รถยนต์ในปัจจุบันถูกออกแบบมาให้เครื่องยนต์แรง สะใจผู้ขับขี่ กดคันเร่งไปแต่ละทีบางคนก็เกินกว่า 150โดยเฉพาะบนทางด่วนทั้งหลาย ช่วงเวลาหรือเส้นทางถนนโล่ง
เหมือนดังว่าหากปล่อยโอกาสนี้ไปจะเสียดายไปอีกนาน ดังนั้นเส้นทางโล่งก็เหมือนเห็นทางสวรรค์ จึงกดคันเร่งไม่ยั้ง พบเห็นได้แม้นกระทั่งในขณะฝนตกถนนลื่น
ทั้งหมดนี้ อุปกร์นิรภัย หรือแม้นกระทั่งโครงสร้างของตัวรถก็ไม่สามารถจะป้องกันอะไรได้ เป็นความเข้าใจผิดของผู้ขับขี่อย่างมาก ที่คิดว่าความเร็วขนาดนั้นสามารถควบคุมรถได้เมื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่ในความเป็นจริงการใช้ความเร็วสูง ทำให้การทรงตัวของรถยนต์มันจบลง
สรุป..ความเร็วที่ถือว่าปลอดภัย คือ ความเร็วไม่เกิน100กิโลเมตร/ชั่วโมง ถ้าขับเกินนี้ หากยางหน้าระเมิด ส่วนใหญ่จะพลิกคว่ำทันที เพราะการทรงตัวของรถยนต์มันจบลง
แยกตัว"Y"รัชวิภา แหล่งที่นักซิ่งรถยนต์ ตกลงมาตายบ่อยๆ ล่าสุดคือ น้องมายด์ ลูกสาวของดาราใหญ่ นายโกวิท วัฒนกุล
ภาพอุบัติเหตุ ยางระเบิดรถเสียหลัก
คำแนะนำในการใช้ความเร็วให้ปลอดภัย
ขับต่างจังหวัด ควรใช้ความเร็วประมาณ 90 - 110 โดยเฉลี่ย ถ้าเครื่องยนต์ใหญ่ ควรใช้ความเร็วประมาณ 100 - 120โดยเฉลี่ย
ขับในเมือง ควรใช้ความเร็วประมาณ 80 - 100โดยเฉลี่ย
ภาพอุบัติเหตุ หนุ่มตากซิ่งรถยนต์ ยางระเบิดชนเสาไฟ รถขาด2ท่อน
Trick!
เมื่อยางรถยนต์ของท่านเกิด ระเบิดขณะที่ท่านขับขี่รถยนต์อยู่บนท้องถนน เราจะมีวิธีปฏิบัติอย่างไร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงแก่ตัวท่านเองและต่อผู้คนที่ใช้รถ บนท้องถนน วันนี้จึงนำข้อควรปฏิบัติมาแนะนำให้ทุกๆท่านได้อ่าน
เพื่อเป็นความรู้เล็กๆ น้อยๆ และเพื่อความปลอดภัยของทุกๆท่าน
หากยางระเบิดในขณะขับรถ ควรปฏิบัติดังต่อไปนี้
- ควบคุมสติให้ดี แล้วมองกระจกหลังเพื่อดูว่ามีรถตามมาหรือไม่
- มือทั้งสองต้องจับอยู่ที่พวงมาลัยอย่างมั่นคง
- ถอนคันเร่งออก
- แตะเบรกเบาๆ ถี่ๆ อย่าแตะแรงเป็นอันขาด เพราะจะทำให้รถหมุน
- ห้ามเหยียบคลัตซ์โดยเด็ดขาด เพราะถ้าเหยียบคลัตซ์ รถจะไม่เกาะถนน แต่จะลอยตัว ทำให้บังคับรถได้ยากขึ้นจนอาจเสียหลัก เนื่องจากการเหยียบคลัตซ์เป็นการตัดแรงบิดของเครื่องยนต์ให้ขาดจากเพลา
- ห้ามดึงเบรกมือเป็นอันขาด เพราะจะทำให้รถหมุน
- เมื่อความเร็วลดลงพอประมาณแล้ว ให้ยกสัญญาณไฟเลี้ยวเข้าข้างทางซ้ายมือ
- เมื่อความเร็วลดลงในระดับควบคุมได้ให้เปลี่ยนเกียร์ต่ำลง และหยุดรถ
ไม่ว่ายางด้านใดจะระเบิด ล้อหน้าหรือล้อหลังก็ตาม เมื่อระเบิดด้านซ้ายรถก็จะแฉลบไปด้านซ้ายก่อน แล้วจะสบัดกลับ และสะบัดไปด้านซ้ายอีกทีสลับกันไปมา และหากล้อระเบิด
ด้านขวา อาการก็จะกลับเป็นตรงกันข้าม หากยางระเบิดในขณะที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง จะทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เพราะรถจะพลิกคว่ำทันที ความเร็วขณะขับขี่ที่ถือว่าปลอดภัยใน
Defensive Driving คือ ความเร็วไม่เกิน 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
สุดท้ายอย่าประมาททุกครั้งที่อยู่หลังพวงมาลัย อย่าขับรถเกิน100กิโลเมตร/ชั่วโมง (ถ้าเครื่องยนต์ใหญ่อย่าขับเกิน120กม/ชั่วโมง) ถ้าขับเกินนี้ หากยางหน้าระเมิด ส่วนใหญ่จะพลิกคว่ำทันที เพราะการทรงตัวของรถยนต์มันจบลง นั้นคือหนทางการต่ออายุตนเองที่ดีที่สุด