ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafe[[[ ข่าวลือ ]]] คำทำนายเด็กชายปลาบู่ ภัยพิบัติใหญ่ในไทย ปี 2555
หน้า: 1 2 [3] 4   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: [[[ ข่าวลือ ]]] คำทำนายเด็กชายปลาบู่ ภัยพิบัติใหญ่ในไทย ปี 2555  (อ่าน 13498 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
LighteningZz
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 81
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 833



ดูรายละเอียด
« ตอบ #40 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 18:31:28 »

อย่า งม ให้มากนะ งาย ไว้บ้าง
บันทึกการเข้า
joasan108
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #41 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 22:28:29 »

คนละอชิตะครับท่าน

พระอชิตะโพธิสัตว์ ที่ว่าจะเป็นพระศรีอารย์นั้น เป็นพระราชโอรสของพระเจ้าอชาติศัตรู  เป็นหลานพระเจ้าพิมพิสารครับ (คนตระกูลนี้ช่างน่าอัศจรรย์ พระเจ้าพิมพิสารเป็นพระอริยะบุคคล พระเจ้าอชาติศัตรู ก็มีบุญบารมีมาก ถ้าไม่ทำปิตุฆาต(ฆ่าพ่อ-เป็นกรรมของท่าน) แค่ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าก็จะบรรลุธรรมต่อหน้าพระองค์ เมื่อฆ่าพ่อก็ตัดสรรค์ ตัดนิพพาน ฟังธรรมเข้าใจ แต่ไม่บรรลุธรรม ตายแล้วตกนรกโลกันต์ แต่ถึงอย่างนั้น เมื่อพ้นนรกจะกลับมาตรัสรู้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง ส่วนพระอชิตะก็เป็นพระมหาโพธิสัตว์ซึ่งจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ถัดจากพระพุทธเจ้า สมณะโคดม )  

พระโพธิ์สัตว์ท่านไม่บรรลุธรรมหรอกครับ แม้บารมีจะล้นเหลือ ต่อให้ฟังธรรมจากปากพระพุทธเจ้าท่านก็ไม่บรรลุธรรมใด ๆ บำเพ็ญบารมี สร้างอภิญญา มีฤทธิ์ได้แต่ จะไม่บรรลุธรรมในฐานะสาวกภูมิ มันมีเครื่องกั้นจิตอยู่ ท่านจะไม่เอานิพพาน พร้อมจะตรัสรู้ได้ทุกเมื่อแต่ไม่เอา ท่านจะตรัสรู้ด้วยตัวของท่านเองในเวลาอันสมควรแก่การตรัสรู้ ไม่มีการตรัสรู้ซ้ำซ้อนในสมัยที่ยังมีพุทธศาสนาอยู่ในโลก

ในสมัยพุทธกาลนั้น ท่านเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา จึงนำบริวาร 1000 คน บวชในสำนักพระสัมมสัมพุทธเจ้าคราวหนึ่ง พระนางประชาบดี โคตะมี  ทรงทำผ้าสาฎกอย่างดีมาถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าไม่ทรงรับ บอกให้ไปถวายองค์อื่น ก็ไล่มาเรื่อยตามคุณวิเศษ พระสารีบุตร พระโมคคัลานะ ไล่มาเรื่อย ไม่มีใครรับ จนมาถึงพระบวชใหม่ชื่อ อชิตะ ท่านก็รับไว้ พระนางประชาบดี พระน้านางทรงเสียพระทัยว่าผ้านั้นตกแก่พระบวชใหม่

พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงปาฎิหารย์ อฐิษฐานแล้วโยนบาตรหายไปในอากาศ พระสาวกมี พระโมคคัลานะ ไล่มาตามละดับ อาสานำบาตรมาถวาย แต่ไม่มีผู้ใดหาพบ  

พระพุทธเจ้าจึงตรัสแก่ อชิตะภิกษุ ว่าเธอจงไปนำบาตรมาเถิด

พระอชิตะ เป็นพระบวชใหม่ ไม่มีคุณธรรมใด ๆ เป็นพระปุถุชน (ไมมีคุณวิเศษเป็นพระอรหันต์ อนาคามี สกิทาคามี โสดาบัน ไม่มีอภิญญา(อภิญญา 6 นี่แสดงฤทธิ์ได้ )

ทีนี้ท่านเป็นคนธรรมดา ท่านไม่รู้จะทำอย่างไรดี เลยอฐิษฐานว่า ด้วยบุญบารมีที่เราสร้างมา ขอบาตรจงปรากฎแก่เรา

บาตรของพระพุทธเจ้า ก็ลอยมาอยู่ในมือ พระอชิตะ สร้างความประหลาดใจแก่หมู่ชนทั้งหลาย

พระพุทธเจ้าจึงทรงแสดงคุณของ พระอชิตะให้ปรากฎ และทรงพยากรณ์ว่า ในกาลเบื้องหน้า (อีกหลายล้าน ๆปี) พระอชิตะผู้นี้จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งนามว่า พระศรีอารย์เมตตรัย แล้วพรรณาถึงผู้คน บ้านเมือง ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยนั้น เช่น มีแต่คนหนุ่มสาว อายุยืน หน้าตาสวยงามกันทุกคน อาหารการกินบริบูรณ์ดีแค่นึกก็มีอาหารปรากฎมาให้กิน เมื่อจะบรรลุธรรมก็ไม่ยากลำบาก ไม่ต้องปฏิบัติมากนักก็สำเร็จ มีเสียงธรรมลอยมาตามต้นไม้ต่าง ๆ คนฟังแล้วบรรลุธรรมเป็นอันมาก ฯลฯ ซึ่งล้วนเลิศเลอที่เราเรียกว่า ยุคพระศรีอารย์ คือยุคอันเลิศ เป็นยิ่งกว่าอภิมหายูโทเปียอีก คนทั้งหลายต่างอยากเิกิดในยุคนี้ทั้งนั้น

ท่านว่าหากใครพลาดในยุคพระสมณะโคดม ก็ให้ไปรอพระศรีอารย์ ในกัปล์นี้ เป็นภัทรกัปล์ มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ถึง 5 พระองค์ พระศรีแารย์จะเป็นองค์สุดท้าย แล้วจะสิ้นกัปล์ (คือทุกอย่างสูญสิ้น โลกแตกสลาย ก็สิ้นกัปล์หนึ่ง)

กัปล์ต่อไป (เริ่มกำเนิดโลก จักรวาลใหม่ อีกคราวหนึ่ง ) ไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้เลย เป็นกัปล์สูญ ท่านจึงให้รีบเร่งทำบุญสร้างกุศล เพื่อจะได้ไปเกิดทันยุคพระศรีอารย์

