ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeถ้าท่านเชื่อเรื่องกรรม ทำทั้งกรรมดี (บุญ) และกรรมไม่ดี (บาป)
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ถ้าท่านเชื่อเรื่องกรรม ทำทั้งกรรมดี (บุญ) และกรรมไม่ดี (บาป)  (อ่าน 1074 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ballded
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 139



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 01:59:56 »

ถ้าท่านเชื่อเรื่องกรรม ต้องเชื่อว่าคนเรานั้นเวียนว่ายตายเกิดมาหลายภพหลายชาติมายาวนานมาก ทำทั้งกรรมดี (บุญ) และกรรมไม่ดี (บาป) มามากเช่นเดียวกัน กรรมจึงเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้ชะตาชีวิตเราเจอทั้งสิ่งที่ดีและไม่ดี สมหวังและผิดหวัง กรรมในปัจจุบันเราทำอะไรไว้เราย่อมรู้ดีและแก้ไขได้ แต่กรรมในอดีตชาติ เราไม่สามารถรู้ได้ จะแก้อย่างไร บ้านเรือนที่อยู่อาศัย อยู่แล้วไม่ดี รู้สึกรุ่มร้อนวุ่นวาย เป็นเพราะเหตุใด มีสิ่งเร้นลับแฝงอยู่หรือไม่ เจ็บป่วยโดยไร้สาเหตุ หมอตรวจหาโรคไม่เจอ ถูกต้องอะไรหรือเปล่า ทั้งหมดนี้ปรึกษาแปะ อ ได้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิถุนายน 2013, 02:20:04 โดย ballded » บันทึกการเข้า
SEARCH55
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 123
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 582



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 02:10:15 »

ผมเชื่อเรื่องทำดีได้ดีครับ ได้ดีคือจิตใจเรามีความสุข ถึงไม่ได้ทำความดีแต่ไม่ทำความเลว ไม่เบียดเบียนผู้อื่นก็ถือดีแล้ว
แต่ผมไม่เชื่อเรื่องไสยศาสตร์งมงาย โดยเฉพาะพวกห่มผ้าเหลือง ขายของวิเศษ ปลุกเศกบ้าบอ หาเงินเข้ากระเป๋า ผมยิ่งเกลียด wanwan010
บันทึกการเข้า

tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 07:04:44 »

+1  ให้เจ้าของกระทู้ที่เข้าใจแล้วแยกแยะเรื่องของบุญบาปออกมาให้เห็น

ประเด็นของกระทู้นี้  สำหรับผมตอบไม่ยากเลย  แล้วเรื่องของกรรมนี่แหล่ะสามารถอธิบายได้เลย

กรรมหรือการกระทำทั้งดี (บุญ)  ไม่ดีคือ (บาป)  นั้นเป็นเหตุ  เหตุเมื่อทำไปแล้วทั้งในและอดีตชาติไม่สามารถแก้ไขได้

ฉะนั้นกรรมนั้นแก้ไม่ได้ถูกแล้ว  ลบล้างไม่ได้ก็ถูกต้อง  เพราะเป็นสิ่งเราได้ทำลงไปทั้งปัจจุบันและอดีตชาติ  เช่นเราไปตีหัวสุนัข

เมื่อวานตอนเย็น  วันนี้หรือพรุ่งนี้จะมาบอกว่าเราไม่ได้ตีหัวหมาไม่ได้  นับจากปัจจุบันตลอดไปจนสิ้นกาล  คือเราก็ยังต้องยอม

รับว่าเราตีหัวหมาอยู่แบบนั้น  เมื่อมีกรรมเป็นเหตุแล้ว  ย่อมมีสิ่งที่คู่กันคือวิบากเป็นผล  จึงเรียกว่าวิบากกรรม  มีวิบากบุญ

วิบากบาปตามประเภทของการส่งผให้ได้รับตามนั้น

ส่วนการจะรู้ว่าอดีตชาติเราไปทำอะไรมา  เราจำเป็นต้องรู้แล้วรู้ให้ได้ด้วย  วิธีการที่จะให้รู้คือการทำสมาธิให้ได้ แล้วใช้สมาธิระลึก

ให้ได้  วิธีการหนึ่งที่ใช้ได้คือเมื่อเกิดผลหรือวิบากขึ้นแล้ว  ให้นำผลนั้นเข้าไปอธิษฐานจิตถามหาเหตุให้ได้  ผลบาปหรือวิบากบาป

จึงเป็นหนึ่งในทุกชข์ของอริยสัจ หรือทุกข์อริยสัจ  หรือข้อ 1.  คือทุกข์  โดยมีวิบากบาปเป็นเหตุ  หรือเป็นข้อ 2.  ของอริยสัจ 4

ฉะนั้นต้องไปหาวิธีแก้วิบากบาป  หรือทำข้อ 3.  นิโรธ(คามินีปฏิปทา)  แล้วจบลงด้วย 4.  คือผลที่ได้รับหลังจากทำนิโรธ

