ต่อไป »

[krite2010]

การหา Niche Market นั้น ในตลาด amazon นั้น ไม่ทราบว่าใช้ตัวไหน  เพราะบางคนแนะนำ http://www.Amazon.com/bestsellers   ,ebay plus ,  Google Product Search หรือ บางท่านแนะนำว่าให้ใช้ gift-central ของ Amazon ไม่ทราบว่าแบบไหนดี ที่ได้ผลดีกว่า แนะนำด้วย ขอบคุณครับ

[josephsrawut]

มีผู้เคยแนะนำไว้แล้วครับ

http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=214255.0

[kob001]

มีผู้เคยแนะนำไว้แล้วครับ

http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=214255.0

Niche Market เป็นการวิเคราะห์ตลาด มันต่างกับ Niche Keyword กระทู้ที่แนะนำไว้เป็นการหา Keyword

[animationz]

หมวด Bestsellers ก็เป็น Niche Market นะครับ สินค้าขายดี แสดงว่า คนต้องการสูง + อัตราการซื้อสูง กลายเป็นสินค้าขายดี หรือ Bestsellers นั่นเองครับ หรืออาจใช้ Most Gifts ก็ได้เช่นกันครับ (อย่าเชื่อนะครับ ผมมั่ว...)

[throranin]

ใช้วิจารณญาณ ของคุณเองครับ การวิเคราะห็คีย์ก็เหมือนเก็งเลขเด็ดครับ
Niche Market ก็เหมือนได้อาจารย์ใบ้หวยที่แม่นหน่อยแต่ก็อาจผิดได้ ไม่อย่างงั้น เศรษฐีล้นประเทศแล้วครับ

[Hanma]

หมวด Bestsellers ก็เป็น Niche Market นะครับ สินค้าขายดี แสดงว่า คนต้องการสูง + อัตราการซื้อสูง กลายเป็นสินค้าขายดี หรือ Bestsellers นั่นเองครับ หรืออาจใช้ Most Gifts ก็ได้เช่นกันครับ (อย่าเชื่อนะครับ ผมมั่ว...)

ในความคิดผม Niche Market = มีคนต้องการซื้อ และ คู่แข่งต่ำ ไปๆมาๆคล้ายๆ Blue Ocean ยังไงหยั่งงั้น

[zidit]

niche market นี่ต้องว่าถึงเรื่อง trend ของสินค้าอะไรประมาณนี้อะครับ เช่น ผมอาจจะพบว่า ไม้เทนนิส ขายดีมากๆ เนื่องจาก มีนักเทนนิสอเมริกา เพิ่งไปดังในระดับโลก แต่คนอื่นยังไม่ค่อยรู้ข่าวเรื่องนี้ ผมก็กินเงียบๆ คนเดียวซักระยะ

[kingkong701]

Niche Market = มีคนต้องการซื้อ + คู่แข่งต่ำ  อาจจะขายยาก แต่ก็ขายได้ มีลูกค้าเฉพาะกลุ่มหรือช่วงเวลา

สินค้าใน Bestsellers ผมว่าทะเลแดง

ส่วนตัวทำพวกสินค้า ที่ตามได้ฤดูกาลครับ เช่น ตอนนี้หน้าร้อนฝรั่งชอบทำอะไร แล้วเอาสินค้ากลุ่มนั้นมาขาย  สัปดาห์หน้า tv ขายดีเนอะ

[krite2010]

เห็นด้วยกับความเห็นหลายๆท่าน ไม่ว่าจะเป็น Blue Ocean นั้น อีกหน่อยก็เป็น Red Ocean แต่ไม่ทราบว่า ใครเคยใช้ http://www.alexa.com/whatshot   มันได้ผลแม่นยำไหม เพราะเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว ต้องขอบคุณอย่างมาก ๆ
ปล. ผมตัดสินใจแล้ว่า ไม่ว่าเครื่องมืออะไรใน amazon หรือ alexa นั้น ผมต้องไปดูที่ keyword ของสินค้านั้นก่อน แล้ว ค่อยไปดูที่ google inside for search แล้วค่อยต่อด้วย google trend ครับ ถูกต้องไหม แต่ปัญหาคือ ถ้าจะหาประเทศไทยละครับ หรือ ทาง ออสเตรเลีย ละครับ เราจะทำอย่างไร แนะนำหน่อย ครับ ขอบคุณ

[AM-PM]

