ต่อไป »

[Giffariner]

เจ้านายคุณเก่งมากครับ
ไม่ได้ชมเรื่องโปรแกรมเพิ่มไลค์อะไรนั่นนะครับ

ผมชมเพราะว่า เป็นคนคุณภาพครับ
ไม่ต้องเสียใจที่โดนว่าแรงๆ เค้ากำลังสอนคุณอยู่ครับ หากคุณรับได้ เข้าใจความหมายในคำพูด เก็บไว้เป็นบทเรียน สักวันคุณจะเก่งอย่างเจ้านายคุณครับ

ส่วนคนที่ทนไม่ได้ เอะอะก็จะลาออก ไปอยู่ไหนก็ไม่รุ่งหรอกครับ นอกจากนั่งทำ IM  อยู่บ้านไปคนเดียว

[course]

ว๊าว! บรรเจิดทุกความเห็นเลยครับผม

1. Like กับ talking about มีหลายเพจเลยครับที่มีจำนวนต่างกัน ที่ผมไม่เคยเห็น เป็นความบกพร่องของผมเองที่เข้าไปสังเกตกับเพจที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับสินค้า บริษัท ภาพลักษณ์ ต่างๆ ผมไม่ค่อยได้เข้าเพจที่เป็นแนววาไรตี้ ที่แชร์เรื่องที่อยู่ในกระแส (เรื่องในกระแสในที่นี้ขอหมายถึงเรื่องที่อยู่ในกระแส แชร์ง่ายแต่ไม่เกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์ของสินค้า บริการ นะครับ) ซึ่งเทคนิคและเนื้อหาที่แชร์กันมากจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความรัก ดราม่า ทหาร การเมือง ฟุตบอล ภาพโป๊ ข้อความซึ้งๆ เป็นต้น (ผล ดอก ใบ) แต่พอผมได้เข้าไปดูในเพจที่เป็นวาไรตี้ พูดคุยทั่วไป มีหลายเพจที่จำนวนคนถูกใจมีน้อยกว่าจำนวนคนที่กำลังพูดถึง ซึ่งแน่นอนว่า เพจเหล่านั้นเป็นเพจที่เป็นชุมชนสำหรับการพูดคุยและแบ่งปันกันในเรื่องทั่วๆ  ได้ทุกเรื่อง   [ผมมองว่า เพจาวาไรตี้ (เน้นการปฏิสัมพันธ์) กับ เพจสินค้า (คำนึงถึงภาพลักษณ์)]

ในเรื่องของเนื้อหา เทคนิค และวิธีการโพสต์ ผมว่าทุกคนรู้และใช้เหมือนกัน แต่ใช่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมามันจะเหมือนกัน จริงไหมครับ ไม่เชื่อ ลองโพสต์ภาพและข้อความเหมือนกัน แต่ต่างเพจกันดูสิครับ ผลลัพธ์ต่างกันแน่นอน

2. เรื่องการทำแอพฯ สำหรับเพจทั่วๆ ไม่มีปัญหาหรอกครับ บังคับไล้ค์ บังคับโพสต์ บังคับแชร์ บังคับแท็ก แต่สำหรับเพจเฉพาะของสินค้า/บริการ ค่อนข้างจะซีเรียสกับภาพลักษณ์และผลกระทบที่จะตามมา แม้จะเป็นแอพฯ เกี่ยวกับสินค้า หรือเป้นแอพฯ ที่ดี บริษัท เชื่อว่า 95% ไม่ทำแน่นอนครับ (แต่ถ้าสมมติว่าไปจ้างเพิ่มไล้ค์นี่ไม่นับรวมนะครับ เพราะเพจไม่ได้ทำเอง)

