=======================================================
แปล Adsense Arbitrage Voodoo บทความของคุณ alcoholik ดีมากๆ ตอน1-2
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,27286.0.html 
แปล Adsense Arbitrage Voodoo บทความของคุณ alcoholik ดีมากๆ ตอน3-4
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,27287.0.html แปล Adsense Arbitrage Voodoo บทความของคุณ alcoholik ดีมากๆ ตอน5-7
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,27288.0.html แปล Adsense Arbitrage Voodoo บทความของคุณ alcoholik ดีมากๆ ตอน8-10
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,27289.0.html =======================================================
เครดิตของคุณ alcoholik แห่ง thaisem.com
------------------------------------------------------------------------------------------
ตอนที่ 3 จะเลือก keyword มาทำ Adsense อย่างไรดี
หมายเหตุจากผู้แปล การทำ adsense นั้น โฆษณาที่ขึ้นให้กดนั้นจะมีปัจจัยมาจากเนื้อหา และ keyword ที่เราใช้ทำหน้าเพจ ในบทนี้เราจะมาดูกันว่า
จะใช้ keyword และเนื้อหาในการทำ adsense อย่างไรให้ได้ราคาต่อคลิกสูง ๆ ครับ
อย่างแรกเลย เลิกคิดไปเลยว่า "ผมต้องการ keyword ที่จ่ายให้ $60 ต่อคลิก" อย่าโลภมากจนเกินไป ระบบที่จำเสนอให้เพื่อน ๆ ดูนี้ จะใช้งานได้แน่นอน
แม้ว่าจะไม่ต้องใช้ mega-paying keywords ก็ตาม (kw ราคาแพงสาาด)
NOTE: ในตอนหลัง ผมจะพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับการสร้างหน้า landing page สำหรับ หัวข้อเฉพาะที่เพื่อน ๆ เข้าไปทำ
ยกตัวอย่างเช่นหน้า landing page ของ "weight loss pills" ที่เราส่ง traffic เข้ามา ด้วย kw "weight loss pills" เป็นต้น
แต่สำหรับตอนนี้ ผมอยากให้เพื่อน ๆ ตั้งใจคิดถึงสิ่งที่จำเป็นเมื่อทำการวิจัย kw และทำการเลือกว่าเราจะใช้ kw ไหน
ดังนั้นตอนนี้จะขอยกตัวอย่าง kw "weight loss"
การหา kw ราคาดีในตลาดที่เราทำนั้น สมควรที่จะมาอยู่บนหน้าเว็บของพวกเรา คำที่แพงที่สุดอาจจะไม่เหมาะสำหรับเว็บของเราที่ทำ หรือ kw ที่ bid ไป
แต่เพื่อนๆ ก็ยังสามารถจะหาคำที่เหมาะสมและ จ่ายดี ๆ ได้อยู่ เราสามารถทำได้โดยใช้ tool เจ้าเก่าครับ
Google Adwords External Keywords Tool:
http://www.adwords.google.com/select/KeywordToolExternal ในเมื่อเราทำ Adsense Arbitrage เราจึงจะใช้ Google ในการหาค่า bid โดยประมาณ ไม่ใช้ของที่อื่น เพราะว่าราคาต่อคลิกนั้น
ต่างกันไประหว่าง Yahoo, msn adcenter
เลือก "Cost and ad position estimates" จากตัวเลือก drop down ติ๊ก Use synonyms ออกนะครับ
เลือก US Dollars แล้วใส่ตลาดที่เราจะทำ เช่น weight loss ลงไป และใส่ competitive bid ไว้ประมาณ $2 แล้วคลิก Get more keywords
รูปที่ 1
สิ่งที่ผมได้ค้นพบก็คือ Google นั้น ประเมินราคาต่อคลิก "ต่ำ" กว่ามาตรฐานในเครื่องมือนี้ ซึ่งสิ่งที่ GG ทำนั้นไม่มีใครเดาได้หรอก
บางทีพวกเขาอาจจะทำให้เรื่องต่าง ๆ มันดูสับสน ทำให้ใครก็เดาทางระบบไม่ถูก ตามความคิดของผมแล้วพวกเขาทำอย่างนี้เพื่อล่อให้คนลงโฆษณามากขึ้น
(คลิกถูก ก็กล้า bid มากขึ้น)
ผมยังคงค้นพบอีกว่า ถ้าเพื่อนๆ ลองใช้เครื่องมือตอนนี้ได้ผลอย่างหนึ่ง แล้วลองใหม่ สักหลายชมต่อมา หรือวันถัดมาจะได้ผลลัพธ์ต่างกัน
แต่เรามาดูกันว่าเราจะหาคำที่ทำกำไรได้อย่างไร
เมื่อโหลดเสร็จ คลิกที่ Estimated Ad Position link สักสองสามที ให้อันที่ราคาแพงสุดอยู่บน หลาย ๆ คนมักจะดูตรงคอลัมน์ CPC ซึ่งผมคิดว่า
นั่นเป็นข้อผิดพลาด เพราะว่าบางคนอาจจะมา bid ขู่ให้ดูสูง ๆ เพื่อโชว์ pow หรือไม่ก็ขู่ให้กลัวไม่กล้า bid ก็ได้
มาถึงคำถามที่ว่า แล้วคำไหนล่ะที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ?
มันมีโอหาสเหมือนกันที่ ad ที่แพงที่สุดจะแสดงบนเว็บของเพื่อนๆ แต่ไม่จำเป็นต้องรอหวยออกขนาดนั้นก็ได้ครับ
เพื่อนๆ จำเป็นต้องแน่ใจว่า ads ที่ขึ้นนั้นจ่ายราคาดีแม้ว่าบางอันที่แพงน้อยกว่าจะแสดงขึ้นบน web ของเพื่อน ๆ
รูปที่ 2
ในตัวอย่างด้านบน พวกเราคงเห็นได้ว่าคำที่แข่งขันสูงสุดย่อมจะเป็นคำว่า "lap band weight loss" (เป็นผ้าพันหน้าท้องเพื่อให้กินได้น้อย
เพราะท้องแน่นตึ้ย XD แต่ไม่ต้องสนใจหรอกว่ามันจะเป็นอะไร แต่มันราคาดีก็พอ) มันจะเป็นคำที่คนเข้ามาในเว็บเราจะยินดีคลิกมันหรือเปล่า
ผมจะไม่ไว้ใจมันหรอก
แล้วคำที่สองล่ะ? "weight loss surgeries" ถ้าคำที่แล้วไม่ทำให้คนเข้าปิดเว็บหนี อันนี้น่าจะไล่ไปได้
เพื่อน ๆ ต้องการแสดง ads เกี่ยวกับการผ่าตัดบนเว็บหรือเปล่า?
คำที่ผมคิดว่าเหมาะน่าจะเป็นคำที่ดูดี และน่าจะอยู่ในอันดับ 7-10 สำหรับ bid นั้น ๆ คราวนี้ลองลดราคา estimate เหลือครึ่งหนึ่งเพื่อดูว่าจะได้ผลยังไง