แล้วหรือมรรค  ฉะนั้นอริยสัจ 4.  ข้อที่ทำยากที่สุดคือสมุหทัย  แล้วที่ง่ายที่สุดคือทุกข์  ทุกข์ไม่ต้องทำอะไรเลยทุกคนสัมผัสหมดทั่วถึง

จึงง่ายที่จะเข้าใจ

ฉะนั้นนิโรธคือ  ต้องระลึกชาติเพื่อหาเหตุให้ได้  ผมยกตัวอย่างคนที่มาทำสมาธิกับผม  อยู่ดี ๆ  เขาก็ปากโป้งไปท้าพญายมบอกว่า  "ถ้าแน่จริง  มีจริง

ก็ออกมา"  ผลหรือวิบากที่เขาได้รับ  คือเดินสะดุดของมีคมที่วางไว้บนพื้นเลือดออกเสมอ  ไอกระอักแทบเป็นเลือดแม้กระทั่งตอนที่โทรมาคุยกับผม

ก็ไม่มีเสียง  อยู่ดี ๆ  ก็ป่วยเข้าโรงพยาบาลนอนให้หมอหยอดน้ำเกลือ 2  คืน  หลังจากที่เขาได้สารภาพบาปที่เขาทำ  +  ยอมรับสำนึกในสิ่งที่เขาทำ

+  ยอมชดใช้ในผลบาปนั้น  ซึ่งนอกจากจะใช้ผลโดยตรงแล้ว  ยังสามารถใช้พลังเมตตาที่บริสุทธิ์ไปช่วยชดใช้ผลหรือวิบากได้อีกแรง  เมื่อเขาทำนิโรธ

แล้ว สิ่งที่เกิดเป็นมรรค  คืออาการเจ็บป่วยทั้งหลายหายสิ้น  ก่อนหน้าเคยเดินสะดุดของมีคมก็หายไป  ใช้ชีวิตปกติสุข  นี่เป็นเรื่องปัจจุบันชาติของเขา

แต่ถ้าเป็นเรื่องในอดีตชาติก็ใช้หลักการเดียวกัน  ไม่ว่าจะปัจจุบันชาติหรืออดีตชาติใช้หลักเดียวกัน  ส่วนอริยสัจ 4  คือ  1.  ทุกข์วิบากบาปที่ส่งผล

2.  มีกรรมที่ตนก่อเป็นสมุหทัย  แล้วมี  3.  นิโรธคือยอมรับว่าไปทำอะไรมาแล้วชดใช้  4.  ผลคือพ้นบาปหรือผลเป็นอโหสิ (ขอรวบรัดนะครับ)

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิถุนายน 2013, 07:30:02 โดย tanawat30 » บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 07:43:09 »

ขอพัก  คั่นสายตา  ตอบ 2  กระทู้นะครับ

ส่วนเรื่องเร้นลับ  ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า  การเกิดมาเป็นสิ่งมีชีวิตใด ๆ  ขณะที่ยังมีชีวิตอยู่  คือพ้นจากโลกจริงมาสู่โลกสมมุติ  ส่วนการตายจากชีวิตคือพ้นจากโลกสมมุติไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง

ทำให้ผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่  มองโลกแห่งความเป็นจริงที่ว่าเป็นเรื่องเร้นลับ  เป็นนามธรรม  ทั้ง ๆ ที่เราตายเมื่อไหร่สิ่งที่เคยเร้นลับตอนมีชีวิตอยู่จะสัมผัสได้จริงแล้วไม่เร้นลับอีกต่อไปตอนที่เราตายไปแล้ว

สิ่งที่ต้องพิจารณาคือทุกคนทุกชีวิตเกิดมาแล้วต้องตายหมด  ไม่มีชีวิตใดอยู่ค้ำฟ้าเลย  แม้แต่ต้นไม้อายุนับพันปีก็ยังต้องตาย  เมื่อตายแล้วพ้นสมมุติ  เมื้อพ้นสมมุติแล้วไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง

หรือโลกแห่งจิตวิญญาณ  หากก่อนที่เราจะตายเราสามารถชดใช้วิบากบาปได้หมด  ไม่ก่อกรรมบาปใหม่ ๆ  อันเป็นสมุหทัยได้  ก็พ้นโลกสมมุติอย่างถาวรหรือเรียกว่าการปรินิพพาน

ฉะนั้นคนบนโลกจริงแห่งจิตจึงเห็นโลกสมมุติแห่งชีวิตเป็นนามธรรม  เช่นคนถูกหวยรางวัลที่ 1  ได้เงินมา 2,999,999.50  บาทวันนี้  วันนี้เขาดีใจ  รุ่งขึ้นเขาถูกรถชนตาย

