เอไอเอสปลุกกระแสคอนเทนต์ได้ตังค์ เป้าปีนี้MMSรายได้เพิ่ม20%

เอไอเอสขยายตลาด MMS ประเมินความพร้อมตลาดที่ต้องเริ่มจากเพิ่มผู้พัฒนาคอนเทนต์ให้มีบริการมากเพียงพอ เริ่มจากหนุนลูกค้าที่มีศักยภาพทั้ง 6 ล้านรายของเอไอเอสเป็นผู้พัฒนาคอนเทนต์โดยมีรายได้ที่แบ่งกับเอสไอเอสคนละครั้งเป็นแรงจูงใจ หวังสร้างพฤติกรรมการใช้ MMS ให้เกิดความเคยชิน ส่งผล MMS ขยายตัวสู่คอมมูนิตี้ ตั้งเป้าผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้น 20 เปอร์เซ็นต์ในสิ้นปี 2550

ปรัธนา ลีลพนัง ผู้จัดการฝ่ายวางแผนกลยุทธ์ เอไอเอส โมบายไลฟ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือเอไอเอส กล่าวว่า จากการที่เอไอเอสเปิดให้บริการ MMS ตั้งแต่ปลายปี 2546 ที่ผ่านมาช่วงแรกมีผู้บริการประมาณ 4 แสนราย หรือประมาณ 10 ล้านแมสเซจ นับถึงปลายปี 2549 มีการส่ง MMS มากกว่า 35 ล้านข้อความ หรือมีผู้ใช้บริการประมาณ 1.7 ล้านคน

ความพร้อมที่ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึง MMS ได้มาจาก ตัวเครื่องที่พร้อมรองรับการแสดงภาพและมีฟังก์ชั่นที่สามารถสร้างภาพได้เช่น กล้อง เน็ตเวิร์คพร้อมที่จะสามารถรองรับคอนเทนต์ที่มีปริมาณมากและเร็วได้คือ EDGE/GPRS และสุดท้ายคือแอปพลิเคชันหรือคอนเทนต์ที่ต้องมีปริมาณมากพอที่ลูกค้ามีทางเลือกได้อย่างหลากหลาย

ผู้บริหารเอไอเอสกล่าวว่า ปัจจุบันตลาดมีความพร้อมในการใช้บริการ MMS อย่างมาก หากมองในแง่ตัวเครื่องลูกข่ายในส่วนของเอไอเอสตัวเครื่องที่สามารถใช้บริการ MMS ได้ประมาณ 6 ล้านเครื่อง รวมทั้งตลาดเครื่องลูกข่ายที่สามารถใช้บริการ MMS ได้ประมาณ 12 ล้านเครื่อง และคาดว่าในสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านเครื่อง ในส่วนความเร็วในการส่งก็มีการพัฒนาไปมากจากเดิมใช้เวลาเป็นนาทีปัจจุบันเหลือประมาณ 10 วินาที ส่วนสุดท้ายคือคอนเทนต์ต้องมีปริมาณมากขึ้น รวมทั้งช่องทางที่จะให้ผู้ใช้บริการเข้าถึงได้มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เอไอเอสมองให้ความสำคัญในการขยายปริมาณคอนเทนต์ให้มากยิ่งขึ้น

ในมุมมองของเอไอเอสการขยายคอนเทนต์ให้มีปริมาณมากก็ต้องทำให้เกิดผู้พัฒนาคอนเทนต์ขึ้นในปริมาณมาก และสร้างช่องทางในการเข้าถึงให้หลากหลาย โดยเริ่มจากมองฐานลูกลูกค้าของตัวเองหรือลูกค้าผู้ใช้บริการทุกรายของเอไอเอสประมาณ 6 ล้านรายว่าสามารถเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ได้ทั้งหมด จากปัจจุบันมีผู้ผลิตคอนเทนต์อยู่ประมาณ 10 ราย

เอไอเอสให้แรงจูงใจในเรื่องรายได้ที่จะได้รับเพื่อให้ลูกค้าทั้ง 6 ล้านรายหันมาเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากเอไอเอสคนละครึ่ง โดยการที่เอสไอเอสนำคอนเทนต์ที่ลูกค้าสร้างขึ้นนำขึ้นบนเว็บ เมื่อมีลูกค้าเข้ามาโหลดคอนเทนต์ซึ่งจะเสียค่าบริการครั้งละ 1 บาท ผู้ที่พัฒนาคอนเทนต์ก็จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ครั้งละ 50 สตางค์ต่อการได้รับโหลด 1 ครั้ง

ต่อบุญ พ่วงมหา ประธานบริการ สนุก ดอทคอม กล่าวว่า ต่างประเทศอย่างเกาหลี MMS ได้รับนิยมอย่างมากโดยเฉพาะการส่งเสริมให้เกิดการสร้างคอนเทนต์ด้วยตัวเองหรือ Self Generate Content นักศึกษาจบใหม่บางรายมีรายได้เดือนละเป็นแสนบาทจากการสร้างคอนเทนต์ ในส่วนประเทศไทยช่วงนี้ถือว่ามีความพร้อมอย่างมากที่จะส่งเสริมให้เกิด Self Generate Content โดยชูจุดขายในแง่ของการสร้างรายได้ได้ด้วยตนเอง

เพื่อส่งเสริมให้เกิดการสร้างคอนเทนต์ขึ้นอย่างแพร่หลายเอสไอเอสร่วมกับ สนุกดอทคอมจัดกิจกรรม 2 โครงการ โครงการแรก ให้นักศึกษาจัดทำคอนเทนต์ในรูปแบบแอนนิเมชั่นส่งมาที่เอไอเอสในรูปแบบ CD หรืออีเมลล คอนเทนต์แอนนิเมชั่นที่ได้รับการนำขึ้นเว็บและมีผู้เข้ามาโหลดซึ่งจะเสียค่าบริการ 1 บาท ผู้พัฒนาคอนเทนต์จะมีรายได้ 50 สตางค์และเอไอเอส 50 สตางค์ นอกจากนี้เจ้าของคอนเทนต์ที่มีผู้โหลดมากและผู้โหลดก็มีโอกาสได้รับรางวัลด้วย โครงการที่ 2 เป็นการเปิดโอกาสให้คนทั่วไปส่งคลิป+รูปภาพ เข้ามาที่ *99222 ไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อชิงรางวัล

เอเอไอสต้องการสร้างให้เกิดคอมมูนิตี้ขึ้นในวงการ MMS ในหมู่ผู้พัฒนาคอนเทนต์และเพื่อนที่จะเป็นคนโหลดคอนเทนต์ ทั้งต้องการสร้างให้เกิดพฤติกรรมความเคยชินในการเข้าถึงการใช้บริการ MMS ที่นอกจากจะเป็นผู้รับแล้วก็ต้องอยากเป็นผู้ส่ง MMS ที่ทำขึ้นเองให้ผู้อื่นด้วย

จากปี 2549 ที่มีผู้ใช้บริการ MMS ประมาณ 35 ล้านข้อความ เอไอเอสคาดว่าจะขยายตลาดในส่วนขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ หรือสิ้นปี 2550 มีผู้บริการ 2.2 ล้านราย หรือประมาณ 45 ล้านข้อความ