ผมต้องการให้ทั้งนักศึกษาและผู้รับทำโปรเจ็คอ่านกระทู้นี้เพื่อใช้เตือนและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อีก
เนื่องจากเมื่อวานนี้ มีกระทู้หนึ่ง ซึ่งเจ้าของกระทู้ เป็นเจ้าของเว็บรับทำโปรเจ็คนักศึกษาแห่งหนึ่ง ได้มาโพสบ่นเรื่องนักศึกษามาขอเปลี่ยนโปรเจ็ค
ทั้งๆที่ขายไปแล้ว เพราะนักศึกษาเสนอโปรเจ็คไม่ผ่าน อาจารย์มองแล้วไม่เชื่อว่าเด็กจะทำเอง ดูมันยากและซับซ้อนเกินไป
แต่ จขกท.ท่านนั้นไม่ยอมให้เปลี่ยน บอกว่าต้องจ่ายเงินซื้อใหม่ พอน้องนักศึกษาขอคืนเงินจำนวน 4500บาท แต่ จขกท ก็ไม่ยอมคืน
ซึ่ง จขกท.มาโพสปรึกษาในthaiseoboard แห่งนี้
ผมได้ให้คำปรึกษาไปเยอะมาก ด้วยความเป็นมิตร
แต่สุดท้ายกระทู้นั้นถูกลบไปเบื้องต้นผมอยากจะอธิบายให้เพื่อนๆสมาชิกทราบว่า
การรับทำโปรเจ็คนักศึกษานั้นไม่ใช่เรื่องที่ผิด
หากมองในเรื่องของการเป็นพี่เลี้ยงที่คอยสอนเค้าอย่างใกล้ชิดจนสามารถผ่านบททดสอบของอาจารย์ในมหาลัยตอนสอบแต่ละครั้งได้
เพราะนั้นเป็นการให้วิชาความรู้กับนักศึกษาอย่างเอาใจใส่และใกล้ชิด เปรียบเหมือนการจ้างครูมาสอนภาษาอังกฤษส่วนตัวที่บ้าน
รึเหมือนจ้างพี่เลี้ยงคอยดูแล ซึ่งมีหน้าที่คอยช่วยงานเต็มที่แก้ไขทุกอย่าง ให้คำปรึกษาทุกอย่าง
และพร้อมจะเพิ่มเติมทุกอย่างตามRequirementที่ได้จากอาจารย์ที่ปรีกษาในการประชุมความคืบหน้าแต่ละครั้ง
ซึ่งมักจะมีการเพิ่มเติมอยู่เรื่อยๆ จะต้องคอยช่วยสอนจนเค้าสามารถนำเสนออาจารย์จนสอบผ่านได้ นี้คือหน้าที่ของผู้รับทำโปรเจ็คจบที่ควรจะเป็นหลายคนไม่เข้าใจ
ไปคิดว่าพวกรับทำโปรเจ็คคือ ทำให้นักศึกษาลักไก่เอางานไปส่งอาจารย์แล้วจบๆไปแบบไม่มีคุณภาพ
แต่จริงๆการที่นักศึกษาจะทำโปรเจ็คจบมีกระบวนการหลายขั้นตอน ไม่ใช่แค่เอาโปรแกรมมาส่งอาจารย์ได้แล้วก็จบกัน
เพราะมันต้องมีการตรวจดูความคืบหน้าของโครงงาน และต้องมีเหตุผลว่าทำไมถึงเลือกโครงงานนี้
ทำไมถึงตัดสินใจอย่างนี้ ทำไมถึงแก้ปัญหาอย่างนี้ ต้องมีการออกแบบ ต้องมีแนวคิดร่วมกัน
มีสอบเป็นระยะๆอยู่แล้ว หากตอบไม่ได้รึแก้ปัญหาไม่เป็น ก็อาจจะต้องตกต้องซ่อมอยู่ดี ผู้รับทำโปรเจ็คก็จะเป็นที่ปรึกษาเพื่อช่วยกันวิเคราะห์ขอบเขตของโครงงาน ออกแบบ และพัฒนาภาพร่วม เพื่อจะไปปรึกษาอาจารย์อีกทีในเบื้องต้น
และจะพัฒนาและเรียนรู้โปรเจคไปพร้อมๆกัน พอโปรเจคเสร็จและผู้รับทำโปรเจคอธิบาย ตอบคำถามข้อสงสัย และสอนเสร็จสิ้นหมดแล้ว
ไม่เพียงแต่นักศึกษาคนนั้นๆ จะสอบโปรเจ็คได้ แต่ยังสามารถไปรับงานเขียนโปรแกรมเองต่อในอนาคตได้เลย
จะเห็นว่าผู้รับทำโปรเจ็คมีส่วนสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักศึกษาที่ไม่เก่งด้านโปรแกรมมิ่งเป็นพื้นฐานและขาดความมั่นใจ จะช่วยได้เยอะเพียงแต่กรณีของกระทู้นั้น ผมมองว่าจขกท.ทำผิด ตรงที่บอกว่ารับทำโปรเจ็ค
แต่ดันเอาโปรเจ็คที่มีอยู่ในมือซึ่งเป็นของนักศึกษาป.โทคนอื่น
ไปขายให้นักศึกษาคนนี้ ทั้งๆที่ชื่อโครงงานยังไม่ได้คุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาเลยว่าจะผ่านไหม?