(หมายเหตุจากคนแปล: สาเหตุที่เราไม่เอา คำอันดับสูง ๆ เช่น 1-3 เพราะว่าหน้าเว็บของเราอาจจะไม่ดีพอ QS ไม่สูง ทำให้ไม่ได้ ads ลำดับดี ๆ)
ถ้าลองใส่ $1
รูปที่ 3
เอาล่ะ สองคำแรกที่ได้คือ "Hoodia weight loss" และ "hypnosis for weight loss"
Hoodia คือยาลดน้ำหนักที่ชื่อดังอย่างมากๆ
hypnosis (การสะกดจิต) นั้นก็เป็นอะไรที่หลาย ๆ คนสนใจ ไม่ใช่ทุกคนจะเชื่อ แต่ผู้คนมากมายนั้นมองหาวิธีง่าย ๆ (ฟัง tape ลดน้ำหนัก)
และแน่นอน คำแรก "hoodia weight loss" นั้นเป็นคำที่ฟังดูง่าย ๆ สำหรับคนขี้เกียจ (กินยาแล้วดูดีเหมือนนางแบบ)
คำเหล่านี้ดูดีกว่ามาก แต่ตำแหน่งนั้นอยู่ที่ประมาณ 4-6 ผมจะลองลด bid ลงเหลือ $0.80 และดูว่าอะไรเกิดขึ้น
รูปที่ 4
เยี่ยม! ทีนี้เราเจอคำที่เจ๋ง ๆ ล่ะ ( hoodia weight loss ที่อยู่ในผลลัพธ์ในผลลัพธ์ที่แล้ว) ที่ต้องการเพียง $0.70 เท่านั้นสำหรับคนลงโฆษณาเพื่อ
ที่จะอยู่อันดับ 7-10 เตือนเพื่อน ๆ อีกครั้งหนึ่งว่าเราอาจจะไม่ได้รับค่าต่อคลิกถึง $0.70 "แต่" จำได้ไหมว่า GG นั้นประเมิน bid price ต่ำกว่าปกติ
คำนี้อาจจะไม่ไช้ คำสูงค่านัก แต่ขนาดที่ $0.70 ยังอยู่อันดับ 7-10 ได้ ถ้าเราลองพยายาม optimise สำหรับคำนี้ดี ๆ แม้ว่าจะไม่ได้ ads ราคาแพงที่สุด
มาแสดง แต่เราก็ยังได้ราคาดีอยู่ดี
ถึงตอนนี้ "hoodia weight loss" คือ คำที่ผมจะเจาะไป(ให้ ads แสดง) เพื่อน ๆ นั้นคงจำ seed kw ได้ในบทที่แล้ว ก็ให้เพื่อนๆ ทำขั้นตอนเดียวกัน
เพื่อหาคำที่จะ target สำหรับคำอื่นๆ นะครับ
จบตอนที่ 3 ตอนหน้าจะมาว่ากันถึงเรื่องการ set up landing page นะครับ ตอนนี้ขอตัวไปทำของตัวเองมั่ง เหอ ๆ
=============================================================
ตอนที่ 4 การทำ Landing Pageผมจะไล่รายการที่เพื่อนๆ ต้องทำเกี่ยวกับการทำ landing page นะครับ (ไม่ตามลำดับ)
เพื่อน ๆ ควรจะทำหน้า landing page ที่สามารถ
- ทำเงินได้จาก Adsense
- ทำเงินได้จาก Affiliate program
- สามารถสร้าง list email ของตัวเองได้ (เพื่อทำ email marketing)
และนี่คือสิ่งที่ต้องจำเมื่อจะทำ landing page ครับ
เพื่อนๆ ควรจะดำเนินการสนทนา (ระหว่างหน้าเพจกับผู้เข้ามาชม) จาก ads ของเรา(จาก ppc) ที่มาถึงในเว็บเรา
แต่สิ่งนั้นก็ต้องเป็นสิ่งที่คนเข้ามากำลังหาด้วย ถ้าเป็นไปได้ต้องดูว่า ที่เขาเข้ามานั้น เขาจะหาอะไร? ทำไม? เขาจะมองหาอะไร? อะไรคือปัญหาของเขา?
