ถามจริงๆ นะครับปัจจุบันนี้คุณรู้สึกอึดอัดกับคีย์เวิร์ดที่มาจาก Google / Organic กว่า 75% แต่กลับแสดงผลว่า Not-Provided อยู่หรือเปล่าครับ
ปัจจุบัน Webmaster ทั่วโลกก็รู้สึกแบบนี้เช่นกัน เขาก็เลยมีเวทีแสดงความคิดเห็นและหาวิธีการต่างๆ มาแชร์กัน วันนี้ผมมาสรุปวิธีการล่าสุดที่แนะนำจาก Webmaster/Search Helpdesk Hangout มาฝากพร้อมเทคนิคการทำ Search Map ระหว่าง Paid และ Organic ร่วมด้วย
- ?nord=1 คือตัวแปรที่นำมาวางไว้ก่อน #q= แล้วแทนที่ https:// ด้วย http:// โดย Browser จะไม่มีการเข้ารหัสคำค้นหาที่คุณใช้งาน เช่น http://www.google.co.th/?nord=1#q=9zara.com
- No-SSL วิธีการนี้ต้องเข้าไปเปลี่ยน DNS entry โดยเข้าไปกำหนด CNAME www.google.com ให้ชี้ไปที่ nosslsearch.google.com
- Keyword map เป็นวิธีซึ่งผมนำมาประยุกต์หลังจากที่ได้อ่านบทวิเคราะห์ Not-Provided keyword จาก Avinash โดยมีหลักการง่ายๆ แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องใช้งาน Google AdWords ควบคู่ไปด้วย และใช้ Custom report ของ Google Analytics เป็นนะครับ
วิธีการทำ Keyword map นั้นจะอ้างอิงพฤติกรรมการค้นหาจริง โดย Avinash บอกไว้ว่า ปกติแล้วกลุ่มคีย์เวิร์ดที่ถูกเข้ารหัสและแสดงผลเป็น Not-Provided นั้นจะมีภาพรวมไกล้เคียงกับ Suggest keywords ทีได้จากการทำ AdWords campaign เรามาดูกันเลยว่าต้องทำอย่างไร
- จัดกลุ่มคีย์เวิร์ดที่จะนำมาใช้ คุณจะแบ่งกลุ่มอย่างไรก็ได้โดยมีคำแนะนำว่าให้มีความสอดคล้องกับแผนการตลาด
- เลือก Primary keyword ของแต่ละกลุ่มออกมา โดยคุณจะเลือกกี่คำก็ได้ แต่มีข้อแนะนำว่าอย่าให้เกิน 50 คำเพื่อให้บริหารจัดการ AdWord campaign ได้คล่องตัวกว่าใช้คีย์เวิร์ดเยอะๆ เป็นหลายร้อยคำ
- นำ Primary keyword มาใช้ใน AdWords โดยกำหนดให้เป็น Broad Match หรือ Modified Broad Match
- หลังจากทำโฆษณา AdWords ผ่านไปครบ 2 สัปดาห์ ให้คุณเข้าไปที่ keywords tab เลือก Primary keyword ทั้งหมดแล้วไปที่ Details > Selected คุณก็จะเข้าสู่รายงานคำค้นหาทั้งหมดที่เชื่อมโยงกับ Primary keyword ซึ่งคำค้นหาเหล่านี้ Google แนะนำมาให้เลือกเอาไปใช้ปรับปรุงคุณภาพของ AdWords campaing และเนื้อหาของเว็บไซต์นั่นเอง
ก็คงไม่สั้น ไม่ยาวจนเกินไปสำหรับการสรุปวิธีการจัดการกับ Not-Provided keyword หากต้องการดู Resource อ้างอิงเพิ่มเติมติดตามอ่านต่อได้ที่
http://www.9zara.com/technolog...d-nord1-to-your-url-parameters