“สหัส”เผย“ฝรั่งเศส”เริ่มลังเล "กัมพูชา"ใส่ไฟถึงขั้นจะยิงกัน
รมว.ต่างประเทศสหรัฐหนุนเจรจาทวิภาคีหาข้อยุติข้อพิพาทเขาพระวิหาร ตำหนิเขมรโยนเรื่องเข้าเวทียูเอ็น "สหัส"เผยฝรั่งเศสเริ่มลังเลในข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อพิพาทพื้นที่ปราสาทพระวิหารไทย-กัมพูชา กัมพูชาขอให้ทั้งสองฝ่ายถอนทหารออกจากรอบปราสาทพระวิหาร สื่อสหรัฐตีข่าวพิพาทไทย-กัมพูชา
นาวสาวคอนโดลิซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่สิงคโปร์ เกี่ยวกับการประชุมเจรจาระหว่างไทย - กัมพูชา เพื่อหาข้อยุติข้อพิพาทบริเวณเขาพระวิหาร ว่า ในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องที่จะต้องหารือกัน สหรัฐรู้สึกเป็นห่วงในเรื่องนี้และอยากให้แก้ปัญหาโดยสันติ
"
ดิฉันเข้าใจว่าจะต้องพยายามแก้ปัญหาโดยการเจรจาทวิภาคี ซึ่งอาเซียนจะต้องจับตามองและช่วยเหลือหากมีความจำเป็น โดยที่พยายามให้อยู่ในวงภูมิภาคก่อน ไม่ควรเข้าสู่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แม้มีการร้องขอ" นาวสาวคอนโดลิซา กล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกากล่าวอีกว่า เธอได้ทำความเข้าใจอย่างกระจ่างชัดกับเพื่อนสมาชิกอาเซียนว่า สหรัฐมีความห่วงกังวลในเรื่องนี้มากและย้ำว่าสิ่งที่จำเป็นต้องทำคือใช้กลไกในภูมิภาค
“สหัส”เผย“ฝรั่งเศส”เริ่มลังเล
นายสหัส บัณฑิตกุล รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยร่วมประชุมว่าด้วย ความร่วมมือทางการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (เออาร์เอฟ) ที่มีขึ้นในวันนี้ (24 ก.ค.) ที่ประเทศสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ภายหลังการประชุมว่า ประเด็นข้อพิพาทในพื้นที่บริเวณปราสาทพระวิหารระหว่างไทยกับกัมพูชา เป็นประเด็นที่ทางกัมพูชาหยิบยกขึ้นมาแทบทุกเวที ซึ่งฝ่ายไทยได้ชี้แจงได้ทราบถึงข้อเท็จจริงในทุกเวทีเช่นเดียวกันว่าไทยจะขอหารือระดับทวิภาคีก่อน และเชื่อว่า หลังการเลือกตั้งของกัมพูชาน่าจะคุยกันได้ดียิ่งขึ้น
"
สอดคล้องกับที่นางสาวคอนโดริซาร์ ไรท์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ได้พูดในระหว่างการประชุมในภาพรวมว่า หากประเทศในกลุ่มมีปัญหาอะไร ควรคุยกันในระดับทวิภาคีก่อน เหมือนกับเวลาข้างบ้านทะเลาะกันครั้งเดียวแต่กลับเอาเรื่องไปฟ้องศาล น่าจะตกลงกันให้ได้ก่อนที่จะไปฟ้อง" นายสหัส กล่าวและว่า
ในช่วงกลางวันมีโอกาสพบกับ นางรามา ยาเด้ (Rama Yade) รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศฝรั่งเศส ซึ่งนางรามาเข้าใจว่า
เหตุการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา มีความรุนแรง เนื่องจากกัมพูชาให้ข้อมูลถึงขั้นว่าจะมีการยิงกัน ซึ่งตอนที่เริ่มคุยทางรัฐมนตรีช่วยต่างประเทศฝรั่งเศสยังลังเลในเรื่องข้อเท็จจริง เพราะมีความใกล้ชิดกับทางกัมพูชามากกว่า แต่ฝ่ายไทยก็ได้ชี้แจงถึงจุดยืนและระบุว่า ไม่ได้มีความรุนแรง โดยอ้างอิงคำพูดของ พล.อ.เตียะ บันห์ รัฐมนตรีกลาโหมของกัมพูชา ผ่านสื่อฉบับหนึ่ง ที่ระบุว่า การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - กัมพูชา (จีบีซี) เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ไม่ใช่ความล้มเหลว
และฝ่ายไทยยังบอกด้วยว่า การพูดคุยกับกัมพูชาสามารถตกลงกันได้ในหลายเรื่อง เช่น การเก็บกวาดทุ่นระเบิดสังหาร การหลีกเลี่ยงทางทหาร อย่างไรก็ตามหลังกรณีที่กัมพูชาทำเรื่องถึงสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาติ เพื่อขอให้พิจารณาเข้ามาจัดการปัญหาไทย-กัมพูชา น่าจะทราบผลในช่วงค่ำวันนี้ (24 ก.ค.) ตามเวลาของประเทศไทย
