ไทยรักไทยผิดฉกรรจ์ ตายยกเข่ง ถูกศาล รธน.สั่งยุบพรรคพร้อมเพิกถอนสิทธิการเมืองกรรมการบริหารทั้งกระบิ 111 คน จำนวน 5 ปี ขณะเดียวกัน สั่งยุบพรรคพัฒนาชาติไทยและพรรคแผ่นดินไทย โดยเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง กก.บห.19 และ 3 คนตามลำดับ
วันนี้ (30 พ.ค.) ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.15 น. คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ขึ้นนั่งบัลลังก์เพื่อพิจารณาคำร้องยุบพรรคยุบพรรคไทยรักไทย (ผู้ถูกร้องที่ 1) พรรคพัฒนาชาติไทย (ผู้ถูกร้องที่ 2) และพรรคแผ่นดินไทย (ผู้ถูกร้องที่ 3) โดยเฉพาะพรรคไทยรักไทยถูกอัยการสูงสุดร้องในข้อหาว่าจ้างพรรคเล็กลงสมัครรับเลือกตั้ง
พร้อมระบุความผิดให้เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.พรรคการเมือง มาตรา 66 (1) ที่ระบุว่า เป็นการกระทำการอันมีลักษณะเป็นการเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครอง โดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ และ (2) เป็นการกระทำการอันอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐ หรือขัดต่อกฎหมาย หรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ตามมาตรา 66 (1) และ (3) ของ พ.ร.บ.พรรคการเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้เริ่มอ่านคำร้องรายละเอียดของคดีที่ให้ยุบ 3 พรรคดังกล่าว พร้อมทั้งคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาของผู้ถูกร้องทั้ง 3 พรรค
ทั้งนี้ ในส่วนของพรรคไทยรักไทย มีผู้บริหารพรรคที่นำโดย นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคนำทีมมานั่งฟังคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ
สำหรับประเด็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในคดียุบพรรคหรือไม่ โดยมีข้อโต้แย้งว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ศาลและสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญปี 2540 และโต้แย้งในเรื่องอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองในเรื่องการร้องให้ยุบพรรค รวมทั้งเรื่องการไม่เปิดโอกาสให้ให้ผู้ถูกร้องได้ชี้แจงข้อกล่าวหา ซึ่งพิจารณาแล้วฟังไม่ขึ้น
จากนั้นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้พิจารณาข้อโต้แย้งในข้อเท็จจริง 8 กรณี ที่เกี่ยวกับการว่าจ้างผู้สมัครจากพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 และ 3 จากพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 สรุปได้ว่า ฟังไม่ขึ้นในทุกกรณี รวมทั้งศาลยังพิจารณาจากข้อเท็จจริงในประเด็นการมีผู้สมัครพรรคเดียวต้องได้คะแนนไม่ถึงร้อยละ 20 จึงมีการว่าจ้างผู้สมัครพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 และ 3 รวมทั้งมีการพิจารณาถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับองค์ประชุมในสภาผู้แทนราษฎร
ในคำวินิจฉัยยังระบุข้อเท็จจริงฟังได้ว่า พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณอยุธยา รองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย และ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล เป็นว่าจ้างผู้สมัครจากพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 และ 3
ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า จากข้อเท็จจริงที่กล่าวมา เห็นว่าการแก้ไขข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาสังกัดพรรค และการว่าจ้างผู้สมัคร การหลีกเลี่ยงการได้คะแนนเสียงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 กรณีมีผู้สมัครคนเดียวในเขตนั้น ทำทุกอย่างเพื่อกลับคืนสู่อำนาจ วินิจฉัยได้ว่าการกระทำของผู้ถูกร้องที่ 1 มีการกระทำลวงตาว่าเป็นการแข่งขันในระบอบประชาธิปไตย
ขณะเดียวกัน เห็นว่าพฤติกรรมของผู้ถูกร้องที่ 1 ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย ไม่มีอุดมการณ์ กระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย
ส่วนผู้ถูกร้องที่ 2-3 กระทำในฐานะรับจ้างสมัครรับเลือกตั้ง แก้ไขฐานข้อมูลเพื่อช่วยเหลือผู้ถูกร้องที่ 1 เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