เห็นด้วยกับความเห็นหลายๆท่าน ไม่ว่าจะเป็น Blue Ocean นั้น อีกหน่อยก็เป็น Red Ocean แต่ไม่ทราบว่า ใครเคยใช้ http://www.alexa.com/whatshot   มันได้ผลแม่นยำไหม เพราะเริ่มเข้าใจบ้างแล้ว ต้องขอบคุณอย่างมาก ๆ
ปล. ผมตัดสินใจแล้ว่า ไม่ว่าเครื่องมืออะไรใน amazon หรือ alexa นั้น ผมต้องไปดูที่ keyword ของสินค้านั้นก่อน แล้ว ค่อยไปดูที่ google inside for search แล้วค่อยต่อด้วย google trend ครับ ถูกต้องไหม แต่ปัญหาคือ ถ้าจะหาประเทศไทยละครับ หรือ ทาง ออสเตรเลีย ละครับ เราจะทำอย่างไร แนะนำหน่อย ครับ ขอบคุณ

ผมเลือกที่จะทำทุกสินค้าแล้วมาดูสถิติจากเว็บตัวเอง ไม่มีอะไรตรงเท่าสถิติตัวเองแล้วละ
 

[ADS2009]

Niche โดยความหมายก็คือ จำเพาะเจาะจง อธิบายความง่ายๆ เช่น
TV สินค้าตัวนี้โดยธรรมชาติตัวมันเองไม่สามารถเป็นเป็น Niche Market ได้
เพราะ TV เป็นที่นิยมของคนทุกกลุ่ม เด็กก็ชอบ ผู้ชายก็ชอบ ผู้หญิงก็ชอบ คนแก่ก็ชอบ
ถ้าจะต้องการให้ TV เป็น Niche Market ก็ต้องไปเจาะเน้นถึงลักษณะของตัว TV เอง
เช่น เจาะไปที่ลักษณะการใช้งาน หรือ ขนาด ก็จะทำให้มันเป็น Niche Market ได้

ตัวอย่างสินค้าที่ Niche Market ที่เห็นได้ชัดเจนเช่น สินค้าสำหรับคนพิการ
สินค้าสำหรับคนชราโดยเฉพาะ สินค้าหรับคนป่วย หรือสินค้าสำหรับคนถนัดซ้าย
อย่างที่ยกตัวอย่างมานี้ Niche Market แน่นอนครับ

พยายามมองภาพให้ดีนะครับอย่าสับสนเพราะตรงนี้เป็นหัวใจสำหรับในการทำ Affilite Marketing
มันมาก่อนคีย์เวิร์ดซะอีกครับ ลงอ่านบทความที่ผมเขียนไม่จบนี้ดูเล่นๆ นะครับ โชคดีทุกท่านครับ
==================================================

ทุกท่านที่ผ่านประสบการณ์ตรงนี้มาแล้วคงจำความรู้สึกตอนที่เข้าสู่วงการ เริ่มต้นเข้าสู่วงการ Affiliate Marketing ใหม่ๆ ตอนนั้นสับสนไปหมด เรื่มจาก มีคำถามว่า มันได้เงินจริงหรือ ,มันจะยากไหม ,เอาอะไรมาขายดี และอีกสารพัดคำถาม จากนั้นก็เริ่มค้นคว้าหาข้อมูล โดยเข้าบอร์ดนี้ ไป บอร์ดนั้น อ่านทุกกระทู้ ทุกบทความ ที่สนใจ อ่านจนสับสน ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง จนในที่สุดก็มาลงมติ การหา Keyword (คำที่ใช้ค้นหาผ่าน Search Engine) คือด่านแรกที่ต้องทำ

เมื่อมาถึงตรงนี้และเริ่มลุยการหา Keyword แบบเอาเป็นเอาตาย หลังจากที่งมอยู่นาน ก็หา Keyword เป็น (แต่ดีหรือไม่ นั้นเป็นอีกเรื่อง) คราวนี้ก็มาถึงเกิดความมั่นใจในระดับหนึ่งที่พร้อมจะลงมือลุย ก็จัดการค้นหาหมวดสินค้าขายดีมา คัดเอาที่มี Rating สูงๆ มีคนซื้อเยอะๆ ยิ่งเป็นสินค้าที่ดังๆ ยอดนิยม ยิ่งชอบ

