ต่อไป »

[babymild]

ตอนที่ 5 เพิ่ม Adsense CTR และราคาต่อคลิกให้ดีขึ้น

ในบทนี้ผมจะกล่าวถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้มี CTR ที่สูงขึ้นและราคาต่อคลิกที่มากขึ้นครับ

และนี่คือสิ่งที่ผมค้นพบในการทำธุรกิจ Adsense ในหลายปีที่ผ่านมา (ไม่เรียงลำดับนะครับ)

เพื่อนๆ ควรจะมี ads เพียง 3-4 อันไม่เกินนั้น (ไม่ใช่ ad block นะครับหมายถึงอาจจะ ad เดียว แต่ต้องมีโฆษณาขึ้นไม่เกิน 3-4 เว็บพอ)
ถ้ายิ่งมี ads แสดงบนเว็บน้อยเท่าไหร่ ราคาเฉลี่ยต่อคลิกก็จะดีขึ้นเท่านั้น

ถ้าเพื่อนๆ วาง ads บนเว็บมากขึ้น พวกเขาจะแสดง ads ที่มีอันดับต่ำ ๆ ใน Adwords ให้มาแสดงบนเว็บเรา(และราคาถูกกว่า)
เพื่อน ๆ คงไม่อยากให้คนที่มาคลิก ads ที่จ่ายแค่ $0.05 หรอกใช่ไหมครับ แต่เพื่อน ๆ คงต้องการได้ ads ที่มีราคา $0.50
Adwords นั้นยิ่งอันดับสูงยิ่งจ่ายแพงมากครับ แต่พอผ่านไปสักพักมันจะทำการ normalize ตัวมันเองและเราก็จะไม่ได้ค่าคลิกแพงมากไป

และขอให้จำไว้ด้วยว่า ยิ่งมีทางเลือกมากก็ยิ่งทำให้คนสับสน ดังนั้นมี link ให้กดบนเว็บเราน้อย ๆ ครับ

อย่าลืมสร้าง channels ที่จะ track ads ของเพื่อน ๆ ด้วยนะครับ ซึ่งเพื่อน ๆสามารถตั้งค่า new channel ได้โดยคลิกไปที่

Adsense setup -> Channels-> Add new custom channels

ตั้งชื่อให้สื่อความหมายนะครับ จะได้รู้ว่ากำลัง track ตัวไหนอยู่ และจะได้ไม่สับสน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนๆ มีหน้าเว็บเกี่ยวกับ golf clubs และกำลัง
ทดสอบ 250x250 square บนมุมซ้ายบนของจอ ก็ให้ตั้งชื่อประมาณว่า golfclub250x250left

และเช่นกันครับ ดูให้แน่ใจว่าไม่ได้ใช้ channel เดียวกับที่ใช้กับตลาดอื่นๆ ซึ่งผมพบว่าบางทีมันจะทำให้ระบบสับสนได้ และจะทำให้เว็บของเพื่อน ๆ แสดง ads สำหรับ
ตลาดอื่น

อย่าลืมใช้ "alternative URL" เมื่อติด ads แล้วนะครับ เพื่อนๆ อาจจะเห็น ads เป็นปกติ แต่คนอื่นที่มี firewall กั้นโหด ๆ แล้วละก็
พวกเขาอาจจะไม่สามารถมองเห็น ads ที่เราติดได้ เพื่อนๆ สามารถตั้งค่า alternative URL เมื่อเพื่อน ๆ ทำการสร้าง ads เพื่อนๆ สามารถใส่ประมาณว่า:
http://www.yoursite.com/Subdirectory/alternative.html

แล้วก็ใส่บางอย่างที่มันควรจะมี บางทีอาจจะเป็น link ไปยัง aff ของเพื่อนๆ ก็ได้ครับ

เอาละบอกได้ว่า alternative URL ที่เพื่อน ๆ ตั้งค่า สมมติว่าเป็น alternative.html หลักจากหลายวันหรือสัปดาห์ผ่านไปนะครับ
ตรวจดู server log และดูว่าหน้านี้ถูกเรียกดูกี่ครั้ง ซึ่งหมายความถึงจำนวนครั้งที่ Adsense ของเพื่อน ๆ ไม่ได้แสดง