3. เพจบริษัทที่กล่าวถึง เขาจะจ้างเพิ่ม like หรือเปล่า ผมไม่ทราบนะครับ แต่ดูโดยรวมๆ แล้วเขาคงไม่จ้าง เพราะถ้าจ้างเขาคงไม่มีคนถูกใจน้อยขนาดนี้ หรือถ้าจ้างแล้วคนถูกใจน้อยขนาดนี้คนรับจ้างเพิ่ม like ก็คงจะไม่มีประสิทธิภาพ ถ้าจะมองว่าเขาจ้างเพิ่ม like แค่จำนวนน้อยล่ะ ผมเชื่อ 100% เขาไม่ทำแน่ เพราะมีผลต่อภาพลักษณ์มากเหมือนกัน ยกตัวอย่าง "ตัน ภาสกรนที" แจกแอปเปิ้ลยกชุด แจกรถยกเซต บริจาคเงินยี่สิบล้าน มอบรางวัลสิบค้า ผลิตน้ำดื่มบริจาค ฯลฯ มันเป็นงบประมาณที่เยอะมากๆๆๆๆ ซึ่งถ้าเขานำมาจ้างเพิ่ม like ผมว่าคนถูกใจคงจะไม่อยู่ที่ล้านหกนะครับ แต่คนที่ถูกใจผมว่าคงถูกใจจริงๆ

4. สำหรับเพจ official/production เรื่องจำนวน like หรือ talking about เป็นเป้าหมายที่เขาต้องการอยู่ แต่เขาคงไม่ได้ให้ความสำคัญมากเท่าไรครับ แต่คำนึงถึงภาพลักษณ์ที่ดีมากกว่า ซึ่งเป็นคนละแนวกับเพจชุมชนวาไรตี้ ผมมองเช่นนั้น คือ ถ้าเป็นคนที่อยู่ในสายงานบริษัทอาจจะเห็นด้วยกับผม แต่คนที่อยู่ในสายงานฟรีแล้นอาจจะเห็นตรงข้ามกันนะครับ

5. ในเรื่องที่มาของ Like ผมมองว่า ถ้ามีที่มาต่างกัน ผลลัพธ์ต่างกันแน่นอนครับ ไม่มีทางที่ผลลัพธ์จะเหมือนกัน เช่น เพจเกี่ยวกับลิเวอร์พูล คนที่ชอบเขาก็จะกด like และติดตามอยู่เสมอ ในขณะที่คนที่ like ผ่านแอพฯ ต่างๆ ที่เขาเล่น แต่เขาไม่ได้ชอบ แถมมี feed ไปโผล่ที่หน้าแรกบ่อยๆ โอกาสที่จะ unlike ก็สูงมาก เป็นต้น

กระทู้นี้ แตกประเด็นได้เยอะมากๆ เลย นี่เฉพาะเป็นเรื่องจำนวน Like (ซึ่งเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของ fanpage marketing ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ social media marketing ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ marketing อีกทีนะครับ)

ถ้ามีโอกาสผมจะมาแชร์ Model จำนวนคนถูกใจกับจำนวนคนที่กำลังพูดถึง (Like VS Talking About) ซึ่งผมได้แชร์ผ่านข้อความกับคุณ beeboat ไปแล้ว แต่ยังศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ หรือคุณ beeboat จะนำมาแชร์เลยก็จะเป็นเรื่องที่ดีกว่า และคิดว่าน่าจะแชร์ได้ดีกว่าผมด้วย และไม่เฉพาะคุณ beeboat นะครับ ยังมีอีกหลายท่านที่คลุกคลีอยู่กับจำนวน like ผมว่า ท่านเหล่านั้นจะสามารถแบ่งปันความรู้ เทคนิค วิธีการ ได้ดีกว่าผมด้วยซ้ำไป สิ่งที่ผมแชร์มันแค่สะท้อนออกมาจากมุมมองหนึ่งเท่านั้น

ปล. ส่วนเรื่องคำพูดแรงๆ แค่นี้ผมชิวๆ ไม่ต้องอดทนรับหรือต้องยอมรับอะไร เพราะผมแรงกว่าเขาเยอะ ฮ่าๆๆๆ

[beeboat]

