ต่อไป »

[BeerSkz]

พอดีอยากเลี้ยง
ปลาหางนกยูง มีอ่างใหญ่ปานกลาง

ผมหาอ่านบางคนบอกว่าถ้าเลี้ยงแล้วปลามีความสุข เราได้บุญ
ปลาทุกข์ เราบาป

คือผมเลี้ยงไว้ดูเล่นอะครับ แบบจัดหินสวยๆ ให้มันว่ายไปมา

[@HostGator]

เลื้ยงไม่ว่าอะไรก็ตอบ<แป๊ก (ตาม) ไม่ทำให้เขาลำบาก ก็ไม่บาปหรอกครับ

ลำบากในที่นี่คืออะไร ?

ลืมให้อาหาร

ชอบไปควักเขามาเล่นบนบก สารพัดอย่างครับ

[witwit89]

ไม่ทำให้เค้าลำบากก็ ไม่บาปครับ ^^

ไม่ลืมให้อาหาร ไม่ไปกวนน้ำเล่น

[Legolas]

ถาม: อาจารย์คะ การเลี้ยงสัตว์นี่ได้บาปหรือบุญอย่างไรบ้างคะ

ตอบ: จริงๆแล้วพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ห้ามค้าขายสัตว์มีชีวิต แต่หากเราคิดจะเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้เลี้ยงไว้ขาย ต้องพิจารณาให้ดีว่า เราเลี้ยงเขาอย่างไร เช่น ถ้ามีสัตว์จรจัดมาอาศัยบ้านเราเป็นที่พักพิง แล้วเราให้อาหารเขากินและให้ที่อยู่อาศัยที่สุขสบายแก่เขา และเขาเป็นฝ่ายเลือกอยู่กับเราเอง แบบนี้ถือว่าเป็นการเลี้ยงสัตว์ที่ได้บุญ เพราะทำให้สัตว์มีความสุข มีสภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม จึงไม่เป็นบาป แต่ถ้าเราไปจับหรือซื้อสัตว์ที่มีความเป็นอยู่อิสระมาเลี้ยง เช่น จับนกมาขังกรงหรือจับปลามาขังในตู้เล็กๆ แบบนี้เท่ากับเป็นการกักบริเวณ ทำให้เขามีชีวิตที่ไม่เป็นอิสระและแย่กว่าเดิม จึงถือว่าเป็นบาป เพราะทำให้สัตว์นั้นไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เป็นทุกข์


ถาม: ถ้าเราจับสัตว์มากักขัง แต่ว่าเลี้ยงดูเขาอย่างดี มีน้ำมีอาหารให้อย่างอุดมสมบูรณ์ล่ะคะ

ตอบ: คำว่า “เลี้ยงดูอย่างดี” นั้น ต้องถามด้วยว่า อย่างดีสำหรับเราหรืออย่างดีสำหรับสัตว์ ลองคิดดูสิว่า ระหว่างการมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์กับการได้มีอิสรภาพตามธรรมชาติของเขา สัตว์จะชอบอย่างไหนมากกว่ากัน ขวัญลองถามตัวเองดูก็ได้ว่า ถ้ามีน้ำ มีอาหาร มีเสื้อผ้า มีที่อยู่อย่างดี แต่ว่าถูกเขาผูกล่ามหรือกักขังไว้ไม่ให้เป็นอิสระเหมือนนักโทษ ขวัญจะมีความสุขไหม

เห็นมั้ยล่ะลูก ไม่ว่าคนหรือสัตว์ล้วนอยากมีอิสรภาพด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะสัตว์ที่เคยอยู่อย่างอิสระ เมื่อถูกจับมาขัง มากักบริเวณ แม้ว่าจะเลี้ยงอย่างดีแค่ไหน เขาย่อมไม่มีความสุข เพราะเคยชินกับการหากินตามธรรมชาติ หากไม่เชื่อ ลองสังเกตดูสิว่าสัตว์ที่ถูกผูกล่ามกักขังมักมีอารมณ์ไม่ดี จึงมักจะดุ เพราะเขาไม่มีความสุข และเมื่อมีโอกาสหนีเป็นอิสระได้ เขาก็จะหนีทุกครั้ง