ถ้าเพื่อนๆ ได้ 1000 คลิกจาก Adwors และได้ IMP แค่ 900 นั่นยังถือว่าใช้ได้อยู่ แต่ถ้าเพื่อนๆ มี IMP
แค่ 200 และ  800 คนได้ถูกส่งไปยังalternative ad แสดงว่ามันมีปัญหาเกี่ยวกับตลาดที่เพื่อนๆ  ทำแล้วละครับ
(หรือเว็บของเพื่อน ๆ อาจจะมีปัญหา) ไม่ว่าจะกรณีใด ๆ ก็ตาม alternative ads จะช่วยให้เรารู้ได้ครับ

เว็บมาสเตอร์หลาย ๆ คนชอบ ads แบบ rectangle ครับ ทำไมล่ะ? ก็เพราะมันได้ผลดีน่ะสิ มันมี CTR ที่ดี อย่างไรก็ตาม ผมไม่แน่ใจว่าคนส่วนใหญ่จะtracked ผลงานของ ads ของพวกเขาหรือเปล่า
ตลาดที่ต่างกันสามารถตอบสนองต่างกันได้ "แต่" ยังมีบางอย่างที่ต้องลองมาคิดกันดู

250x250 square นั้นดูแทบจะเหมือนกัน big rectangle มี ad เรียงต่อกัน แต่มันมีแค่ 3 ads
แทนที่จะเป็น 4 หมายความว่าไงล่ะ? มันหมายความว่าเพื่อนๆ ได้ให้ตัวเลือกกับคนเข้าเว็บน้อยลง(แต่ไม่น้อยเกินไป) และพวกเขาอาจจะตัดสินใจคลิกได้ง่ายขึ้น ไม่เพียงแค่นั้นแต่เพื่อน ๆยังได้ตัดทิ้ง ad ลำดับที่ 4
อันที่ควรจะ โดยเฉลี่ยแล้ว จ่ายน้อยที่สุดจาก 4อัน

เราสามารถทำมากกว่านั้นอีกได้มั้ย? ทำได้ครับ เราสามารถสร้าง ad block ที่เหมือนกับ square
แต่มี ads แค่ 2 อันครับ เพียงแค่สร้าง 234x60 half banner และวางต่อกันเลย
ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็จะได้ "mini rectangle" พร้อมกับ ads สองอันเท่านั้น ในหลาย ๆ ตลาดแล้ว
การมี ads เพียงสองอันนั้น เป็นจุดสนใจที่ดี ไม่เพียงแต่จะดีกว่าในเรื่อง CTR แล้ว ราคาต่อคลิกก็ยังดีอีกด้วย

แล้วอะไรจะเกิดขึ้นถ้าเรามี ads แค่อันเดียวล่ะ?
แบบนี้จะทำให้เพื่อน ๆได้ ราคาต่อคลิกสูงสุด แต่ ad เพียงอันเดียวนั้นไม่ค่อยจะให้ทางเลือกกับคนเข้าเว็บเลย
ถ้ามันไม่ดึงดูดใจมากพอ พวกเขาก็จะไม่คลิกมัน ผมจะมีอย่างน้อย 2 ads บนหน้าเว็บของผมเสมอ

Note: ถ้าเพื่อนๆ ใช้ trick ที่ใช้ half banner สองอันแล้วล่ะก็ จงแน่ใจว่าได้ใช้ channel ต่างกัน ผมพบว่าถ้าผมใช้ channel ชื่อเดียวกัน ad แบบเดียวกันจะแสดงสองครั้งบนหน้าเว็บ!
จงใช้ชื่อ channel คนละอันกัน และมันยังจะทำให้ track ง่ายขึ้นอีกด้วย

ใช้ font บนหน้าเว็บแบบเดียวกันกับที่ Adsense ใช้ ไม่ใช่ทุกขนาดจะใช้ font แบบเดียวกัน ดังนั้นเพื่อน ๆ ต้องเล่นบทนักสืบกันหน่อย