ถ้ามีโอกาสผมจะมาแชร์ Model จำนวนคนถูกใจกับจำนวนคนที่กำลังพูดถึง (Like VS Talking About) ซึ่งผมได้แชร์ผ่านข้อความกับคุณ beeboat ไปแล้ว แต่ยังศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมอยู่ หรือคุณ beeboat จะนำมาแชร์เลยก็จะเป็นเรื่องที่ดีกว่า และคิดว่าน่าจะแชร์ได้ดีกว่าผมด้วย และไม่เฉพาะคุณ beeboat นะครับ ยังมีอีกหลายท่านที่คลุกคลีอยู่กับจำนวน like ผมว่า ท่านเหล่านั้นจะสามารถแบ่งปันความรู้ เทคนิค วิธีการ ได้ดีกว่าผมด้วยซ้ำไป สิ่งที่ผมแชร์มันแค่สะท้อนออกมาจากมุมมองหนึ่งเท่านั้น

ผู้ดูแลเพจอยู่ในกระทู้นี้แหละครับ ให้ผู้ดูแลเพจมาแชร์จะดีและเข้าใจกว่า ผมอธิบายไม่เก่งสักเท่าไหร่   

[MapTwoZa]

ผมว่าหัวหน้าเค้าจะสื่อว่า เพิ่มไลท์เค้าก็เพิ่มเองได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างไลท์

เค้าก็ไม่ได้บอกว่า จ้างไลท์มันดีหรือไม่ดีนะ

ประมาณว่า เค้าจ้างคุณมาเพื่อเสียตังกับเรื่องที่เค้าก็สามารถทำได้ เท่ากับเสียสองเด้ง จ้างคุณ+จ้างไลท์

[ClickToBan]

ผมว่าหัวหน้าเค้าจะสื่อว่า เพิ่มไลท์เค้าก็เพิ่มเองได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างไลท์

เค้าก็ไม่ได้บอกว่า จ้างไลท์มันดีหรือไม่ดีนะ

ประมาณว่า เค้าจ้างคุณมาเพื่อเสียตังกับเรื่องที่เค้าก็สามารถทำได้ เท่ากับเสียสองเด้ง จ้างคุณ+จ้างไลท์

จริง ๆ ผมคิดว่าเจ้านายต้องการจะด่าคุณทางอ้อมว่า ไม่มีประโยชน์ที่บริษัทจ้างเพิ่มไลท์ ถ้าคุณใช้ประโยชน์จากตรงนั่นไม่เป็นไม่สามารถสร้างคอมมูนิตี้ได้ เหมือนกิงก่าได้พลอย

[eyourhand]

ผมว่าหัวหน้าเค้าจะสื่อว่า เพิ่มไลท์เค้าก็เพิ่มเองได้ ไม่จำเป็นต้องจ้างไลท์

เค้าก็ไม่ได้บอกว่า จ้างไลท์มันดีหรือไม่ดีนะ

ประมาณว่า เค้าจ้างคุณมาเพื่อเสียตังกับเรื่องที่เค้าก็สามารถทำได้ เท่ากับเสียสองเด้ง จ้างคุณ+จ้างไลท์

จริง ๆ ผมคิดว่าเจ้านายต้องการจะด่าคุณทางอ้อมว่า ไม่มีประโยชน์ที่บริษัทจ้างเพิ่มไลท์ ถ้าคุณใช้ประโยชน์จากตรงนั่นไม่เป็นไม่สามารถสร้างคอมมูนิตี้ได้ เหมือนกิงก่าได้พลอย

บทสรุปครับ เป็นแบบนี้แหละ
แนะนำว่า เพิ่ม like จาก 0 เป็น 1 ก็พอครับ ..(พูดแรง ไปโทษทีนะครับ)

[course]