เพราะกัปล์หนึ่งยาวนานมาก ในคราวที่ไม่มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้โลกก็มืดบอด สรรพสัตว์ทั้งหลายต้องทนทุกข์ หาทางออกจากวัฎสวสารไม่ได้เลย

แต่ไม่ต้องตกใจไปนะ กัปล์ถัดไปอีก จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ถึง 10 พระองค์ทีเดียว  

รู้แล้วเหยียบไว้นะ..อย่าไปบอกใคร เดี๋ยวเค้ารีบทำความดี สร้างบุญกุศล จนได้พ้นทุกข์พ้้นร้อนไปก่อนเรา (มีอิจฉา ปนมานิดๆ 555)

อย่าลืมสร้างบุญกุศลครับ  ใครอยากเิกิดในยุคพระศรีอารย์ให้รักษาศีล 5  ทำบุญ กุศลต่าง ๆให้มาก บุญกุศลที่ีทำ จะพาไปพบสิ่งที่ดี ใครชีวิตเจอแต่สิ่งเลวร้าย เช่น ขายของอมาซอนมาตั้งนาน ไข่ไม่แตก แตกแต่ไม่โต ให้พากันทำบุญครับ ทำแล้วรวย ยิ่งให้ยิ่งได้รับ สังเกตุไหมครับ คนรวย ๆในบอร์ดนี้มักจะใจดี แชร์นั่น ช่วยนี่ ทั้งแนะนำ แจกของ อนุเคราะห์ สงเคราะห์ ให้ผู้อื่นตลอด ยิ่งให้ยิ่งรวย แปลกแต่จริง
(เกี่ยวกันไหมเนี่ย Tongue)


สิ่งที่ดีที่สุดในเมืองไทย ซึ่งประเทศไหน ๆ ก็ไม่มีเหมือน สิ่งที่เลิศนั้นก็คือ พระพุทธศาสนานี่แหล่ะครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 ธันวาคม 2011, 00:07:33 โดย joasan108 » บันทึกการเข้า
kimaun
Verified Seller
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 42
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 448



ดูรายละเอียด
« ตอบ #42 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 23:39:53 »

ว่ากันด้วยหลักการ

ถ้านึกตามวิศวกรรม เหล็กรางรถไฟจะช่วย ไม่ให้เขื่อนพังได้ยังไง มองภาพไม่ออก

เขื่อนถูกออกแบบมาเพื่อรับการแผ่นดินไหว ภายในตัวเขื่อนเองได้ถึง 7 ริกเตอร์ อีกทั้ง ถ้ามีการแตกหรือร้าว พอจะทำให้เขื่อนแตกได้ต้องใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง จึงมีเวลาที่จะมีการออกแจ้งเตือนภัย

ในสถานการณ์ ณ ตอนนี้ ผมว่าไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำเสนอข่าวแบบนี้ คนเดือดร้อนเรื่องน้ำท่วม ยังมีอีกเยอะแยะ กำลังช่วยกันแก้ปัญหากันอยู่เอาข่าวแบบนี้มาออกหวังให้คนหวาดกลัว ตื่นตระหนก สมควรแล้วหรือ

นาธานเฒ่า  wanwan010
บันทึกการเข้า

เช่า Host กับ Hostgator เดือนแรก 0.01 $ เท่านั้น คูปอง FRISTTIME001 หรือ  FRIST25OFF สำหรับ รายปี ลด 25 %
palermomean
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 109



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #43 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 23:39:53 »

อชิตะภิกษุ หรือในอนาคตคือพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง

การที่บุคคลจะเป็นพระพุทธเจ้า ได้นั้น ต้องสั่งสมบารมี ทำความดีมาหลายๆๆๆๆๆๆๆ ชาติ แล้วเรียกบุคคลนั้นว่า "โพธิสัตว์" พูดง่ายๆ คือ ยังเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา มีกิเลส อยู่ แต่น้อย เบาบางกว่าคนทั่วไป

และด้วยความที่สั่งสมบารมีมาเป็น อเนกชาติ ชาติกำเนิดของพระโพธิสัตว์ จะไม่มีคำว่าต่ำต้อยเลย หากเกิดเป็นมนุษย์ จะได้เกิดในตะกูลสูงร่ำรวย หรือใน วรรณะกษัตริย์

....

ขอยกตัวอย่างนะครับนิดนึงนะครับ ในหลวงของเรา มี "ความเชื่อ" กันมายาวนานว่าท่านเป็นโพธิสัตว์องค์นึง เคยเกิดร่วมชาติกับพระพุทธเจ้าที่เรารู้จักกันดี โดยครั้งนั้นเกิดเป็น ช้าง ที่ถวายดอกบัวให้พระพุทธเจ้า ตอนที่พระองค์ทรงไปจำพรรษาพระองค์เดียวในป่า

คำยืนยันที่บอกว่าในหลวงท่านเป็น พระโพธิสัตว์คือ

1.ดูจากพระาชกรณียกิจที่ทรงทำ ล้วนแต่เป็นนิสัยของพระโพิสัตว์ทั้งสิ้น หรือถ้าเป็นกิจวัตรของพระพุทธเจ้า ตอนก่อนฟ้าสาง เล็งญาณส่องสัตว์โลกว่าวันนี้จะไปโปรดใครดี ตอนสายถึงเย็น สั่งสอน มนุษย์ ตอนกลางคืน ตอบปัญหาเทวดา

2.คำยืนยันของลูกศิษย์พระเกจิ ชื่อดังหลายคน ยกตัวอย่างเช่น หลวงตามหาบัว หลวงปู่สิม และอีกหลายๆรูปที่ กล่าวว่า ในหลวงท่านเป็นพระโพธสัตว์ (อ้างอิงจาก google)

3.ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา สมเด็จพระสังฆราชถวายพระพรในหลวง ใจความตอนหนึ่งพูดว่า "...พระผู้ทรงเหนือพรหม เทพ มนุษย์ สัตว์..."  นอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว ก็มีพระโพธิสัตว์เนี่ยแหละครับที่ประเสริฐที่สุด


วกกลับมาที่ เด็กชายปลาบู่นะครับ ข้อโต้แย้ง จากข้ออ้างที่บอกว่า เด็กชายปลาบู่เป็น พระศรีอารย์

1. ไม่ได้เกิดในตะกูลสูง (อย่างที่บอกไปแล้วว่า พระโพธิสัตว์ ทำบุญมาเยอะครับ)