ถ้าเพื่อนๆใช้ Firefox คลิกขวาที่ ad เลือก this frame จากนั้น view frame

ถ้าเพื่อนๆใช้ IE คลิกขวาที่ ad และเลือก View Source

ยกตัวอย่าง นี่คือ font ที่ใช้ใน large rectangle:
Title:
font-size: 11px; font-family: arial, sans-serif;
 
Text:
font-size: 10px; font-family: arial, sans-serif;

ถ้าเพื่อนๆ ได้ทำ Adsense มาระยะหนึ่งแล้ว จากนั้นเพื่อนๆ ได้ยินว่าสามารถวางรูปภาพ
ไว้ใกล้ ads เพื่อดึงความสนใจ ขอบอกไว้ว่าการวาง graphic ใกล้กับ ads เพื่อเพิ่ม CTR นั้น GG ไม่ปลื้ม

แล้วยังจะสามารถทำได้หรือเปล่า? ได้ครับ แล้วมีหลายคนที่ทำแบบนั้นมั้ย? มีครับ และตำรวจตรวจ Adsense จะจับเพื่อน ๆ หรือเปล่า? อาจจะ แต่พวกเขามักจะส่งจดหมายมาเตือนให้เอา graphics ออก  

ใช้รูปนั้นไม่อนุญาต แต่ผมสามารถบอกเพื่อนๆ เป็นการส่วนตัว ได้ว่า GG ไม่ค่อยจะเคร่งกับกฎระเบียบมากนักหรอก กฎหลายๆ ข้อของพวกเขาค่อนข้างกำกวมไม่ชัดเจนทำให้พวกเขามีความยืดหยุ่นที่จะพัฒนาระบบของ GG ต่อไป

บางอย่างที่ได้ถูกพูดถึงใน forums และ Adsense guide มาช้านานก็คือ สีที่เหมาะที่สุดสำหรับ Adsense ads ซึ่งทางที่ดีที่สุดของเพื่อนๆ นั้นคือทำ backgroud color และ border
ให้มีสีเดียวกับ background ของหน้าเว็บ (ทำ ads ให้กลมกลืน) จะทำให้มันดูเหมือน
ads น้อยลงมาก และ link ควรจะเป็นสีน้ำเงินหรือฟ้า เพราะคนท่องเว็บส่วนมากมักจะคลิก link สีฟ้า

แต่นั่นแหละที่มันน่าสนใจ

บางที เพื่อนๆ อาจจะ "ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า" โดยการทำอะไรแปลก ๆ เช่น ใช้สีแดงหรือสีดำใน links ของ ads อ่านบทต่อไปครับแล้วจะรู้ อิอิ

จบตอน 5
====================================
ตอนที่  6 Split Testing คือสิ่งที่จะสร้างรายได้ให้กับเรา

เพื่อนควรจะทำการ split test หน้าเว็บของเพื่อน ๆ เพื่อทำให้สามารถสร้างผลกำไรให้ได้มากขึ้นนะครับ
เพื่อนๆ  เพียงแค่ดูไปที่ตัวเลข ลบอันที่ทำกำไรน้อยกว่า และเก็บอันที่ทำผลกำไรไว้

"Split Testing นั้น คือสิ่งที่จะสร้างกำไรให้ แต่ไม่มีใครเลยที่จะทำมัน"

หยุดเดาว่าอันไหนจะได้ผลครับ แม้แต่นักการตลาดระดับ top ที่ใช้กาดคารเดาแล้ว ส่วนมากมักจะเดาผิด
เพื่อน ๆ จำเป็นต้องทำการ test ครับถึงจะรู้ได้ เพราะว่าคนเรานั้นมันคาดเดากันไม่ได้ (ใจคนยากหยั่งถึง)

การเพิ่มกำไรขึ้นเพียงแค่เล็กน้อก สามารถหมายถึงผลกำไรขนาดมหึมาที่จะเป็นรายได้กับเพื่อน ๆ ทุก ๆ เดือนได้ครับ
วิธีการนี้ในภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Kaizen ครับ การปรับปรุงพัฒนาทีละน้อย ๆ เพิ่มไปเรื่อย ๆ เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ
การทำไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด ตลอดเวลาสามารถนำไปสู่การเติบโตแบบ exponential
และทางที่ง่ายที่สุดคือกลายเป็นนัก tracker และ tester ทางด้านการเงินนั่นเอง !

