เราต้องรักมัน ค่ะฝึกทุกวัน ตอนนั้น พี่เก็บเงินเรียนภาษาอังกฤษเองจากการทำงานปี 4 ไปเรียนที่ British Council แม้ค่าเรียนจะแพงแต่พี่ชอบเช้าห้องสมุดที่นั่นมันเงียบดี เขาจะมีหนังจากประเทศอังกฤษ ที่ได้รางวัล พี่ก็ไปเปิดดู ไปลง Course
การออกเสียงภาษาอังกฤษ กับ Business English เวลาออกเสียงภาษาอังกฤษ ครูเขาจะบอกเป็นเสียงดนตรี ทำให้เราจำง่าย ออกเสียงถูก เช่น ด้าด่ะด่ะดา - Where were you born? ซึ่งจะลงเสียงหนัก ตรง where
การอ่าน ส่วนใหญ่ เราจะมีปัญหาเรื่อง Passive Voice เวลาเราแปล เราต้องหา Full stop แบ่งเป็นประโยค เอาประธานขึ้นหน้า ดามด้วยกริยา กรรม เราก็รู้ความหมายของมัน
การเขียน ส่วนใหญ่ เขาจะนิยมเขียนเป็น Passive Voice เราก็ต้องแม่นเรื่องศัพท์ แกรมม่า และ คำเชื่อมต่างๆ
ซึ่งจะเขียนได้ดีต้องอ่านเยอะๆ และ 1 ประโยค ก็ไม่ควรมีคำเกิน 20 คำ เราจะได้ประโยตที่กระชับ เข้าใจง่ายอ่านแล้วไม่น่าเบื่อ
พี่อ่าน Time Online บ่อยค่ะ กับ dailymail.com ของ UK
ภาษาอังกฤษพี่พอใข้ได้ ยังไม่ถึงกับดี มันมาดีตอนที่พี่ไปทำงานที่อินเดีย กลับมาสอบ TOFEL ได้ไปเกือบได้ 600
IELTS ได้ ไป 7.5 TU Get ได้ไป 750 เพราะพี่มี Plan ที่จะสอบ ปริญญาโท เรียนภาค ภาษ่าอังกฤษ
พี่อ่านข้อสอบเร็ว และมีเทคนิคการทำข้อสอบที่ดี ขอให้น้องโชคดีนะตะ
พี่เจอคำถาม IELT ตอนสัมภาษณ์ บอกว่าเห็นด้วยไหมที่เด็กจะเลิกเล่นของเล่นไม้ แล้วมาศึกษาหาความรู้ในคอมพิวเตอร์ จะได้ประโยชน์มากกว่า
ภาษาอังกฤษทำให้พี่ได้งานดีๆทำ พี่ไปทำงานประมาณ เกือบ 30 กว่าประเทศ
ตอนสัมภาษณ์งาน สัมภาษณ์ เป็นภาษาอังกฤษ 2 ขั่วโมง เจ้านายพี่ที่เป็นฝรั่งบอกว่าภาษาอังกฤษของพี่ดีกว่าคนที่เรียนจบนอกมาอีก
อีกอย่างน้องอาจจะเจอเนื้อคู่โดย ไม่รู้ตัว คือพี่ขายของที่เว๋บไซด์ ต่างประเทศ แล้วเขาก็ซื้อของจากพี่บ่อยมาก