2. ถึงเด็กชายปลาบู่จะเป็น พระศรีอารย์จริง(ผมคิดว่า ไม่น่าเป็นไปได้) ก็ไม่สามารถทำนาย อนาคตให้ถูกต้องแม่นยำ 100% ได้ เพราะ พระศรีอารย์ ยังไม่ได้บรรลุธรรม (โสดาบันขึ้นไป) การพยากรณ์ถึงอนาคต ยังไม่แม่นยำเท่ากับ บุคคลที่บรรลุธรรมแล้ว ซึ่งเราก็ไม่ต้องกลัวครับ

และถ้าหากมีโต๊ะรับพนันถึงวันสิ้นโลกแล้วล่ะก็ ผมเชื่อว่าเจ้ามือ รับประทานเรียบครับ  wanwan015


ปล. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ ตัวผมเองไม่ได้มีเจตนาล่วงเกินหรือให้ร้ายแก่ผู้ใดทั้งนั้นครับ  wanwan017


บันทึกการเข้า

หมวดองศา
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 36
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 632



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #44 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 23:43:39 »

i don't believe it's fair
บันทึกการเข้า

ถ้าเรายอมแพ้นั่นแหละคือแพ้จริงๆ แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้มันก็ไม่มีวันจบ !!
Free Youtube Views, ปั๊มวิว Youtube ฟรี!
immortal
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 732



ดูรายละเอียด
« ตอบ #45 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 00:06:44 »

อชิตะภิกษุ หรือในอนาคตคือพระพุทธเจ้าอีกพระองค์หนึ่ง

การที่บุคคลจะเป็นพระพุทธเจ้า ได้นั้น ต้องสั่งสมบารมี ทำความดีมาหลายๆๆๆๆๆๆๆ ชาติ แล้วเรียกบุคคลนั้นว่า "โพธิสัตว์" พูดง่ายๆ คือ ยังเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา มีกิเลส อยู่ แต่น้อย เบาบางกว่าคนทั่วไป

และด้วยความที่สั่งสมบารมีมาเป็น อเนกชาติ ชาติกำเนิดของพระโพธิสัตว์ จะไม่มีคำว่าต่ำต้อยเลย หากเกิดเป็นมนุษย์ จะได้เกิดในตะกูลสูงร่ำรวย หรือใน วรรณะกษัตริย์

....

ขอยกตัวอย่างนะครับนิดนึงนะครับ ในหลวงของเรา มี "ความเชื่อ" กันมายาวนานว่าท่านเป็นโพธิสัตว์องค์นึง เคยเกิดร่วมชาติกับพระพุทธเจ้าที่เรารู้จักกันดี โดยครั้งนั้นเกิดเป็น ช้าง ที่ถวายดอกบัวให้พระพุทธเจ้า ตอนที่พระองค์ทรงไปจำพรรษาพระองค์เดียวในป่า

คำยืนยันที่บอกว่าในหลวงท่านเป็น พระโพธิสัตว์คือ

1.ดูจากพระาชกรณียกิจที่ทรงทำ ล้วนแต่เป็นนิสัยของพระโพิสัตว์ทั้งสิ้น หรือถ้าเป็นกิจวัตรของพระพุทธเจ้า ตอนก่อนฟ้าสาง เล็งญาณส่องสัตว์โลกว่าวันนี้จะไปโปรดใครดี ตอนสายถึงเย็น สั่งสอน มนุษย์ ตอนกลางคืน ตอบปัญหาเทวดา

2.คำยืนยันของลูกศิษย์พระเกจิ ชื่อดังหลายคน ยกตัวอย่างเช่น หลวงตามหาบัว หลวงปู่สิม และอีกหลายๆรูปที่ กล่าวว่า ในหลวงท่านเป็นพระโพธสัตว์ (อ้างอิงจาก google)

3.ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ที่ผ่านมา สมเด็จพระสังฆราชถวายพระพรในหลวง ใจความตอนหนึ่งพูดว่า "...พระผู้ทรงเหนือพรหม เทพ มนุษย์ สัตว์..."  นอกจากพระพุทธเจ้าแล้ว ก็มีพระโพธิสัตว์เนี่ยแหละครับที่ประเสริฐที่สุด


วกกลับมาที่ เด็กชายปลาบู่นะครับ ข้อโต้แย้ง จากข้ออ้างที่บอกว่า เด็กชายปลาบู่เป็น พระศรีอารย์

1. ไม่ได้เกิดในตะกูลสูง (อย่างที่บอกไปแล้วว่า พระโพธิสัตว์ ทำบุญมาเยอะครับ)

2. ถึงเด็กชายปลาบู่จะเป็น พระศรีอารย์จริง(ผมคิดว่า ไม่น่าเป็นไปได้) ก็ไม่สามารถทำนาย อนาคตให้ถูกต้องแม่นยำ 100% ได้ เพราะ พระศรีอารย์ ยังไม่ได้บรรลุธรรม (โสดาบันขึ้นไป) การพยากรณ์ถึงอนาคต ยังไม่แม่นยำเท่ากับ บุคคลที่บรรลุธรรมแล้ว ซึ่งเราก็ไม่ต้องกลัวครับ

และถ้าหากมีโต๊ะรับพนันถึงวันสิ้นโลกแล้วล่ะก็ ผมเชื่อว่าเจ้ามือ รับประทานเรียบครับ  wanwan015


ปล. โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ ตัวผมเองไม่ได้มีเจตนาล่วงเกินหรือให้ร้ายแก่ผู้ใดทั้งนั้นครับ  wanwan017




เห็นด้วยกับท่านนี้ครับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านก็เคยบอกครับเรื่องในหลวงท่านเป็นพระโพธิสัตว์
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 ธันวาคม 2011, 00:10:21 โดย immortal » บันทึกการเข้า

izui
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 15
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 244



ดูรายละเอียด
« ตอบ #46 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 00:08:15 »

เข้ามาชม
บันทึกการเข้า

MiithRanDir
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 134
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,427



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #47 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 00:08:31 »

จะพิบัติจะอะไรก็เชิญตามสบายจะได้ตายหนอนแดกกันซะให้หมด ถึงเวลาล้างโลกซะที


หนูจะได้เป็น “พระศรีอาริยเมตไตรย” จบข่าว หาเพลงฟังต่อ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 ธันวาคม 2011, 00:28:48 โดย MiithRanDir » บันทึกการเข้า

atzcret
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 130
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,669



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #48 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 00:16:39 »

ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาทดีที่สุดคะ
สะสมบุญบารมีไว้ ชาติหน้ามีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
รู้แต่ว่าชาตินี้ ได้ทำบุญ ทำทาน นั่งสมาธิบ้าง ก็มีความสุขแล้ว