ถ้าเพื่อน ๆ สามารถทำ conversion rate ที่สูงมากพอละก็ เพื่อน ๆ สามารถครอบครองจักรวาลนี้ได้เลยทีเดียว
เพื่อนๆ  สามารถจ่ายให้ ppc ได้มากขึ้น สามารถลงทุนทำ SEO ( ซื้อ link, tool, หรือไม่ก็แรงงาน)

หมายเหตุจากผู้แปล:
ในส่วนนี้ใน ebook นั้นใช้ aff link ไปยังโปรแกรมทำ split testing สองตัวครับ ไม่ได้บอกวิธีใช้ด้วย
ใครมีโปรแกรมตัวนี้ก็รบกวนช่วย ๆ แบ่งปันกันด้วยนะครับ ส่วนผมมะมี เหอ ๆ

โค๊ด:

http://www.splittestaccelerator.com/adoptimize.php
http://www.hypertracker.com/

และเพื่อน ๆ ก็ต้องไม่ลืมที่จะทดสอบทุกอย่างบน landing page เพื่อหาผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนๆ สามารถทดสอบ 250x250 square ด้วย link สีน้ำเงิน กับ สีแดง
โดยทำการสร้าง ads เหมือน ๆกันมาสองอัน แค่เปลี่ยนสี link ใส่ channel ที่ต่างกันเพื่อดูข้อแตกต่างว่าอันไหน CTR ดีกว่ากัน

หรือจะทดสอบระหว่า big rectangle กับ half banner ก็ได้ครับ อันไหนจะดีกว่ากัน การทดสอบเท่านั้นครับถึงจะบอกได้

เมื่อทำ split testing ธุรกิจของเพื่อนๆ จะดีขึ้นเรื่อยๆ จะทำให้เพื่อนๆ สร้างผลกำไรได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ตามการปรับปรุง
อย่าผิดหวังที่จะเสียเงินในตอนเริ่มต้นครับ อย่างที่พี่พรานบอก ตั้งใจไปเลยว่าจะเสียเงินทดลองสักเท่าไหร่ 50$ 100$ ใส่ไป
และเรียนรู้จากผลลัพธ์ที่ได้ ทำ split testing วิธีนี้จะทำให้เราได้เรียนรู้กับตลาดที่แท้จริงครับ


จบตอนที่ 6 ครับ ตอนหน้ามาว่ากันถึง Email marketing และจะทำอย่างไรที่จะเขียนข้อความโดน ๆ เพื่อทำเงินครับ

=======================================
ตอนที่ 6 Email Marketing

Email marketing นั้นเป็นหนึ่งในหลาย ๆ ทางง่าย ๆ ที่จะทำเงินบนอินเทอร์เน็ต
เพื่อน ๆ สามารถสร้างผลกำไรได้ง่าย ๆ เพียงแค่กดปุ่ม(ส่งอีเมล์) มีหนังสือมากมายที่พูดเกี่ยวกับ email marketing
แต่นี่คือสิ่งที่ผมได้พบในหลายปีที่ผ่านมา

อย่างแรกเลย คือต้องมีการทำ follow up (การส่งเมล์เพื่อตามผล, ส่งสินค้าตัวใหม่ ๆ ไปให้คนที่ลงชื่อไว้ดู, พูดคุย และอื่น ๆ)
แม้ว่าเพื่อน ๆ จะมีอัตราการลงชื่อสมัคร optin เพียง 10% เพื่อนๆ ก็ยังคงจะสามารถทำเงินมาได้เป็นกอบเป็นกำด้วยการส่ง offer ใหม่ ๆ ไปตลอด