Google นั้นต้องการให้เพื่อน ๆ มีเนื้อหาในหน้าเว็บด้วย แต่ใครละจะบอกได้ว่าเนื้อหาที่ดีมีคุณภาพคืออะไร? ผมจะบอกให้ว่าเนื้อหาคุณภาพคือสิ่งที่
จะสามารถสร้างเงินให้กับเพื่อน ๆ ได้ครับ ดังนั้นเนื้อหาในเว็บเราจะเป็นอะไรล่ะ? มันจะเป็นเนื้อหาสองสามย่อหน้าที่จะทำการ presell
affiliate program ของเพื่อนๆ นั่นเอง! โดยเฉพาะถ้าเพื่อน ๆ ได้เคยใช้สินค้า(หรือเคยอ่าน)ที่จะทำการ promote เราก็สามารถเขียนได้ตรงจุดมากขึ้น
เช่นว่า เราได้ประโยชน์อะไรจากมันได้มั่ง
การ promote สินค้านั้นควรเลือกสินค้าที่สามารถขายได้ ยกตัวอย่างเช่น ในตลาด weight loss เพื่อน ๆ ก็น่าจะสามารถขายยาลดน้ำหนักได้ดี
ในขณะที่ ebook เกี่ยวกับการลดน้ำหนักอาจจะไม่ใช่ทางที่ควรจะขายสักเท่าไหร่ ไม่เชื่อก็ลองใช้ keyword tool สักตัวลองเทียบปริมาณการค้นหา
ระหว่าง weight loss pills กับ weight loss ebook ดูก็ได้
ถ้าตลาดของเพื่อนๆ เกี่ยวกับพวก info product (ebook, script, softwares) เพื่อนๆ อาจจะต้องการ promote เกี่ยวกับ aff program ของสินค้า
ตัวนั้น ๆ ด้วย อย่างเช่นพวก membership site (สมัครสมาชิกเสียตัง) monthly services และอื่น ๆ
หมายเหตุจากผู้แปล เดี๋ยวนี้พวกเขียน ebook ขายมักจะไม่ขาย ebook อย่างเดียวแล้ว มักจะทำ membership site ไว้ให้สมัครเพื่อหาเงินอีกต่อ
คนเราเวลาจะหาสินค้าจำพวก info product พวกเขาก็จะเลือกวิธีดังต่อไปนี้
A) พวกเขาจะค้นหาบน affiliate network เช่นพวก Clickbank, CJ หรือไม่ก็ Linkshare
B) พวกเขาจะค้นหาบริษัทที่ตั้งขึ้นมาอิสระใน niche นั้น ๆ และพวกเขาก็จะสมัคร affiliate program (เพื่อรับส่วนลด)
ส่วนทางเลือกอื่นที่เพื่อนๆ อาจจะต้องมองหาคือการ promote สินค้า ที่ผมเรียกว่า network/company hybrid พวกนี้คือบริษัทใหญ่ ๆต่าง ๆ ที่
มีสินค้าในหลาย ๆ niche (ส่วนใหญ่เกี่ยวกับยา) และบริษัทเหล่านี้จะทำงานร่วมกัน ธรรมดาแล้วจะจ่ายค่า com ประมาณ 30-50% บวกด้วย 5-10%
ใน tier ที่สอง และนอกไปจากนั้นพวกเขามี salesletter ที่ดี มีเนื้อหาสำหรับ affiliate และพวกเขาจ่ายเงินตรงเวลา
ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องเยี่ยมเพราะเมื่อเพื่อนๆ ทำการ promote สินค้าของพวกเขาสักตัว และรู้ว่าพวกเขาจ่ายตรงเวลา เพื่อนๆ ก็รับประกันได้ว่าพวกเขาจะจ่าย
ให้เมื่อทำการ promote สินค้าตัวอื่นด้วย
นอกจากนี้เพื่อนๆ ยังจะได้เช็คใบเดียวกัน หรือ จ่ายผ่าน paypal ครั้งเดียวสำหรับทุก ๆ สินค้าจากบริษัทเดียวกันที่ทำการ promote ให้