จะยังดีใจอยู่หรือไม่  แล้วเขาป้องกันตัวเองมิให้ตายได้หรือไม่  วันนี้ตอนนี้อาจจะได้วันหน้าล่ะได้หรือเปล่า  แล้วเมื่อเขาตายไปแล้วเงินก็ไร้ประโยชน์  เงินที่มีประโยชน์เป็รูปธรรมจับต้องได้ตอนที่ยัง

อยู่ในโลกสมมุติแห่งการมีชีวิต  จะกลายเป็นนามธรรมจับต้องไม่ได้ทันทีหลังจากเขาตายกลายเป็นจิตไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง  ที่สำคัญเมื่อตายไปแล้วก็สามารถป้องกันมิให้ตนเกิด

ชาติหน้าได้อีกหรือเรียกว่าปรินิพพานพ้นวัฏสงสาร 

จะเห็นได้ชัดเจนว่า  ในขณะที่เราอยู่ในโลกสมมุติแห่งการมีชีวิต  ไม่มีผู้ใดป้องกันมิให้ตนเองตายได้  ทำให้คนส่วนมากกลัวตายเพราะอยากดำรงอยู่ในสมมุติให้ได้นานที่สุด  คนรวยมีสุขจึงมีทุกข์มากกว่า

คนจนมีทุกข์มาจากเหตุนี้ด้วย  ผิดกับโลกแห่งความเป็นจริง  ถ้าเราสร้างบาปไว้มากมีคู่กรณีหรือนายเวรมาก  ถ้าเราไม่ไปเกิดชาติหน้า  เราจะเห็นว่ามีนายเวรตามล่าเราไปตลอด  ทำให้อยากหนีมาเกิด

เพราะการหนีมาเกิดส่งผลให้ลืมสภาพนายเวรตามไล่ล่าได้ชั่วคราว  พอตายอีกรอบสภาพนั้นก็กลับมาใหม่ ตายแล้วต้องเกิดใหม่ในชาติถัดไปตกอยู่ในวังวลสังสารวัฏไม่รู้จบสิ้น

ผิดกับคนที่ตายไปแล้ว  ไม่มีนายเวรมาตามราวีเพราะเราชดใช้ผลไปหมดแล้ว  ไม่จำเป็นที่จะต้องหนีนายเวรมาเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตอีก 

ฉะนั้นการตายจากชีวิตไม่ทำให้ลืมเรื่องที่เราทำในชาติปัจจุบันได้  แต่ตายไปแล้วเกิดชาติหน้าต่างหากถึงจะลืมเรื่องในชาติปัจจุบัน  ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นทั้งการตายจากชีวิตเช่นการฆ่าตัวตาย

แล้วในขณะที่เราเป็นจิตกำลังเกิดใหม่ชาติหน้า  จึงมีสภาพของการ  ไม่ยอมรับความจริงที่ตนก่อแล้วตนต้องได้รับ  นั่นเอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มิถุนายน 2013, 08:00:54 โดย tanawat30 » บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
loveteeruk
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 87
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 526



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #4 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 08:07:19 »

+ 1 ให้แล้วนะครับคุณ tanawat30
บันทึกการเข้า
tanawat30
Verified Seller
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 384
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 5,656



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #5 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 08:12:01 »

+ 1 ให้แล้วนะครับคุณ tanawat30

เจอลูกสวน 

---------------------------------------------------------------------------------------

ตอบต่อเลยแล้วกัน  จะได้ไม่เปลือง  rep

กว่าจะพิมพ์เสร็จเกว่าชั่วโมง   wanwan004 คิดไปพิมพ์ไป  ถ่ายทอดจากประสบการณ์เลย 

เมื่อก่อนประสบการณ์ในการอธิบายมีน้อย  แต่ตอนนี้เล่น  IRC  อธิบายบ่อยชำนาญขึ้น   wanwan004
บันทึกการเข้า

บรรยายวิธีทำสมาธิล้วน ๆ  จ้า ทำสมาธิกันโลด
goldxp
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 73
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 556



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 13:18:16 »

คนเชื่อบาปกรรมน้อยลงทุกทีครับ ส่วนใหญ่จะพูดว่ามองไม่เห็นจริงไม่มีหลักฐานไม่เชื่อ การฆ่าสัตว์ก็บอกไม่บาปเพราะเอามากินเป็นเรื่องธรรมชาติของผู้แข็งแรงกว่า...
วันก่อนพ่อล่วงละเมิดทางเพศลูกตัวเอง ลูกฆ่าพ่อ ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ตอบกระทู้บอกว่าลูกทำถูกพ่อสมควรตายแล้ว.. ผมอ่านแล้วรู้สึกแปลกๆ..
บันทึกการเข้า

patcharapong
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 239
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 6,973



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 20 มิถุนายน 2013, 13:30:07 »

ผมเชื่อว่ามีจริงครับเดี๋ยวนี้ เวรกรรม ตามไวยังกับติดจรวด ครับผม wanwan008 wanwan008
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์