แต่ก็ขายเค้าไป แล้วก็หลับหูหลับตารับประกันไปส่งๆ ว่าโปรเจ็คผ่านแน่นอน
แล้วสุดท้ายก็มาลอยแพเค้า โดยอ้างว่า นักศึกษาเป็นคนเลือกเอง ตรงส่วนนี้ จขกท.นั้นบอกว่าได้เตือนแล้ว
แต่ความจริงผมมองว่าไม่ควรเอามาให้น้องเค้าเลือกตั้งแต่แรก แค่เอาโปรเจ็คระดับป.โท มาเป็นช้อยท์ให้เค้าเลือกก็ไม่บริสุทธิ์ใจแล้ว
เพราะทำงานมาขนาดเป็น10ปี เป็น100งาน(ตามที่จขกท.อ้าง) ก็น่าจะรู้อยู่แล้ว ว่าเด็กเอางานแบบนี้ไปเสนออาจารย์ยังไงก็ไม่ผ่าน
เพราะมันซับซ้อนเกินไปสำหรับเด็กระดับนี้ พอเด็กมีปัญหาก็ไม่รับผิดชอบไม่ยอมคืนเงินเค้า โดยอ้างว่าไม่ตรงตามข้อตกลง
พอนักศึกษาขอเปลี่ยนก็ไม่ให้เปลี่ยน แถมบอกให้เค้าต้องเสียเงินซื้อใหม่อีกซึ่งหากมองในมุมเค้ามุมเรา นักศึกษาคนนั้น จะรู้สึกอย่างไร เสียเงินให้จขกท.นั้นไป โดยไม่ได้อะไรที่มีประโยชน์กับตัวเองเลย
แล้วจะทำยังไง ต้องไปหาเงินจากไหนมาซื้อใหม่อีกเหรอ? เงินไม่ใช่น้อยๆนะ เค้าจะกังวัลแค่ไหน ผมว่ามันไม่แฟร์ต่อนักศึกษาเค้านะครับ
ผมได้ขอให้ จขกท.ท่านนั้น คืนเงินน้องนักศึกษาไป แต่เค้าไม่สนใจ และก็มีสมาชิกท่านอื่นๆมาเสนอตัวช่วยนักศึกษาคนนั้นแทน
โดยบอกให้เอาemailไปให้น้องคนนั้น รึจะเอาเบอร์น้องเค้ามาก็ได้ แต่จขกท.เค้าก็ไม่ทำอะไรซักอย่าง
ลักษณะเหมือนตั้งใจลอยแพนักศึกษาผู้โชคร้ายคนนั้นแล้ว และสุดท้ายเค้าก็ลบกระทู้นั้นไปในที่สุดและเท่าที่ผมสืบมา จขกท.ท่านนั้น เค้าก็มีปัญหาลักษณะนี้ ในเรื่องความรับผิดชอบ ทั้งในบอร์ดนี้และบอร์ดอื่นๆ
อีกทั้งชื่อในการลงประกาศกรณีซื้อขายตามกฎเหล็กของthaiseoboardแห่งนี้ ก็ยังใช้ชื่อปลอมถึง2ชื่อ
ไม่ได้ใช้ชื่อจริงตามกฎระเบียบของเรา และไม่ได้ทำแค่ครั้งเดียวด้วย หากมีเจ้าทุกข์ก็คงตามตัวกันไม่ได้เจอง่ายๆ คงต้องระวังตัวกันหน่อยนะครับ
การเลือกอาชีพรับทำโปรเจ็คนักศึกษา เป็นอาชีพที่ต้องมีความรับผิดชอบสูงมากๆ เพราะหากมีใครมาจ้างเรานั้นหมายถึงว่า
เค้าฝากอนาคตไว้กับเราส่วนหนึ่งแล้ว หากเราทิ้งเค้า นั้นหมายถึงเค้าอาจเรียนไม่จบ รึจบช้า
ไม่ได้รับปริญญาพร้อมเพื่อนๆ ซึ่งมันร้ายแรงมากสำหรับเด็กวัยนี้ เค้าอาจจะต้องมาลงวิชาโปรเจ็คใหม่
โดยต้องกลายเป็นคนว่างงานทั้งปี ในขณะที่เพื่อนๆจบไปทำงานกันหมดแล้ว มันจะเหมือนเป็นตราบบาปในชีวิตเค้าเลย
