อย่างที่เล่าไปนะคะคือว่าเห็นว่าหลายคนคนกำลังสนใจที่จะทำเงินจาก Clickbank และตัวอ็อฟเองก็สามารถจะสร้างรายได้จาก Clickbank มาพอได้กิน ก็ด้วยความรู้จากที่นี่แหละและวันนี้รายได้ถือว่าเป็นไปตามเป้าก็เลยอยากจะมาเล่า ไม่ใช่ มาบอกเล่าเราทำ Clicnkbank แบบ Step by step กัน
โดยจะเพิ่มทีละบทนะคะ เพราะไม่มีเวลาต้องไปเรียน เดี๋ยวตอนเย็นจะมาเขียนให้ทุกเย็นนะคะ เอาสาระบัญไปก่อนแล้วกัน
บทที่ 1 รู้จักการ Clickbank - มารู้จัก Clickbank
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,286565.60.html บทที่ 2 เลือกสินค้า http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,286565.80.html - ศึกษาตลาดของสินค้าที่จะขาย
- สอนการเลือกสินค้า
บทที่ 3 Keyword ตอนที่ 1
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,286565.140.html - การหา Keyword ตอนที่ 2
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,286565.160.html บทที่ 4 การโปรโมท - ช่องทางการโปรโมท
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,286565.180.html - การสร้าง Landing page อย่างไรมห้สามารถจะขายได้ .......
ก็ประมาณนี้นะคะ เดี๋ยวคิดอะไรออกจะมาเพิ่มอีก เดี๋ยวเจอกันนะคะ
บทที่ 1 รู้จักการ Clickbank - มารู้จัก Clickbankทุกๆ คน อาจจจะเคยรู้จักมานานแล้วนะคะว่าเป็นอย่างไร แต่มาฟังอีกครั้งนะคะ เผื่อว่าใครที่ยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไร เอาให้เข้าใจตั้งแต่แรกเลยดีกว่า
Clickbank คือ เว็บขายสินค้าที่เป็นสินค้าประเภทดาวน์โหลด พูดง่าย ๆ คือเป็นสินค้าประเภทดิจิตอลนั่นเอง โดยโครงสร้างของเว็บ Clickbank เอง สามารถจะแบ่งได้ดังนี้นะคะ
1.Affiliates คือ พวกเรานั่นแหละที่นำสินค้าของ Clickbank ไปโปรโมทเพื่อจะขายและจะได้รับค่าคอมมิสชั่น ก็คือสูงสุดที่ 75% เลยทีเดียว หรือเข้าใจง่าย ๆ คือ ถ้าเราสามารถจะขายสินค้าได้ในราคา 100$ เราเองก็จะได้รับ 75$ ถือว่าสูงมากทีเดียว
2.Vendors คือ เจ้าของสินค้าที่ต้องการนำสินค้าของตัวเองไปขาย ในส่วนนี้ถ้าเพื่อน ๆเอง มีสินค้า ก็สามารถจะนำไปขายได้นะคะ โดยไปสมัครสมาชิกที่ Clickbank โดยแสดงความจำนงสมัครเป็น Vender เสียค่าธรรมเนียมครั้งแรกไม่แพงมากหรอกคะ ประมาณ $49.95 ถ้าจำไม่ผิดนะ แต่ว่าเชื่อไหมว่าคุณเองเสียเงินครั้งแรกในราคานี้ กระบวณการต่อไป ถ้าสินค้าของคุณสามารถจะสร้างยอดขายได้ คุณจะได้รับเงินในการขายอย่างต่อเนื่องโดยที่ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย คือ มีคนนำสินค้าของคุณไปโปรโมทต่อนั่นเอง มันช่างดีเสียเหลือเกิน
3.ตัวเว็บ Clickbank เอง สำหรับเว็บไซต์ของ Clickbank ไม่ได้เป็นที่ขายสินค้านะคะ เป็นเพียงที่รวบรวมรายชื่อสินค้าเท่านั้น การซื้อขายจะเกิดที่เว็บของ Vender ฉะนั้นจงได้เปลี่ยนความคิดซะว่า หน้าตาของ Clickbank ไม่ได้เรื่องเอาซะเลย เข้าใจกันนะ