กัมพูชาขอให้ทั้งสองฝ่ายถอนทหาร
นายเขียว กันหะริด โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แถลงวันนี้ว่า
ควรมีการถอนทหารไทยและกัมพูชาทั้งหมดออกจากพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร หลังจากสองฝ่ายตรึงกำลังประจัญหน้ากันตั้งแต่เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว โดยบอกว่าสถานการณ์ในขณะนี้ยังไม่สงบและยังไม่คลายความตึงเครียดลง พร้อมกับเปรียบเทียบว่ากัมพูชาตรึงกำลังทหารไว้เพียง 800 นายขณะที่ฝั่งไทยมีทหารเกือบ 3,000 นาย เขายังกล่าวเสริมด้วยว่า
กัมพูชายืนยันจะไม่ยอมอ่อนข้อในเรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องการรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และละเมิดกฎบัตรอาเซียนในวันเดียวกันนี้มีรายงานว่า นายทหารระดับอาวุโสของกัมพูชาได้ตรวจพื้นที่บริเวณชายแดนและกำชับให้ทหารหลีกเลี่ยงการยิง พร้อมกับแจ้งผลการเจรจาระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อวันจันทร์ที่ยังไม่อาจหาข้อยุติเพื่อคลี่คลายข้อขัดแย้งได้ พลเอกเตีย บัน รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า บรรยากาศความตึงเครียดบริเวณชายแดนบรรเทาลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และกัมพูชากำลังพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะในที่อื่นๆและที่นี่
ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศแห่งหนึ่งรายงานว่า
ทั้งกัมพูชาและไทยยังคงพูดตอบโต้กัน และอ้างคำเปิดเผยของกระทรวงต่างประเทศของไทยว่า ฝั่งไทยมีทหารรอบปราสาทพระวิหารเพียง 400 นาย ขณะที่ฝั่งกัมพูชามีทหาร 1,700 นาย และยืนยันว่าการตรึงกำลังยังคงเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ทหารสองฝ่ายพูดคุยและรับประทานอาหารร่วมกัน สื่อสหรัฐตีข่าวพิพาทไทย-กัมพูชา
ประเด็นข้อพิพาทระหว่างไทยกับกัมพูชากลายเป็นข่าวใหญ่ที่สื่อในหลายประเทศติดตามอย่างใกล้ชิด อย่างหนังสือพิมพ์นิวยอร์ค ไทม์ส ฉบับวันนี้ ได้อ้างถึงคำให้สัมภาษณ์ของ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำยูเอ็น ดอน ปรมัตถ์วินัย ที่ระบุว่า กัมพูชากำลังใช้กลยุทธทางการทูตแบบกองโจร โจมตีไทยเพื่อพยายามปักปันเขตแดนระหว่างสองประเทศใหม่ ด้วยการผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้
รายงานข่าวอ้างคำพูดของทูตไทยด้วยว่า กัมพูชากำลังใช้แผนที่ที่ร่างมานานนับร้อยปีตั้งแต่กัมพูชาเป็นเมืองขึ้นของฝรั่งเศสเป็นเครื่องมือในการฮุบพื้นที่โดยรอบปราสาทที่ยังเป็นพื้นที่ทับซ้อน และว่าบางครั้งความจริงใจกับเพื่อนของไทย ทำให้ไทยมองข้ามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของเพื่อนบ้าน
นอกจากนี้นิวยอร์ค ไทม์สยังอ้างคำพูดของรัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา นายฮอร์ นัมฮง ที่ระบุว่า กรณีพิพาทนี้จำเป็นต้องมีนานาชาติเป็นตัวกลาง เพราะทั้งสองประเทศ เผชิญภาวะที่ใกล้เข้าสู่สงคราม
http://www.komchadluek.net/200...a001_212847.php?news_id=212847 ----------------------
ข้อพิพาท"เขาพระวิหาร"เดือด SMSยุคนเขมรแอนตี้สินค้าไทย
ชาวกัมพูชาส่งเอสเอ็มเอส.ยุชาวเขมรทั่วโลกให้แอนตี้สินค้าไทย ด้านตลาดโรงเกลือเหงาพ่อค้าชาวเขมรนับสิบรายปิดร้านขนของกลับประเทศหวั่นเกิดสงคราม ปชป.จี้บัวแก้วให้ข้าราชการแจงทุกเวที เนื่องจากมีความสำคัญเพราะประเทศมหาอำนาจยังมีท่าทีไม่ชัดเจน
...
