สวัสดีครับเพื่อนๆ ก็ถึงเวลาสร้างประโยชน์ให้กับบอร์ดนี้กันอีกคราแล้ว พอดีเห็นมีการสอบถามเรื่องการใช้งาน Feedburner กันเข้ามา เห็นว่าเป็นเรื่องหนึ่งที่อยู่ ในความสนอกสนใจของเพื่อนๆในบอร์ดนี้กัน ว่าไปแล้วผมก็เคยเขียนเรื่องเกี่ยวกับ Feedburner นี้ไว้หลายครั้งหลายคราเหมือนกันที่บล็อก ปฐมบทนั้นคงเริ่มจากที่ เจ้า Feedburner นี้เป็นผู้ให้บริการสถิติชนิดหนึ่ง แต่สถิตินั้นเป็นเรื่องราวของ RSS Feed กันโดยเฉพาะ ผมคงไม่ต้องขยายความลงไปถึงเรื่อง RSS Feed คืออะไรหรอกนะครับ
http://www.feedburner.com/
ปกติแล้ว การพัฒนาเว็บไซต์หรือบล็อกทุกวันนี้ มักติดตั้งระบบฟีดมาด้วยในตัว เพราะมันเป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการส่งข่าวสาร ไปถึงผู้ใช้งานโดยตรง อาจจะเป็นในแบบ RSS, ATOM ก็ขึ้นอยู่กับการจัดการแพลทฟอร์มนั้นตั้งแต่แรกเริ่ม ปกติแล้วที่ได้รับความสนใจและใช้กันโดยทั่วไปมักใช้ระบบฟีดแบบ RSS หรือ ATOM หรือจะยังไงก็แล้วแต่ มันก็เป็นเทคโนโลยีเดียวกันนั่นแหละครับ
เพื่อนๆก็คงพอจะรู้กันนะครับว่า ฟีดนั้นเป็นตัวหนึ่งที่กินแบนด์วิธของเพื่อนๆได้ อันนี้จะกินไปมากหรือเขมือบไปเล็กน้อย ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ที่ติดตามอ่านข่าวสารผ่านฟีดนะครับ ผมว่านะบางทีอาจจะมีวิธีการที่ช่วยลดแบนด์วิธ ในตรงนี้ลงไปได้ ก็เห็นจะเป็นการใช้งานของ Feedburner นี่แหละ แต่ไม่ใช่ว่ามีแต่เจ้าเดียวนะครับ อย่างของจีนที่ปิดกั้นข่าวสารเรื่องฟีดไปแล้ว ก็มีการให้บริการเช่นกัน อย่างเช่นบริการของ Feedsky
อาจจะยังมองไม่เห็นภาพ สมมุตนะครับสมมุต เว็บไซต์หรือบล็อกของเพื่อนๆมีคนติดตามอ่านสักประมาณ พันคน (เป็นเรื่องปกติของบล็อกต่างประเทศ) จะกินแบนด์วิธตรงนี้ไปมากเท่าใด อาจจะน้อยกว่าจำนวนคนเข้าชมบล็อกโดยตรง 1000 คน/วันก็ใช่ แต่ถ้ามีวิธีการประหยัดพลังงาน เราก็ต้องทำใช่เปล่า อืม.. ผมว่าผมบ่นมาเยอะแล้วไปเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
เข้าไปยังเว็บไซต์ของ Feedburner กันเลยที่
www.feedburner.com 
แล้วจะปรากฏรูปร่างหน้าตา คล้ายๆกับรูปที่ 1 ที่ผมจับภาพมาให้ดูในที่นี้ จากนั้นให้กรอก URL ของบล็อกเราลงไปเลย (ไม่จำเป็นต้องบอกตำแหน่งไปถึง URL ของฟีด) จากนั้นคลิก Next ส่วนจะเลือก i am a Podcaster ด้วยหรือไม่นั้น ก็ต้องดูด้วยว่าบล็อกเราม Content เป็น Podcast ด้วยหรือเปล่า

รูปที่ 1
เรื่องขั้นตอนการสมัครสมาชิกนั้น ผมขอข้ามไปนะครับ เพราะคงสมัครเป็นทุกคนอยู่แล้ว ก็มาเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปเลย เมื่อระบบตรวจพบว่าบล็อกเรามีฟีด ก็จะแจ้งผลออกมา ถ้าผิดพลาดแสดงว่าระบบฟีดของเรามีปัญหา ก็ให้เราตั้งชื่อฟีด และกำหนด Address ลงไปได้เลย (ถ้าซ้ำก็จะไม่ผ่าน)

รูปที่ 2
ผมขอข้ามบางขั้นตอนไปอีกหนึ่ง ขี้เกียจกลัวมันจะยาว เมื่อเพิ่มฟีดเสร็จสิ้น ก็จะโยงเข้ามาถึงหน้าจัดการฟีดกันเลย ส่วนมาแล้วเราจะต้องเข้าไปยุ่งที่เมนู Publicize มากที่สุด เพราะอะไรๆก็จะจัดการที่นั่น ส่วนในหน้าแรกนี้ จเป็รหน้าที่แสดงสถิติของฟีดเรา ในกรณีนี้ผมยังไม่มีสถิติเพราะพึ่งสมัครใหม่เอง

