ร่างมนุษย์แก้ปัญหาอย่างไร
แล้ว ไม่ร่างมนุษย์แก้ปัญหาอย่างไร
ผมอยากรู้ต่างกันยังไง แล้วปัญหาที่แก้คือปัญหาอะไรเหรอครับ
ร่างมนุษย์ทำให้ทำงานได้เร็วขึ้น เพราะผู้ปฏิบัติธรรมที่บรรลุอรหัตผลขึ้นไปจึงต้องปลีกวิเวก การอยู่ร่วมกับมนุษย์อาจนำความเสื่อมมาสู่ตนได้ อันนี้เป็นวิกฤติ
แต่ถ้าจะพฤติวิกฤติให้เป็นโอกาสด้วยการศึกษาแล้วทำให้มีประสบการณ์ว่าจะทำอย่างไรให้ไม่เสื่อมหรือเสื่อมน้อยที่สุด แล้วเมื่อเสื่อมแล้วต้องซ่อมแซมให้กลับ
สู่สภาวะปกติอย่างไร นี่เป็นความลำบากอย่างหนึ่งที่เกิดขึ้น ความลำบากใจและกายทั้งปวงที่เกิดขึ้นพลิกเป็นโอกาสในการสร้างบารมีได้ การแก้ปัญหาโดยใช้
ร่างมนุษย์ไม่ต่างจากไม่มีร่างหรอกครับ วิธีการเดียวกันเลยเหมือนกับเทพที่ไม่มีร่าง จุดนี้ทำให้ไม่ต้องมีมนุษย์มาห้อมล้อมด้วยความศรัทธาก็ทำงานได้ แต่
สิ่งที่ต่างคืออัตราเร่งในการสร้างบารมีนั้นเร็วกว่าเทพที่ไม่มีร่างมนุษย์ นี่เป็นเหตุหนึ่งทีเดียวที่เดียวที่ก่อนพระศิวะท่านจะส่งผมลงมาทำงาน ท่านต้องพิจารณา3
หนักมากว่าผมจะอดทนต้อนทานกระแสความคิดของมนุษย์ได้มั้ย เช่นถ้าอดทนไม่เพียงพออาจจะบันดาลอะไรให้เสียหายขึ้นได้ นี่คือเหตุผลที่ทำให้มีกฎ
ห้ามไว้ว่าหากบำเพ็ญเพียรสูงกว่าอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณต้องปรินิพพานเท่านั้นจะอยู่ร่วมกับมนุษย์ไม่ได้ เพราะถ้าตนเองเสื่อมเช่นถูกความโกรธเข้าครอบงำ
จะทำร้ายผู้ที่ทำให้ตนโกรธได้ดีกว่าเทพที่ไม่มีร่างมนุษย์ด้วย การอยู่ร่วมกับมนุษย์แล้วจิตของผมถูกตรึงอยุ่กับร่างมนุษย์ไปไหนไม่ได้ จึงมีสภาพไม่ต่างจาก
การอาศัยหลับนอนอยู่ข้างกองขยะ เพราะบรรดาอาสวะทั้งหลายของมนุษย์และสรรพสัตว์จะถูกดูดให้มาติดแล้วแปดเปื้อนจิตได้ง่ายขึ้นเมื่อกำลังสมาธิเพิ่มขึ้น
ประสบการณ์และความอดทนเท่านั้นที่ทำให้ผมอยุ่ได้่
ที่ผ่านมาก่อนที่จะมาถึงผม พระศิวะท่านได้ตระหนักถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามที่ผมบรรยายมาอยุ่แล้ว แต่หาคนที่มีน้ำอดน้ำทนต่อความสกปรกของมนุษย์ไม่ไหว
หาไม่ได้สักทีหรือถึงจะหาได้พอถึงเวลาคนเหล่านั้นเมื่อรู้ความร้ายกาจของมวลมนุษย์แล้วจะไม่ยอมมีชีวิตอยุ่ต่อต่างประกาศปรินิพพานทั้งสิ้น กล่าวคือปล่อย
ให้มนุษย์ชดใช้กรรมอย่างยถากรรมไปแล้ว ส่วนผมเองก็รุ้ความเสี่ยงนี้แล้วก็ไม่อยากมีีวิตอยุ่ แต่ด้วยคตวามเห็นใจในความทุกข์รอนของมนุษย์และสรรพสัตว์