ถาม: แล้วการเลี้ยงสัตว์ที่เพาะขึ้นมาขายล่ะคะ

ตอบ: การเพาะสัตว์ขาย แม้ไม่ได้เพาะเพื่อฆ่า แต่ก็ยังเกี่ยวข้องกับการกักบริเวณ การพรากลูกพรากแม่ การค้าสัตว์มีชีวิตจึงถือว่า เป็นการร่วมกระบวนอกุศลกรรมกับผู้ที่เพาะสัตว์ขายด้วย


ถาม: อย่างนี้การซื้อสัตว์มาเลี้ยงก็ไม่ควรทำน่ะสิคะ

ตอบ: ใช่แล้ว ทางที่ดีที่สุดจึงไม่ควรเลี้ยงอะไรเลย เพราะการเลี้ยงสัตว์ย่อมเป็นการเข้าไปร่วมในกระบวนกรรมของสัตว์นั้น และหากเรามีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ในทางที่ไม่ดีอยู่เสมอ ยิ่งจะเป็นการสร้างบาปให้เกิดมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่หากเรามีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว ต้องไม่นำเขาไปปล่อย ควรเลี้ยงเขาต่อไป โดยเตรียมอาหารการกินและที่พักอาศัยที่สุขสบายไว้ให้เขา แล้วปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างเป็นอิสระตามธรรมชาติ โดยไม่ไปกักขังหน่วงเหนี่ยว แต่ถ้าเราไม่มีความพร้อมที่จะเลี้ยงสัตว์ให้มีอิสระได้ก็ไม่ควรเลี้ยง


ถาม: ถ้าเราไม่อยากให้สัตว์ที่เราเลี้ยงออกลูกมาให้เป็นภาระต่อไปจึงนำเขาไปทำหมัน แบบนี้บาปไหมคะอาจารย์

ตอบ: บาปสิลูก ถ้าสัตว์นั้นหรือวิญญาณที่จะมาเกิดเป็นลูกของสัตว์นั้นจองเวรเรา เมื่อกรรมให้ผล เราย่อมต้องรับผลของบาป คือ ทำให้เป็นผู้ไม่มีลูก หรือมีลูกยาก ด้วยเหตุนี้ผู้รู้จึงไม่นำสัตว์ใดมาเลี้ยง เพราะรู้ว่าจะมีปัญหาตามมาภายหลัง


ถาม: การช่วยสัตว์ที่บาดเจ็บหรือป่วยด้วยการพาไปให้หมอรักษา แต่บางครั้งขั้นตอนในการรักษาก็อาจจะทำให้สัตว์เจ็บปวดทรมาน แบบนี้เราจะบาปไหมคะ?

ตอบ: การรักษาสัตว์ที่เจ็บป่วยในบั้นปลายจะเป็นประโยชน์ต่อสัตว์เพราะเป็นการทำให้เขาอยู่ได้อย่างสุขสบายมากขึ้น จึงนับว่าเป็นบุญมากกว่าบาป แม้ว่าตอนรักษาเขาจะต้องเจ็บปวดบ้าง แต่บาปที่เกิดขึ้นก็เทียบไม่ได้กับบุญที่เกิดจากการช่วยรักษาให้เขาหายจากโรคภัย การทำแบบนี้ถือว่าเป็นความกรุณา ช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ได้ชั่วคราว


ถาม: แล้วการอาบน้ำ ตัดขน แต่งตัวให้สัตว์เลี้ยงอย่างที่คนสมัยนี้ชอบทำล่ะคะ เป็นบุญหรือเป็นบาป

ตอบ: การกระทำอย่างนี้เป็นการทำตามราคจริตของมนุษย์ เพราะธรรมชาติของสัตว์เขาไม่ได้ชอบเรื่องแบบนี้ อย่างบางคนฉีดน้ำหอมให้สุนัข เขาย่อมไม่ชอบ เพราะจมูกของสุนัขไวกว่าจมูกของมนุษย์หลายสิบเท่า ดังนั้นน้ำหอมของมนุษย์จึงอาจจะกลายเป็นน้ำเหม็นสำหรับเขาได้


ถาม: อย่างนี้ถือว่าเป็นอกุศลหรือเปล่าคะ?