ซึ่งมันจะช่วยให้เราทำการ focus ได้ง่าย
เพื่อน ๆ ยังจะประหยัดเวลาอีกด้วย แทนที่จะค้นหา niche ตลาดต่อไป เพียงแค่เลือก program อันอื่น ๆ ของบริษัทนี้มา promote ก็พอ
ซึ่งบริษัทเหล่านี้เนี่ยย่อมจะสร้างสินค้าขึ้นมาก็เมื่อมีความต้องการ (แสดงว่าขายได้) ถ้าเพื่อนๆ ไม่เชื่อผม ลองค้นหาบน overture ด้วยหัวข้อที่สินค้า
ของพวกเขา และเพื่อนๆ จะได้เห็นผล search สุขภาพดี รวมไปถึงค่า cost per click ด้วย
หนึ่งในบริษัทที่เพื่อนๆ ควรจะมองหาอย่างเช่น
http://www.joebucks.com/ ผมไม่ได้ซื้อสินค้าที่พวกเขาขาย (ส่วนมากจะเป็นยา) แต่พวกเขาจ่ายตรงเวลาเสมอ ผลเคยลองใช้บริษัทที่มีสินค้าขาย ๆ กัน แต่ไม่เคยจ่ายค่าคอมเลย
ดังนั้นผมจะไม่แนะนำพวกนั้นหรอก
ถ้าเพื่อนๆ ไม่ต้องการซื้อสินค้าที่จะทำการ promote ก็มีวิธีง่าย ๆ อย่างเช่น
ไปอ่าน testimonials บนเว็บของบริษัทที่ขาย จากนั้นก็เขียน success story ของเราเอง
อาจจะไม่ใช่วิธีที่ดีนัก แต่วิธีนี้ก็ใช้กันแพร่หลาย เหอ ๆ
หรืออีกทางหนึ่ง เพื่อน ๆ สามารถไปขอตัว review copy ของสินค้าที่จะทำการ promote บอกเจ้าของว่าเป็น affiliate ที่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร
หรือไม่ก็ลองแสดงเว็บให้พวกเขาดูและบอกว่าจะ promote ผ่าน adwords ซึ่งเจ้าของส่วนใหญ่แล้วจะตกลง
จากนั้นให้ใส่ link aff ของเราเป็นแบบ open new window ด้วยวิธีนี้คนที่เข้ามาก็จะยังอยู่ที่หน้า landing page และพวกเขายังคงอาจจะคลิกบน
Adsense หรือไม่ก็ลงชื่อเมล์ optin อีกด้วย
ใช้ headline ที่กระตุ้นความสนใจและวางไว้บน Adsense ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนๆ อยู่ในตลาด "เพาะกาย" สามารถจะใช้คำเช่น
"How I Gained 23 Pounds of Lean Muscle in 4 Shourt Weeks - Without Using Steroids...
จากนั้นก็ให้วาง Adsense ไว้ใต้หัวข้อเลย จากนั้นก็เริ่มบทความ หรือไม่ก็วางไว้ข้าง ๆ กับ ads ขอให้สังเกตุว่าหัวข้อที่ยกตัวอย่างด้านบนนั้น
นอกจากจะกระตุ้นความสนใจแล้ว ยังจบการละไว้ตามด้วยจุดสามจุด ... ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้คนที่เข้ามาเกิดอาการค้าง ๆ คา ๆ และต้องการที่จะดูต่อ
อย่าใช้หน้าเว็บที่กว้างเกินไป ด้วยเหตุผลบางประการ ผมเห็นเว็บที่ติด Adsense หลาย ๆ เว็บมากที่ใช้ขนาดกว้างอย่างเหลือเชื่อ
จำไว้ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้หน้าจอขนาด 1024X768 นะ!