จขกท.ท่านนั้นอ้างว่า มีประสบการณ์10ปี รับงานมาเป็น100งาน ผมแปลกใจที่เค้าทำเหมือนไม่รู้อะไรแล้วก็รับเงินมาเต็มจำนวน
ทั้งๆที่โครงงานอาจารย์ก็ยังไม่อนุมัติให้ทำเลย จริงๆแล้วเค้าลำดับขั้นตอนผิดหลายอย่างนะ ผมขออนุญาติแนะนำ
จริงๆงานรับทำโปรเจ็คนักศึกษาในความเห็นผมควรจะมีขั้นตอนเป็นประมาณอย่างนี้
1.ลูกค้าติดต่อมาก็นัดเจอ
2.คุยว่าต้องการงานแบบไหน ยังไงบางทีอาจารย์ที่ปรึกษาอาจกำหนดชื่อ รึขอบเขตโครงงานมาให้แล้ว
ไม่ใช่ให้เค้าเลือกงานที่เรามีอยู่แล้วในมือ(นั้นมันไม่เรียกรับทำโปรเจคนี้มันขายสคริปชัดๆ)
3.เมื่อทราบรายละเอียดของสโคปงาน คุณต้องประเมินว่าจะใช้เวลาพัฒนากี่วัน แล้วบอกลูกค้าไปว่าจะทันส่งไหม
ตรงนี้คุณห้ามช้ากว่ากำหนดเพราะมีผลต่อการสอบความคืบหน้าของโปรเจคกลางเทอมและปลายเทอมหนึ่งด้วย
4.กำหนดข้อตกลงกับลูกค้าว่า น้องต้องไปศึกษาภาษาprogrammingนี้มาก่อน เบื้องต้นต้องเขียนhello worldได้เอง
ต้องรู้ก่อนว่าจะใช้โปรแกรมนี้มันมีอะไรเป็นความต้องการพื้นฐานบ้าง เช่นถ้าphpบนwindows ก็ต้องลงอะไรบ้าง
ถ้าjavaต้องมีอะไรบ้างถึงจะrun โปรแกรมเราได้ พวกความต้องการพื้นฐานของระบบต้องรู้ก่อน
ให้เวลาน้องไปศึกษาเรื่องนั้นให้แม่นๆภายใน 1-2สัปดาห์ คิดว่าจะทำได้ไหม หากไม่ได้คิดว่าน้องคงจะไม่ผ่าน
พี่ก็จะไม่รับงานนี้ หากน้องมั่นใจว่าได้ ก็รับเงินมาก่อน30% เซ็นสัญญากันไว้ตามนั้น แล้วอีก2อาทิตย์นัดคุยความคืบหน้าอีกครั้ง
5.คุณต้องออกแบบหน้าตา ของระบบคราวๆทั้งหมด และFlowchartการทำงานของโปรแกรมไปคุยกับน้อง
แล้วให้น้องไปปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาว่าเห็นด้วยรึไม่อย่างไร จะแก้ตรงไหนไหม
เพราะจะเป็นการดีหากอ.เห็นความคืบหน้าของงานแบบตามสเต็ป ไม่ใช่อยู่ๆเอางานที่เสร็จแล้วมาให้อาจารย์ดู
ใครเค้าจะเชื่อว่าเด็กทำเอง ไม่เคยมาปรึกษามาตรวจงานกันเลย เป้งเดี๋ยวเสร็จ อ.เค้าไม่ได้ปัญญาอ่อนนะครับ
6.เมื่อน้องไปคุยกับอาจารย์มา มักจะได้แก้งานใหม่ๆเพิ่มเติมใหม่ๆเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติของอ.ที่ปรึกษา
มักจะอยากเพิ่มนู้นเพิ่มนี้เสมอ เพื่อจะดูว่าเด็กทำเองจริงรึเปล่า เข้าใจที่อ.พูดรึเปล่าด้วย
ตรงนี้ก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องคอยปรับตามที่อ.เค้าชงมา เป็นหน้าที่ต้องรับผิดชอบไป
