สินเชื่อเพื่อคนยากจนกำลังเข้ามาสู่ประเทศไทยมากขึ้น
13 กุมภาพันธ์ 2011
บทความในหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ส่วนหนึ่งเป็นข่าวที่ให้กำลังใจแก่พวกเรา คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแผนการจัดตั้งสถานีไปรษณีย์เป็นสำนักงานสาขาในการจัดการเรื่องสินเชื่อเพื่อคนยากจนแก่ผู้ที่มีรายได้น้อย ผู้สมัครจำเป็นต้องไปสมัครเข้าร่วมที่สำนักงานไปรษณีย์
การใช้สำนักงานไปรษณีย์เป็นช่องทางให้บริการจ่ายสินเชื่อเพื่อคนยากจน(Microfinance) นับว่าเป็นแนวคิดอันชาญฉลาด เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากสามารถได้รับประโยชน์จากเงินจำนวนนี้แต่ไม่ทราบว่าจะไปสมัครได้ที่ไหน โดยทั่วไปแล้วผู้ให้กู้ก็ไม่มีงบการตลาดมากมายเฉกเช่นธนาคารทั่วไป จึงเป็นการยากที่จะหาพบ
ซึ่งการใช้สำนักงานไปรษณีย์เป็นศูนย์การสมัครและมอบสินเชื่อเพื่อคนยากจนไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่มีเกิดขึ้นและประสบผลสำเร็จมาแล้วในพื้นที่อื่น ก่อนนี้ First Micro Finance Bank Ltd. ในปากีสถานก็ได้นำแนวคิดนี้มาร่วมกันกับสำนักงานไปรษณีย์ในปากีสถานเพื่อเริ่มให้มีการใช้สำนักงานไปรษณีย์ในการจ่ายสินเชื่อเพื่อคนยากจน ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2008 และยังประโยชน์อย่างมากในการบริการสินเชื่อเพื่อคนยากจนให้แก่ประชากรในชนบท
ในประเทศไทย ตามที่รัฐมนตรีกระทรวง ICT กล่าวว่าผู้มีรายได้น้อยจำนวนกว่า 18 ล้านคนไม่สามารถกู้ยืมเงินได้ สำนักงานไปรษณีย์จึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นประโยชน์ และขณะนี้ใครก็ตามสามารถสามารถไปยื่นความจำนงได้ที่สำนักงานไปรษณีย์ได้ทั้ง 1,200 แห่งทั่วประเทศ
ในจำนวน 18 ล้านคนจากจำนวนประชากรทั้งสิ้นราว 66 ล้านคน ที่ไม่สามารถกู้ยืมเงินได้ตามที่กล่าวมาข้างต้น ใช่ว่าเป็นจำนวนมากมายเมื่อพิจารณาตั้งแต่แรก จริงที่ว่านี่คือประเทศกำลังพัฒนาด้วยโครงสร้างพื้นฐานแบบอุตสาหกรรม แต่ยังยากจน จากการที่กระผม/ดิฉัน (ไม่ทราบเพศผู้เขียน แต่น่าจะเป็น Andrea Lucus??) ได้เดินทางไปยังภูมิภาคที่ยากจนที่สุดในโลก มันทำให้ทราบความหมายของคำว่า “ยากจน” ในเชิงความสัมพันธ์ ในสหรัฐอเมริกา “ยากจน” มีความหมายที่ต่างกันโดยสิ้นเชิงกว่าการอยู่ในพื้นที่ที่ไม่ปลอดภัยทางสังคม ในประเทศไทย ก็คือการที่มีรายได้น้อย ซึ่งเสมือนได้รับความช่วยเหลือแล้วจากที่กล่าวว่าตัวเลขมีความสัมพันธ์กัน อัตราค่าจ้างขั้นต่ำในสหรัฐอเมริกานับว่าเป็นจำนวนที่มากอย่างคาดไม่ถึงสำหรับแรงงานไทยในโรงงานทอผ้าในกรุงเทพมหานคร โดยพวกเขาได้รับค่าข้างขึ้นต่ำ 260 บาทต่อวัน หรือประมาณ 6.86 ดอลลาห์สหรัฐ เป็นรายได้ต่อวัน ไม่ใช่ต่อชั่วโมง
คนยากจนจำนวนมากจะได้รับประโยชน์จากสินเชื่อเพื่อคนยากจนหากพวกเขาทราบว่ามีโครงการนี้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความท้าทายอย่างมาก บางทีอาจจะมากกว่าการได้มาซึ่งเงินทุนสนับสนุนโครงการด้วยซ้ำ ดิฉันได้เล็งเห็นว่ามันได้สร้างความแตกต่างอย่างมากต่อชีวิตของผู้คน เช่นเดียวกับแก้ว สาววัย 34 ปี มีลูก 4 ขวบที่ไม่เคยได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานใดๆ เลย แก้วใช้เงินสินเชื่อนี้ในการเปิดร้านค้าเล็กๆ ในตลาดจตุจักรที่กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นตลาดนัดลานกว้างขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตอนนี้ร้านค้าของเธอได้ว่าจ้างคนงานถึง 3 คน และเธอก็กำลังวางแผนเปิดอีกร้านในตัวเมืองด้วยความช่วยเหลือจากลูกพี่ลูกน้องของเธอ
Club Asteria ทำการประชาสัมพันธ์และสนับสนุนโครงการสินเชื่อเพื่อคนยากจนนี้อย่างกระตือรือร้นไปทั่วโลก ด้วยเราต้องการกระตุ้นให้คุณเข้าร่วม และช่วยสร้างโลกที่ดีกว่าเดิมไปด้วยกัน