ต่อมาพ.ท.เอกรัติ เมธาวัฒนานันท์ รองผบ.ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล.บูรพา สั่งกาณให้ พ.ต.ศลิษฏพงษ์ แก้วพิลา ผบ.ร้อย ทพ.ที่ 1201 ฉก.กรม.ทพ.ที่ 12 กกล.บูรพา ทำการตรวจสอบหลังมีข่าวลือสพัดทั่วปอยเปต อ.โอวโจวโรว จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา ซึ่งอยู่ตรงข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ของไทย ว่ามีใบปลิวและการส่งเอสเอ็มเอสทางโทรศัพท์มือถือมายังพ่อค้า แม่ค้า ชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ และ พนักงานบ่อนกาสิโนชาวเขมร ให้ร่วมแอนตี้ประเทศไทย
และจากการตรวจสอบพบว่ามีการส่งเอสเอ็มเอส.ทางโทรศัพท์มือถือของชาวกัมพูชาที่มาค้าขายในตลาดโรงเกลือ และ พนักงานบ่อนกาสิโนชาวกัมพูชาจริง โดยเป็นโทรศัพท์ที่ใช้ซิมของกัมพูชา ซึ่งข้อความใน เอสเอ็มเอส เป็นภาษาอังกฤษ
เขียนว่า”
Akhmer love khmer , khmer help khmer try to cut off using and stop using thai products or any products print in thai language. We should not let this nation look down our people any more. If you are khmer or having khmer blood please pass this SMS to you khmer friends around the globe.” แปลเป็นภาษาไทยว่า“
เราเป็นชาวเขมรต้องรักเขมรด้วยกัน เขมรต้องช่วยเหลือเขมรด้วยกัน จงพยายามที่จะลดและเลิกใช้สินค้าไทยหรือสินค้าใดๆที่เป็นภาษาไทย เราไม่ควรที่จะให้คนไทยดูถูกเราอีกต่อไป หากคุณเป็นชาวเขมรและมีสายเลือดเขมรจริง กรุณาส่ง SMS ต่อไปยังเพื่อนๆชาวเขมรหรือชาวเขมรทั่วโลกด้วย”
นายเลือน ยี อายุ 25 ปี พนักงานบ่อนกาสิโนฝั่งปอยเปต ชาวกัมพูชา เปิดเผยว่า เอสเอ็มเอสถูกส่งมายังพนักงานบ่อนชาวเขมร และบรรดาข้าราชการชาวเขมรทั่วทั้งปอยเปต นอกจากนี้จากการโทรศัพท์ไปสอบถามเพื่อนๆที่อยู่ในตลาดโรงเกลือ ส่วนใหญ่ก็ได้รับ เอสเอ็มเอส นี้เหมือนกัน เชื่อว่าเอสเอ็มเอสนี้ ถูกส่งต่อไปยังชาวกัมพูชาทั่วโลกแล้ว และยอมรับว่าเป็นการยุยงให้ชาวเขมร เลิกซื้อสินค้าไทยทั้งหมด และส่อให้เกลียดคนไทยด้วย
...
http://www.komchadluek.net/200...a001_212835.php?news_id=212835 ########################
ขออัพเดทข่าวหน่อยนะ