ตอบ: ถ้าเป็นการทำให้สัตว์ไม่สบายใจก็ถือว่าเป็นอกุศลกรรม


ถาม: แล้วการฝึกสัตว์หรือดุว่าสั่งสอนสัตว์ล่ะคะ บาปหรือเปล่า?

ตอบ: ถ้าทำให้เขาขัดใจหรือโกรธถือว่าเป็นบาป และตอนที่เราดุเขา ถ้าเรามีอารมณ์ไม่ดีมา แสดงพฤติกรรมไม่ดีก็เป็นบาปด้วย ดังนั้นเมื่อเลี้ยงสัตวแล้วจึงต้องระวังให้มาก มิฉะนั้นจะกลายเป็นการสร้างบาปอย่างไม่รู้ตัว เรื่องแบบนี้ทางโลกเขามองกันไม่ค่อยออกหรอก เพราะเขาใช้เพียงปัญญาทางโลกมอง ไม่ได้ใช้ปัญญาทางธรรม


ถาม: อย่างนี้คนทำอาชีพฝึกสัตว์ก็บาปน่ะสิคะ

ตอบ: ใช่ เพราะเป็นการใช้สัตว์ตามความต้องการของมนุษย์ เช่น การฝึกลิงให้เก็บผลไม้ ฝึกสุนัขโชว์ ฝึกช้างมาใช้งาน แบบนี้ถือว่าเป็นบาป เพราะเป็นการบังคับให้สัตว์ทำในสิ่งที่ฝืนธรรมชาติของเขา ถ้าเลือกได้ สัตว์ย่อมไม่ต้องการถูกฝึกถูกบังคับ แต่อยากอยู่สบายๆตามธรรมชาติมากกว่า


ถาม: การจับสัตว์ไปผสมพันธุ์กัน เช่น เลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์สุนัขมาผสมกันให้ได้ลูกออกมาตามที่ต้องการ แบบนี้บาปไหมคะ?

ตอบ: บาปสิลูก เพราะเป็นการทำด้วยเหตุผลทางโลก โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องศีลธรรม แม้ช่วงเวลานั้นจะเป็นฤดูผสมพันธุ์ แต่ถ้าปล่อยตามธรรมชาติ สัตว์นั้นอาจจะไม่ได้เลือกคู่ตามที่เราจัดให้ก็ได้ การจับสัตว์ไปผสมพันธุ์กันจึงอาจจะเป็นการฝืนใจสัตว์โดยที่เราไม่รู้ เหมือนกับพ่อแม่ที่บังคับให้ลูกแต่งงานกับคนที่ลูกไม่ชอบนั่นแหละ


ถาม: ถ้าสัตว์เขากำลังกัดหรือทำร้ายกัน แล้วเราไปห้ามหรือตีเขา เราจะบาปไหมคะอาจารย์

ตอบ: ถ้าทำให้เขาไม่พอใจก็ย่อมบาป และถือว่าเป็นการเข้าไปร่วมในกระบวนอกุศลกรรมของเขาด้วย เพราะการที่เขากัด เขาทะเลาะกันก็เป็นบาปอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราเข้าไปร่วมกระบวนกรรมของเขา เราก็ย่อมบาปไปด้วย

อย่างไรก็ตาม บางครั้งต้องพิจารณาให้ดีว่าเราจะเข้าไปร่วมกระบวนกรรมกับเขาหรือไม่ เช่น มีอยู่ครั้งหนึ่งอาจารย์ไปพบงูกำลังจะเขมือบอึ่งอ่างอยู่หลังบ้าน จึงวิเคราะห์ดูว่า ถ้าเราช่วยชีวิตอึ่งอ่างได้ งูย่อมจองเวรกับเรา เพราะทำให้เขาไม่ได้กินอึ่งอ่างเป็นอาหาร แต่การช่วยชีวิตอึ่งอ่างไว้ได้ก็นับว่าเป็นบุญ เมื่อพิจารณาดูแล้วเห็นว่า การช่วยชีวิตอึ่งอ่างเป็นบุญที่ใหญ่กว่าบาปจากการทำให้งูไม่ได้กินอาหาร อาจารย์จึงตัดสินใจช่วยด้วยการนำไม้ชิ้นเล็กๆยาวประมาณหนึ่งฟุตไปแหย่ที่ปากงูและช่วยอึ่งอ่างให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้

ในเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์และมีโอกาสได้รู้ธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้ว เราก็ควรนำธรรมะที่ท่านทรงสอนมาพิจารณาทุกครั้งก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป เพื่อให้เกิดโทษต่อชีวิตและจิตใจน้อยที่สุด เข้าใจนะลูกนะ

--
จาก เรื่องคุยประจำฉบับนิตยสาร secret
ตอบคำถามโดย ดร.สนอง วรอุไร

[Krittapas]

ไม่บาปหรอกครับ เราจะเลี้ยงเค้าเพื่อให้เราและเค้ามีความสุข ไม่ได้เลี้ยงให้เค้ามีความทุกข์แต่เรามีความสุข
คิดมากไปก็เป็นทุกข์นะครับ ชอบอะไรก็ทำไปถ้าไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน

[witwit89]

คิดไปคิดมา บาปแหะ 

[V4lenTinE]

ผมคิดว่ามันก็คือการเบียดเบียนอย่างนึงอ่ะนะ (เพราะเอาเค้ามาอยู่ผิดที่นี่)
แต่คิดว่าของแบบนี้มันอยู่ที่ใจครับ ไม่ต้องกลัวหรอกครับ บาปไม่บาปอ่ะ แค่คุณรักเค้า เอาใจใส่เค้า เหมือนตอนที่คุณคิดจะเอาเค้ามาเลี้ยงก็พอครับ สบายใจเรา สบายใจเค้า 

[BughumArM]

มองมุมหนึ่งบาปเพราะจับเค้ามาขังไว้

มองอีกมุมถ้าปล่อยเค้าไปก็โดนปลาใหญ่กินอยู่ดี

 

[ศักยะ]

ถามมนุษย์ด้วยกันก็ต้องบอกว่าไม่บาปครับ เพราะเค้าเป็นอาหารและสัตว์เลี้ยง
แต่ไปถามเค้าสิครับ เค้าจะบอกว่า จับหนูมาขังทำไม

ฉะนั้นเอามาให้ผมรับบาปกรรมนั้นแทนเถอะครับ ผมเสียสละครับ

[chinjung01]

ลองเลี้ยงปลาทองข้างโต๊ะคอมสิครับ

มันน่ารักมากกกก เวลาผมนั่งเล่นคอมมันก็จะว่ายมาหา แล้วมาเล่นที่ผิวน้ำ กระโดดไปมา มองแล้วมีความสุข

พอผมลุกจากโต๊ะคอม มันก็ว่ายตามมา

ว่างๆก็ชอบให้มันวิ่งวนไปมาตามมือผม มันน่ารักสุดๆ  

[bouy22]

ที่มันเขียนบอกว่าบาปถามมันดิ กินปลาไปกี่ตัวแล้ว..

ถ้ามันบอกว่ากินนั่นมันอีกเรื่องนึง เราก็กินปลาหางนกยูงไปเลย จะได้ไม่ได้บาป  

ที่บ้านเลี้ยงอยู่ 4 ตัว 2ตู้ แรกๆ ก็มีความสุขหรอก แต่พอเปลี่ยนน้ำทีไรนี่ทุกข์ชิหาย เหนื่อย

[myuse]

ลองเลี้ยงปลาทองข้างโต๊ะคอมสิครับ

มันน่ารักมากกกก เวลาผมนั่งเล่นคอมมันก็จะว่ายมาหา แล้วมาเล่นที่ผิวน้ำ กระโดดไปมา มองแล้วมีความสุข

พอผมลุกจากโต๊ะคอม มันก็ว่ายตามมา

ว่างๆก็ชอบให้มันวิ่งวนไปมาตามมือผม มันน่ารักสุดๆ  

ต้องให้อ๊อกซิเจนใหม่ ครับ พอดีสนใจจะเลี่ยง แต่ อยากใส่โหล ขนาดไม่ใกญ่วางบนโต๊ะทำงาน

[PMM]