7.ถึงขั้นนี้คุณก็เริ่มพัฒนาโปรเจ็คตาม Requirementล่าสุดจากอาจารย์ที่ปรึกษาได้เลย
ผมแนะนำให้เขียนcodeง่ายๆ พยายามอย่าใช้พวกfunctionอะไรลึกๆ ให้ใช้Basicสุดๆไปก่อน
เด็กจะได้เข้าใจง่ายๆ ไม่งั้นอาจารย์เค้าก็จะจับได้อยู่ดี บางที่เค้าแทบจะเช็คcodeทีละบรรทัดเลย
8.หากมันง่ายมากสำหรับคุณ คุณทำเสร็จเร็วก็อย่าทำให้หน้าตามันสวยหนัก ในขั้นแรกก็ทำแบบเด็กทำจริงๆ
อาจลองให้เด็กออกแบบเองไปก่อน เพราะยังไงมันต้องมีแก้อยู่แล้ว หากมาถึงสมบูรณ์เลย แล้วอ.เชื่อว่าเด็กทำเอง
ก็จะเพิ่มงานให้กลับมาเติมนู้นนี้นั้นอีก แต่หากทำแบบไม่ต้องสมบูรณ์ไป บอกอ.ว่าติดตรงนั้น ติดตรงนี้อยู่ ยังแก้ไอ้นั้นไอ้นี้ไม่ได้
อ.ก็มักจะไม่ค่อยเพิ่มอะไร ก็จะให้คำปรึกษาเด็กมาแทน ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ คือเพิ่มความคืบหน้าทีละช้าๆ
อย่าไปเร็วจะดีกว่า ถือว่าสอนเด็กไปด้วย
9.ระหว่างนี้ต้องนัดเด็กมาคุยเรื่อยๆว่า เราทำไปถึงไหนแล้ว และก็ควรสอนเค้าอย่างน้อย อาทิตย์ละครั้ง รึ2อาทิตย์ครั้ง
เป็นพี่เลี้ยงให้เค้าอย่างใกล้ชิด และประเมินดูว่าเด็กไปเร็วไหม หากเด็กไปได้เร็วก็ไม่ต้องนัดถี่ แต่หากเด็กดูแล้วไม่เข้าใจเลย
ต้องนัดถี่ขึ้น อย่าหนีหน้าเค้า เด็กพวกนี้เค้าก็เอาอนาคตชีวิตมาฝากไว้กับคุณส่วนหนึ่งแล้ว
10.ควรทดสอบเด็กก่อนที่เด็กจะถึงวันสอบโปรเจคทุกครั้ง เตรียมความพร้อมและความมั่นใจให้เค้าด้วย
11.การสอบโปรเจ็คจะมีประมาณ2-4ครั้ง ขึ้นอยู่กับมหาลัย บางที่สอบเทอมละครั้ง บางทีมีสอบมิดเทอมด้วย
เป็นการรายงานความคืบหน้าแต่ต้องคอยตอบคำถามอาจารย์ที่ปรึกษา อาจมีMeetingย่อยๆอีก
12.พอผ่านมาครึ่งทางแล้วน้องเริ่มเข้าใจ และเห็นความคืบหน้าของงานก็ให้เก็บเงินอีก30%
13.ถึงขั้นนี้หาก อาจารย์ที่ปรึกษาเห็นว่างานเราคืบหน้าเร็วเกินไปจะมีการเพิ่มงานได้ ซึ่งเป็นบ่อยมาก ควรใช้จังหวะช่วงนี้
ฝึกเด็กอย่างใกล้ชิด ทดสอบแบบเครงคัด เพื่อหวังให้เค้าทำได้ตอนสอบและในอนาคตตามวิชาชีพของเค้า
14.ก่อนวันสอบโปรเจ็ค1-2วันให้มาทดสอบครั้งสุดท้ายหาbugให้เรียบร้อยด้วยกัน ไม่ใช่เรานั่งหาคนเดียว เราต้องให้เด็กหาด้วย
เด็กสงสัยอะไรต้องตอบได้ทุกอย่าง แล้วให้เด็กไปเตรียมตัวสอบโปรเจคครั้งสุดท้ายเอง ระหว่างนี้หากติดอะไรจะได้มีเวลามาถามเราทัน
และพอเด็กมั่นใจพร้อมไปสอบแล้ว ก็ให้ชำระก่อนสุดท้าย40%ที่เหลือได้เลย