กฎระเบียบ ไม่ขอเล่าละเอียดนะคะ เอาเป็นว่าพอเข้าใจ เพราะว่ากฎของเขาไม่ได้มากมายอะไร
1.ทำอย่างไรก็ได้ให้ขายได้ คุณเองจะใช้วิธีไหนก็ได้ ทั้ง Google adword,Website หรือว่าอย่างอื่นที่สามารถจขายได้เอาเลย
เดี๋ยวเจอกันที่หัวข้อต่อไปนะคะ ตัวนี้ไม่มีอะไรมาก
ขอโทษที่ให้ทุกท่านรอนาน อิอิ มีคน Pm ให้เขียนเป็น Ebook ขายหลายคนด้วย เอาไว้คิดดูก่อนนะคร้า
มาต่อกันนะคะ
บทที่ 2 เลือกสินค้า
- ศึกษาตลาดของสินค้าที่จะขาย
- สอนการเลือกสินค้า - ศึกษาตลาดของสินค้าที่จะขาย ตรงนี้จะไม่ขอพูดเรื่องหลักวิชาการอะไรมากมายนะคะ เอาเป็นว่าอย่างนี้เลยแล้วกัน ยึดหลักนี้เลยนะ
1. สินค้าตัวนั้นจำเป็นหรือเปล่า ลองเลือกดูสินค้าที่มีความจำเป็นดูจะสามารถขายได้อย่างง่าย คิดง่าย ๆ นะคะ อะไรจำเป็นสำหรับการเรียนภาษา อะไรจำเป็นสำหรับการแต่งงาน อะไรบ้างจำเป็นสำหรับการรักษาสิว เลือกเอานะ
2.เรื่องของเวลา อันนี้แอบจำมานะ เขาบอกว่าเลือกสินค้าที่มีเรื่องเวลามีบีบบังคับจะดีอย่างมากๆ เพราะลูกค้าจะซื้อทันที จริงไหมก็คิดเอานะ
3.ราคา เรื่องของราคาอย่าสูงมากนักนะ เพราะสินค้าดาวน์โหลดราคาแพงมากจะขายได้ยากมาก เพราะ ว่าลูกค้าคิดว่าไม่คุ้มจริง ๆ เพราะมันจับต้องไม่ได้
4.ต้องดูด้วยว่าสินค้าอะไรขายดี [สามารถจะดูได้จากสถิติที่เราขายและก็เว็บของ Clickbank เอง สังเกตุแล้วจะเห็นนะ]
5.อันนี้เป็นการทำส่วนตัวของผู้เขียนเองนะ ผู้เขียนไม่ได้ขายสินค้ามากมายหลายชิ้นอะไรหรอก เลือกเอาแต่เน้น แต่ก็รายได้พอกินคะ ไม่เหนื่อยและลงทุนเยอะด้วย
เรามาดูการเลือกสินค้ากันนะคะ Step By Step 1.เข้าไปที่ Clickbank เข้าสู่ระบบให้เรียบร้อยก่อนนะ และก็มาที่ Market Place
2.แล้วก็เลือกเอาหมวดหมู่ใดหมวดหมู่หนึ่งก่อนเลย ตรงนี้เพื่อน ๆ ก็เลือกสินค้าหมวดตามที่ต้องการนะคะ ส่วนตัวผู้เขียนเลือกหมวดหมู่ Education เกี่ยวกับการศึกษา และหมวดหมูย่อย K-12
ตามภาพเลย
ที่นี้เราเองก็เลือกตามนี้นะจ๊ะ เดี๋ยวจะอธิบาย
เลือก Popularity เพื่อให้แสดงสินค้าตามความนิยม (ความนิยมตรงนี้หมายถึงมีผู้ที่นำสินค้าไปโปรโมท ไม่ได้หมายถึงสินค้าขายดี) แต่ก็สามารถจะบอกเราได้ว่ามันต้องขายดีสิ คนถึงเลือกจะขายเยอะ อิอิ
ส่วนที่ 2 เลือก High to Low เพื่อให้แสดงจากมากไปน้อย(ความนิยมมากไปหาน้อย)
หลังจากนั้นเราก็มาดูที่สินค้านะคะว่ามีอะไรบ้างให้เราตัดสินใจ หลังจากที่เราเลือกไปตามขั้นต้นแล้ว เราก็มาดูที่สินค้ากัน
การเลือกสินค้าที่จริงเขาไม่ได้ดูอะไรมากมายหรอก เขาดู3 อย่างแค่นี้นะ
1.ราคา อย่าสูงมากจะขายไม่ออก
2.ค่าคอมิสชั่น เอาให้คุ้มหน่อยก็ดี
3.% ของผู้ที่นำสินค้าตัวนี้ไปโปรโมท (ยิ่งเยอะยิ่งดี เหตุผลบอกไปแล้ว)
อิอิ พอเข้าใจกันบ้างไหม