เลี้ยงด้วยจิตใจบริสุทธิ ไม่น่าจะบาปนะครับ

ผมก็เลี้ยงหนู หนู ไว้เยอะครับอิอิ

[chinjung01]

ลองเลี้ยงปลาทองข้างโต๊ะคอมสิครับ

มันน่ารักมากกกก เวลาผมนั่งเล่นคอมมันก็จะว่ายมาหา แล้วมาเล่นที่ผิวน้ำ กระโดดไปมา มองแล้วมีความสุข

พอผมลุกจากโต๊ะคอม มันก็ว่ายตามมา

ว่างๆก็ชอบให้มันวิ่งวนไปมาตามมือผม มันน่ารักสุดๆ  

ต้องให้อ๊อกซิเจนใหม่ ครับ พอดีสนใจจะเลี่ยง แต่ อยากใส่โหล ขนาดไม่ใกญ่วางบนโต๊ะทำงาน

สำหรับปลาทองสมควรให้ อ็อกซิเจนครับ และที่สำคัญยิงภาชนะเล็กเท่าไหร่ ไม่ควรเลี้ยงเป็นจำนวนมาก

เนื่องจากมีที่ว่ายน้อย อีกมั้งมันจะกัดกัน และระวังน้ำประปา ด้วย

ผมเลี้ยงแค่ 5 ตัว ขนาดประมาณกะด้วยสายตา 15"X8"X6"

ผมใช้น้ำที่กดจากตู้น้ำลิตรล่ะบาท ประมาณ 20 ลิตรได้

เครื่องอ็อกซิเจนราคา 200-300 บาทครับ

[NightClub]

เลี้ยงกุ้งจิครับ

แล้วท่านจะเห็นว่ามันสุดยอดมาก โดยเฉพาะเวลากินอาหาร กับ เกาลูกตา - -

  ไปไปมามา จะเพาะกุ้งสวยงามขายแว้ว

[TUMZA]

เลี้ยงเด็กดีกว่า  สุขทัั้งเขา สุขทั้งเรา 

[YAII]

ถาม: อาจารย์คะ การเลี้ยงสัตว์นี่ได้บาปหรือบุญอย่างไรบ้างคะ

ตอบ: จริงๆแล้วพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ห้ามค้าขายสัตว์มีชีวิต แต่หากเราคิดจะเลี้ยงสัตว์โดยไม่ได้เลี้ยงไว้ขาย ต้องพิจารณาให้ดีว่า เราเลี้ยงเขาอย่างไร เช่น ถ้ามีสัตว์จรจัดมาอาศัยบ้านเราเป็นที่พักพิง แล้วเราให้อาหารเขากินและให้ที่อยู่อาศัยที่สุขสบายแก่เขา และเขาเป็นฝ่ายเลือกอยู่กับเราเอง แบบนี้ถือว่าเป็นการเลี้ยงสัตว์ที่ได้บุญ เพราะทำให้สัตว์มีความสุข มีสภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม จึงไม่เป็นบาป แต่ถ้าเราไปจับหรือซื้อสัตว์ที่มีความเป็นอยู่อิสระมาเลี้ยง เช่น จับนกมาขังกรงหรือจับปลามาขังในตู้เล็กๆ แบบนี้เท่ากับเป็นการกักบริเวณ ทำให้เขามีชีวิตที่ไม่เป็นอิสระและแย่กว่าเดิม จึงถือว่าเป็นบาป เพราะทำให้สัตว์นั้นไม่สบายกาย ไม่สบายใจ เป็นทุกข์


ถาม: ถ้าเราจับสัตว์มากักขัง แต่ว่าเลี้ยงดูเขาอย่างดี มีน้ำมีอาหารให้อย่างอุดมสมบูรณ์ล่ะคะ

ตอบ: คำว่า “เลี้ยงดูอย่างดี” นั้น ต้องถามด้วยว่า อย่างดีสำหรับเราหรืออย่างดีสำหรับสัตว์ ลองคิดดูสิว่า ระหว่างการมีอาหารการกินอุดมสมบูรณ์กับการได้มีอิสรภาพตามธรรมชาติของเขา สัตว์จะชอบอย่างไหนมากกว่ากัน ขวัญลองถามตัวเองดูก็ได้ว่า ถ้ามีน้ำ มีอาหาร มีเสื้อผ้า มีที่อยู่อย่างดี แต่ว่าถูกเขาผูกล่ามหรือกักขังไว้ไม่ให้เป็นอิสระเหมือนนักโทษ ขวัญจะมีความสุขไหม