ผมจะไม่สร้างหน้าเว็บให้กว้างมากกว่า 700 pixels เลย
เช่นกัน จำไว้เสมอว่าเพื่อนๆ จำเป็นต้องวางองค์ประกอบของหน้าที่เพื่อนๆ ต้องการให้คนเข้าเว็บมุ่งจุดสนใจไปไว้ตรงส่วนที่สามารถเห็นได้เลยเมื่อเปิดเข้ามา
ประมาณ 75% ของผู้เข้าชมเว็บจะไม่มีเวลาแม้แต่จะเลื่อน scroll bar ลงมาดู ! ใช่แล้วครับ พวกเรากำลังใช้ชีวิตอยู่ในช่วงเวลาอันแสนเร่งรีบ
ผมจะให้ template สำหรับ landing page ภายหลังเพื่อที่เพื่อนๆ จะได้เห็นตัวอย่าง
หน้าเว็บนั้นจำเป็นที่จะต้องทำการ optimise สำหรับคำ Adsense ที่เราจะ target เพื่อให้ GG spider ง่ายต่อการตรวจดูว่าหน้าเว็บของเรานั้น
เกี่ยวกับอะไร หมายความว่าเพื่อน ๆ ควรจะเพิ่ม kw ที่ว่าไว้ที่ title ใน description และ keyword tag บนหน้าของเพื่อนๆ
อีกทั้งยังต้องเพิ่ม keyword ลงไปใน <h1> tag อย่างเช่น <h1>golf clubs</h1>
เพื่อน ๆ สามารถเพิ่มเติมบนส่วนบนหรือแม้กระทั่งด้านล่างของเว็บก็ได้
ตั้งชื่อหน้าเพจของเพื่อน ๆ ตาม keyword ที่จะ target ยกตัวอย่างเช่นสำหรับคำว่า "car insurance Nevada" (หรืออะไรก็ตาม)
เพื่อนๆ ควรจะตั้งชื่อว่า CarInsuranceNevada.html
การทำแบบนี้นั้นเป็นบทบาทสำคัญกับ Google ถ้าเพื่อนๆ ลองสังเกตุดู หลาย ๆ เว็บที่มีอันดับดี ๆ บน Google สำหรับคำใด ๆ ส่วนมากจะเป็นเช่นนั้น
ลองดูหน้าเพจอย่างเช่น StopMyDogFromBarking.html นั้นออกจะดูมีภาษีดีกว่า MuscleBuildingWorkouts.html สำหรับการค้น
คำว่า "stop my dog from barking" เรื่องง่าย ๆ ครับ และไม่มีใครทำด้วย
ดังนั้นเลิกตั้งชื่อหน้าเพจว่า page.html กับ landing.html ได้แล้ว
อีกอันเป็นทริคเล็ก ๆ (ไม่แนะนำให้ใช้ เพราะไม่รู้ยังจะใช้ได้หรือเปล่า - ผู้แปล) ตั้งชื่อ title ให้ match กับ content ad และจำนวนของ ads ที่จะแสดง
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเพื่อนๆ ใช้ ads square 250x250 มี ads สามอันอยู่ข้างใน และตั้งใจจะ target คำว่า "search engine optimization tools"
เพื่อน ๆสามารถสร้างบทความสั้น ๆ บอกประมาณว่า "The Top 3 Search Engine Optimization Tools"
จากนั้นวาง adsense block ไว้ใต้ headline เลย บางคนจะคลิกมันเพราะพวกเขาคิดว่า แต่ละอันคือหนึ่งในสาม top seo tools
ไม่เพียงเท่านั้นแต่เพื่อนๆ ยังอาจจะสร้างบทความที่ทำการ presell สำหรับ top 3 seo tools และในตอนท้ายก็ใส่ link ไปยังสามอันนั้น
แน่นอนด้วย aff link ของเพื่อนๆ ผมควรจะเตือนไว้ก่อนว่า Google นั้นไม่ยอมรับการทำแบบนี้เพราะมันอาจจะทำให้คนเข้าใจผิดได้
แต่ผมก็ยังต้องการที่จะใส่มันไว้ใน ebook นี้ ผู้ประกอบการ(ใหญ่ อิอิ) ส่วนมากยากที่จะฟัง "กฎ" ที่ขีดขึ้นมา และพวกเขามักจะเล่นเกมแบบที่เขาต้องการ