15.หากผลสอบโปรเจ็คออกมาไม่ผ่าน เด็กก็ต้องกลับมาหาเราอีก เพราะถ้ามาถึงขั้นนี้แล้วอ.มักจะให้พัฒนาเพิ่มเติม
ประมาณว่าอ.ผู้ร่วมสอบโปรเจ็คบางท่านประชุมแล้วคนที่ไม่ให้ผ่านมีเสียงมากกว่าคนที่ให้ผ่าน เลยตกไป ต้องลงใหม่เทอมหน้า
แต่ส่วนใหญ่จะเป็นโปรเจ็คเดิมที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เด็กจึงต้องกลับมาหาเราใหม่ ถึงตอนนี้เราก็จะสามารถเรียกเงินเด็กเพิ่มได้
เพราะไม่ใช่ความผิดเรา เราบีฟกันมาตลอดเทอมแล้ว แต่มีอ.ภายนอกมาโหวตไม่ผ่านเอง ก็เพิ่มเติ่มไปตามราคาโปรเจ็ค
เช่นปีที่แล้วคิดไป4500 ปีนี้ก็อีก4000 เพราะส่วนใหญ่งานจะเพิ่มอีกแต่นิดหน่อยไม่เกิน30%
16.หากโปรเจ็คผ่าน นั้นหมายความว่า เค้าได้แสดงให้อ.เห็นแล้วว่าเค้าเข้าใจในงานนั้นๆจริง และสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้
คุณก็จะได้ชื่อว่าสร้างคนที่มีศักยภาพเพิ่มขึ้นอีก1คน ซึ่งสิ่งที่คุณทำอาจเปลี่ยนชีวิตเค้าไปในทางที่ดีขึ้นได้
เพราะเค้าจะสามารถไปทำมาหากินตามวิชาชีพเค้าได้จริงๆซะที คุณจะชื่อว่าเป็นอาจารย์เค้า เป็นพี่เลี้ยงเค้า
และอาจจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในภายหน้าอีกด้วย สรุปว่าได้มิตรดีๆมาอีก1คน
และมันจะทำให้คุณภูมิใจที่ได้คอยเป็นพี่เลี้ยงจนน้องเค้าจบการศึกษาได้ happy ทุกฝ่ายมันถึงจะถูกต้อง
การทำงานรับทำโปรเจคนักศึกษาควรมีขั้นตอนดำเนินงานประมาณนี้ ไม่ใช่เอาโปรแกรมที่เขียนเสร็จแล้วมาให้เค้า
คุยกันครั้งเดียวแล้วรับเงินมาหมดเลย มันไม่ได้เรียกว่ารับทำโปรเจคแล้ว มันเรียกว่าขายสคริปชัดๆซึ่งมันน่าเกลียดมากๆมันทำร้ายเด็กโดยตรงหากผมเป็นนักศึกษา กำลังจะจบ จนถึงขั้นต้องทำโปรเจ็ค เพียงแต่อาจจะเขียนโปรแกรมยังไม่เก่งไม่ถนัดพอ
ผมก็อยากจะหาพี่เลี้ยงที่คอยเป็นที่ปรึกษา นอกจากอาจารย์ที่ปรึกษาอีกคนให้อุ่นใจ ไม่มีใครอยากซื้อโปรแกรมไปเฉยๆหรอกครับอยากให้มองในมุมนักศึกษาบ้าง อย่าคิดเอาแต่ได้อย่างเดียว
นักศึกษาคนนั้นผมว่าตอนนี้เธอร้องไห้อยู่ เธอคงเครียดที่จะต้องหาเงินมาใหม่ คงไม่รู้จะบอกพ่อแม่ว่าอะไร
เธอคงกลัวว่าจะเรียนไม่จบและรู้สึกเหมือนโดนโกง
ย้ำนะครับ เค้าไม่ได้อยากซื้อสคริปแต่ นักศึกษาพวกนี้เค้าอยากได้พี่เลี้ยงที่ช่วยเค้าเรื่องโปรเจ็คจนจบได้
