ต่อไป »

[Lunifer]

ผมว่าไปใช้ if ที่ txet box ตอนตั้งกระทู้น่าจะเอาอยู่ เขียนตรงที่มันจะ insert ลง data อะครับ อาจะซ้อน if ไปเยอะๆหน่อยแล้วเอาคำพวกนี้ไปซ้อนในแต่ละ if

[tnt2524]

แชร์ลูกโซ่ โกงแน่ๆ
mlm ไม่โกง แต่จะโดนฟันหัวแบะหรือไม่ ให้พิจารณาดีๆ

ผมก็อยู่วงการ mlm มาก่อน ตั้งแต่สมัยเรียนปี 3 ละ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำหรอก ติดตามงานสัมนาศึกษาอย่างเดียว มีความรู้สึกว่าบางอย่างมันแย้งกับใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ก็เลยห่างๆไปละ

ดู mlm มาหลายเจ้า โดนชวนก็หลายเจ้า ไม่ค่อยสนใจนะ

แต่รู้อยู่คนหนึ่ง เป็นนักธุรกิจระดับพันล้าน ตำแหน่งระดับสูง พอมีตัวใหม่ ก็ย้ายไป ไอ้ที่พูดๆไว้ก็เหมือนลืมๆไปหมด ผมมองว่ากลับกรอก เห็นแก่ตัว

ย้ายจาก A เก่าไป A ใหม่

ผมอยู่มาเป็น สิบปี ไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่ได้เลิก สินค้าไหนใช้ได้ก็ใช้ไป แต่ไม่ค่อยชวนใครเท่าไร เพราะนิสัยขี้เกรงใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ใจเขาใจเรา  หมดไปเยอะ ก็ถือว่าเป็นค่าเรียนรู้ประสบการณ์ เพราะในแง่พัฒนาทรรศนคติ หรือตัวเองก็ถือว่าได้ประโยชน์อยู่

พวกที่เป็นหัว มีรายได้เยอะๆ แล้วย้ายไปเรื่อยๆ ผมมองว่า เห็นแก่ตัว หลอกคนมาให้ตัวเองรวย ไม่ได้คิดจะช่วยเหลือใครจริงจัง

ส่วนคนที่ไม่สำเร็จซะทีแล้วก็ย้ายไปเรื่อยๆ เพราะคำชวน ผมมองว่าคุณแค่เปลี่ยนจากสถานะ คนมาทีหลัง ไปเป็น คนที่มาก่อน ซึ่งถ้าสักวันคุณทำเหมือนพวกกลุ่มต้นสายย้ายไปเรื่อยหลังสำเร็จแล้ว ผมมองว่า นั่นก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน

ทำอะไรก็ทำจริงจังให้สำเร็จ ค้นพบตัวเองในธุรกิจนั้นๆ แบบนั้นผมถึงจะสรรเสริญคุณ แต่ไม่ใช่โลภโดยหาเงินจากคนอื่นไปเรื่อยๆ

ผมสรรเสริญคนที่ยืนหยัด แต่มิใช่คนที่คอยแต่จะฉวยโอกาสจากผู้อื่น

mlm ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน และทุกคนล้วนแต่พูดประโยคเดียวกันว่า "เราดีกว่า" แต่เขาไม่ได้บอกคุณว่า "และเราพร้อมจะไป ถ้ามีตัวใหม่ที่ดีกว่า"

การขโมยคนข้ามธุรกิจมันก็มีอยู่ตลอดแหละ ในวงการนี้

เพิ่มเติมอีกประโยคหนึ่งครับ  " ต้นสาย "

[ตงฟางปุ๊ป้าย]

แชร์ลูกโซ่ โกงแน่ๆ
mlm ไม่โกง แต่จะโดนฟันหัวแบะหรือไม่ ให้พิจารณาดีๆ

ผมก็อยู่วงการ mlm มาก่อน ตั้งแต่สมัยเรียนปี 3 ละ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำหรอก ติดตามงานสัมนาศึกษาอย่างเดียว มีความรู้สึกว่าบางอย่างมันแย้งกับใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ก็เลยห่างๆไปละ

ดู mlm มาหลายเจ้า โดนชวนก็หลายเจ้า ไม่ค่อยสนใจนะ

แต่รู้อยู่คนหนึ่ง เป็นนักธุรกิจระดับพันล้าน ตำแหน่งระดับสูง พอมีตัวใหม่ ก็ย้ายไป ไอ้ที่พูดๆไว้ก็เหมือนลืมๆไปหมด ผมมองว่ากลับกรอก เห็นแก่ตัว