ผมว่า ทุกท่านในที่นี้ผ่านมาเยอะ โดนมาเยอะ เจ็บมาเยอะ สำเร็จมาเยอะ เยอะกว่าผม มากๆๆๆๆๆๆ ย่อมต้องรู้และเข้าใจเป็นอย่างดีมากกว่าผมแน่นอน ข้อดี ข้อเสีย มีอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง คนที่เห็นข้อดีก็จะถือเอาประโยชน์ คนที่เห็น
ข้อเสียก็จะถือเอาโทษ คนที่ต้องอาศัยข้อดีก็ต้องสะท้อนแต่ข้อดี คนที่เห็นค้านก็จะสะท้อนออกมาเฉพาะข้อเสีย ผู้มีปัญญาเท่านั้นแลฯ ที่จะได้รับประโยชน์สูงสุด

ได้แบ่งปันกับกูรูในที่นี้แล้ว มันได้อะไรที่เยอะมากๆ เลยครับ

[utto]

ผมว่าถึงจะเป็นไลค์ที่ไม่มีปฏิสัมพันธ์แต่มันก็มีผลนะครับ เพราะ

- ตัวเลขเยอะมันดูน่าเชื่อถือ คนปกติเข้ามาเห็นก็ไลค์ตามได้ง่ายกว่า ตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่า เหมือนจ้างคนมายืนต่อแถว มุงร้าน คนเหล่านี้ไม่ซื้อ แต่คนผ่านไปผ่านมาเห็นเค้าซื้อครับ
- ยิ่งมีคนไลค์มากโอกาสที่คนจะกดไลค์และแชร์ รูปหรือคอนเท้นที่เราโพสต์ลงไปก็มีสูง ไม่จำเป็นว่าคนเหล่านั้นจะซื้อ แต่เพื่อน ของเพื่อน ของเพื่อน เค้าเห็น มันอาจจะตรงกับสิ่งที่เค้าต้องการอยู่พอดี

สรุปผมคิดว่า ยิ่งไลค์มาก โอกาสก็ยิ่งมาก แม้ไม่ใช่ไลค์คุณภาพ เพราะไลค์ ต่างจากหาคนเข้าเว็บ ที่เพื่อนคุณไม่รู้ว่าคุณเข้าเว็บอะไร  แต่เพื่อนคุณรู้ว่า คุณไลค์อะไร

แต่ถ้าเป็นบอทล้วนๆ ก็ได้แค่ตัวเลขไปประดับ ก็ยังดี แต่ขอถูกๆหน่อยละกัน ^^

[chyutbnl]

แอบมาส่องเมื่อ2วันที่แล้ว มาวันนี้คนดูเป็นพันแล้ววู้   

 


พี่ๆที่ขาย LIKE ทำแบคุณภาพต่อไปนะครับบ

[ClickToBan]

ทุกอย่างมันอยู่ที่วิธีการครับ กับเทคนิคให้คนติดตาม อย่างเพจ http://www.facebook.com/Eangclub ผมสร้างขึ้นมาเล่น ๆ แต่มี plan จะต่อยอดเยอะพอสมควร เพิ่งสร้างเมื่อวันที่ 7 ให้เด็กดีไซน์มาสคอส และอื่น ๆ ก็เริ่มประมาณวันที่ 8 ตอนนี้ยอด like 9,693 อยู่ที่ talking about 148,531 อันนี้คนมา like เองล้วน ๆ ครับ ไม่ได้ใช้ app ปั่นขึ้นมา ที่ผมว่าบริษัทบอกทำแล้วไม่เห็นผล ผมว่าเพราะทีมงานคุณไม่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้มันออกผลมากกว่าครับ ชาวนาสองคน ใช้ปุ๋ยเหมือนกัน ยังได้ผลผลิตไม่เท่ากันเลยครับ

[course]

อืม... ทางบริษัทยังไม่ได้พูดถึงผลลัพธ์อะไรเลยนะครับ หรือทีมของผมเองอาจจะไม่เชี่ยวชาญพอจริงๆ ตามที่ท่านว่าก็ได้นะครับ แต่สามารถทำรายได้ทะลุเป้าให้บริษัทเดือนละแปดหลักก็โอเคแล้ว และจากกระทู้นี้ที่มันทำให้ผมมีความรู้มากขึ้น น่าจะสร้างรายได้ได้มากขึ้น มั้ง?