เห็นมั้ยล่ะลูก ไม่ว่าคนหรือสัตว์ล้วนอยากมีอิสรภาพด้วยกันทั้งสิ้น โดยเฉพาะสัตว์ที่เคยอยู่อย่างอิสระ เมื่อถูกจับมาขัง มากักบริเวณ แม้ว่าจะเลี้ยงอย่างดีแค่ไหน เขาย่อมไม่มีความสุข เพราะเคยชินกับการหากินตามธรรมชาติ หากไม่เชื่อ ลองสังเกตดูสิว่าสัตว์ที่ถูกผูกล่ามกักขังมักมีอารมณ์ไม่ดี จึงมักจะดุ เพราะเขาไม่มีความสุข และเมื่อมีโอกาสหนีเป็นอิสระได้ เขาก็จะหนีทุกครั้ง


ถาม: แล้วการเลี้ยงสัตว์ที่เพาะขึ้นมาขายล่ะคะ

ตอบ: การเพาะสัตว์ขาย แม้ไม่ได้เพาะเพื่อฆ่า แต่ก็ยังเกี่ยวข้องกับการกักบริเวณ การพรากลูกพรากแม่ การค้าสัตว์มีชีวิตจึงถือว่า เป็นการร่วมกระบวนอกุศลกรรมกับผู้ที่เพาะสัตว์ขายด้วย


ถาม: อย่างนี้การซื้อสัตว์มาเลี้ยงก็ไม่ควรทำน่ะสิคะ

ตอบ: ใช่แล้ว ทางที่ดีที่สุดจึงไม่ควรเลี้ยงอะไรเลย เพราะการเลี้ยงสัตว์ย่อมเป็นการเข้าไปร่วมในกระบวนกรรมของสัตว์นั้น และหากเรามีปฏิสัมพันธ์กับสัตว์ในทางที่ไม่ดีอยู่เสมอ ยิ่งจะเป็นการสร้างบาปให้เกิดมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่หากเรามีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว ต้องไม่นำเขาไปปล่อย ควรเลี้ยงเขาต่อไป โดยเตรียมอาหารการกินและที่พักอาศัยที่สุขสบายไว้ให้เขา แล้วปล่อยให้เขาได้อยู่อย่างเป็นอิสระตามธรรมชาติ โดยไม่ไปกักขังหน่วงเหนี่ยว แต่ถ้าเราไม่มีความพร้อมที่จะเลี้ยงสัตว์ให้มีอิสระได้ก็ไม่ควรเลี้ยง


ถาม: ถ้าเราไม่อยากให้สัตว์ที่เราเลี้ยงออกลูกมาให้เป็นภาระต่อไปจึงนำเขาไปทำหมัน แบบนี้บาปไหมคะอาจารย์

ตอบ: บาปสิลูก ถ้าสัตว์นั้นหรือวิญญาณที่จะมาเกิดเป็นลูกของสัตว์นั้นจองเวรเรา เมื่อกรรมให้ผล เราย่อมต้องรับผลของบาป คือ ทำให้เป็นผู้ไม่มีลูก หรือมีลูกยาก ด้วยเหตุนี้ผู้รู้จึงไม่นำสัตว์ใดมาเลี้ยง เพราะรู้ว่าจะมีปัญหาตามมาภายหลัง


ถาม: การช่วยสัตว์ที่บาดเจ็บหรือป่วยด้วยการพาไปให้หมอรักษา แต่บางครั้งขั้นตอนในการรักษาก็อาจจะทำให้สัตว์เจ็บปวดทรมาน แบบนี้เราจะบาปไหมคะ?

