แชร์(เล่า)ประสบการณ์ขายสินค้าออนไลน์ จากเงิน ๐ บาท

ผมเริ่มหันมาขายสินค้าออนไลน์เพราะออกจากงานเก่าขณะเดียวกับที่แฟนมีปัญหากับที่บ้านเลยย้ายออกมาอยู่หอพักด้วยกัน
ด้วยความที่ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ทั้งคู้ สมัครงานที่ไหนก็ยังไม่มีใครตอบรับ ก็เลยตัดสินใจลองซักตั้ง
จุดเริ่้มต้นของผมคือ ไม่มีอะไรเลย ไม่มีเงินลงทุนซักบาท! ไม่มีความรู้ด้าน E-commerce เลย! รู้แค่้เพียงว่าตอนนี้ต้องหาเงินใช้และมีหลายๆร้านที่เปิดขายสินค้าเป็นพรีออเดอร์ ผมจึงคิดที่จะทำเป็นพรีออเดอร์บ้าง เพื่อที่จะได้เอาเงินที่ได้จากการพรีออเดอร์มาลงทุน ผมเริ่มวางแผนการขายสินค้าออนไืลน์ดังนี้

Epsiode 1 ขายอะไรดี?
ตอนแรกก็คิดว่าจะขายอะไรดี ผมเริ่มจากคิดว่าอะไรเหมาะกับเรา สินค้าที่ผมจะขายคือเครื่องสำอาง (เพราะแฟนชอบ)
ก็เลยมานั่งดูว่า ณ ขณะนั้นผู้หญิงไทยกำลังนิยม แบรนไหน สีอะไร หลังจากนั้นก็เริ่มหาผลิตภัณฑ์จากซัพพลายเออร์บ้างจากบริษัทในประเทศผู้ผลิตหรือจัดจำหน่าย (คือหาให้ได้ถูกที่สุดทั้งค่าสินค้าและค่าจัดส่ง) ปัญหาที่ตามมาก็คือถ้าสั่งจากซัพจะรู้ได้ยังไงว่าเค้าจะส่งให้จริงๆ วิธีแก้ปัญหานี้ของผมคือ ผมหาผลิตภัณฑ์จาก Ebay ครับ เพราะ Ebay มีฟี้ดแบ็คของผู้ขายแต่ละคนเป็นตัวช่วยตัดสินความาน่าเชื่อถือซึ่งวิธีนี้สำหรับผม ได้ผลครับ!

Epsiode 2 ขายที่ไหน?
ด้วยความรู้ด้านเว็บไซต์ที่มีเท่าหางคางคกของผม (ทำได้แค่เกี่ยวกับ code นิดหน่อย และ photoshop แบบงูๆปลาๆ) บวกกับปริมาณเงินในกระเป่าก็ไม่พอที่จะไปเช่าโฮสหรือซื้อโดเมนนู่นนี่นั่นเพื่อทำเว็บไซต์ของตัวเอง ทางเลือกของผมคงต้องเป็น เว็บไซต์ขายของสำเร็จรูป ตอนนั้นที่ผมรู้จักหลักๆเลยคือ WeLoveShopping, Shopup ผมก็ลองใช้ทั้ง 2 เว็บเลย จากการลองใช้ WeLove ผมพบว่ามันไม่เหมาะกับตัวผมเอาซะเลย คือรูปแบบของเว็บมันช่างดูธรรมดาเหลือเกิน ในความรู้สึกของผมคือมันไม่น่าสนใจ อันนี้อาจจะรู้สึกไปเอง และในตอนนั้นผมไม่มีเงินที่จะไปซื้อแพ็คเกจต่างๆของเค้าหรอก! (เงินจะซื้อข้าวกินยังไม่มีเลย) ครั้นจะใช้แพ็คเกจฟรีก็ลงสินค้าได้แค่ 30 ชิ้น (ถ้าจำไม่ผิด)ซึ่งสินค้าที่ผมคิดจะขายมีประมาณ 100 ชิ้น+ ผมจึงตัด Welove ทิ้งไป หันมาลอง Shopup อันนี้ผมชอบนะ ธีมมีให้เลือกเยอะดี การจัดการหลังร้านก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แต่ปัญหาก็อยู่ที่Shopup จำกัดจำนวนสินค้าอีกครั้ง ตอนนี้เริ่มถอดใจครั้งที่ 1 - - ในตอนนั้นความรู้สึกผมคิดว่าถ้ามีของแค่ 30-35 ชิ้น ร้านมันจะดูน่าสนใจหรอ? อยากลงของเยอะๆ เพื่อที่จะให้ลูกค้าได้มีตัวเลือกมากขึ้น ผมเลยไปเสริจในกูเกิ้ลว่า "เปิดร้านออนไลน์ ฟรี ไม่จำกัดจำนวน" ด้วยคำค้นนี้ทำให้ผมได้ไปพบกับเว็บ E-commerce สำเร็จรูปที่ผมตามหา !! ในที่สุดผมเลือก lnwshop เพราะเค้าให้ในสิ่งที่ผมต้องการได้ ไม่จำกัดจำนวนชิ้น จำนวนหมวดหมู่ ถึงธีมจะน้อยไปหน่อยแต่ก็พอจะดัดแปลงได้บ้าง และเมื่อผมใช้ไปแล้วทำให้ผมรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่เลือกที่นี่ เพราะการบริการของทีมงานที่ดีมาก! (ที่อื่นไม่รู้ว่าเป็นยังไงนะครับ) ทุกครั้งที่ผมมีปัญหาในการใช้เว็บไซต์แล้วไปถามทีมงานผมจะได้รับคำตอบภายใน 24 ชม และคำตอบกระจ่างทำให้ผมเข้าใจและมาแก้ไขร้านผมได้ เท่านี้ผมก็ถือว่าโอเคแล้ว
พอทำร้านเสร็จผมก็เริ่มที่จะทำ Facebook และ Fanpage ครับ