ผมเพิ่มเติมเทคนิคนี้เข้ามา ถ้าเพื่อน ๆ ไม่อยากใช้ก็ไม่ต้องไปใช้นะครับ
List Building: เพิ่ม optin form ลงไปในหน้าเว็บของเพื่อนๆ เพื่อเก็บชื่อและอีเมล คนเราส่วนมากแบ่งเป็นสองจำพวก พวกลงมือกระทำกับพวกชอบคลิก
ปล่อยให้พวกชอบคลิก คลิกบน adsense ไปครับ และพวกให้พวกชอบลงมือทำที่มักจะคิดก่อนที่จะทำอะไรสักอย่างได้ตรวจดู affiliate program ของ
เพื่อนๆ หรือไม่ก็ลงชื่อใน optin list
นี่ครับ template ไปโหลดกันโลด
โค๊ด:
http://www.adsensearbitragevoo...oo.com/ArbitrageTemplates.html หลังจากคนเข้าเว็บลงชื่อใน optin list แล้ว เพื่อน ๆ ก็ควรจะให้ข้อเสนอกับพวกเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นการ redirect ไปยัง aff link หรือ ทำประมาณ
One Time Offer ที่เพื่อนๆ มี ว่ากันว่าคนที่ลงชื่อใน optin list แล้วส่วนใหญ่จะซื้อสินค้านั้น ๆ (ไม่ใช่ทุกคนแต่ก็มีบ้างล่ะ)
และแน่นอนว่า เพื่อนๆ สามารถส่งเมล์ไปยังบรรดา subscriber เพื่อให้พวกเขากลับมายังหน้าเว็บของเพื่อน ๆ อีกครั้ง และอะไรที่เพื่อนๆ จะมีบนหน้านั้น
ละครับ แน่นอน ก็เป็นเนื้อหาคุณภาพ presell affiliate program "และ" Adsense นี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการ recycle traffic ครับ
และไม่ใช่ traffic ธรรมดาด้วยนะครับแต่เป็น traffic ที่คัดแล้ว (ซึ่งเป็นคนที่ใช้เวลาบนหน้าเว็บและลงชื่อใน optin list)
หลังจากนี้ ผมจะบอกเทคนิค ที่จะทำอย่างไรถึงจะสร้าง follow up message เด็ด ๆ ที่จะทำเงินให้กับเพื่อนๆ ครับ
ตรวจดูว่าทุกอย่างถูกต้อง: หลังจากหน้า landing page ของเพื่อน ๆ เสร็จสมบูรณ์แล้ว ก็ถึงเวลาที่เพื่อนๆ จะทำการทดสอบสำหรับ
ใช่แล้วครับ เพื่อนๆ ได้สร้างหน้าเว็บบน Dreamweaver และมันดูสุดยอดมั่ก (มั่ก ๆ) ใช่แล้วครับ เพื่อนๆ รู้วิธีที่จะติดตั้งหน้าเพจ แต่
ผมสามารถรับประกันได้เลยว่า หน้าเว็บของเพื่อนๆ จะไม่แสดงถูกต้องสำหรับคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องหรอกครับ
สิ่งที่ผมค้นพบวิธีตรวจสอบที่ดีคือ ลองใช้ pc คนละเครื่องจากคนละที่ และคนละ browser ดูครับ
ผมมักจะเปิดเว็บด้วย Firefox หลังจากผมติดตั้งเว็บไซต์เสร็จ ผมลองไปยัง Internet cafe ที่นั่นมี screen solution ที่ต่างกัน และพวกเขาใช้ IE
เพื่อน ๆ อาจจะไม่เชื่อก็ได้ว่า สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ที่แตกต่างกันมีมากขนาดไหน หลังจากผมตรวจดู มีหลาย link ที่ใช้ไม่ได้ ตารางที่เบี้ยว
script ที่ไม่ทำสิ่งที่ควรทำ อื่น ๆ บลา ๆ จดทุกสิ่งทุกอย่างบนกระดาษและจงแน่ใจว่าเพื่อน ๆ ได้แก้ไขมันแล้ว
ซึ่งข้อแนะนำนี้สามารถประหยัดเงินให้เพื่อนๆ หลายพัน dollar หลายๆ อย่างสามารถผิดพลาดบนเว็บไซต์ของเพื่อน ๆได้ครับ และเพื่อน ๆ อาจจะไม่รู้เลย