ตอบ: การรักษาสัตว์ที่เจ็บป่วยในบั้นปลายจะเป็นประโยชน์ต่อสัตว์เพราะเป็นการทำให้เขาอยู่ได้อย่างสุขสบายมากขึ้น จึงนับว่าเป็นบุญมากกว่าบาป แม้ว่าตอนรักษาเขาจะต้องเจ็บปวดบ้าง แต่บาปที่เกิดขึ้นก็เทียบไม่ได้กับบุญที่เกิดจากการช่วยรักษาให้เขาหายจากโรคภัย การทำแบบนี้ถือว่าเป็นความกรุณา ช่วยเหลือผู้อื่นให้พ้นทุกข์ได้ชั่วคราว


ถาม: แล้วการอาบน้ำ ตัดขน แต่งตัวให้สัตว์เลี้ยงอย่างที่คนสมัยนี้ชอบทำล่ะคะ เป็นบุญหรือเป็นบาป

ตอบ: การกระทำอย่างนี้เป็นการทำตามราคจริตของมนุษย์ เพราะธรรมชาติของสัตว์เขาไม่ได้ชอบเรื่องแบบนี้ อย่างบางคนฉีดน้ำหอมให้สุนัข เขาย่อมไม่ชอบ เพราะจมูกของสุนัขไวกว่าจมูกของมนุษย์หลายสิบเท่า ดังนั้นน้ำหอมของมนุษย์จึงอาจจะกลายเป็นน้ำเหม็นสำหรับเขาได้


ถาม: อย่างนี้ถือว่าเป็นอกุศลหรือเปล่าคะ?

ตอบ: ถ้าเป็นการทำให้สัตว์ไม่สบายใจก็ถือว่าเป็นอกุศลกรรม


ถาม: แล้วการฝึกสัตว์หรือดุว่าสั่งสอนสัตว์ล่ะคะ บาปหรือเปล่า?

ตอบ: ถ้าทำให้เขาขัดใจหรือโกรธถือว่าเป็นบาป และตอนที่เราดุเขา ถ้าเรามีอารมณ์ไม่ดีมา แสดงพฤติกรรมไม่ดีก็เป็นบาปด้วย ดังนั้นเมื่อเลี้ยงสัตวแล้วจึงต้องระวังให้มาก มิฉะนั้นจะกลายเป็นการสร้างบาปอย่างไม่รู้ตัว เรื่องแบบนี้ทางโลกเขามองกันไม่ค่อยออกหรอก เพราะเขาใช้เพียงปัญญาทางโลกมอง ไม่ได้ใช้ปัญญาทางธรรม


ถาม: อย่างนี้คนทำอาชีพฝึกสัตว์ก็บาปน่ะสิคะ

ตอบ: ใช่ เพราะเป็นการใช้สัตว์ตามความต้องการของมนุษย์ เช่น การฝึกลิงให้เก็บผลไม้ ฝึกสุนัขโชว์ ฝึกช้างมาใช้งาน แบบนี้ถือว่าเป็นบาป เพราะเป็นการบังคับให้สัตว์ทำในสิ่งที่ฝืนธรรมชาติของเขา ถ้าเลือกได้ สัตว์ย่อมไม่ต้องการถูกฝึกถูกบังคับ แต่อยากอยู่สบายๆตามธรรมชาติมากกว่า


ถาม: การจับสัตว์ไปผสมพันธุ์กัน เช่น เลือกพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์สุนัขมาผสมกันให้ได้ลูกออกมาตามที่ต้องการ แบบนี้บาปไหมคะ?

ตอบ: บาปสิลูก เพราะเป็นการทำด้วยเหตุผลทางโลก โดยไม่ได้คำนึงถึงเรื่องศีลธรรม แม้ช่วงเวลานั้นจะเป็นฤดูผสมพันธุ์ แต่ถ้าปล่อยตามธรรมชาติ สัตว์นั้นอาจจะไม่ได้เลือกคู่ตามที่เราจัดให้ก็ได้ การจับสัตว์ไปผสมพันธุ์กันจึงอาจจะเป็นการฝืนใจสัตว์โดยที่เราไม่รู้ เหมือนกับพ่อแม่ที่บังคับให้ลูกแต่งงานกับคนที่ลูกไม่ชอบนั่นแหละ


ถาม: ถ้าสัตว์เขากำลังกัดหรือทำร้ายกัน แล้วเราไปห้ามหรือตีเขา เราจะบาปไหมคะอาจารย์

