มีเด็กไทยคิดแบบนี้หลายคนครับ หรือผู้ปกครองส่งลูกหลานมาเรียนจีน เพราะตัวเองหวังพึ่งพาลูกให้ติดต่อกับคนจีน
สุดท้ายก็คว้าน้ำเหลวกลับไปไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะปักกิ่งซึ่งมีนักศึกษาไทยอยู่มากกว่า 1,000 คน แต่มีไม่กี่คนที่คิดจะทำ
และมีไม่กี่คนที่ลงมือทำ และมีอีกไม่กี่คนที่ทำได้ และเพียงไม่กี่คนที่ทำสำเร็จ
ถ้าจะนำสินค้าจากจีนไปไทย ไม่ได้สำคัญว่าตัวเองต้องอยู่เมืองจีนแล้วจะทำได้ดีกว่าคนที่อยู่เมืองไทย เพราะอะไรน่ะหรอครับ
มาดูกันครับ
คนไทยในไทย1. อยากขายของออนไลน์เริ่มหาวิธีการขาย ในที่นี้ตามเทรนด์ก็คือเปิด fanpage ขายของ
2. หาคนหิ้วสินค้าจากเมืองจีน อาจจะให้ทำให้ทั้งหมด หรือเราเลือกลิ้งจาก taobao ไปฝากเขาสั่ง
หรือเราดำเนินการสั่งซื้อเอง จ่ายเงินกับร้านจีนเอง ให้เขานำเข้าให้เท่านั้น
3. รอรับของที่ไทยจากคนหิ้ว
4. เราส่งของให้ลูกค้า
5. ดู feedback ปรับปรุงร้านและบริการ
คนไทยในจีน1. อยากขายของออนไลน์เริ่มหาวิธีการขาย ในที่นี้ตามเทรนด์ก็คือเปิด fanpage ขายของ
2. หาคนหิ้วสินค้าจากเมืองจีน อาจจะให้ทำให้ทั้งหมด หรือเราเลือกลิ้งจาก taobao ไปฝากเขาสั่ง
หรือเราดำเนินการสั่งซื้อเอง จ่ายเงินกับร้านจีนเอง ให้เขานำเข้าให้เท่านั้น
3. หาคนรอรับของที่ไทยจากคนหิ้ว
4. เราส่งของให้ลูกค้า
5. ดู feedback ปรับปรุงร้านและบริการ
แล้วมันต่างกันตรงไหนนั่น ข้อได้เปรียบบางประการของคนไทยในจีน 1. อาจได้เปรียบในเรื่องการตรวจสอบคุณภาพสินค้าก่อนส่งถึงไทย แต่....
เมืองที่คุณอยู่ต้องเป็นเมืองเดียวกับแหล่งผลิตสินค้าเท่านั้น เพราะ เวลาคุณสั่งสินค้าจากเว็บ ก็ต้องระบุปลายทางที่จะส่งสินค้า
ในกรณีนี้ ถ้าคุณอยู่ปักกิ่ง แต่เมืองผลิตอยู่ กว่างโจว หรือ เมืองอื่นๆ คุณก็จะต้องส่งสินค้ามาปักกิ่งหนึ่งรอบ แล้วอาจต้องส่งย้อนกลับไป
ยังเมืองที่คุณจะนำสินค้าไปขึ้นเรือหรือรถอีกทีหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่กว่างโจวเป็นหลัก ซึ่งคุณต้องเสียค่าขนส่งหลายเที่ยวเลยทีเดียว
ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นด้วย...และก็จะมีราคาสินค้าแพงกว่าเจ้าอื่นครับ
ปล. ปักกิ่งไม่ใช่แหล่งผลิตสินค้าหลักๆครับ
2. การมีเพื่อนคนจีน อาจสามารถสอบถามแหล่งซื้อสินค้า หรือความน่าเชื่อถือในร้าน taobao.com เพราะคนจีนย่อมรู้ดีกว่า แต่ในกรณีของคุณ