สรุปว่า ผมเลือกขายทั้งหมด 3 ที่ คือ lnwshop, Facebook และ Fanpage ครับ

Epsiode 3 ลูกค้าอยู่ไหน?
ทำร้านเสร็จเรียบร้อยทั้ง 3 ที่แล้วแต่ผมยังไม่มีลูกค้าเลยซักคน! อย่าว่าแต่ลูกค้าเลยแค่เข้ามาคอมเม้นยังไม่มีเลยครับ ผมพยายามเข้าไปในแฟนเพจของมหาลัยดังๆเพื่อแอดคนในนั้นเข้ามาเป็นเฟรนด์ในเฟสบุ๊คของผมสิ่งที่ผมได้เรียนรู้อย่างหนึ่งคือมันได้แค่ปริมาณเฟรนด์แต่เราก็ยังขายของไม่ได้อยู่ดี หลังจากนั้นผมจึงเลิกไปแอดคนอื่น หันมาใช้วิธีโพสต์เว็บประกาศ แลกแบนเนอร์ โพสต์เว็บบอร์ด ปรากฏว่ามันได้ผลครับ ! ออเดอร์แรกของผมเข้ามาหลังจากผ่านไป 1 อาทิตย์ จำความรู้สึกตอนนี้ลูกค้าคนแรกได้ดีเลยครับ หัวใจเต้นแรง ตื่นเต้น ดีใจ - - จาก Lot ที่ 1 ผมมีลูกค้าทั้งหมด 4 คน กำไรจาก Lot นั้นประมาณพันกว่าบาท (มี 1 คนใน 4 ที่ซื้อเยอะพอสมควร) กำไรจากตรงนั้นส่วนหนึ่งผมใช้ไปในการโปรโมท Fan Page วิธีที่ผมเลือกก็คือ Facebook ads ซึ่งผลตอบรับที่ได้กลับมา สำหรับผม ผมถือว่าคุ้มค่าครับ Lot 2 ผมมีลูกค้า 10 กว่าคน, Lot 3 40 คน และมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

สรุปง่ายๆ วิธีการขายของออนไลน์ของผม

1. หาของที่จะขาย
2. เปิดร้านใน lnwshop สร้าง Facebook, Fanpage
3. ลงของ แต่งเว็บ (ไม่ได้สวยเท่าไหร่ แต่มีรูปและรายละเอียดครบถ้วน พยายามทำให้น่าเชื่อถือได้มากที่สุด)
4. โพสต์ประกาศ เว็บบอร์ด แลกแบนเนอร์ แชร์รูป+ลิ้ง (ทำ Facebook Ads เมื่อมีงบ)
5. ขาย ๆ ๆ ๆ (ส่วนใหญ่แฟนผมเป็นคนขาย)

ผ่านมา 10 เดือน ณ ตอนนี้ผมมีรายได้จากตรงนี้หลักหลายหมื่นต่อเดือน (ไม่ขอบอกว่ากี่หมื่่น) สิ่งที่ผมทำลงไปผมเชื่อว่าหลายๆคนทำได้ อยากให้กำลังใจชาว E-commerce ครับ ผมเริ่มต้นจากเงินศูนย์บาท แค่ไม่ท้อ ไม่หยุด เชื่อว่าเราจะทำได้ แล้วเราก็จะประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจ สำหรับผมด้วยอายุ20 ผมถือว่าผมสำเร็จในระดับต้นคือเราสามารถหาเงินใช้เองได้โดยไม่ต้องขอพ่อแม่ ซึ่งผมก็พยายามที่จะพัฒนาตัวเอง พัฒนาร้านไปให้ดีขึ้น ผมไม่ได้คิดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดกับอาชีพนี้ แต่อาชีพนี้ทำให้ผมมีความสุขครับ

Ps. ทั้งหมดนี้เป็นวิธีที่ผมทำ แต่ผมไม่ได้บอกว่าที่ผมทำมันถูกต้องทั้งหมดเน้อ ความรู้สึกล้วนๆ ไม่ชอบใจอย่าว่ากันนะค้าบ