การทำ Follow up อาจทำให้คนที่เข้าเว็บไซต์กลับมายังเว็บของเพื่อนๆ อีก จากข้อเสนอใหม่ ๆ ที่ส่งไปทางอีเมล์
ซึ่งงานพวกนี้เพื่อนๆ สามารถใช้ autoresponder ส่งอัตโนมัติโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย
แม้ว่าคนที่กลับเข้ามาอีกครั้ง (จากอีเมล์) จะไม่ได้ซื้อสินค้าทันทีเลย บางทีเขาก็อาจจะซื้อในอีกหลายวันให้หลังเมื่อเพื่อนๆ  ส่งเมล์ไปเตือนอีกครั้ง
 หรือไม่ก็ซื้อสินค้าอื่นจากการแนะนำครั้งใหม่ก็ได้

เอาละ ดังนั้นเราจะทำ email follow up ได้ยังไงล่ะ?

พ่อค้าหัวใสบางคนก็ทำบทความสำเร็จรูป ทำ link ใส่ aff id ลงไปอัตโนมัติ เพื่อนๆ แค่ส่งอีเมล์สั้น ๆ ไปยังบรรดา subscriber
ด้วย link นั้น ๆ เพื่อนๆ ก็จะได้รับค่า commission เมื่อมีคนซื้อสินค้าที่คลิกตาม link นั้นไป
บางทีพวกพ่อค้าที่ทำของแบบนี้ขายก็ไม่ได้มีบทความเกี่ยวกับสินค้าให้ ลองไปดูตามเว็บของ affiliate ดูว่ามีเนื้อหาอะไรไหม จากนั้นก็ยืมมาใส่
ให้สิ่งที่มีค่ากับผู้เยี่ยมชมจากนั้นก็ link ไปยังแหล่งที่มา (พร้อม aff-id)

มันไม่ใช่ว่าเพื่อน ๆ พูดกับ visitor แล้วบอกว่า "เอาเงินมาให้ผม" มันจะใช้ได้ก็ต่อเมื่อเพื่อนๆ ได้สร้างคุณค่าในอดีตมามากมายพอ
แต่ในกรณีแบบนี้ เพื่อนๆ กำลังจะต้องเจอกับคนแปลกหน้า ต้องใจป้ำหน่อยครับ แล้วก็ให้ความรู้ให้คุณค่ากับผู้เยี่ยมชม แล้วเพื่อน ๆ จะได้รับรางวัล

สิ่งนี้เป็นทริคดี ๆ เพื่อจะได้ไอเดียในการทำ followup: ถ้าเพื่อนๆ  ทำ aff program ให้กับสินค้าใดสอันหนึ่ง
ลงค้นหาสินค้านั้นใน Google มองหาคนทำ aff ตัวเดียวกันนี้ ลงชื่อรับ email จากเขา แล้วดูว่าเขาเขียนอะไรมาบนอีเมล์บ้าง
จากนั้นก็"ยืม" ระบบที่เขาทำและไอเดียมาดู เพื่อนๆ ควรให้คนอื่น และระบบทำงานหนักให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

จงใช้ความเป็นตัวของตัวเอง เพราะว่าจะทำให้เพื่อนๆ ได้รับการจดจำ ได้รับการชมชอบ และทำกำไรได้ อย่ารุนแรงมากเกินไปนัก
แต่ทำให้เหมือนคนธรรมดา ทุก ๆ คนนั้นเบื่อกับการที่ต้องสื่อสารกับบอท มันไม่ใช่การส่ง traffic ที่ถูกต้อง
จำไว้ว่าคนจริง ๆ กำลังอ่านอีเมล์ที่เพื่อน ๆ ส่งไป ดังนั้นสร้างอีเมล์ของเพื่อนๆ สำหรับคนจริง ๆ

ใช้ชื่อที่จดจำได้ง่ายที่เกี่ยวข้องกับตลาด ยกตัวอย่างเช่น "The Fat Exterminator" ถ้าเพื่อนๆ ต้องการเจาะตลาดลดน้ำหนัก