 http://www.facebook.com/Eangclub   เพจคุณเจ๋งมากครับ ของผมทำมาเกือบสองปีแล้วยังไม่ถึงหมื่นเลย แต่ของคุณเพิ่งทำมาประมาณสิบวันจะทะลุหมื่นแล้ว รายได้ต้องเยอะกว่าที่ผมทำแน่ๆ เลย สุดยอดไปเลยครับผม เป็นชาวนาที่ใช้ปุ๋ยแล้วได้ผลดีมากๆ ครับ

ส่วนเรื่อง Like นะ (เพิ่งดูข่าวน้องซีมา) เขาบอกว่ามีผลต่อจิตวิทยา แต่ต้องดู feedback ด้วย ฉะนั้น อีกไม่นานธุรกิจออนไลน์ที่จะเจริญเติมโต คือ รับจ้างโพสต์ รับจ้างคอมเม้นต์ ว๊าวๆๆๆ รีบๆ ทำกันนะครับ ถ้าช้าคู่แข่งจะเยอะ ฮ่าๆ

แต่พอมาถึงตรงนี้ ... บางทีผมก็รู้สึกสลดใจเหมือนกัน เราๆ ทั้งหลายกำลังทำลายระบบความน่าเชื่อถือของโลกออนไลน์ หรือไม่ก็กำลังตอกย้ำความไม่ถูกต้องให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เหมือนกับทำลายทางทำมาหากินของตัวเองทางอ้อม การซื้อแบนเนอร์ตามเว็บไซต์ลดลง หรือ ราคาถูกลง เพราะมีการแข่งขันกันมากขึ้น ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ลดลง การปั่น seo มีผลมากๆ มีเซียน seo หลายคนที่ใช้หลายๆ ip หลายๆ server ในการทดสอบ ใช้บอทเป็นเครื่องมือในการเพิ่ม seo ให้ผิดแผกไปจากที่ควรจะเป็น อัลกอลิทึมของ panda พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ พยายามปรับลดพฤติกรรมการปั่น seo รวมไปถึงฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ซึ่งไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือมีความรู้ในโลกออนไลน์ หลายๆ คนที่ทำ seo ทำ adsense ทำ amazon คงจะเป็นคู่ปรับกับ panda อยู่ละสิ ฮ่าๆๆๆๆ (มันเป็นความคิดในแง่ลบของผมนะครับ)

[goddy008]

ผมรับดูแลให้บริษัทอยู่ครับแต่ยังไม่รุ่งเลยในฐานะ PR บริษัท แต่ทำแฟนเพจเล่นๆ ขำขำยังรุ่งกว่าอีก / เปิดร้านขายของก๊องแก๊งของตัวเองยังมีออเดอร์กลับมาชัดเจนกว่าอีก
ก่อนจะทำแฟนเพจเราต้องมองภาพให้ชัดก่อนครับ ต้นทุนเราคืออะไร แล้วเราทำเพื่ออะไร มันไม่ใช่ว่าคนอื่นมีแฟนเพจที่ like หลักหมื่น มี talking about หลักล้านแล้วจะทำให้คุณดูล้มเหลว เนื้อหาที่ จขกท เล่า แค่คุณพรีเซนต์งานหัวหน้าไม่ตรงจุดเท่านั้นเอง