เมื่อได้สินค้ามาแล้ว ก็ลงมือหา Keyword ตามทีฝึกมาได้ Keywords มาจำนวนหนึ่ง โอเค คราวนี้ก็ นึกว่าจะทำแบบไหนดี ฟังเค้าว่ามา ถ้าทำเว็บคุณภาพก็ทำมือ (ทำมือไม่ใช่ว่าจะคือคุณภาพ ถ้าไม่เข้าใจวิธีทำเว็บคุณภาพ) ถ้าทำเว็บปั่นก็หาสคริปแรกๆ ก็หาแบบที่พอหาง่ายๆมาใช้ก่อน เอ้าเอา WP-Robot นี้แหละหาง่ายดี

ที่เกรื่นมาทั้งหมดนี้มันก็ตัวผมคนหนึ่งนั้นแหละครับที่อยู่ในเคสนี้ และเพื่อนๆอีกหลายคนที่อยู่ในชะตากรรมเดียวกัน เมื่อสมัยก่อนมันก็ดีอย่างหนึ่งคือหาอะไรก็ยาก เทพก็มีน้อย ไม่พอยาไส้ ไม่ทราบว่าจะหันหน้าไปถามใคร เอ้าค้นหาเองลองเองนี่แหละดีที่สุด ถึงช้าแต่มั่นคง หนักแน่น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับทุกวันนี้สื่อด้านนี้มีมากมายเหลือเกิน เสพจนเลอ มีทั้งน้ำ ทั้งเนื้อ จนแยกไม่ถูกว่าอันไหนจริง อันไหนเท็จ เอ้ากลายเป็นข้อเสียไปเสียอีก เฮ้อ..ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้

เมื่อมาย้อนพิจารณาว่าขั้นตอนข้างต้นที่เกริ่นมานั้นมันถูกต้องหรือไม่ คำตอบคือ “ผิด” และผิดอย่างแรงเสียด้วย ผิดทั้งขั้นตอน และ ผิดทั้งวิธีคิด ผิดขั้นตอนคือ ข้ามการวิจัยตลาด ไปให้ความสำคัญ Keyword เสียก่อน ผิดที่สองคือวิธีคิด คือการที่เราไปนึกเอาสินค้าที่เราอยากขายเป็นตัวตั้ง โดยที่ไม่วิจัยตลาดให้ดี โอกาสสำเร็จยากกว่างมเข็มในบ่อน้ำ เปรียบเทียบก็เหมือนกับ เราต้องการจะไปขายของในตลาดสด เรารู้ว่าผัก ปลา เนื้อหมู ขายดี เราก็ตกลงขายพวกนี้แหละ พอเข้าไปขายจริงๆ เจอคู่แข่งที่เขี้ยวทั้งนั้น แต่ละเจ้ามีทั้งฐานลูกค้า แหล่งที่รับสินค้าที่ติดต่อกันมานาน รวมถึงกำลังการซื้อที่มีปริมาณมาก ต้นทุนก็ถูกกว่า ทำเลเค้าก็ดีกว่าเพราะอยู่มานาน ถ้าเทียบกับการทำเว็บก็คือ คู่แข่งทำมานาน มีอันดับที่ดีในผลการค้นหา มีค่า PR สูง ซึ่งเค้ามีความได้เปรียบเราแทบทุกประตู ทีนี้ย้อนกลับมาที่หนังชีวิตจริงอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าขาย ผัก ขายปลา ขายเนื้อ มันไม่เวิร์ก นักการตลาดที่ดี ก็ต้องสำเร็จตลาดหาช่องว่างของตลาด จนในที่สุดก็พบว่า หนังกบตากแห้งหาซื้อยากไม่มีคู่แข่ง หรือมีน้อยมาก ข้าวเกรียบงา ข้างโป่ง ไม่มีคู่แข่ง อย่างนี้เอามาขายได้สบาย

มีสุภาษิตหนึ่งที่กล่าวว่า “เป็นราชสีห์ในป่าเล็กๆ ยังดีกว่าเป็นสุนัขในเมืองใหญ่” พอนึกมองเห็นภาพสุนัขที่เดินก็ต้องระวัง เดินบนฟุตบาทก็เจอคนเบียด พอลงเดินข้างถนนก็เจอรถวิ่งจะเฉี่ยวเอา พอเข้าซอยก็เจอ สุนัขเจ้าถิ่นไล่กัด ภาพมันช่างเหมือนที่เราเลือกสินค้าผิด เลือกตลาดผิด ทำอะไรก็ยากไปหมด

ดังนั้นการที่จะทำ Affiliate Marketing ให้ประสบความสำเร็จเราต้องฝึกวิธีคิด ให้หลักแหลม คิดให้รอบคอบ ในขณะคิดงาน อย่ายืนบนความโลภ อย่าคิดถึงตัวเลขรายได้ ให้คิดแค่ว่า มันมีโอกาสขายได้หรือไม่ก็พอ นอกเรื่องมาเสียนาน คราวนี้มาเข้าสู่เนื้อหาจริงๆ กันดีกว่า
Affiliate Marketing คืออะไร?