** หวังแค่ว่าเมื่อความตายมาเยือนจะจากไปอย่างสงบ ไม่เจ็บปวดทรมานก่อนตาย นั่นก็พอแล้ว
เห็นคนรอบข้าง เจ็บป่วย ทรมานก่อนตาย รวยแค่ไหนยามป่วย ก็เจ็บปวดทรมานเท่าๆกัน
ญาติเยอะ เห็นมากเยอะ ยอมรับว่ากลัวมาก ไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวตอนก่อนตายนี่แหละ

 wanwan017
บันทึกการเข้า

สูงเกิน 250 pixel
undeath13
เจ้าพ่อบอร์ดเสียว
*

พลังน้ำใจ: 130
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3,477



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #49 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 00:21:01 »

ขี้ตูด wanwan015

ถ้าไม่อ้าวปู่ทวด พระศรีอริยะ คงจะเชื่อไปแล้ว wanwan015
 
ย้ำ "ขี้ตูดว่ะ"    wanwan015
บันทึกการเข้า
joasan108
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 209



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #50 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 00:35:06 »

อ้างถึง
ชาติกำเนิดของพระโพธิสัตว์ จะไม่มีคำว่าต่ำต้อยเลย หากเกิดเป็นมนุษย์ จะได้เกิดในตะกูลสูงร่ำรวย หรือใน วรรณะกษัตริย์


ขอประทานโทษ ข้อนี้ผมขอท้วงครับ ไม่อยากให้ท่านเข้าใจผิด

พระโพธิสัตว์ก็เป็นปุถุชน ยังผิดพลาดได้ บางคราวก็ตกนรกได้ เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ไม่เกิดเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็กมากๆ เช่น  พยาธิ เป็นต้น 555

เคยฟังนิทานชาดกไหมครับ ครั้งนั้นพระโพธิ์สัตว์ เสวยชาติเป็นลิง หมา ช้าง ฯลฯ ต่อเมื่อบารมีแก่กล้าขึ้นมันผิดพลาดน้อยลง ก็มักจะเกิดดี ๆ ไม่ค่อยตกต่ำแล้ว เพราะฉลาดขึ้น แต่ขนาดทศชาติก่อนตรัสรู้ยังพลาดนะ ภูริทัตชาดก เสวยพระชาติเป็นนาค เป็นเทวดาพวกหนึ่งก็จริงแต่ก็เป็นเดรัจฉาน เห็นไหมครับ



                                     การเสวย 550 พระชาติของพระพุทธเจ้าก่อนจะสำเร็จพระโพธิญาณ

พระชาติต่างๆของพระพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ พระพุทธเจ้าท่องเที่ยวในภพภูมิต่างๆนับแสนโกฏิชาติ เป็นคนบ้าง เทพบ้าง สัตว์บ้าง เท่าที่พบในชาดกเรื่องต่างๆ ๕๔๗ เรื่อง ปรากฏว่า พระองค์ได้เสวยพระชาติต่างๆ ดังนี้

* เป็นพรหม ๑ ครั้ง *เป็นพระอินทร์ ๑๗ ครั้ง *เป็นเทวดา ๔๔ ครั้ง คือ รุกขเทวดา ๓๐ ครั้ง เทวดาทั่วไป ๗ ครั้ง เทพบุตร ๓ ครั้ง สมุทรเทวดา ๓ ครั้ง อากาศเทวดา ๑ ครั้ง.

* เป็นมนุษย์ชั้นสูง ๑๘๔ ครั้ง คือ จักรพรรดิราชาและพระราชา ๔๔ ครั้ง พระโอรสของพระราชา ๒๓ ครั้ง พราหมณ์ พราหมณ์มหาศาล ๓๘ ครั้ง อาจารย์ทิศาปาโมกข์ ๑๘ ครั้ง ปุโรหิต ๑๕ ครั้ง อำมาตย์ มหาอำมาตย์ ๑๕ ครั้ง บัณฑิต ๑๒ ครั้ง ราชสกุล ๑๐ ครั้ง พระยา ๕ ครั้ง ราชครู ๒ ครั้ง พนักงาน ๑ ครั้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ๑ ครั้ง.
*เป็นมนุษย์ทั่วไป ๘๐ ครั้ง คือ เศรษฐี บุตรเศรษฐี กฎุมพี ๓๐ครั้ง พ่อค้า ๑๖ ครั้ง กุมาร ๖ ครั้ง คนจนเข็ญใจ ๔ ครั้ง ชาวนา ๓ ครั้ง มาณพ ๓ ครั้ง จัณฑาล ๓ ครั้ง โจรและนายโจร ๓ ครั้ง คนสอนช้าง ๒ ครั้ง หมองู ๑ ครั้ง ช่างทอง ๑ ครั้ง ช่างหม้อ ๑ ครั้ง ช่างตัดผม ๑ ครั้ง นายขมังธนู ๑ ครั้ง คนตีกลอง ๑ ครั้ง นักเลงสุรา ๑ ครั้ง นักกระโดด ๑ ครั้ง คนงาน ๑ ครั้ง ประชาชนทั่วไป ๑ ครั้ง อาจารย์ดีดพิณ ๑ ครั้ง.
*เป็นนักบวช ๖๖ ครั้ง คือ พระดาบส ๔๐ ครั้ง ฤษี ๒๕ ครั้ง ปริพาชก ๑ ครั้ง.

*เป็น เดรัจฉาน ๑๑๔ ครั้ง แยกเป็น สัตว์ป่า สัตว์บ้าน สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์น้ำ คือ
ก. สัตว์ป่า
วานร วานรเผือก และพระยาวานร ๑๖ ครั้ง ราชสีห์ พระยาราชสีห์ ๙ ครั้ง เนื้อทรายทอง พระยาเนื้อ ๘ ครั้ง ช้าง ช้างแก้ว พระยาช้าง และพระยาช้างเผือก ๗ ครั้ง สุนัขจิ้งจอก ๒ ครั้ง กวาง กวางทอง ๒ ครั้ง พระยาหนู ๒ ครั้ง กระบือ ๑ ครั้ง กระต่าย ๑ ครั้ง กบ ๑ ครั้ง.
ข. สัตว์บ้าน
ม้า พระยาม้า ๔ ครั้ง โค โคอุสภะ ๔ ครั้ง สุกร ๑ ครั้ง สุนัขบ้าน ๑ ครั้ง.
ค. สัตว์ปีก
หงส์ พระยาหงส์ หงส์ทอง พระยาหงส์ทอง ๘ ครั้ง พระยานก ๓ ครั้ง นกกระจาบ ๓ ครั้ง นกยูง นกยูงทอง ๓ ครั้ง พระยากา ๒ ครั้ง นกสุวโปดก ๒ ครั้ง (นกแก้ว หรือ นกแขกเต้า) พระยาครุฑ ๒ ครั้ง พระยาไก่ พระยาไก่ป่า ๒ ครั้ง นกดุเหว่า ๒ ครั้ง นกหัวขวาน ๒ ครั้ง นกกระทา ๒ ครั้ง นกจากพราก ๒ ครั้ง พระยานกออก ๑ ครั้ง นกกาน้ำ ๑ ครั้ง นกขมิ้น ๑ ครั้ง นกมูลโค ๑ ครั้ง.
ฆ. สัตว์เลื้อยคลาน
ตะกวดพระยาตัวเงินตัวทอง ๓ ครั้ง พระยานาค ๓ ครั้ง.
ง. สัตว์น้ำ
ปลา พระยาปลา ๓ ครั้ง.