ขออนุญาตแชร์หลักการทำงานของผมนะเผื่อได้แนวคิด

เงื่อนไขการรับงานผม ผมไม่เน้นสะสมยอด like ผมเรียนลูกค้าที่ผมรับงานให้เข้าใจก่อนเสมอ ยอด like ผมเพิ่มให้คุณหลักแสนในอาทิตย์เดียวสบายมาก แต่อย่าไปคาดหวังว่าจะได้ income มากมายกลับมา เน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสมาชิกเก่าแล้วปล่อยให้ตัวเลขจำนวน Like มันโตตามต้นทุนที่เราหยอดดีกว่า...ซึ่งลูกค้าทุกรายก็เข้าใจครับในข้อนี้ (แม้จำนวน like มันจะมีผลในด้านจิตวิทยา แต่การทำความเข้าใจกับลูกค้าในข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ถือเป็นสิ่งสำคัญกว่า เพราะถ้าลูกค้ายึดติดตัวเลขมากไป อนาคตเขาจะมีกราฟขึ้นมากดดันเรา ว่าทำไมสมาชิกแฟนเพจเยอะแยะแต่ action หรือ income กลับต่ำมาก...คุณก็รู้ใช่ไหมว่าทำไม?)
รวมถึง talking about ผมพยายามไม่พูดถึงครับ (เพราะจากประสบการณ์ สมาชิกแฟนเพจเข้ามา active ในเพจก็ไม่เห็นจะมีใคร inbox มาชมผมสักคนว่า "โอ้ว เพจคุณยอดเยี่ยมจัง talking about หลักแสนแน่ะ"...ถามหน่อยครับ สมาชิกแฟนเพจที่เข้ามาเสพเนื้อหาข้างใน มีใครสนตัวเลขตรงนี้ แล้วตัวเลขตรงนี้ทำอะไรแบบเป็นรูปธรรมได้มั่ง?) สำหรับผมแล้ว จำนวน talking about ไม่ใช่การวัดคุณภาพของการทำงานด้วยแฟนเพจครับ ผมเลิกสนใจมันนานแล้ว เพราะผมไม่ได้ทำแฟนเพจไว้เพื่อขายใคร ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเลขไปอวดใคร แม้แต่ลูกค้า (คนที่ยอมจ่ายเงินเกือบสองหมื่นต่อเดือนให้ผมดูแลแฟนเพจให้) ผมก็ไม่เคยพรีเซนต์คำว่า talking about ให้เขาเข้าใจจริงจัง เพราะไม่อยากให้เขาไปยึดติดกับตัวเลขตรงนั้น เวลาผมทำรีพอร์ตงาน ผมเน้นให้เขาเห็น action ในแต่ละโพสต์เอา (โดยเฉพาะโพสต์ที่หวังผลด้าน PR อย่างพวกกิจกรรมชิงรางวัลหรือประกาศโปรโมชั่น) ว่ามีความเคลื่อนไหวหรือไม่ยังไง

แฟนเพจร้านขายครีม สมาชิกหลักพัน like / talking about หลักร้อย แต่ทำออเดอร์ได้ตามเป้าต่อเดือน ถือว่าประสบความสำเร็จ...แฟนเพจบริษัทสมาชิกหลักพัน like / talking about หลักร้อย แต่ยอดคนถือ voucher ที่แจกทางแฟนเพจกลับมารับบริการที่บริษัทมากขึ้นตามเป้าที่คาดการณ์ ก็ถือว่าประสบความสำเร็จครับ

แนะนำ จขกท กลับไปลำดับความคิดก่อนครับ เรียนรู้ต้นทุนที่คุณมีก่อน แล้วมองภาพเป้าหมายให้ชัด

ขออภัยหากข้อความอาจขัดหูบ้างนะครับ

[ClickToBan]

อืม... ทางบริษัทยังไม่ได้พูดถึงผลลัพธ์อะไรเลยนะครับ หรือทีมของผมเองอาจจะไม่เชี่ยวชาญพอจริงๆ ตามที่ท่านว่าก็ได้นะครับ แต่สามารถทำรายได้ทะลุเป้าให้บริษัทเดือนละแปดหลักก็โอเคแล้ว และจากกระทู้นี้ที่มันทำให้ผมมีความรู้มากขึ้น น่าจะสร้างรายได้ได้มากขึ้น มั้ง?