ยังไม่จบครับ ยังมีต่อไปอีก ในเนื้อหาเรื่อง Affiliate Marketing ที่เข็มข้นมากกว่านี้ โปรดรอติดตามครับ…
   

[TummZ]

Niche โดยความหมายก็คือ จำเพาะเจาะจง อธิบายความง่ายๆ เช่น
TV สินค้าตัวนี้โดยธรรมชาติตัวมันเองไม่สามารถเป็นเป็น Niche Market ได้
เพราะ TV เป็นที่นิยมของคนทุกกลุ่ม เด็กก็ชอบ ผู้ชายก็ชอบ ผู้หญิงก็ชอบ คนแก่ก็ชอบ
ถ้าจะต้องการให้ TV เป็น Niche Market ก็ต้องไปเจาะเน้นถึงลักษณะของตัว TV เอง
เช่น เจาะไปที่ลักษณะการใช้งาน หรือ ขนาด ก็จะทำให้มันเป็น Niche Market ได้

ตัวอย่างสินค้าที่ Niche Market ที่เห็นได้ชัดเจนเช่น สินค้าสำหรับคนพิการ
สินค้าสำหรับคนชราโดยเฉพาะ สินค้าหรับคนป่วย หรือสินค้าสำหรับคนถนัดซ้าย
อย่างที่ยกตัวอย่างมานี้ Niche Market แน่นอนครับ

พยายามมองภาพให้ดีนะครับอย่าสับสนเพราะตรงนี้เป็นหัวใจสำหรับในการทำ Affilite Marketing
มันมาก่อนคีย์เวิร์ดซะอีกครับ ลงอ่านบทความที่ผมเขียนไม่จบนี้ดูเล่นๆ นะครับ โชคดีทุกท่านครับ
==================================================

ทุกท่านที่ผ่านประสบการณ์ตรงนี้มาแล้วคงจำความรู้สึกตอนที่เข้าสู่วงการ เริ่มต้นเข้าสู่วงการ Affiliate Marketing ใหม่ๆ ตอนนั้นสับสนไปหมด เรื่มจาก มีคำถามว่า มันได้เงินจริงหรือ ,มันจะยากไหม ,เอาอะไรมาขายดี และอีกสารพัดคำถาม จากนั้นก็เริ่มค้นคว้าหาข้อมูล โดยเข้าบอร์ดนี้ ไป บอร์ดนั้น อ่านทุกกระทู้ ทุกบทความ ที่สนใจ อ่านจนสับสน ยิ่งอ่านก็ยิ่งงง จนในที่สุดก็มาลงมติ การหา Keyword (คำที่ใช้ค้นหาผ่าน Search Engine) คือด่านแรกที่ต้องทำ

เมื่อมาถึงตรงนี้และเริ่มลุยการหา Keyword แบบเอาเป็นเอาตาย หลังจากที่งมอยู่นาน ก็หา Keyword เป็น (แต่ดีหรือไม่ นั้นเป็นอีกเรื่อง) คราวนี้ก็มาถึงเกิดความมั่นใจในระดับหนึ่งที่พร้อมจะลงมือลุย ก็จัดการค้นหาหมวดสินค้าขายดีมา คัดเอาที่มี Rating สูงๆ มีคนซื้อเยอะๆ ยิ่งเป็นสินค้าที่ดังๆ ยอดนิยม ยิ่งชอบ

เมื่อได้สินค้ามาแล้ว ก็ลงมือหา Keyword ตามทีฝึกมาได้ Keywords มาจำนวนหนึ่ง โอเค คราวนี้ก็ นึกว่าจะทำแบบไหนดี ฟังเค้าว่ามา ถ้าทำเว็บคุณภาพก็ทำมือ (ทำมือไม่ใช่ว่าจะคือคุณภาพ ถ้าไม่เข้าใจวิธีทำเว็บคุณภาพ) ถ้าทำเว็บปั่นก็หาสคริปแรกๆ ก็หาแบบที่พอหาง่ายๆมาใช้ก่อน เอ้าเอา WP-Robot นี้แหละหาง่ายดี