ใช้ไอเดียที่ได้จาก follow-ups ของคู่แข่ง อะไรที่พวกเขาส่งไป? อะไรที่พวกเขาทำการ promote? พวกเขาพูดว่าอะไร? ส่ง tips,
แนะนำสินค้าอะไร, วิดีโอ, testimonials, update, บทความ และอื่นๆ
จงให้ความรู้และให้คุณค่าเสมอ แต่อย่ากลัวที่จะผลักดันให้พวกเขาซื้อด้วยเช่น เพราะนั้นเป็นสิ่งที่รายชื่ออีเมล์ของเพื่อนๆ มีไว้นั่นเอง

และนี่คือเทคนิคเจ๋งๆ อันหนึ่ง: สมมติว่าเพื่อนๆ กำลังเสนอให้คนที่เข้ามาได้รับ free report เมื่อทำการ subscribe
เพื่อนๆ เพียงแค่บอกพวกเขาให้ทำการอ่านมัน ยกตัวอย่างเช่น

Day1: ให้พวกเขา download report ไป พวก free ebook ทั้งหลาย หรือของแถมทั้งปวง
Day2: ถามเกี่ยวกับความเห็น หรือไม่ก็สิ่งที่พวกเขาสงสัย
Day3: บอกให้พวกเขาลองอ่านบางส่วนของ ebook ที่แจกไป เช่น "Do you know what are the three foods
you can eat at night and not gain any weight? Open the special report and
read from the middle of page 11"
Day4-10: ทำซ้ำแบบเดียวกับวันที่ 3 ด้วยส่วนอื่น ๆ ของ ebook

และแน่นอน ถ้าเป็นไปได้ก็ให้สร้าง ebook ขึ้นมาอีกอัน เพื่อให้คนที่ลงชื่ออีเมล์ได้ลองอ่านซ้ำเรื่อยๆ

จงมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะทำให้คนที่อาจจะมาเป็นลูกค้ารู้สึกต้องการสินค้าที่เพื่อนๆ นำเสนอจริง ๆ หรือไม่พวกเขาก็จะต้องเสียโอกาส เสียประโยชน์
แล้วจะต้องมี autoresponder message ที่เพื่อนๆ จะมีสักกี่กรณีกันล่ะ? 1? 2?
ถ้าเป็นสัก 300ล่ะ?
เป็นความรับผิดชอบของคนทำ aff ที่จะหาผู้คนที่ต้องการสินค้าเหล่านี้ ลองถามตัวเองอยู่เสมอว่า "อะไรคือปัญหาที่พวกเขาจะเจอ ถ้าไม่ซื้อสินค้าของเรา?"

ลองไปสมัคร optin ของพวก marketer ดัง ๆ อย่างเช่น Mat Furrey, John Alanis, Alex Mandossian,
David De Angelo และคนอื่น ๆ นำเอาอีเมล์ที่ได้มาจากคนเหล่านี้มาดูไอเดียและลองสร้างของตัวเองครับ

ยิ่งเพื่อนๆ พบปัญหาในตลาดที่จะทำเร็วเท่าไหร่ จะทำให้เพื่อนๆ เข้าใจตลาด และสามารถสร้างสินค้าสำหรับตลาดนั้นได้เลย
ถาม feedback ทุกครั้งที่มีโอหาส เพื่อนๆ ต้องเก็บเกี่ยวความรู้จากตลาด และดูว่าอะไรที่คนอื่น ๆ ต้องการ จะทำให้เพื่อนๆ สามารถขายได้
ถามคนที่ทำการ subscribe ว่าปัญหาใหญ่ของพวกเขาคืออะไร ถามพวกเขาว่าสินค้าชนิดไหนที่จะซื้อ และให้ทางเลือกสินค้าพวกเขาหลาย ๆ ทาง เช่น

Weight loss through Yoga
Weight loss through Hypnosis
Weight loss for busy people

และอย่าลืมที่จะ track การตอบสนองที่ได้รับจากอีเมล์ด้วยนะครับ ว่ามีกี่คนที่เปิดอ่าน? กี่คนที่จะคลิกบน link ที่ส่งไป? กี่คนที่ซื้อสินค้า?