 http://www.facebook.com/Eangclub   เพจคุณเจ๋งมากครับ ของผมทำมาเกือบสองปีแล้วยังไม่ถึงหมื่นเลย แต่ของคุณเพิ่งทำมาประมาณสิบวันจะทะลุหมื่นแล้ว รายได้ต้องเยอะกว่าที่ผมทำแน่ๆ เลย สุดยอดไปเลยครับผม เป็นชาวนาที่ใช้ปุ๋ยแล้วได้ผลดีมากๆ ครับ

ส่วนเรื่อง Like นะ (เพิ่งดูข่าวน้องซีมา) เขาบอกว่ามีผลต่อจิตวิทยา แต่ต้องดู feedback ด้วย ฉะนั้น อีกไม่นานธุรกิจออนไลน์ที่จะเจริญเติมโต คือ รับจ้างโพสต์ รับจ้างคอมเม้นต์ ว๊าวๆๆๆ รีบๆ ทำกันนะครับ ถ้าช้าคู่แข่งจะเยอะ ฮ่าๆ

แต่พอมาถึงตรงนี้ ... บางทีผมก็รู้สึกสลดใจเหมือนกัน เราๆ ทั้งหลายกำลังทำลายระบบความน่าเชื่อถือของโลกออนไลน์ หรือไม่ก็กำลังตอกย้ำความไม่ถูกต้องให้ชัดเจนยิ่งขึ้น เหมือนกับทำลายทางทำมาหากินของตัวเองทางอ้อม การซื้อแบนเนอร์ตามเว็บไซต์ลดลง หรือ ราคาถูกลง เพราะมีการแข่งขันกันมากขึ้น ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ลดลง การปั่น seo มีผลมากๆ มีเซียน seo หลายคนที่ใช้หลายๆ ip หลายๆ server ในการทดสอบ ใช้บอทเป็นเครื่องมือในการเพิ่ม seo ให้ผิดแผกไปจากที่ควรจะเป็น อัลกอลิทึมของ panda พยายามอย่างเต็มที่เพื่อเสริมสร้างความน่าเชื่อถือ พยายามปรับลดพฤติกรรมการปั่น seo รวมไปถึงฟังก์ชั่นต่างๆ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้งานส่วนใหญ่ซึ่งไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญหรือมีความรู้ในโลกออนไลน์ หลายๆ คนที่ทำ seo ทำ adsense ทำ amazon คงจะเป็นคู่ปรับกับ panda อยู่ละสิ ฮ่าๆๆๆๆ (มันเป็นความคิดในแง่ลบของผมนะครับ)

คุณคอนเวริ์ดไม่เป็นเองมากกว่า แล้วเรื่องรายได้อย่าเอามาบอกเลยครับ สรรพากรจะถามหาเอา ผมว่าบริษัทคุณกำไรทั้งปียังไม่เท่ารายจ่ายที่ผมต้องเสียรายเดือนเลยครับ เดาเอาน่ะครับ เพราะเห็นบอกมีรายได้อยู่แปดหลักต่อเดือน ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย แล้วเรื่องไลค์ของแฟนเพจในธุรกิจเมืองไทยผมไม่รู้น่ะเพราะเค้ายังไม่เอามูลค่าตรงนี้มานับ แต่ของบริษัทผมทุกยอดไลค์ที่เพิ่มขึ้นมีผลกับมูลค่าหุ้นของบริษัทครับ

[audy1978]

ถ้ามองในแง่ของการตลาดก็พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง แต่จะคุ้มหรือไม่คุ้ม ก็ต้องวัดผลเอาเอง

[Siam Social Media]

ทุกอย่างมันอยู่ที่วิธีการครับ กับเทคนิคให้คนติดตาม อย่างเพจ http://www.facebook.com/Eangclub ผมสร้างขึ้นมาเล่น ๆ แต่มี plan จะต่อยอดเยอะพอสมควร เพิ่งสร้างเมื่อวันที่ 7 ให้เด็กดีไซน์มาสคอส และอื่น ๆ ก็เริ่มประมาณวันที่ 8 ตอนนี้ยอด like 9,693 อยู่ที่ talking about 148,531 อันนี้คนมา like เองล้วน ๆ ครับ ไม่ได้ใช้ app ปั่นขึ้นมา ที่ผมว่าบริษัทบอกทำแล้วไม่เห็นผล ผมว่าเพราะทีมงานคุณไม่มีความเชี่ยวชาญเพื่อให้มันออกผลมากกว่าครับ ชาวนาสองคน ใช้ปุ๋ยเหมือนกัน ยังได้ผลผลิตไม่เท่ากันเลยครับ