ที่เกรื่นมาทั้งหมดนี้มันก็ตัวผมคนหนึ่งนั้นแหละครับที่อยู่ในเคสนี้ และเพื่อนๆอีกหลายคนที่อยู่ในชะตากรรมเดียวกัน เมื่อสมัยก่อนมันก็ดีอย่างหนึ่งคือหาอะไรก็ยาก เทพก็มีน้อย ไม่พอยาไส้ ไม่ทราบว่าจะหันหน้าไปถามใคร เอ้าค้นหาเองลองเองนี่แหละดีที่สุด ถึงช้าแต่มั่นคง หนักแน่น แต่เมื่อเปรียบเทียบกับทุกวันนี้สื่อด้านนี้มีมากมายเหลือเกิน เสพจนเลอ มีทั้งน้ำ ทั้งเนื้อ จนแยกไม่ถูกว่าอันไหนจริง อันไหนเท็จ เอ้ากลายเป็นข้อเสียไปเสียอีก เฮ้อ..ทำไมมันยุ่งยากอย่างนี้

เมื่อมาย้อนพิจารณาว่าขั้นตอนข้างต้นที่เกริ่นมานั้นมันถูกต้องหรือไม่ คำตอบคือ “ผิด” และผิดอย่างแรงเสียด้วย ผิดทั้งขั้นตอน และ ผิดทั้งวิธีคิด ผิดขั้นตอนคือ ข้ามการวิจัยตลาด ไปให้ความสำคัญ Keyword เสียก่อน ผิดที่สองคือวิธีคิด คือการที่เราไปนึกเอาสินค้าที่เราอยากขายเป็นตัวตั้ง โดยที่ไม่วิจัยตลาดให้ดี โอกาสสำเร็จยากกว่างมเข็มในบ่อน้ำ เปรียบเทียบก็เหมือนกับ เราต้องการจะไปขายของในตลาดสด เรารู้ว่าผัก ปลา เนื้อหมู ขายดี เราก็ตกลงขายพวกนี้แหละ พอเข้าไปขายจริงๆ เจอคู่แข่งที่เขี้ยวทั้งนั้น แต่ละเจ้ามีทั้งฐานลูกค้า แหล่งที่รับสินค้าที่ติดต่อกันมานาน รวมถึงกำลังการซื้อที่มีปริมาณมาก ต้นทุนก็ถูกกว่า ทำเลเค้าก็ดีกว่าเพราะอยู่มานาน ถ้าเทียบกับการทำเว็บก็คือ คู่แข่งทำมานาน มีอันดับที่ดีในผลการค้นหา มีค่า PR สูง ซึ่งเค้ามีความได้เปรียบเราแทบทุกประตู ทีนี้ย้อนกลับมาที่หนังชีวิตจริงอีกครั้ง เมื่อรู้ว่าขาย ผัก ขายปลา ขายเนื้อ มันไม่เวิร์ก นักการตลาดที่ดี ก็ต้องสำเร็จตลาดหาช่องว่างของตลาด จนในที่สุดก็พบว่า หนังกบตากแห้งหาซื้อยากไม่มีคู่แข่ง หรือมีน้อยมาก ข้าวเกรียบงา ข้างโป่ง ไม่มีคู่แข่ง อย่างนี้เอามาขายได้สบาย

มีสุภาษิตหนึ่งที่กล่าวว่า “เป็นราชสีห์ในป่าเล็กๆ ยังดีกว่าเป็นสุนัขในเมืองใหญ่” พอนึกมองเห็นภาพสุนัขที่เดินก็ต้องระวัง เดินบนฟุตบาทก็เจอคนเบียด พอลงเดินข้างถนนก็เจอรถวิ่งจะเฉี่ยวเอา พอเข้าซอยก็เจอ สุนัขเจ้าถิ่นไล่กัด ภาพมันช่างเหมือนที่เราเลือกสินค้าผิด เลือกตลาดผิด ทำอะไรก็ยากไปหมด

ดังนั้นการที่จะทำ Affiliate Marketing ให้ประสบความสำเร็จเราต้องฝึกวิธีคิด ให้หลักแหลม คิดให้รอบคอบ ในขณะคิดงาน อย่ายืนบนความโลภ อย่าคิดถึงตัวเลขรายได้ ให้คิดแค่ว่า มันมีโอกาสขายได้หรือไม่ก็พอ นอกเรื่องมาเสียนาน คราวนี้มาเข้าสู่เนื้อหาจริงๆ กันดีกว่า
Affiliate Marketing คืออะไร?