เพื่อนๆ อาจจะสามารถใช้วิธี presell สิ่งที่เป็นความต้องการของสินค้าเช่น แทนที่จะขายสินค้า nutritional supplement
(อาหารเสริม) เกี่ยวกับการย่อยอาหาร เพื่อน ๆก็ส่งข้อมูลที่เกี่ยวกับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารที่ไม่รู้ตัวว่าเป็นโรคนี้ เป็นต้น

อีกอย่างหนึ่งที่ใช้ได้ผลอย่างมากก็เช่น ส่งอีเมล์ไปบอกว่า ภายใน 3 วันนี้ถ้าซื้อจะได้ส่วนลดพิเศษ 40%  จากนั้นอีกสองวันถัดมาส่งไปบอกอีกฉบับว่า
วันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วที่จะได้ราคาลดสูงสุดถึง 40% แล้วก็ใส่ link ที่บอกว่าจะอยู่จนถึงวันนี้ (ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ มันอยู่ตลอดเวลา)
และอีเมล์นี้คืออันที่จะส่งคนที่ทำการ subscribe หน้าใหม่ ๆ จะเห็น link ส่วนลด ที่เพื่อน ๆ ส่งไป
ถ้าคิดว่าการทำแบบนี้มันไม่ค่อยดีแล้วล่ะก็ ลองเปลี่ยนความคิดดูใหม่ว่า คนที่อยู่ใน list ของเพื่อนๆ ได้รับส่วนลดพิเศษ บวกกับ ถ้าพวกเขาไม่ได้ต้องการ
สินค้าตัวนี้ ทำไมพวกเขาจะไม่ซื้อตั้งแต่ทีแรกล่ะ บวกด้วยเพื่อน ๆจะได้สร้างรายได้เพิ่มอีก

มันเป็นงานของเพื่อนๆ ที่จะทำอะไรก็ได้ให้ได้เงินของคนที่เข้ามาในเว็บ ในขณะที่ขายสินค้าที่ให้ประโยชน์กับลูกค้าด้วย

พยายามส่งอะไรแปลก ๆ ใหม่ ๆ ไปให้ list ของเพื่อนๆ เช่น ebook สั้น ๆ ประมาณ 5 หน้า เพียงแต่ขอให้มัน unique
ไม่เช่นนั้นก็อาจจะเอาพวก ebook resale right ส่งไปให้ก็ได้

และนี่คือ tip บางอย่างที่เพื่อน ๆ สามารถใส่ไปใน mail เพื่อให้คนอ่านรู้สึกอยากติดตามต่อ เช่น

ที่ท้ายของ message เพื่อนๆ สามารถเพิ่ม PS ลงไปว่า "อีกสองสามวัน ผมจะบอกรายละเอียดเพิ่มเติม..." ซึ่งหลาย ๆ คนก็จะรอที่จะอ่าน
เมล์ฉบับต่อไป ทำให้พวกเขาอยากติดตามข้อความของเพื่อน ๆ

อีกสิ่งหนึ่งที่เพื่อนๆ  สามารถทำได้ก็คือ การส่งไปบอกว่าอีเมล์ฉบับ "เมื่อวาน" หรือฉบับก่อนหน้าที่ส่งไปเกี่ยวกับอะไร พยายามพูดถึงเรื่องที่คนรับสนใจ
จะทำให้เขารู้สึกว่าพลาดบางสิ่งบางอย่างไป แล้วก็กลับไปเปิดอ่าน

มี วันที่วันนี้อยู่ในข้อความ โปรแกรม autoresponder ดี ๆ สามารถใส่ today's date ลงไปใน email มันจะทำให้อีเมล์
ของเพื่อนๆ  ดู update และทันสมัยตลอดเวลา

ที่ท้ายของ message ลองพูดอะไรอย่างเช่น "Please forward this message to your friends
because thy will appreciate is :-) They can subscribe by visiting this URL"
เป็นการเพิ่ม list ของเพื่อนๆ ครับ

จงมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อ่าน บอกพวกเขาให้ส่งอีเมล์มาหาเพื่อนๆ เพื่อถามปัญหาที่ข้องใจ หรือไม่ก็บอกว่าคุณว่างเสมอที่จะให้ความช่วยเหลือ อย่างเช่น
"If you have any questions about this, feel free to rely to this email.
I will reply personally in less than 24 hours."

