การส่งเงินผ่าน Paypal มีด้วยกัน 2 กรณีครับ
กรณีที่ 1.ซื้อสินค้า = ผู้ซื้อไม่มีค่าธรรมเนียมทุกกรณีครับ
เนื่องจากค่าธรรมเนียมจะไปเก็บกับผู้ขาย ประมาณ 2.9% + $0.30
การโอนเงินแบบนี้ไม่นิยมในประเทศไทย เพราะผู้ซื้อสินค้า สามารถเรียกเงินคืนได้ (issue refund) เนื่องจากระบบ tracking number ของบ้านเรานั้น ยังไม่สามารถ prove การส่งของ หรือใช้ยืนยันเป็นหลักฐานกับ Paypal หาก "ผู้ซื้อทำการโอนเงินแบบซื้อสินค้า > ผู้ขายส่งของให้ > ผู้ซื้อประท้วง dispute = ผู้ขายจบครับ"
กรณีที่ 2.โอนเงินชำระค่าใช้จ่ายส่วนตัว = ผู้โอนเลือกคนที่เสียค่าธรรมเนียม ระหว่าง ผู้โอนหรือผู้รับ
การส่งเงินแบบนี้ จุดประสงค์คือ โอนเงินให้พ่อแม่พี่น้องลูกหลานเพื่อนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายอื่นๆต่อไป
ส่วนใหญ่การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ในประเทศไทยใช้วิธีนี้ แต่ต้องบอกว่า ผู้โอนนั้นเสียเปรียบไม่แตกต่างจากการโอนเงินผ่านธนาคาร เพราะไม่สามารถเรียกร้องเงินคืนได้ ไม่ว่าในกรณีใดๆก็ตาม
ก่อนโอนเงินชำระสินค้า คุณต้องคิดและเชื่อมั่นในร้านค้านั้นๆให้ดีซะก่อน ไม่งั้นอาจโดนหลอกไม่รู้ตัว
สำหรับค่าธรรมเนียมการโอนชำระค่าใช้จ่ายส่วนตัวนั้นผมจะแยกออกเป็น 2 ประเภท แบ่งออกเป็น 2 แบบ
ประเภทที่ 1 - โอนเงินระหว่างบัญชีในประเทศเดียวกัน
หมายความว่า บัญชีทั้งผู้โอนและผู้รับ ในตอนสมัครนั้นเลือกถิ่นที่อยู่ในประเทศไทยเหมือนกัน
แบบที่ 1 คือ โอนเงินโดยใช้เงินในบัญชี Paypal หรือ พ่วงกับ บัญชีธนาคาร = ไม่เสียค่าธรรมเนียม
แบบที่ 2 คือ โอนเงินโดยตัดเงินจากบัตรเครดิต/เดรบิต = ค่าธรรมเนียม 2.9% + $3.0
ประเภทที่ 2 - โอนเงินระหว่างบัญชีต่างประเทศ
หมายความว่า บัญชีทั้งผู้โอนและผู้รับ ในตอนสมัครนั้นเลือกถิ่นที่อยู่คนละประเทศ
แบบที่ 1 คือ โอนเงินโดยใช้เงินในบัญชี Paypal หรือ พ่วงกับ บัญชีธนาคาร = เสียค่าธรรมเนียมน้อยมาก 0.5% - 2% ขึ้นอยู่กับปลายทางเงินที่โอน (สำหรับประเทศไทย 1%)
แบบที่ 2 คือ โอนเงินโดยตัดเงินจากบัตรเครดิตหรือบัตรเดรบิต = ค่าธรรมเนียม 3.4% - 3.9%
เห็นไหมครับว่า ความเชื่อใจนั้นมีมูลค่ามากเท่าไร หากผู้ซื้อและผู้ขายตกลงกันได้ ไม่หลอกลวงกันเอง เลือกชำระสินค้าแบบโอนเงินชำระค่าใช้จ่ายส่วนตัวแทนที่จะโอนแบบซื้อสินค้า สามารถประหยัดค่าธรรมเนียมได้มากมาย ทำให้ตัวสินค้านั้นมีราคาถูกลงได้อีก แต่โลกแห่งความจริง มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นคร้าบบ