ตอบ: ถ้าทำให้เขาไม่พอใจก็ย่อมบาป และถือว่าเป็นการเข้าไปร่วมในกระบวนอกุศลกรรมของเขาด้วย เพราะการที่เขากัด เขาทะเลาะกันก็เป็นบาปอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าเราเข้าไปร่วมกระบวนกรรมของเขา เราก็ย่อมบาปไปด้วย

อย่างไรก็ตาม บางครั้งต้องพิจารณาให้ดีว่าเราจะเข้าไปร่วมกระบวนกรรมกับเขาหรือไม่ เช่น มีอยู่ครั้งหนึ่งอาจารย์ไปพบงูกำลังจะเขมือบอึ่งอ่างอยู่หลังบ้าน จึงวิเคราะห์ดูว่า ถ้าเราช่วยชีวิตอึ่งอ่างได้ งูย่อมจองเวรกับเรา เพราะทำให้เขาไม่ได้กินอึ่งอ่างเป็นอาหาร แต่การช่วยชีวิตอึ่งอ่างไว้ได้ก็นับว่าเป็นบุญ เมื่อพิจารณาดูแล้วเห็นว่า การช่วยชีวิตอึ่งอ่างเป็นบุญที่ใหญ่กว่าบาปจากการทำให้งูไม่ได้กินอาหาร อาจารย์จึงตัดสินใจช่วยด้วยการนำไม้ชิ้นเล็กๆยาวประมาณหนึ่งฟุตไปแหย่ที่ปากงูและช่วยอึ่งอ่างให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้

ในเมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์และมีโอกาสได้รู้ธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้ว เราก็ควรนำธรรมะที่ท่านทรงสอนมาพิจารณาทุกครั้งก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป เพื่อให้เกิดโทษต่อชีวิตและจิตใจน้อยที่สุด เข้าใจนะลูกนะ

--
จาก เรื่องคุยประจำฉบับนิตยสาร secret
ตอบคำถามโดย ดร.สนอง วรอุไร

ขอบคุณมากครับ นั่งอ่านเรื่องนี้แล้ว ชอบมากๆใด้แง่คิดดีมาก

[Kuroroman]

กุ้งผมเป็นกุ้งแร๊ปเปอร์ แอ๊คท่าถ่ายรูปพร้อมกับพูดว่า "โย่วว !!"

[เกมส์เกมส์.com]

พวกปลาสวยงามเลี้ยงได้ไม่บาปหรอก ควรมีพื้นที่ในการเลี้ยงเหมาะสมกับชนิดของปลานั้นๆ การให้อาหารอย่างดี การทำความสะอาดสม่ำเสมอ การรักษาโรคเมื่อป่วย ตลอดจนต้องศึกษานิสัยของปลาด้วย เช่น ปลาหมอสี แม้จะชอบเล่นกับคน แต่ค่อนข้างดุกับปลาชนิดอื่น ต้องเลี้ยงเดี่ยว

[awakener]

เราไม่สามารถหยั่งรู้ได้หรอกครับ ว่าแบบไหนถึงเรียกว่าสัตว์ตัวนั้นๆ จะอยู่ดีกินดี เราเอาเหตุผลแบบมนุษย์ไปคิดแทนไม่ได้ ทำได้แค่อนุมานเอา
ซึ่งถ้าสัตว์มันรู้สึกดี ก็ดีไป แต่ถ้าสัตว์ไม่รู้สึกดี มันอาจจะอาฆาตเราได้  ทางที่ดีอย่าเลี้ยงเลยดีที่สุด เมตตาต่อสัตว์ทุกชนิดทั่วๆไป เช่น เอาอาหารไปให้นกที่อยู่รอบๆบ้าน เอาอาหารไปเลี้ยงปลา หรือแม้แต่สัตว์เล็กๆ เช่น ยุง หรือแมลงต่างๆ เราไม่ไปทำร้ายมัน ตบ มัน ทำแบบนี้น่าจะดีกว่า รักแบบไม่ต้องครอบครอง  ไม่ต้องเป็นเจ้าของ ได้บุญแน่นอน