http://www.dailynews.co.th/article/1490/13233 ตามลิ้งนี้ไปครับ ส่วนตัวแนะนำที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี เพราะคุณแม่ไปรักษาที่นี่
ใช้ระยะเวลารักษาประมาณ 3 เดือน ท้องกับเท้าที่บวม จะค่อย ๆ ยุบลง ยาต้มจะไปช่วยขับสารพิษ ที่ตับทำหน้าที่ขับพิษได้น้อยลง
ยาของทางโรงพยาบาลจะคล้าย ๆ ยาระบาย ซึ่งเวลาที่ทานจะต้องมีการถ่ายท้องวันละ ประมาณ 2 - 3 รอบ ทุกวันตลอดระยะเวลา 3 เดือน
การรักษาไม่ใช่อาศัยเฉพาะแพทย์ทางเลือกครับ ต้องร่วมกับแพทย์ปัจจุบัน ถ้าท้องบวมน้ำมากต้องมีการเจาะเอาน้ำออกร่วมด้วย แต่เจาะบ่อยจะไม่ดี ร่างกายจะทำงานด้วยตัวเองน้อยลง
ส่วนอาหารการกิน ห้ามกินเนื้อสัตว์ ทุกชนิด กินได้แต่เนื้อปลา และผัก ผลไม้กินได้บางอย่าง นมวัว นมถั่วเหลืองห้าม จะยิ่งทำให้ท้องอืด ถ้าคุณแม่เป็นคนทานยาก ต้องบอกว่า จบครับ เรื่องอาหารการกินสำคัญสุด ๆ
ส่วนเรื่องกำลังใจ แนะนำครับ กอดกันบ่อย ๆ ไม่ต้องพูดมากหรอกครับ พูดไปก็เท่านั้น คนป่วยคิดตามไม่ทันคำพูดเรา สัมผัสได้แค่คำพูด แต่เวลาที่เรากอดกัน ความรู้สึกมันจะส่งผ่านไปถึงได้ดีที่สุด และจะจำความรู้สึกนั้นได้ง่ายกว่าคำพูด ว่าเราห่วงใยและรักท่านเสมอ
และ หมั่นสวดมนต์ ก่อนนอนครับ อันนี้ตัวเราเองต้องทำนะครับ ทำให้เคยชิน อธิษฐาน ภาวนาจิต ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้คุ้มครองคนที่เรารัก และถ้ามีโอกาสก็นั่งสมาธิ แผ่เมตตา แผ่บุญ ให้กับเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
เรียกเลยให้มารับบุญไปเลยครับ ให้ช่วยลดทั้งกรรมเก่า และกรรมใหม่ ที่เราตั้งใจหรือไม่ต้ังใจก็ตาม เวลานั่งสมาธิ อาจเกิดอาการขนลุกได้ ไม่มีอะไรหรอกครับ เราคิดไปเองว่ามาอยู่ข้าง ๆ เราแล้วยัง
ตอนนี้คุณแม่ผมอ้วนท้วมแข็งแรงดีมากครับ ทำงานบ้านเองได้ทุกอย่าง จากที่แต่ก่อนท้องบวมน้ำ ผอมเหลือแต่กระดูก เรื่องพวกนี้ต้องใช้กำลังใจ และ กำลังกาย ครับ ต้องไม่ยอมแพ้ มีความหวังตลอดเวลา ต่อให้ใคร ๆ มาบอกให้ทำใจก็เหอะ .....