ประสบการณ์ตรงของผมอายุประมาณ13 ย่าผมพาผมไปดูดวงที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัด(ไม่ขอเอ่ยชื่อวัดนะ) พระท่านบอกปีนี้เป็นปีตกอับหรือปีไรซักอย่างนี้แหละ ผมจำไม่ได้ว่าแกใ้ช้คำว่าอะไร แล้วแกยังบอกอีกว่าให้ผมงดการเดินทางไกล เพราะจะมีโอกาสถึงแก่ชีวิต
สรุปตอนนั้นผมกลัวมากครับตามประสาเด็ก แถมพระพูดอีก ผมต้องเชื่อเป็นธรรมดา ครอบครัวผมไปเที่ยวเกาะสมุยกันครับ แต่ผมไม่ยอมไป ขออยู่บ้าน เพราะผมกลัว เอาเป็นว่าเพราะคำพูดพระแค่คำเดียว ทำให้ผมต้องกลับหรือเก็บกดไปตลอด1ปี จนผมสงสัยว่าทำไมคนพวกนี้ต้องสร้างความกลัวให้ผมด้วย ผมไปทำอะไรให้เขา?
ตอนนั้นแกก็ทำนายนะว่าให้ผมทำบุญเยอะๆ แต่ผมใช้ชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้โดยไม่ทำบุญซักครั้งเลยผมก็ยังอยู่ได้มีความสุขดี ผมเลยแค่สงสัยในเรื่องพวกนี้ ว่าทำไมคนถึงเชื่อกันเยอะมาก ?
ไม่ว่าอะไรนะครับ ถ้าผมเป็นคนขี้สงสัย
กรณีกลับกัน ถ้าสมมุติว่าเดินทาง แล้วบาดเจ็บสาหัส แต่ไม่ถึงกลับตาย มุมมองทางความคิดที่ตามมาสำหรับคุณจะเป็นแบบไหน
ผมว่ามันก็สมเหตุสมผลนะ คุณเชื่อคำเตือน เหตุก็ย่อมไม่เกิด แต่ถ้าคุณไม่เชื่อคำเตือน แล้วไปเที่ยว แล้วไม่เกิดอะไร แบบนั้นค่อยบ่นน่าจะถูกกว่า
คุณจะบ่นในสิ่งที่คุณไม่กล้าออกไปพิสูจน์แล้วมันไม่ได้เกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะมันไม่มีประสบการณ์อะไรที่มาแย้งว่าคำทำนายนั้นมันไม่เป็นจริง ถูกไหมครับ
ส่วนเรื่องการทำบุญผมคิดว่าเป็นสิ่งที่คนทั่วๆไปแนะนำเป็นพื้นฐานในการปฏิบัติอยู่แล้วหล่ะครับ มันเป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณสุขกายสบายใจ คิดดีผลดีๆก็ตามมา แม้ถึงคราวเคราะห์หนักมาให้เผชิญ แต่ถ้าประคองสติไว้ได้ยึดมั่นในสิ่งที่ทำ สิ่งแย่เหล่านั้นมันก็ไม่ทำให้คุณตกต่ำไปได้ถึงที่สุด
แต่ถ้าทำบุญแทบตาย แล้วคิดแต่เรื่องแย่ๆต่อสิ่งทั้งหลายทั้งปวง ก็คงเจอแต่เรื่องแย่ๆ เหอๆ