เข้าใจเลยครับ เพราะผมเป็นอย่างท่านอยู่เกือบปี แต่ผมทำกับแฟนครับ เลยเบาหน่อย
การรับสายแฟนผมจะรับโทรศัพท์ถ้าลูกค้าโทรมา แต่ถ้าแฟนติดประชุม จะส่งข้อความหาผม ให้ผมโทรกลับ ผมก็ต้องเดินออกไปเข้าห้องน้ำ 555
ทางเมล์ และเว็บบอร์ด ถ้ากลางวันว่างก็ตอบเลยครับ ถ้าไม่ว่างก็ตอบช่วงเย็นๆ ค่ำๆ
การส่งของช่วงแรกๆ ไปส่งกับไปรษณีย์ตามห้างครับ แต่ค่าส่งค่อนข้างแพงครับ ถ้าส่งเยอะก็ต่างกันเป็นร้อยเลยล่ะ
หลังจากนั้น ฝากน้องไปส่งครับ ที่มหาลัยน้องมีไปรษณีย์ แต่พอหลังๆ ของเยอะ และใหญ่ขึ้นน้องเอาไปไม่ได้ก็ต้องไปส่งเอง
ตอนส่งเองนี่ทรมานมากครับ เพราะผมเป็นโปรแกรมเมอร์ พักไม่ค่อยเป็นเวลา ถ้างานไม่เข้าก็ไปได้ ถ้างานเข้าก็ซวยไป
ช่วงเวลา 12.00 - 13.00 คือช่วงเวลาที่ออกไปส่งของครับ ถ้าวันไหนไปรษณีย์คนน้อยก็กลับมาทันกินข้าว ถ้าคนเยอะซื้อของกินที่ 7-11 แล้วต้องขึ้นมาทำงานต่อเลย
มี Tip นิดนึงครับ ให้ขอ Sticker หมายเลข EMS หรือลงทะเบียน จากไปรษณีย์ไว้ครับ แล้วเราก็แปะตอนแพ็คของเลย พอตอนส่งบอกเค้าว่าไม่ต้องพิมพ์ชื่อ จะไวมาก ยิ่งของเยอะยิ่งไว
ที่สำคัญ เราสามารถแจ้งหมายเลขให้ลูกค้าได้เลย แม้ยังไม่ได้ส่งของครับ อันนี้ไม่แน่ใจว่าให้ทุกที่ไหมนะครับ เล่มนึงจะมี 400 หมายเลข ผมจะมี 2 เล่ม คือ EMS และลงทะเบียน
การแพ็คของผมจะแพ็คของหลังจากกลับจากทำงานครับ แรกๆ แพ็คตอน 5 ทุ่ม ไม่เกินเที่ยงคืนก็เสร็จ หลังๆ ต้องแพ็คตั้งแต่ 4 ทุ่ม เลยครับ ช้าตอนพิมพ์ชื่อที่อยู่ผู้รับ ผู้ส่งครับ
แต่หลังๆ ผมทำระบบเก็บข้อมูลลูกค้าทั้งหมด ถึงเวลาก็ปริ้นออกมาเลยว่า ส่งให้ใครที่อยู่อะไรบ้าง ปริ้นเสร็จก็ตัดๆๆๆ แปะๆๆๆ ไม่ต้องเขียน
และตอนแพ็คก็แปะหมายเลข EMS ไว้เลยครับ
จุดเปลี่ยนพอรายได้เริ่มเยอะขึ้น ผมให้แฟนลาออกก่อนครับ เพราะแฟนเงินเดือนน้อยกว่า 555 ก็ให้แฟนมาดูแล support ลูกค้าทั้งหมด
พอผมเลิกงานก็จะกลับไปแพ็คของครับ แล้วก็ยังไปส่งของอยู่ครับ เนื่องจากผมกับแฟนยังไม่ได้อยู่ด้วยกันครับ ของจะอยู่ที่คอนโดผม
แต่ตอนนี้ผมลาออกแล้วครับ พ่อค้า อาชีพหลัก แล้วก็รับเขียนโปรแกรมอิสระ อาชีพรอง
PM มาแชร์กันได้นะครับ
ความรู้ทั่วไป