ย้ายจาก A เก่าไป A ใหม่

ผมอยู่มาเป็น สิบปี ไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่ได้เลิก สินค้าไหนใช้ได้ก็ใช้ไป แต่ไม่ค่อยชวนใครเท่าไร เพราะนิสัยขี้เกรงใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ใจเขาใจเรา  หมดไปเยอะ ก็ถือว่าเป็นค่าเรียนรู้ประสบการณ์ เพราะในแง่พัฒนาทรรศนคติ หรือตัวเองก็ถือว่าได้ประโยชน์อยู่

พวกที่เป็นหัว มีรายได้เยอะๆ แล้วย้ายไปเรื่อยๆ ผมมองว่า เห็นแก่ตัว หลอกคนมาให้ตัวเองรวย ไม่ได้คิดจะช่วยเหลือใครจริงจัง

ส่วนคนที่ไม่สำเร็จซะทีแล้วก็ย้ายไปเรื่อยๆ เพราะคำชวน ผมมองว่าคุณแค่เปลี่ยนจากสถานะ คนมาทีหลัง ไปเป็น คนที่มาก่อน ซึ่งถ้าสักวันคุณทำเหมือนพวกกลุ่มต้นสายย้ายไปเรื่อยหลังสำเร็จแล้ว ผมมองว่า นั่นก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน

ทำอะไรก็ทำจริงจังให้สำเร็จ ค้นพบตัวเองในธุรกิจนั้นๆ แบบนั้นผมถึงจะสรรเสริญคุณ แต่ไม่ใช่โลภโดยหาเงินจากคนอื่นไปเรื่อยๆ

ผมสรรเสริญคนที่ยืนหยัด แต่มิใช่คนที่คอยแต่จะฉวยโอกาสจากผู้อื่น

mlm ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน และทุกคนล้วนแต่พูดประโยคเดียวกันว่า "เราดีกว่า" แต่เขาไม่ได้บอกคุณว่า "และเราพร้อมจะไป ถ้ามีตัวใหม่ที่ดีกว่า"

การขโมยคนข้ามธุรกิจมันก็มีอยู่ตลอดแหละ ในวงการนี้

เพิ่มเติมอีกประโยคหนึ่งครับ  " ต้นสาย "

"แต่รู้อยู่คนหนึ่ง เป็นนักธุรกิจระดับพันล้าน ตำแหน่งระดับสูง พอมีตัวใหม่ ก็ย้ายไป ไอ้ที่พูดๆไว้ก็เหมือนลืมๆไปหมด ผมมองว่ากลับกรอก เห็นแก่ตัว"
ธุรกิจMLMคนเก่งๆหลายคนมักจะทำแบบนี้แหละ   ใช้จิตวิทยาในการดึงความโลภของคน     พอมีที่ใหม่ๆก็ย้ายไปเรื่อย   พวกที่มาทีหลังก็ตายกันยกแผง    บางทีก็ดึงทีมงานตามไปได้บางส่วน 

[john007]

90% เป็น MLM ทั้งนั้นน่ะครับ
อีก 10% น่าจะแนวๆผิดกฎหมาย ไม่อยากพูดน่ะ หุหุ

[Serge]

แชร์ลูกโซ่ โกงแน่ๆ
mlm ไม่โกง แต่จะโดนฟันหัวแบะหรือไม่ ให้พิจารณาดีๆ

ผมก็อยู่วงการ mlm มาก่อน ตั้งแต่สมัยเรียนปี 3 ละ แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้ทำหรอก ติดตามงานสัมนาศึกษาอย่างเดียว มีความรู้สึกว่าบางอย่างมันแย้งกับใจตัวเองอยู่เหมือนกัน เดี๋ยวนี้ก็เลยห่างๆไปละ

ดู mlm มาหลายเจ้า โดนชวนก็หลายเจ้า ไม่ค่อยสนใจนะ

แต่รู้อยู่คนหนึ่ง เป็นนักธุรกิจระดับพันล้าน ตำแหน่งระดับสูง พอมีตัวใหม่ ก็ย้ายไป ไอ้ที่พูดๆไว้ก็เหมือนลืมๆไปหมด ผมมองว่ากลับกรอก เห็นแก่ตัว

