยครับ
https://docs.google.com/forms/...sJSN0C_wmp8KOBmqIaKt0/viewform
pandazz
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 17
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 471



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #37 เมื่อ: 07 มกราคม 2014, 12:52:13 »

ผมว่าไม่รอดหรอก ทำอะไรแล้วตรวจสอบที่มาไม่ได้ มันก็ไม่ต่างกับการโจรกรรม  wanwan035

ตรวจสอบได้นะ 

โจรกรรมยังไง  wanwan004
บันทึกการเข้า

Innovation
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 114
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 936



ดูรายละเอียด
« ตอบ #38 เมื่อ: 07 มกราคม 2014, 12:57:08 »

อีก 3 เดือน ใครเลิกทำ รับเซ้งอุปกรณ์ทั้งหมด  wanwan004
บันทึกการเข้า
smapan
Global Moderator
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*****

พลังน้ำใจ: 643
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 8,272



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #39 เมื่อ: 07 มกราคม 2014, 13:01:07 »

ผมว่าไม่รอดหรอก ทำอะไรแล้วตรวจสอบที่มาไม่ได้ มันก็ไม่ต่างกับการโจรกรรม  wanwan035

ตรวจสอบได้นะ 

โจรกรรมยังไง  wanwan004

ระบบดีมากครับ ตรวจสอบได้ว่า  เงินดอนจากไหนไปไหน
แต่บอกไม่ได้ว่าเจ้าของเงินเป็นใครครับ

ทำไมต้องบอกด้วยครับ สงสัย แค่มันเป้นเงินจริงๆก็น่าจะพอแล้วนะครับ

รัฐบาลไม่ชอบเพราะ ตามเก็บภาษีไม่ได้มั้งครับ  wanwan004
บันทึกการเข้า

จูมล่าโฮส สยามโฮสเว็บ modty.com
รวมที่พัก เช่ารายวัน ที่พักเช่ารายเดือนมากที่สุดแจ่มจริง
***Tel 083-757-1515 ติดปัญหา Joomla ตรงไหนรับปรึกษาฟรี โทรมาเถอะครับ ถ้าตอบได้ช่วยแน่นอน ไม่มีกั้ก. ***
หน้า: 1 [2] 3   ขึ้นบน
พิมพ์