ว่าทำไมเว็บของเพื่อนๆ ถึงไม่สามารถทำกำไรได้ เช่นกันครับ เมื่อเพื่อน ๆ ตรวจดูเว็บจากต่างที่ แกล้งทำตัวเป็นคนเข้าชมเว็บ เพื่อน ๆ ย่อมจะสามารถ
เก็บสิ่งเล็กสิ่งน้อยไว้เป็นไอเดียเพื่อทำอย่างไรจะปรับปรุง และเพิ่มเติมให้ดีขึ้น
ถ้าเพื่อนๆ เป็นตาแก่ที่ไม่ชอบออกจากบ้าน (ฮา) ก็สามารถใช้เว็บเหล่านี้ได้ครับ
http://www.brianapps.net/sizer.html เป็น free app ที่ทำให้เพื่อน ๆ สามารถ resize windows ตามขนาดที่กำหนดได้ ซึ่งมีประโยชน์มากครับ
เวลาที่จะต้อง design หน้าเว็บ เพราะมันทำให้เราสามารถดูได้ว่าหน้าเว็บจะดูเป็นอย่างไรที่ขนาดต่าง ๆ
หรือไม่เพื่อนๆ ก็ใช้เว็บนี้ได้ครับ
http://anybrowser.com/ScreenSizeTest.html นอกจากนั้นผมยัง download browser ต่าง ๆ เพื่อใช้มันดูเว็บของผม ไม่ว่าจะเป็น IE, Firefox, Mozilla, Netscape และ Opera
IE นั้นยังคงเป็น browser ยอดนิยมอันดับ 1 ตามมาด้วย firefox อันดับ 2
แต่เช่นเดิมครับ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ลองไปเปิดเว็บจากต่างสถานที่ดู ผมมักจะได้มุมมองใหม่ ๆ มาเสมอ ๆ
ก่อนที่จะตรวจเว็บไซต์ของเพื่อนๆ เพิ่ม code ต่อไปนี้ลงใน Adsense ครับ
google_adtest='on';
ปัจจุบันใช้ pub='ca-pub' ก็ได้เหมือนกันครับ
GG นั้นไม่อนุญาตให้เราไปยุ่งกับตัว code เลยแม้แต่น้อยครับ แต่นี้เป็นข้อยกเว้นครับ เพราะนี่คือ "Google recommended" สิ่งที่ GG แนะนำครับ
ซึ่งการทำแบบนี้จะทำให้ ads ของเพื่อนๆ อยู่ใน test mode จะไม่นับ imp และ คลิกที่เกิดขึ้น ดังนั้นเพื่อนๆ สามารถเข้าไปดูหน้าเว็บได้ตามสบาย
จะ refresh หลาย ๆ ครั้งก็ไม่ผิด หรือกด ads เล่นยังได้
ถ้า ขณะที่เพื่อนๆ refresh หน้าเว็บ แล้วเจอเว็บที่ไม่น่าจะเจอโผล่ออกมา จดเก็บไว้ครับ แล้วไปเพิ่มใน excluded site ใน adsense acc ครับ
กรองมันทิ้งซะ
แต่ไม่เพียงทำแค่นั้นนะครับ แต่ต้องคิดว่า "ทำไม" เว็บเหล่านั้นถึงขึ้นมาได้ เพื่อนมี keyword ในเว็บที่ทำให้ GG สับสนหรือเปล่า? เอามันออกครับ
เปลี่ยนเป็นคำอื่นที่ทำให้เจาะจงมากขึ้น
และแน่นอนครับว่า Adwords ad ของเพื่อนๆ ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะโผล่มาใน adsense บนเว็บนะครับ ดูให้ดีนะครับว่า เพิ่ม domain ของเพื่อน ๆ
ลงไปใน competitive ad filter แล้วหรือยัง
จบตอน 4 ครับ ฉบับต่อไปมาว่ากันเรื่องเพิ่ม CTR Adsense และ earning per click ให้เต็มสูบ ครับ
===========================================
ตอนที่ 5 เพิ่ม Adsense CTR และราคาต่อคลิกให้ดีขึ้นhttp://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,27288.0.html 
ไทย เสียว บอร์ด