ถ้าน้องคุณได้ทุนเรียนตรี หรือโท อาจจะเป็นห้องเรียนรวมเฉพาะชาวต่างชาติ อย่างเดียว ถึงแม้ว่าจะเรียนเป็นภาษาจีนก็ตาม ยิ่งถ้าน้องคุณได้
ทุนคอร์สเรียนภาษาจีนอย่างเดียวด้วยแล้วนั้น ยิ่งจะมีแต่เพื่อนต่างชาติแน่นอน ทำให้อาจต้องเหนื่อยในการตามหาเพื่อนคนจีนเอง ซึ่งการหาเพื่อนคนจีนก็ไม่ใช่
เรื่องง่ายๆ เท่าที่รู้จักคนไทยที่มาเรียนจีน บางคนอยู่มา 1- 2 ปีแล้วยังไม่มีเพื่อนคนจีนเลย เนื่องจากสภาพสังคมที่อยู่ด้วยมีแต่คนไทย
....สุดท้ายนี้...ฝากคำแนะนำ1. อยากให้เตรียมตัวเรื่องธุรกิจก่อนมาจีนครับ
- ศึกษาให้ดีว่าจะหาสินค้าจีน นำเข้าจากจีน การหา shipping มีวิธีการทำอย่างไรบ้าง เตรียมพร้อมให้เรียบร้อย
- เรื่องเรียนไม่จำเป็นต้องเตรียมตัวหรอกครับ บ้านเขากับบ้านเราเรียนไม่ค่อยเหมือนกันครับ แต่รับรองว่าคนไทยเรียนจบสบายครับ (ประสบการณ์ส่วนตัว)
2. เมื่อมาถึงจีนแล้วเทอมแรกอยากให้ตั้งใจเรียนก่อน ไม่ต้องสนใจเรื่องธุรกิจมาก (เพราะเตรียมตัวก่อนมาจีนแล้ว)
- พยายามปรับตัวให้ชินกับสภาพแวดล้อมก่อนครับ การใช้ชีวิต เรื่อง กิน อยู่ เรื่องเพื่อนนี่สำคัญ
- พออะไรๆเริ่มลงตัว ผ่านไปเทอมนึง เราจัดระบบเรื่องการเรียนได้ ค่อยกลับมาดูเรื่องธุรกิจที่เราเตรียมมาครับ
3. พยายามเป็นคนช่างสังเกตครับ เพราะบ้านเมืองเขาเจริญไปไกลกว่าเมืองไทยเยอะครับ(เฉพาะวัตุถุนะครับ) มีของแปลกๆเยอะครับบ้านเขา
- ของบางอย่างอาจกลายเป็นสินค้าทองคำในเมืองไทยก็ได้ครับ
4. จากข้อเปรียบเทียบด้านบน ทำให้เห็นแล้วว่า บางทีสถานที่ก็มีส่วนช่วยในเรื่องการทำธุรกิจ แต่สำคัญที่สุดคือตัวเรา การรู้จักคว้าโอกาส และพัฒนา
ความรู้ของเรานี่สำคัญ เพราะถ้าสังเกตดีๆจากข้อเปรียบเทียบบางข้อเราก็สามารถทำเองได้ (การนำเข้าเองโดยมีตู้สินค้าเป็นของตนเอง การสั่งสินค้าเอง
การพบผู้ผลิตโดยตรง)ล้วนเป็นสิ่งที่เราสามารถพัฒนาได้ทั้งสิ้นครับ ขอแค่เป็นคนที่รู้จักช่างสังเกต และใฝ่รู้ แล้วโอกาสจะมาเอง แต่หากคิดจะทำเองทั้งหมด
ธุรกิจคุณต้องโตแล้ว ไม่งั้นไม่คุ้มครับ เพราะโรงงานส่วนใหญ่ จะดีลกับลูกค้ารายใหญ่ๆเท่านั้น ต้องสั่งสินค้าหลัก 1000 ขึ้น หรือบางที่อาจดีหน่อยแค่
หลัก 100 ถึงจะมีราคาส่วนลดให้
หวังว่าคงช่วยท่านได้นะครับ