ขอตอบจากประสบการณ์จริงเลยนะคะ
1.บริษัทใหญ่งานไม่เยอะ เงินน้อย สวัสดิการดีมั่นคง แต่ปรับยากทุกอย่างทั้งเงินเดือนตำแหน่ง การแข่งขันสูง ทุกคนพร้อมที่จะแทงข้างหลังเพื่อเอาดีเข้าตัว เพื่อผลงาน
2.บริษัทเล็กส่วนใหญ่อยู่แบบพี่น้อง ไม่ค่อยแข่งขันกันสูง สภาพการทำงานจึงสบายใจกว่า งานเยอะแต่ก็เงินเยอะกว่าเราจะได้เรียนรู้มากกว่า ประสบการณ์ทุกอย่างเราจะได้เอาไปพัฒนาตัวเองเพื่อทำธุรกิจตัวเองหรือเลื่อนตำแหน่งในอนาคต โตไปพร้อมกับบริษัท
ยกตัวอย่างที่แรก เคยทำบริษัทพนักงานหลักพัน เป็นบริษัทจำกัดมหาชน เงินเดือนต่ำเตี้ยเลียดิน งานสบาย แต่การทำงานเป็นไปด้วยความระแวงเพราะโดนฟ้องใส่ร้ายสารพัด ขนาดทำตามหน้าที่ทุกอย่างมันมีผลต่อโบนัสสิ้นปี เคยได้ปรับเงิน เดือน 480 บาท เซ็งจิตเลยตัดสินใจลาออก
ยกตัวอย่างที่สองเป็นบริษัทจำกัดพนักงานหลัก500คน เหมือนเดิม มองหาอนาคตไม่มีก็ออก ถ้าทำแล้วไม่พอค่าใช้จ่ายไม่ว่าจะประหยัดขนาดไหน ก็เลยออก
ยกตัวอย่างที่สุดท้าย พนักงานหลัก50 คน อยู่กันแบบพี่น้อง เพรราะมีอยู่ไม่กี่คน งานเยอะมากแต่เราได้เรียนรู้หมด เงินดีกว่าที่แรกมากเพราะไม่ต้องเอากำไรบริษัทไปจ่ายให้ผู้ถือหุ้นจนเหลือเป็นโบนัสให้พนักงานแค่เดือนเดียว เงินดีกว่าที่แรก ที่สองถึง10000 บาท
ลองตัดสินใจดูนะคะ ถ้าเราได้เรียนรู้อะไรมากๆในสายอาชีพที่เราต้องได้ลงมือจริงๆมันไม่เหมือนในห้องเรียน มันคือการลงมือปฏิบัติได้พัฒนามากกว่าคนที่ทำงานไปวันๆ ก็เลยเลือกที่จะทำงานกับบริษัทเล็กๆ ใครว่าไม่มั่นคง ก็ไม่เถียงคะแต่คงไม่มีเจ้าของธุรกิจที่ไหนอยากให้ตัวเองเจ๊งหรอก แต่หากผลประกอบการไม่ดี เรายังสามารถไปหางานอื่นได้และไม่กว่าที่จะตกงานเพราะว่าเราได้เรียนรู้ทุกอย่างแล้ว มีแต่บริษัทเขาอยากได้คนมีความสามารถถึงตอนนั้น น้องก็ไม่ต้องกลัวแล้ว