ตามนี้เลยครับ คุณ ClickToBan บอกไว้ชัดเจนแล้ว

[CRYSTALHILL]

มองเห็นอะไรขึ้นเยอะ กับกระทู้นี้

[penthaid]

กระทู้นี้ยิ่งยาวยิ่งมีสาระเลย เห็นภาพเยอะมาก

[dazzleii]

สำหรับผม การจ้างกด Like ผมว่าเป็นการเปิดโอกาศ ให้กับตัวเองอะคับ  เราโพสอะไรก็แล้วแต่ลงไปบนเฟสเพจ   มันก็ต้องโชว์ ข่าวล่าสุดของ คนที่กด LIKE จิงปะคับ

โอกาศ คืออะไร เมื่อมีคนเห็น ก็มีโอกาศ ที่จะมีคนชอบ ก็มีโอกาศที่คนจะรู้เยอะเพิ่มขึ้น โอกาศมันมีมากมายเลยคับ อย่าไปปิดกั้นมัน

ใครๆก็ อยากได้โอกาศดีๆทั้งนั้นแหละคับ  ถ้ามันไม่ได้เสียหายอะไร เราจะปิดกั้นโอกาศตัวเองทำไมคับ

[ballalistit]

ผมเน้นความน่าเชื่อถืออ่ะ

[baiyoke650]

ผมเป็นคนหนึ่งนะครับที่ "รับจ้างทำไลค์" และผมทำมามากกว่า 10ล้านไลค์แล้วครับ

ผมเห็นทั้งข้อดีและข้อเสียทั้งหมด ประเภทแฟนเพจไหนควรทำแบบไหนไม่ควรทำ แบบไหนทำแล้วได้ประโยชน์หรือไม่ได้ประโยชน์

ยกตัวอย่างประโยชน์ของมันให้ดูนะครับ

สมมุติว่าคุณมีร้านโดยการใช้แฟนเพจเป็นหน้าร้าน มีคนกดไลค์ 1 คน กับ 1ล้านคน ผมเชื่อว่ายอดขายต่างกันมหาศาลแน่นอน
เหมือนคุณมีร้านแถวบ้านโคกอีโด่ย กับคุณเปิดร้านที่เซนเตอร์พ้อย อาจจะคิดว่าแล้วไงในเมื่อคุณมาเปิดร้านขายอาหารหมากลางเซนเตอร์พ้อย

เมื่อก่อนการทำไลค์มันเหมือนการหว่านแห่ แต่เดี๋ยวนี้มันคือการตกปลา ชัดๆ
เฟสบุคจะพยายามสร้างออฟชั่น เกี่ยวการแยกกลุ่ม แยกขอบเขตในการโปรโมทที่เห็นชัดๆ ล่าสุดเฟสบุคมีการเลือกโพสจากแฟนเพจว่าจะให้คนกลุ่มไหนเห็นบ้าง เพศอะไร อายุเท่าไหร่ เรียนที่ไหน อยู่จังหวัดไหน ประเทศไหน หรือแม้แต่สถานะโสดหรือแต่งงาน มันสามารถแยกกลุ่มที่มากดไลค์ได้อย่างยอดเยี่ยมเลยทีเดียว

แบบนี้จะบอกว่าการทำ Like เหมือนเปิดร้านขายอาหารหมากลางเซนเตอร์พ้อย หรือ เปิดร้านขายเฟอรารี่ กลางบ้านโคกอีโด่ย คงจะไม่ได้แล้วมั้งครับ