ที่มา
โค๊ด:
http://tee.igetweb.com/index.php?mo=3&art=497180



ถ้าตั้งใจมาเกิดเป็นคนนั้นท่านมาสร้างบารมี เช่น จุติมาจากสวรรค์แน่ ๆ แต่บางคราวพลาดไปเกิดในภูมิสัตว์เดรัจฉาน ก็ยังมีลีลาแห่งพระโพธิ์สัตว์ คือ มีคุณธรรมผิดจากสัตว์ทั่วไป เพราพระโพธฺิสัตว์นั้นจะมีจิตใจมุ่งหมายทำความดีเพื่อขนสัตว์ออกจากวัฎสงสาร แม้จะผิดพลาดก็จะรู้ตัวได้ไม่นาน เช่น พระภูริทัต มีปัญญา รู้ว่าตนเป็นเดรัจฉานท่านจึงรักษาศีล เพื่อจะเกิดในภูมิเทวดา เป็นต้น

ลองไปอ่านพระไตรปิฎกดูครับ

บันทึกการเข้า
poom
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 37
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,226



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #51 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 01:49:00 »

อ้างถึง
ชาติกำเนิดของพระโพธิสัตว์ จะไม่มีคำว่าต่ำต้อยเลย หากเกิดเป็นมนุษย์ จะได้เกิดในตะกูลสูงร่ำรวย หรือใน วรรณะกษัตริย์


ขอประทานโทษ ข้อนี้ผมขอท้วงครับ ไม่อยากให้ท่านเข้าใจผิด

พระโพธิสัตว์ก็เป็นปุถุชน ยังผิดพลาดได้ บางคราวก็ตกนรกได้ เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ไม่เกิดเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็กมากๆ เช่น  พยาธิ เป็นต้น 555

เคยฟังนิทานชาดกไหมครับ ครั้งนั้นพระโพธิ์สัตว์ เสวยชาติเป็นลิง หมา ช้าง ฯลฯ ต่อเมื่อบารมีแก่กล้าขึ้นมันผิดพลาดน้อยลง ก็มักจะเกิดดี ๆ ไม่ค่อยตกต่ำแล้ว เพราะฉลาดขึ้น แต่ขนาดทศชาติก่อนตรัสรู้ยังพลาดนะ ภูริทัตชาดก เสวยพระชาติเป็นนาค เป็นเทวดาพวกหนึ่งก็จริงแต่ก็เป็นเดรัจฉาน เห็นไหมครับ



                                     การเสวย 550 พระชาติของพระพุทธเจ้าก่อนจะสำเร็จพระโพธิญาณ

พระชาติต่างๆของพระพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ พระพุทธเจ้าท่องเที่ยวในภพภูมิต่างๆนับแสนโกฏิชาติ เป็นคนบ้าง เทพบ้าง สัตว์บ้าง เท่าที่พบในชาดกเรื่องต่างๆ ๕๔๗ เรื่อง ปรากฏว่า พระองค์ได้เสวยพระชาติต่างๆ ดังนี้

* เป็นพรหม ๑ ครั้ง *เป็นพระอินทร์ ๑๗ ครั้ง *เป็นเทวดา ๔๔ ครั้ง คือ รุกขเทวดา ๓๐ ครั้ง เทวดาทั่วไป ๗ ครั้ง เทพบุตร ๓ ครั้ง สมุทรเทวดา ๓ ครั้ง อากาศเทวดา ๑ ครั้ง.

* เป็นมนุษย์ชั้นสูง ๑๘๔ ครั้ง คือ จักรพรรดิราชาและพระราชา ๔๔ ครั้ง พระโอรสของพระราชา ๒๓ ครั้ง พราหมณ์ พราหมณ์มหาศาล ๓๘ ครั้ง อาจารย์ทิศาปาโมกข์ ๑๘ ครั้ง ปุโรหิต ๑๕ ครั้ง อำมาตย์ มหาอำมาตย์ ๑๕ ครั้ง บัณฑิต ๑๒ ครั้ง ราชสกุล ๑๐ ครั้ง พระยา ๕ ครั้ง ราชครู ๒ ครั้ง พนักงาน ๑ ครั้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ๑ ครั้ง.
*เป็นมนุษย์ทั่วไป ๘๐ ครั้ง คือ เศรษฐี บุตรเศรษฐี กฎุมพี ๓๐ครั้ง พ่อค้า ๑๖ ครั้ง กุมาร ๖ ครั้ง คนจนเข็ญใจ ๔ ครั้ง ชาวนา ๓ ครั้ง มาณพ ๓ ครั้ง จัณฑาล ๓ ครั้ง โจรและนายโจร ๓ ครั้ง คนสอนช้าง ๒ ครั้ง หมองู ๑ ครั้ง ช่างทอง ๑ ครั้ง ช่างหม้อ ๑ ครั้ง ช่างตัดผม ๑ ครั้ง นายขมังธนู ๑ ครั้ง คนตีกลอง ๑ ครั้ง นักเลงสุรา ๑ ครั้ง นักกระโดด ๑ ครั้ง คนงาน ๑ ครั้ง ประชาชนทั่วไป ๑ ครั้ง อาจารย์ดีดพิณ ๑ ครั้ง.
*เป็นนักบวช ๖๖ ครั้ง คือ พระดาบส ๔๐ ครั้ง ฤษี ๒๕ ครั้ง ปริพาชก ๑ ครั้ง.

