พื้นฐานจริงๆ
หลักการก็เหมือน เพื่อนคุณชวนตั้งบริษัทนั่นแหล่ะ รวมเงินกัน แล้วหุ้นตั้งขึ้นมา
จากนั้นบริษัทเอาเงินไปลงทุน หากกำไร ก็แบ่งไปลงทุนต่อ แบ่งเป็นปันผลให้ผู้ถือหุ้น
ตลาดหุ้นก็คือที่ๆ บริษัทนำหุ้นมาขายให้นักลงทุน
การขายครั้งแรกเรียกว่า IPO
จากนั้นเมื่อมีคนซื้อในช่วง IPO คนนั้นก็มีหุ้นบริษัทนั้นในมือ ก็สามารถขายต่อให้คนอื่นได้
หรือถือไว้เองเพื่อรอปันผล (หรือหากบริษัทบริหารไม่ดีก็อด)
หากบริษัทมีผลประกอบการดี ทำธุรกิจรุ่ง หรือมีข่าวดีๆ มันก็จะอยู่ในหลักของ demand / supply คือ คนก็จะอยากได้หุ้นตัวนั้นเยอะ เมื่อคนอยากได้เยอะ ราคาก็ขึ้น
คนที่ถือหุ้นตัวนั้นอยู่ก็นำหุ้นไปขายต่อให้คนอื่นได้ โดยไปตั้งขายกับตลาด หากเราตั้งราคาแล้วตรงกับที่คนอยากได้ ก็ขายออก (เป็นการแมทช์ระหว่าง กลุ่มของคนที่อยากซื้อ และอยากขาย)
แต่ต้องคำนึงมากๆว่า ตลาดนี้จิตวิทยามวลชนมีผลกระทบแรง ธุรกิจที่กิจการดี ไม่จำเป็นว่าหุ้นจะขึ้นเสมอไป และธุรกิจห่วยๆ หากสร้างข่าวดี ก็ขึ้นสูงได้เหมือนกัน (หุ้นปั่น)
เราไม่สามารถซื้อขายตรงๆในตลาดได้ ต้องมีคนทำแทนเรา เรียกว่าโบรคเกอร์ ก็ไปสมัคร เปิดบัญชี แล้วจะมีเทรดผ่านเนต กับเทรดผ่านมาร์เกตติ้ง (มาร์จะคอยโทรหาเรา หรือเราอยากซื้อขายตัวไหนให้มาร์แนะนำก็บอกมาร์)
ส่วนเทรดผ่านเนต ก็มี user pass เข้าไปกดๆซื้อขายเองได้เลย
พื้นฐานชักยาวแหะ
แต่เงินที่จะได้จากการเล่น ลงทุนก็มีสองทางหลักๆ คือเงินปันผล จะมีปีละ 0-2 ครั้ง หากบริษัทมีผลประกอบการทำกำไร ก็จะตัดกำไรมาปันผลให้ผู้ถือ
กับเงินที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้น (ส่วนใหญ่จะเล่นหุ้นกันเพื่อหวังตัวนี้) พูดง่ายๆก็ซื้อถูก ขายแพงนั่นแหล่ะ เช่น ซื้อหุ้นบริษัท thaiseo มาตอนมัน 10 บาท วันดีคืนดี บริษัทกิจการดี หุ้นขึ้นไป 15 บาทก็ขายที่ 15 กำไรไป หุ้นละ 5 บาท
แต่มีขึ้นก็ย่อมมีลง หากเลือกหุ้นไม่ดี หรือหุ้นดีแต่ผิดจังหวะ ก็ขาดทุนได้ยับเหมือนกัน
พยายามอ่านเยอะๆ ค่อยๆเริ่มลงทุนไปดูละกัน หรือง่ายกว่านั้นก็ลงพวกกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้น พูดง่ายๆคือเอาเงินไปให้โบรคบริหาร จะมีผู้จัดการกองทุนคอยเลือกหุ้นมาเข้ากองทุนให้เรา และขายออกไป โดยพยายามทำให้กำไร ซึ่งจะมีหนังสือชี้ชวนอยู่ว่ากองทุนนั้นๆลงทุนแบบไหน ลงในหุ้นอะไร ก็ควรอ่านก่อนว่าตรงกับที่อยากได้ไหม
หากขี้เกียจมานั่งศึกษาเองเยอะ แต่ก็ต้องมีพื้นฐาน กับประเมินภาวะเศาษฐกิจพอเป็นอยู่ดี