จากพฤติกรรมดังกล่าวมาพิจารณาแล้วเห็นว่า พรรคผู้ถูกร้องที่ 1 ไม่อาจจรรโลงพรรคการเมืองจึงเห็นควรให้ยุบพรรค ส่วนข้ออ้างที่ว่ามีสมาชิกพรรคกว่า 14 ล้านเสียงหากยุบพรรคจะมีผลกระทบนั้น เป็นหน้าที่ของผู้บริหารพรรคที่ต้องรับผิดชอบต่อสมาชิกพรรคเอาเอง ส่วนพรรคที่ 2-3 ก็มีความผิดในลักษณะเดียวกันจึงเห็นควรให้ยุบพรรค เช่นเดียวกัน
ส่วนประเด็นการตัดสิทธิการเลือกตั้งนั้น ศาลฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า แม้ว่ากรรมการบริหารพรรคลาออกไปแล้วก็ไม่มีผลหลีกเลี่ยงความผิด หรือเลี่ยงการถูกตัดสิทธิทางการเมือง และเนื่องจากพฤติกรรมความผิดร้ายแรงจึงเพิกถอนสิทธิการเมืองของพรรคผู้ถูกร้องที่ 1 (ทรท.) กรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน ส่วนพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 19 คน ส่วนผู้ถูกร้องที่ 3 ตัดสิทธิการเมือง 3 คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับอดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย 8 คนที่รอดจากการถูกตัดสิทธิทางการเมือง เนื่องจากมีการลาออกหรือสิ้นสภาพกรรมการฯ ก่อนการกระทำผิด ได้แก่ พระเปรมศักดิ์ เพียยุระ นายเสนาะ เทียนทอง นายสานิต เทียนทอง นายลิขิต ธีรเวคิน นายสฤต สันติเมทะนีดล นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรัก นายกร ทัพพะรังสี และนางกอบกุล นพอมรบดี อดีต ส.ส.ราชบุรี ที่ถูกยิงเสียชีวิต
รายละเอียดและคำพิพากษายุบพรรคไทยรักไทย(PDF)
http://files.thaiday.com/download/trt_party.pdf จาตุรนต์คอตกหลังศาลรธน.ตัดสินยุบพรรคไทยรักไทยพร้อมเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองกรรมการบริหาร 5 ปี ระบุจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ณ ที่ทำการพรรค 11.00 น. พรุ่งนี้ (31 พ.ค.) แต่พอถึงพรรคกลับคึก ขึ้นเวทีปราศรัยโวยไม่ได้รับความเป็นธรรม
หลังคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำตัดสินให้มีการยุบพรรคไทยรักไทยและพร้อมเพิกถอนสิทธิ์การเมือง กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจำนวน 111 คน เป็นเวลา 5 ปีเต็ม นายจาตุรนต์ ฉายแสง รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยได้เดินออกมาจากห้องพิจารณาคดี โดยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ทางพรรคไทยรักไทยจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ (31 พ.ค.) เวลา 11.00 น. ณ ที่ทำการพรรคไทยรักไทย
นอกจากนี้รักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทยยังให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกต่อคำตัดสินดังกล่าวด้วยว่า "เรารู้สึกผิดคาดมาก กับผลที่ออกมา ถ้าถามว่ามีความเห็นอย่างไร เราคิดว่าทางวิชาการคงมีความเห็นที่แตกต่างอยู่ ซึ่งต่อไปก็คงมีการแสดงความเห็นเรื่องนี้ในเชิงวิชาการ แต่แม้ว่าจะมีความเห็นที่แตกต่าง แต่เราชาวไทยรักไทย พวกเราทั้งหมด เราจะไม่ประท้วง คัดค้าน ต่อต้านคำวินิจฉัน และขอวิงวอนพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ ที่มีความรู้สึกสับสน เห็นใจ แต่ขอวิงวอนให้พี่น้องประชาชนทั่วประเทศอดทน ใช้สติปัญญา"
"เราจะเสนอทางออกทางการเมืองสำหรับพี่น้องประชาชนที่เป็นห่วงในพรรคไทยรักไทย สามารถมีทางออกในการเมืองต่อไป ตราบใดที่พี่น้องประชาชนยังมีความนิยมในนโยบายของพรรคไทยรักไทย ที่เป็นห่วงในเวลานี้ไม่ได้เป็นห่วงตัวเอง แต่เป็นห่วงในในพัฒนาการของระบอบประชาธิปไตย ... " นายจาตุรนต์กล่าวกับสื่อมวลชนก่อนเดินทางออกจากศาลรัฐธรรมนูญ
ล่าสุดเมื่อย่างเข้าสู่วันใหม่ (31 พ.ค.) เวลาประมาณ 00.10น. ณ ที่ทำการพรรคไทยรักไทย นายจาตุรนต์ และผู้บริหารพรรคไทยรักไทยที่เดินทางกลับมาจากศาลรัฐธรรมนูญได้ขึ้นกล่าวปราศรัย ณ เวทีที่พรรคไทยรักไทยโดยกล่าวในทำนองว่าพรรคไทยรักไทยไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ คำตัดสินถูกกำหนดมาแล้วโดยปลายกระบอกปืน พร้อมกับกล่าวโจมตีคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติด้วย
ทั้งนี้สำหรับรายชื่อกรรมการบริหารพรรค 8 คนที่รอดพ้นจากการเพิกถอนสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากลาออกหรือเสียชีวิตไปก่อนการกระทำผิดประกอบไปด้วย
- นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ
- นางกอบกุล นพอมรบดี (เสียชีวิต)
- นายเสนาะ เทียนทอง
- นายฐานิสร์ เทียนทอง
- ดร.สฤต สันติเมทนีดล
- ดร.ลิขิต ธีรเวคิน
- นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์
- นายกร ทัพพะรังสี
ที่มา : manager online