*เป็น เดรัจฉาน ๑๑๔ ครั้ง แยกเป็น สัตว์ป่า สัตว์บ้าน สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์น้ำ คือ
ก. สัตว์ป่า
วานร วานรเผือก และพระยาวานร ๑๖ ครั้ง ราชสีห์ พระยาราชสีห์ ๙ ครั้ง เนื้อทรายทอง พระยาเนื้อ ๘ ครั้ง ช้าง ช้างแก้ว พระยาช้าง และพระยาช้างเผือก ๗ ครั้ง สุนัขจิ้งจอก ๒ ครั้ง กวาง กวางทอง ๒ ครั้ง พระยาหนู ๒ ครั้ง กระบือ ๑ ครั้ง กระต่าย ๑ ครั้ง กบ ๑ ครั้ง.
ข. สัตว์บ้าน
ม้า พระยาม้า ๔ ครั้ง โค โคอุสภะ ๔ ครั้ง สุกร ๑ ครั้ง สุนัขบ้าน ๑ ครั้ง.
ค. สัตว์ปีก
หงส์ พระยาหงส์ หงส์ทอง พระยาหงส์ทอง ๘ ครั้ง พระยานก ๓ ครั้ง นกกระจาบ ๓ ครั้ง นกยูง นกยูงทอง ๓ ครั้ง พระยากา ๒ ครั้ง นกสุวโปดก ๒ ครั้ง (นกแก้ว หรือ นกแขกเต้า) พระยาครุฑ ๒ ครั้ง พระยาไก่ พระยาไก่ป่า ๒ ครั้ง นกดุเหว่า ๒ ครั้ง นกหัวขวาน ๒ ครั้ง นกกระทา ๒ ครั้ง นกจากพราก ๒ ครั้ง พระยานกออก ๑ ครั้ง นกกาน้ำ ๑ ครั้ง นกขมิ้น ๑ ครั้ง นกมูลโค ๑ ครั้ง.
ฆ. สัตว์เลื้อยคลาน
ตะกวดพระยาตัวเงินตัวทอง ๓ ครั้ง พระยานาค ๓ ครั้ง.
ง. สัตว์น้ำ
ปลา พระยาปลา ๓ ครั้ง.

ที่มา
โค๊ด:
http://tee.igetweb.com/index.php?mo=3&art=497180



ถ้าตั้งใจมาเกิดเป็นคนนั้นท่านมาสร้างบารมี เช่น จุติมาจากสวรรค์แน่ ๆ แต่บางคราวพลาดไปเกิดในภูมิสัตว์เดรัจฉาน ก็ยังมีลีลาแห่งพระโพธิ์สัตว์ คือ มีคุณธรรมผิดจากสัตว์ทั่วไป เพราพระโพธฺิสัตว์นั้นจะมีจิตใจมุ่งหมายทำความดีเพื่อขนสัตว์ออกจากวัฎสงสาร แม้จะผิดพลาดก็จะรู้ตัวได้ไม่นาน เช่น พระภูริทัต มีปัญญา รู้ว่าตนเป็นเดรัจฉานท่านจึงรักษาศีล เพื่อจะเกิดในภูมิเทวดา เป็นต้น

ลองไปอ่านพระไตรปิฎกดูครับ





ผมเห็นด้วยกับท่านนี้ครับ

ส่วนเรื่องที่ปลาบู่เป็นพระโพธิสัตว์หรือเปล่าอันนี้ผมไม่รู้ แต่ก็ไม่คิดจะดูหมิ่นหรือหมิ่นประมาทใดๆ ทั้งสิ้น

เรื่องอิทธิฤทธิ์นั้นเป็นเรื่องของ อภิญญาทั้ง 5 คือ

1 อิทธิวิธิ แสดงฤทธิ์ได้ เช่น ล่องหนได้ เหาะได้ ดำดินได้ สร้างไฟขึ้นมาได้ ไม่ว่าจะบันดาลให้ไฟตกจากฟ้า จากอากาศหรือ ฟนตก ฟ้าผ่า หรือทำตนเองให้เป็น 1,000 เป็น 10,000 คน หรือ 100,000 คน ก็ได้ โดยฤทธิที่จะสามารถแสดงได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่ได้อิทธิวิธีนี้ ได้สำเร็จกสิณอะไรมาบ้าง และสร้างบารมีมาอย่างไรบ้าง
2 ทิพพโสต มีหูทิพย์
3 เจโตปริยญาณ กำหนดรู้ใจผู้อื่นได้
4 ปุพเพนิวาสานุสติญาณ ระลึกชาติได้
5 ทิพพจักขุ มีตาทิพย์
6 อาสวักขยญาณ รู้การทำอาสวะให้สิ้นไป (ข้อนี้เป็นอภิญญาที่พระอริยสงฆ์ท่านได้)

อภิญญา 5 ข้อแรกปุถุชนก็สามารถที่จะมีได้ แม้ยังมีกิเลสอยู่ก็สามารถฝึกให้มีขึ้นมาได้ ถ้ามีความเพียรพยายามถึง

และ...

การรู้อดีต (อตีตังสญาณ)
อนาคต (อนาคตังสญาณ)

นั้นก็เป็นเรื่องของ อภิญญา ข้อที่ 5 คือ ทิพพจักขุ เพราะญาณเหล่านี้เป็นญาณบริวารของ ทิพพจักขุ ครับ ถ้ามีการบำเพ็ญเพียรมามากพอก็สามารถที่จะเกิดขึ้นมาในตนได้ แม้ว่าจะเกิดใหม่ขึ้นมาแล้วก็ตาม บุญที่ได้ทำมาที่มีอย่างมหาศาลนั้นก็สามารถที่จะติดตามมาให้ผลได้โดยเร็วเช่นกัน

ทศชาติ ตอนที่พระพุทธโคดมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันในครั้งที่ท่านเสวยพระชาติเป็น พระเตมีย์ ตอนที่ท่านยังเด็กโดยมีพระชนมายุได้ 1 เดือนนั้น พระกุมารท่านได้นั่งอยู่บนตักของพระบิดาท่านที่เป็นพระราชา และเห็นว่าพระบิดาของท่านกำลังสั่งลงโทษนักโทษโดยการทรมารก่อนที่จะประหารนั้น จึงเกิดความสะดุ้งหวาดกลัวขึ้นมาว่า พระบิดาทำกรรมหนักเสียแล้วเพราะเหตุที่ปกครองบ้านเมือง และขณะนั้นพระพี่เลี้ยงได้อุ้มพระกุมารมาบรรทมบนพระแท่นไสยาสน์ พระกุมารได้บรรทมไปได้หน่อยหนึ่ง ก็ทรงตื่นขึ้นแล้วได้ทรงสงบนิ่งพระทัยอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทรงสามารถระลึกชาติได้...

คือ ก่อนที่จะมาเกิดเป็นมนุษย์นี้ พระองค์ได้เกิดเป็นเทวดาเสวยสุขในทิพย์วิมาน แต่ก่อนหน้านั้นเคยตกนรกมาก่อน โดยเคยตกนรกขุมที่ชื่อว่า อุสสุทนรก ก่อนที่จะไปตกนรกนั้นได้เกิดเป็นพระราชา ครองราชย์อยู่ 20 ปี ได้ตัดสินประหารชีวิตคนมาแล้วมิใช่น้อย เมื่อเสด็จสวรรคตแล้วก็บังเกิดในอุสสุทนรกได้รับทุกข์ทรมานอยู่ถึง 80,000 ปี พ้นจากนรกแล้ว ได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วก็ลงมาเกิดในโลกมนุษย์ในตระกูลกษัตริย์อีกครั้ง.... (โดยในครั้งที่ท่านมาเกิดเป็นพระเตมีย์นี้ท่านมาสร้าง มหาเนกขัมมบารมี ครับ)

ส่วนเรื่องภัยพิบัตินั้น ผมคิดว่ายังไงก็จะเกิดขึ้นมาจริงๆแน่นอน แต่อาจจะคลาดเคลื่อนได้ เพราะเหตุปัจจัยต่างๆ คือ ถ้าไม่บอกคนอื่นก็จะคลาดเคลื่อนน้อย แต่ถ้าเอามาบอกคนอื่นโดยเฉพาะผู้ที่มีกรรมที่จะต้องประสบเหตุเภทภัยนั้น ก็อาจจะคลาดเคลื่อนอย่างมาก (ที่คาดเคลื่อนมากที่สุดก็คือ ระยะเวลาในการเกิดสิ่งที่ได้รู้ได้เห็นมาในญาณหรือในสมาธิ แล้วเอามาเล่าให้คนอื่นๆฟัง) เพราะผู้ที่ทำนายได้แม่นยำที่สุดคือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่หากพระองค์ได้ตรัสสิ่งใดออกมาแล้ว สิ่งที่ตรัสนั้นจะต้องเกิดขึ้นมาจริงๆอย่างแน่นอน ไม่มีทางเป็นอื่นไปได้) นอกนั้นก็ขึ้นอยู่กับบารมีญาณของแต่ละองค์ แต่ละท่าน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 ธันวาคม 2011, 05:25:06 โดย poom » บันทึกการเข้า

ขาย Channel Youtube มีผู้ติดตาม 5500 คน สายขาว ดูได้ที่นี้
Bajita
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 60
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 744



ดูรายละเอียด
« ตอบ #52 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 04:41:03 »

กำของไทย wanwan004
บันทึกการเข้า
metheeduang
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 14
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 280



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #53 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 04:52:26 »

ดำรงชีวิตด้วยความไม่ประมาทดีที่สุดคะ
สะสมบุญบารมีไว้ ชาติหน้ามีจริงหรือเปล่าก็ไม่รู้
รู้แต่ว่าชาตินี้ ได้ทำบุญ ทำทาน นั่งสมาธิบ้าง ก็มีความสุขแล้ว

** หวังแค่ว่าเมื่อความตายมาเยือนจะจากไปอย่างสงบ ไม่เจ็บปวดทรมานก่อนตาย นั่นก็พอแล้ว
เห็นคนรอบข้าง เจ็บป่วย ทรมานก่อนตาย รวยแค่ไหนยามป่วย ก็เจ็บปวดทรมานเท่าๆกัน
ญาติเยอะ เห็นมากเยอะ ยอมรับว่ากลัวมาก ไม่ได้กลัวตาย แต่กลัวตอนก่อนตายนี่แหละ

 wanwan017
ใช่ครับเห็นด้วย   เอนี่อยู่บอรด์พลังจิตปะเนี่ยเรา Tongue
บันทึกการเข้า

ligi4t
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 6
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 115



ดูรายละเอียด
« ตอบ #54 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 06:59:33 »

จิงหรือไม่ช่างมันครับประสงค์ ดั ก้อ พอแลล้วนี้ ผม ว่า ก้อโอ นะ
บันทึกการเข้า

palermomean
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 4
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 109



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #55 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 08:26:40 »

อ้างถึง
ชาติกำเนิดของพระโพธิสัตว์ จะไม่มีคำว่าต่ำต้อยเลย หากเกิดเป็นมนุษย์ จะได้เกิดในตะกูลสูงร่ำรวย หรือใน วรรณะกษัตริย์

ขอประทานโทษ ข้อนี้ผมขอท้วงครับ ไม่อยากให้ท่านเข้าใจผิด

พระโพธิสัตว์ก็เป็นปุถุชน ยังผิดพลาดได้ บางคราวก็ตกนรกได้ เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก้ได้เหมือนกัน เพียงแต่ไม่เกิดเป็นสัตว์ที่มีขนาดเล็กมากๆ เช่น  พยาธิ เป็นต้น 555

เคยฟังนิทานชาดกไหมครับ ครั้งนั้นพระโพธิ์สัตว์ เสวยชาติเป็นลิง หมา ช้าง ฯลฯ ต่อเมื่อบารมีแก่กล้าขึ้นมันผิดพลาดน้อยลง ก็มักจะเกิดดี ๆ ไม่ค่อยตกต่ำแล้ว เพราะฉลาดขึ้น แต่ขนาดทศชาติก่อนตรัสรู้ยังพลาดนะ ภูริทัตชาดก เสวยพระชาติเป็นนาค เป็นเทวดาพวกหนึ่งก็จริงแต่ก็เป็นเดรัจฉาน เห็นไหมครับ



                                     การเสวย 550 พระชาติของพระพุทธเจ้าก่อนจะสำเร็จพระโพธิญาณ

พระชาติต่างๆของพระพุทธเจ้าก่อนจะตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ พระพุทธเจ้าท่องเที่ยวในภพภูมิต่างๆนับแสนโกฏิชาติ เป็นคนบ้าง เทพบ้าง สัตว์บ้าง เท่าที่พบในชาดกเรื่องต่างๆ ๕๔๗ เรื่อง ปรากฏว่า พระองค์ได้เสวยพระชาติต่างๆ ดังนี้

* เป็นพรหม ๑ ครั้ง *เป็นพระอินทร์ ๑๗ ครั้ง *เป็นเทวดา ๔๔ ครั้ง คือ รุกขเทวดา ๓๐ ครั้ง เทวดาทั่วไป ๗ ครั้ง เทพบุตร ๓ ครั้ง สมุทรเทวดา ๓ ครั้ง อากาศเทวดา ๑ ครั้ง.