รูปที่ 3
แต่ก่อนที่จะไปถึงเมนู Publicize เรามาตั้งค่าในส่วนที่จำเป็นในหน้านี้ก่อน แรกเริ่มระบบจะตั้ง Browser Friendly มาให้แล้ว เราก็ไม่ต้องไปตั้งค่าซ้ำซ้อน ให้เราข้ามไปเปิด SmartFeed กันเลย

รูปที่ 4
การเปิดการใช้งานตรงนี้ ข้อดีคือรองรับทุก Feed Reader นั่นเอง สั่ง Active ได้เลย

รูปที่ 5
ยังไม่ถึงครึ่งชักขี้เกียจเข้าสมองแหะ เอานะผ่านๆ ไปจัดการฟีดของเราดีกว่า ไปที่ Publicize เลยครับ มีตัวเลือกให้เล่นตรึมเลย เอาเฉพาะที่สำคัญๆนะ ตัวเลือกอื่นๆก็ลองไปเล่นกันเอาเอง

รูปที่ 6
ตัวแรกเลยเปิด Email Subscriptions ก่อนเลย ใช้ในกรณีที่อยากมีใครจะติดตามอ่านบล็อกเราผ่านอีเมล์ยังไง สั่ง Active ไปเลย

รูปที่ 7
เมื่อสั่งให้มันทำงานแล้ว ก็ให้คัดลอกเอาโค๊ดนั้นไปแปะ Template ในจุดที่เพื่อนๆตรงการ เอาตรงไหนก็ได้ แต่ไม่ใช่จุดไต้ตำตอนะ เอิ๊กๆๆ

รูปที่ 8
ตัวต่อมาก็มาเปิด Feedcount ระบบนับจำนวนคนอ่านฟีดเรา เห็นบล็อกในเมืองนอกใช้กันเยอะ ผมเองก็ใช้เหมือนกัน ก็มีพอให้ชื่นใจกันนิดหน่อย ถ้าในไทยเรานี้ แค่ร้อยสองร้อยคนก็ถือว่าโปรแล้ว ตัวนี้ก็สั่ง Active ไปเลย

รูปที่ 9
จากนั้น นำโค๊ดไปแปะ ในจุดที่ต้องการโชว์ภูมิ มาอวดกันหน่อยเร็วว่าบล็อกเรา มีจำนวนคนอ่านเพิ่มมากน้อยแค่ไหน จะได้ Track กันอย่างเมามัน

รูปที่ 10
แต่ช้าแต่ ระบบ FeedCount จะยังทำงานไม่ได้ ถ้าไม่เปิด Awareness API เสียก่อนนะครับ เพื่อให้ผู้ใช้ภายนอก สามารถเชื่อมโยงเพื่อดึงข้อมูลออกไปใช้งานได้

รูปที่ 11
ตัวต่อมาก็คือ PingShot ก็เปิดใช้งานได้เลย ทุกๆครั้งที่ฟีดเราอัพเดต เจ้า FeedBurner ก็จะแจ้งให้ Search Engine ต่างๆได้ทราบและก็เข้ามาเก็บข้อมูลได้แล้ว ส่วนตัวแนะนำให้เปิดใช้งานครับ ไม่ต้องใช้ระบบ Auto Ping ให้ยาก ลำพังเจ้านี้ ก็ทำการปิงให้เสร็จสรรพ

รูปที่ 12
เมนูถัดมาคือ Monetize จะหารายได้เข้ากระเป๋าก็ต้องมาตรงนี้แหละ หลังจาก Google ซื้อ Feedburner ไปก็มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเยอะ เห็นเอา AdSense for Feed มาลงที่ FeedBurner กันเลย และเห็นที่ Blogger.com มีการผสมผสานระบบของ FeedBurner เข้าไปด้วย ดีๆครับ จะทำเงินกับ AdSense ด้วย Feed ก็ได้เหมือนกันนะครับ ในกรณีที่มีผู้ติดตามอ่านฟีดมากๆ แต่ว่ามีใครมากถึงพันหรือเปล่าเอ่ย

รูปที่ 13
ว่าจะเอาสั้นๆยาวเยื้อยเลย เอิ๊กๆๆ เมื่อเราสมัครใช้งานแล้ว เราก็จะได้ URL ของ FeedBurner มาใช่เปล่าครับ ก็ให้นำฟีดนี้แหละไปซับมิตตาม Feed Directory ทั้งหลาย และโดยส่วนมากแล้วพวก Feed Directory ก็ชอบเจ้า FeedBurner ซะเหลือเกิน เพราะฟีดมันไม่พร่อง
ถึงเวลาต้องจากกันแล้ว ไม่เข้าใจตรงไหนสอบถามได้นะครับ เดี๋ยวจะเข้ามาตอบ (ถ้าว่าง) ไปล่ะครับ