เริ่มต้นอีเมล์ของเพื่อนๆ ด้วยย่อหน้าที่น่าสนใจ และบอกพวกเขาว่าเพื่อน ๆ จะแสดงวิธีการทำสิ่งต่าง ๆ ให้ จงบอกประโยชน์ที่คนอ่านจะได้รับตั้งแต่ต้น

ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะเขียนว่า "Hi, John" เพื่อน ๆ อาจจะเขียนทำนองว่า "How To Lose 23 Pounds of Fat in
4 Weeks Only 5 Minutes Of Exercise a Day. Hi John"

พยายามใส่ link ไว้มากกว่าหนึ่งครั้งในอีเมล์ (สำหรับข้อเสนอสินค้าเดียวกัน) ถามคนอ่านให้ลองคลิกอ่านดูหลาย ๆ ครั้ง
จุดประสงค์ของอีเมล์ของเพื่อนๆ  คือให้คนอ่านทำการซื้อสินค้าจาก salesletter หรือ ข้อเสนอที่เพื่อนๆ  มีบนเว็บ

บางอย่างที่สร้างความน่าเชื่อถือ และดูเป็น community ลองเขียนบางอย่างเช่น "I received this question from
Mike from California." จากนั้น เพื่อนๆ ก็ตอบคำถามลงในอีเมล์

เอ่ยถึง aff program ใน follow up อีเมล์ที่เพื่อน ๆส่งไป บอกคนรับเกี่ยวกับความคิดดี ๆ ที่คนจะได้ประโยชน์ และนำมาเชื่อมโยงกับสินค้า
ที่เพื่อนๆ จะขาย เช่น ถ้าเพื่อนๆ กำลัง promote ตัว heart rate monitor (วัดชีพจรหัวใจ) บอกพวกเขาว่า
จะสามารถเผาผลาญไขมันได้เป็นสองเท่าถ้าออกกำลังกายให้ชีพจรเต้นที่เท่าไหร่ และบอกว่าพวกเขาอาจจะต้องการไอ้ตัวเครื่องนี้เพราะการนั้นเป็นต้น

(ขำ ๆ)
เวลาเริ่มต้นข้อความ ลองเขียนอะไรแบบนี้ดูบ้าง
"Hi Mike, I have been busy as a bee.
My wife just gave birth to my second child! Anyway, I just wanted to tell
you about..."

นี่เป็นโปรแกรม autoresponder ที่ใน ebook แนะนำครับ
http://www.autoresponseplus.com/

ผมหวังว่า tips เรื่อง email marketing บทนี้จะให้เพื่อนๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้บ้างนะครับ
สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะเน้นก็คือ ให้เริ่มเสียเดี๋ยวนี้ เพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องคิดว่าจะมีอีเมล์ 100 ฉบับเก็บไว้ก่อนค่อยเริ่มทำ
เพียงแค่มี idea สำหรับ 2-3 ฉบับแรก แล้วจากนั้นก็ค่อย ๆ เพิ่มไปเรื่อย ๆก็ได้

ตอนนี้คงยากสักหน่อยสำหรับเพื่อนๆ ที่ไม่คุ้นเคยกับ email marketing นะครับ
แต่เดี๋ยวตอนหน้ามากว่ากันถึง  Adsense Quality Score!

อะไรเป็นสาเหตุให้คนบางคนมีคลิกเยอะ แต่ได้เงินน้อยเหลือเกิน !

ทำไมบางคนแค่ปรับแต่บางอย่าง ก็ได้ค่าคลิกเพิ่มขึ้นมหาศาล !

ตอนหน้าพบกับ การเพิ่ม Adsense Quality Score ครับ