อย่างกรณีกระทู้นั้นมันเหมือนหลอกขายสคริปมากกว่า เหมือนเค้ากำลังทำลายอนาคตเด็กคนหนึ่งอยู่
ผมว่ายังไงหากคุณ จขกท.ท่านนั้นได้เข้ามาอ่าน คุณควรจะคืนเงินน้องเค้านะ
หากินอย่างนี้ไม่แมนเลยครับ มีจิตสำนึก มีจรรณยาบรรณไหม รับผิดชอบหน่อยผมไม่อยากเห็นการเอาเปรียบกับเด็กกับนักศึกษารึกับใครๆในสังคมเลย
ด้วยความที่เป็นห่วงว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีก
และไม่อยากเห็นน้องๆนักศึกษาต้องเสียเงินฟรีๆ
ก่อนน้องๆจะจ้างใคร
ควรคิดดีๆ ควรพยายามด้วยตัวเองให้เต็มที่ก่อน หากไม่ไหวก็ปรึกษาอาจารย์ที่ปรึกษาและหากพยายามสุดๆแล้วยังคิดว่าจะทำเองไม่ไหวจริงๆ ต้องการที่ปรึกษาอย่างใกล้ชิด
ก่อนจะจ้างพวกรับทำโปรเจคก็ควรเลือกดีๆ ถ้าจะจ้างจริงๆก็ควรทำขั้นตอนดังนี้ครับ
1.ขอชื่อรึสำเนาบัตรประชาชนผู้รับจ้างมาด้วย ตรวจให้แน่ใจว่าเป็นชื่อจริง และอาจจะต้องตรวจสอบชื่อผู้รับจ้างว่ามีประวัติฉ้อโกง
มีคดีอาญา รึมีปัญหาอะไรรึเปล่า ก่อนทำการว่าจ้างจริงๆเพื่อลดความเสียงที่จะมีปัญหาตามมา
2.ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ของผู้รับจ้างว่าเกี่ยวข้องกับเบอร์ใดๆบ้างรึUsernameอะไรบ้าง
และเคยมีกิจกรรมใดๆ ที่อาจเป็นไปได้ว่าจะไม่รับผิดชอบงานให้เราได้รึเปล่า
3.ประวัติการทำงานและผลงาน ควรตรวจสอบให้ชัดเจน ว่าเป็นผลงานที่เค้าพัฒนามาเองจริงๆ ไม่ใช่Copy code
ของคนอื่นมาหลอกขายต่อ อาจจะยากซะหน่อยแต่ควรหาคนที่พอรู้เรื่องช่วยดูให้อีกทีก่อนเซนต์สัญญา
4.ควรมีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร ระบุถึงขอบเขตงานที่ชัดเจน และการรับประกันต่างๆว่าจะคืนเงินในกรณีไหนบ้าง
คืนยังไง คืนกี่เปอร์เซนต์ ภายในระยะเวลากี่วัน หากมีการเพิ่มขอบเขตงานจะคิดยังไง ให้ชัดเจน
5.การชำระเงินควรแบ่งชำระเป็นงวดๆ จำไว้ว่าการจ้างทำโปรเจ็คไม่ใช่การซื้อสคริป มันจะต้องมีการนัดเจอกันเพื่อดูความคืบหน้า
สอนและปรับแต่งอยู่บ่อยๆ ควรแบ่งชำระเป็น3งวด ตามความคืบหน้าของงาน
หากสิ่งที่ผมพิมพ์มาทั้งหมดนี้ไม่ถูกต้องรึไม่ถูกใจใคร ก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วย
เจตนาผมคือ ไม่อยากเห็นใครถูกเอาเปรียบอีก
และอยากให้จขกท.ท่านนั้น มีความจริงใจ มีความรับผิดชอบ
มีจิตสำนึกและ มีจรรณยาบรรณต่ออาชีพตัวเอง เท่านั้นครับ
ด้วยความเคารพ