* เป็นมนุษย์ชั้นสูง ๑๘๔ ครั้ง คือ จักรพรรดิราชาและพระราชา ๔๔ ครั้ง พระโอรสของพระราชา ๒๓ ครั้ง พราหมณ์ พราหมณ์มหาศาล ๓๘ ครั้ง อาจารย์ทิศาปาโมกข์ ๑๘ ครั้ง ปุโรหิต ๑๕ ครั้ง อำมาตย์ มหาอำมาตย์ ๑๕ ครั้ง บัณฑิต ๑๒ ครั้ง ราชสกุล ๑๐ ครั้ง พระยา ๕ ครั้ง ราชครู ๒ ครั้ง พนักงาน ๑ ครั้ง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ๑ ครั้ง.
*เป็นมนุษย์ทั่วไป ๘๐ ครั้ง คือ เศรษฐี บุตรเศรษฐี กฎุมพี ๓๐ครั้ง พ่อค้า ๑๖ ครั้ง กุมาร ๖ ครั้ง คนจนเข็ญใจ ๔ ครั้ง ชาวนา ๓ ครั้ง มาณพ ๓ ครั้ง จัณฑาล ๓ ครั้ง โจรและนายโจร ๓ ครั้ง คนสอนช้าง ๒ ครั้ง หมองู ๑ ครั้ง ช่างทอง ๑ ครั้ง ช่างหม้อ ๑ ครั้ง ช่างตัดผม ๑ ครั้ง นายขมังธนู ๑ ครั้ง คนตีกลอง ๑ ครั้ง นักเลงสุรา ๑ ครั้ง นักกระโดด ๑ ครั้ง คนงาน ๑ ครั้ง ประชาชนทั่วไป ๑ ครั้ง อาจารย์ดีดพิณ ๑ ครั้ง.
*เป็นนักบวช ๖๖ ครั้ง คือ พระดาบส ๔๐ ครั้ง ฤษี ๒๕ ครั้ง ปริพาชก ๑ ครั้ง.

*เป็น เดรัจฉาน ๑๑๔ ครั้ง แยกเป็น สัตว์ป่า สัตว์บ้าน สัตว์ปีก สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์น้ำ คือ
ก. สัตว์ป่า
วานร วานรเผือก และพระยาวานร ๑๖ ครั้ง ราชสีห์ พระยาราชสีห์ ๙ ครั้ง เนื้อทรายทอง พระยาเนื้อ ๘ ครั้ง ช้าง ช้างแก้ว พระยาช้าง และพระยาช้างเผือก ๗ ครั้ง สุนัขจิ้งจอก ๒ ครั้ง กวาง กวางทอง ๒ ครั้ง พระยาหนู ๒ ครั้ง กระบือ ๑ ครั้ง กระต่าย ๑ ครั้ง กบ ๑ ครั้ง.
ข. สัตว์บ้าน
ม้า พระยาม้า ๔ ครั้ง โค โคอุสภะ ๔ ครั้ง สุกร ๑ ครั้ง สุนัขบ้าน ๑ ครั้ง.
ค. สัตว์ปีก
หงส์ พระยาหงส์ หงส์ทอง พระยาหงส์ทอง ๘ ครั้ง พระยานก ๓ ครั้ง นกกระจาบ ๓ ครั้ง นกยูง นกยูงทอง ๓ ครั้ง พระยากา ๒ ครั้ง นกสุวโปดก ๒ ครั้ง (นกแก้ว หรือ นกแขกเต้า) พระยาครุฑ ๒ ครั้ง พระยาไก่ พระยาไก่ป่า ๒ ครั้ง นกดุเหว่า ๒ ครั้ง นกหัวขวาน ๒ ครั้ง นกกระทา ๒ ครั้ง นกจากพราก ๒ ครั้ง พระยานกออก ๑ ครั้ง นกกาน้ำ ๑ ครั้ง นกขมิ้น ๑ ครั้ง นกมูลโค ๑ ครั้ง.
ฆ. สัตว์เลื้อยคลาน
ตะกวดพระยาตัวเงินตัวทอง ๓ ครั้ง พระยานาค ๓ ครั้ง.
ง. สัตว์น้ำ
ปลา พระยาปลา ๓ ครั้ง.


เห็นด้วยครับ  wanwan017  wanwan017

พระโพธิสัตว์ ยังไม่บรรลุธรรม จึงทำทั้งบุญและบาป

แต่ผมคิดว่า พระศรีอารย์ ซึ่งท่านเป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ การสร้าง บารมี ใน 10 ชาติสุดท้าย "น่าจะ" เกิดในตะกูลสูงทั้งสิ้นครับ (ความเห็นส่วนตัว)

ยกตัวอย่าง ทศชาติของพระพุทธเจ้า ล้วนเกิดเป็น มนุษย์ ในตระกูลสูงทั้งสิ้น ครับ

ขอบคุณที่เอาความรู้มาฝากครับ  wanwan017 wanwan017
บันทึกการเข้า

สมถะมหาทรัพย์
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 40
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,204



ดูรายละเอียด
« ตอบ #56 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 08:57:05 »

เชื่อไว้บ้างก็ดีครับ



อะไรๆที่มันเซอร์ไพรส์   มักจะเกิดขึ้นเสมอครับ  ปฏิบัติธรรม รักษาศีลห้าให้ดีๆครับ  ขอให้พระคุ้มครองทุกคนนะครับ Embarrassed
บันทึกการเข้า

MadGiffy
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 26
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 148



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #57 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 09:16:34 »

เข้ามาชม
เข้ามาชมเหมือนกันค่ะ  Tongue
บันทึกการเข้า
4Aoy
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 65
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,629



ดูรายละเอียด
« ตอบ #58 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 09:32:22 »


เหตุการณ์ที่ผ่านมาแล้วนั่น ทำนายแม่นมากครับ

แต่ จะเชื่อหรือไม่ ก็รอที่จะเกิดใจอนาคต

ที่ว่าเป็น พระอชิตะ มาเกิน ไม่เชื่อครับ

ข่าวลือ สมัยก่อนอ่ะ ทำง่าย คนเชื่อหมดล่ะ เหมือนเรื่องกบฎผีบุญ นั่นแหละ
(พอละเดี๋ยวโดนแบน)
บันทึกการเข้า

เขียนบล็อก ตถตา |. Blogger template for Adsense สำหรับมือใหม่
Amazonas
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 21
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 76



ดูรายละเอียด
« ตอบ #59 เมื่อ: 09 ธันวาคม 2011, 09:57:33 »

ชอบแฮะ กระทู้นี้ ได้ความรู้เรื่องศาสนา  wanwan017
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4   ขึ้นบน
พิมพ์