ยังไม่จบครับ ยังมีต่อไปอีก ในเนื้อหาเรื่อง Affiliate Marketing ที่เข็มข้นมากกว่านี้ โปรดรอติดตามครับ…
   

ติดตาม
ขอบคุณครับ
 

[AM-PM]

อ่านแต่ท่อนบนก็ชอบแล้วปู่เสื่อรอละกัน
 

[placarp]

มาเก็บความรู้ครับ กำลังฝึก Amazon..

[krite2010]

รอครับ เป็นคำตอบที่ดีมากๆ พูดง่ายๆ คือ เริ่มจากการวิจัย ตลาด ที่ลูกค้าต้องการจริง ๆ ใช่ไหมครับ แล้วงานวิจัยตลาดนี้ หาได้จากที่ไหนละครับ ใช่ Amazon bestseller หรือ gift center ครับ หรือ ebay plus หรือมีที่ไหนที่ดีกว่า ที่ครอบคลุมในเอเชียได้ด้วย เช่น ไทย ออสเตรเลีย ครับ แนะนำด้วย ขอบคุณครับ

[ADS2009]

จะหา Niche Market จากไหน? ไม่ยากครับ ท่านต้องโฟกัสกลุ่มเป้าหมายก่อนนะครับว่าคุณทำอเมซอนกับประเทศอะไร?
อย่าไปมองกว้างซิครับ เมื่อโฟกัสกลุ่มเป้าหมายลงมาแคบแล้ว มันก็ Niche ไประดับหนึ่งแล้ว ที่เหลือก็ใช้เครื่องมือที่มีหลากหลาย
เช่น Google Trends ,Google insights ,Google Adwords ,Amazon แค่นี้ก็เหลือแล้วครับ ให้ยึกประเทศเป้าหมายเป็นหลักนะครับ
พยายามสร้างวิธีคิดที่เป็นขั้นตอนนะครับ จะทำให้ภาพของระบบงานชัดเจนนะครับ

[mksuky]

ขอบคุณครับ แนวคิดดีมาก ที่เหลือต่อยอด 

[krite2010]

สมมตินะครับ ถ้าเป็น UK แล้ว นั้น ผมก็ใช้ Amazon.uk มาหาพวก bestseller หรือ Most Gifted แล้วค่อยหา google trend หรือ google inside for search ใช่ไหมครับ ขอบคุณ  แต่เป็นไปได้หรือไม่ ถ้าเราจะเอา uk กับ ไทย เราจะวิเคราะห์อย่างไร แนะนำด้วยครับ ขอบคุณ

[codecin]

“เป็นราชสีห์ในป่าเล็กๆ ยังดีกว่าเป็นสุนัขในเมืองใหญ่” ชอบคำนี้มากๆเลยครับ

[ADS2009]

สมมตินะครับ ถ้าเป็น UK แล้ว นั้น ผมก็ใช้ Amazon.uk มาหาพวก bestseller หรือ Most Gifted แล้วค่อยหา google trend หรือ google inside for search ใช่ไหมครับ ขอบคุณ  แต่เป็นไปได้หรือไม่ ถ้าเราจะเอา uk กับ ไทย เราจะวิเคราะห์อย่างไร แนะนำด้วยครับ ขอบคุณ

วิธีคิดในเรื่องของการหาสินค้า การหา ตลาด การหาคีย์เวิร์ด ไม่จำเป็นต้องใชสูตรตายตัว สามารถคิดนอกกรอบได้ ขอเพียงยืนอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง ไม่มั่ว เป็นใช้ได้ครับ

หาสินค้า -> หาคีย์เวิร์ด -> วิเคราะห์รายละเอียดจากเครื่องมือที่กล่าวมาข้างต้น ->Niche Keywords

หรือ

หาคีย์เวิร์ดจากเครื่องมือที่กล่าวมาข้างต้น -> นำเอาคีย์เวิร์ดมาหาสินค้า -> วิเคราะห์รายละเอียดจากเครื่องมือที่กล่าวมาข้างต้น ->Niche Keywords

จะหาสินค้าจาก bestseller หรือ Most Gifted หรือจากที่อื่นๆ ก็ได้ ไม่มีความจำเป็นต้องยึด bestseller หรือ Most Gifted เสมอไป
อย่าลืมว่าคนส่วนใหญ่ก็ยึด bestseller หรือ Most Gifted แล้วมันจะเพิ่มคู่ต่อสู้ไปในตัวนะครับ
คิดนอกกรอบ เพื่อสร้างโอกาสให้กับตัวเอง เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะกำหนดตลาดเป็นของตัวเองได้ครับ