กำลังได้รับในอนาคตด้วยความรู้สึกเช่นนี้ก็เลยคิดอย่างฝืนใจในตอนแรกว่า "เอาวะอยู่ต่อก็อยุ่ต่อ" ด้วยความเจ็บปวดใจอย่างแสนสาหัสที่ต้องสละการปรินิพพาน
นั้นไปทำให้บารมีนั้นส่งผลให้ถูกเลื่อนตำแหน่งจากอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณปเป็นอภิเทพ โดยที่ต้องย้อนกลับมาเก็บคุณสมบัติภายหลัง
ปัญหาของมนุษย์ที่ร้ายแรงที่สุดคือการเข้าใจผิดในหลักธรรมอย่างรุนแรงทำให้เกิดสภาวะมิขสัญญี เช่นการเข้าใจผิดในหลักธรรมที่ว่ากรรมเป็นเครื่องแสดง
เจตนาก่อให้เกิดความเห็นแก่ตัวเกิดขึ้นในมวลมนุษย์อย่างมหาศาล การไม่เข้าใจหลักอิธิบาทให้ถูกต้อง ทำให้มนุษย์ละเลยเรื่อง "จิตวิมังสา" หรือจิตสำคัญ
กว่าร่างกาย ทำให้เกิดการฉุดรั้งชีวิตตนเองเอาไว้เพื่อเสวยสุขแล้วละเลยการตระหนักถึงผลกรรม แล้วตีความคำสอนที่มีโดยเข้าข้างตนเองเป็นที่ตั้ง หลาย
ครั้งในหลายกระทู้ผมได้นำผลจากการปฏิบัตินั้นมาตีแผ่แล้ววิเคราะห์ให้เห็น ไม่เว้นแม้แต่กระทู้นี้ผมเปรียบเทียบชัดเจนว่า ฉันทะที่มีในอิทะิบาทกับฉันทะ
ที่มีอยุ่ในเรื่องอคติ 4 ว่าเป็นอย่างไร อีกปัญหาที่สำคัญคือมนุษย์มักจะลืมดูหรือสำรวจความเป็นไปในตนเอง แต่กลับมุ่งพิจารณาเพื่อหาข้อบกพร่องของผู้อื่น
ทั้งหมดนี้เกิดจากการไม่เข้าใจหลักคำสอนที่ถูกต้องทั้งสิ้น ไม่ร.ู้ว่าพระพุทธองค์สอนอะไรให้ทำอะไร อีกอย่างถึงรู้ก็ไม่พยายามทำหรือไม่พอใจที่จะประกอบความ
เพียรขัดกับหลักอิทธิบาทข้อแรก มนุษย์มีความเปราะบางเกินกว่าจะยอมรับวามจริงทั้งหมดที่มีในตนได้ ขาดขันติในการเอาชนะความทุกข์ที่ตนมีอย่างรุนแรง แต่ดัน
มีขันติเพื่อที่จะเอาชนะผุ้อื่นให้ได้ด้วยความมีมานะทิฐิในตนหรือมีความถือตัวเป็นที่ตั้ง ด้วยมานะทิฐิที่มีสูงในมนุษย์ยุคปัจจุบันนี่แหล่ะทำให้ไม่มีใครสามารถนำหลัก
ธรรมที่ถูกต้องมาอธิบายให้ฟังได้ ด้วยมานะทิฐิในมวลมนุษย์จึงก่อให้เกิดการต่อต้านโต่้แยงอย่างรุนแรงเป็นที่น่าระอายิ่ง ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีหรือแทบหาได้น้อย
มากที่จะมีคนกล้าหยิบเอาคำสอนที่ถุกต้องออกมาตีแผ่ เพราะทำไปก็เจ็บตัวเปล่า ๆ มีผมนี่แหล่ะที่บ้าทำอยุ่ได้เจ็บแล้วเจ็ฌบอีก โดนเยอะเย้ยถากถาก ฯลฯ
แต่ไม่เคยจำเสียที ที่จริงมีอีกแต่เดี๋ยวยาวเอาเท่าที่นึกออกก่อนนะครับ ปัญหาเยอะเหลือเกินเดี๋ยวนึกได้อีกจะมาต่อ