ย้ายจาก A เก่าไป A ใหม่

ผมอยู่มาเป็น สิบปี ไม่สำเร็จ แต่ก็ไม่ได้เลิก สินค้าไหนใช้ได้ก็ใช้ไป แต่ไม่ค่อยชวนใครเท่าไร เพราะนิสัยขี้เกรงใจเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ใจเขาใจเรา  หมดไปเยอะ ก็ถือว่าเป็นค่าเรียนรู้ประสบการณ์ เพราะในแง่พัฒนาทรรศนคติ หรือตัวเองก็ถือว่าได้ประโยชน์อยู่

พวกที่เป็นหัว มีรายได้เยอะๆ แล้วย้ายไปเรื่อยๆ ผมมองว่า เห็นแก่ตัว หลอกคนมาให้ตัวเองรวย ไม่ได้คิดจะช่วยเหลือใครจริงจัง

ส่วนคนที่ไม่สำเร็จซะทีแล้วก็ย้ายไปเรื่อยๆ เพราะคำชวน ผมมองว่าคุณแค่เปลี่ยนจากสถานะ คนมาทีหลัง ไปเป็น คนที่มาก่อน ซึ่งถ้าสักวันคุณทำเหมือนพวกกลุ่มต้นสายย้ายไปเรื่อยหลังสำเร็จแล้ว ผมมองว่า นั่นก็เห็นแก่ตัวเหมือนกัน

ทำอะไรก็ทำจริงจังให้สำเร็จ ค้นพบตัวเองในธุรกิจนั้นๆ แบบนั้นผมถึงจะสรรเสริญคุณ แต่ไม่ใช่โลภโดยหาเงินจากคนอื่นไปเรื่อยๆ

ผมสรรเสริญคนที่ยืนหยัด แต่มิใช่คนที่คอยแต่จะฉวยโอกาสจากผู้อื่น

mlm ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน และทุกคนล้วนแต่พูดประโยคเดียวกันว่า "เราดีกว่า" แต่เขาไม่ได้บอกคุณว่า "และเราพร้อมจะไป ถ้ามีตัวใหม่ที่ดีกว่า"

การขโมยคนข้ามธุรกิจมันก็มีอยู่ตลอดแหละ ในวงการนี้

เพิ่มเติมอีกประโยคหนึ่งครับ  " ต้นสาย "

"แต่รู้อยู่คนหนึ่ง เป็นนักธุรกิจระดับพันล้าน ตำแหน่งระดับสูง พอมีตัวใหม่ ก็ย้ายไป ไอ้ที่พูดๆไว้ก็เหมือนลืมๆไปหมด ผมมองว่ากลับกรอก เห็นแก่ตัว"
ธุรกิจMLMคนเก่งๆหลายคนมักจะทำแบบนี้แหละ   ใช้จิตวิทยาในการดึงความโลภของคน     พอมีที่ใหม่ๆก็ย้ายไปเรื่อย   พวกที่มาทีหลังก็ตายกันยกแผง    บางทีก็ดึงทีมงานตามไปได้บางส่วน 

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้มันมีทั้ง "ด้านมืด" และ "ด้านสว่าง"

มันขึ้นอยู่ที่ว่าเราจะเลือกใช้ด้านไหน? นำทางเท่านั้นเอง

แต่.....สิ่งที่เรามั่งจะเห็นคนทำเครื่อข่ายเขาเลือก "ด้านมืด" กันเพราะ "รายได้" มันยัวใจจนทำให้บางคนถึงกับขายวิญญาณให้กับด้านมืด ไม่สนใจว่าคนอื่นจะเป็นอย่างไง!!

แต่ในขณะเดียวกันนั้นคนทำเครื่อข่ายที่เลือกจะเดิน"สายสายกลาง" ก็ยังมีอยู่เยอะ

(ถ้าถามว่าทำไหมต้องเป็นสายกลางเพราะสายกลางมันเป็นเส้นทางที่ทำให้ถึงเส้นชัยได้เร็วที่สุดและไม่ผิดกฎหมาย แต่อาจจะล่อแหลม 50-50%)

(ถ้าคุณจะทำเครื่อข่าย "สายขาว" และนำให้ไปสมัคร A..., หรือ G... ผมไม่ขอออกนามนะครับ อันนั้นผมว่าสายขาวเกือบ 100% ครับ แต่ผม...เตือนไว้อย่าง คุณอย่ารีบถามหาความสำเร็จนะครับเพราะมันต้องใช้เวลามาก!! )

ขอบคุณที่รับฟังความคิดเห็น

ปล.ความเห็นด้านบนเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล