ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeช่วยวิจารณ์งานเขียนของผมด้วยครับ (ความฝันของผมครับ)
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยวิจารณ์งานเขียนของผมด้วยครับ (ความฝันของผมครับ)  (อ่าน 1475 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
washiravit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 525
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,501



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 07 ธันวาคม 2011, 23:41:42 »

อ้างถึง
ช่วยวิจารณ์งานเขียนของผมด้วยครับ (ความฝันของผมครับ)
ผมต้องการเป็นนักเขียนที่มีคุณภาพ แต่ผมไม่สามารถบอกกับตัวเองได้ว่าเราเจ๋งแล้ว งานเราดีแล้วได้เลย
ถ้าไม่มีคนที่กล้าเปิดใจ วิจารณ์งานเขียน ติเพื่อก่อให้กับผม

เพื่อนๆในไทยเสียว เป็นเพื่อนที่มีความรู้ความสามารถและรสนิยมหลากหลาย
ผมเชื่อว่าผมจะสามารถพัฒนาตัวเองไปได้อีกแน่ๆถ้ามีเพื่อนๆคอยช่วยเหลือเกื้อกูลผม

ผมไม่รู้จักท่าน ท่านไม่รู้จักผม
แต่ตอนนี้ถ้าท่านเปิดใจงานเขียนของผม เท่ากับเรารู้จักกันเเล้ว

ขอความกรุณาด้วยครับ


เขาว่ากันว่าสิ่งที่ยากที่สุดในชีวิตมนุษย์ก็คือ "การเริ่มต้น" ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีคนหลายคนเห็นด้วย และทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำพูดใดที่จะสร้างหรือหักล้างคำพูดนี้ได้ลง ความเห็นทั้งหมดจึงพร้อมใจกันลงเอยที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็แล้วแต่ การเริ่มต้นมันยากที่สุดเสมอ คำถามคือจริงหรือเปล่า มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า เราลองมาไล่เรื่องราวเป็นฉากๆดีไหมครับ แบบว่ามาพิสูจน์กันตามหลักการและเหตุผลที่พอจะยอมรับได้กันซักทีดีไหม

เริ่มตั้งแต่สมัยตอนที่เรายังเป็นอสุจิ เราจะต้องแข่งกับพี่น้องของเรานับล้านๆตัว กว่าเราจะไปถึงรังไข่และคว้าชัยชนะจนได้รับรางวัลด้วยการเกิดใหม่ก็ลำบากตรากตรำแสนเข็ญ (ยังจำบรรยากาศในตอนนั้นได้ไหมครับ หลายๆคนลืมไปเเล้วว่ามันเหนื่อยหนาสาหัสแค่ไหน) เมื่อเราหันหลังกลับไปมองจากจุดเริ่มต้นแรกของการกำเนิดชีวิตเรา เราก็เห็นพี่น้องเราเสียสละชีพไปเป็นล้านๆชีวิตแล้ว พวกเขาเหล่านั้นเสียสละให้กับผู้ชนะ

ถัดจากนั้นมาอีกซักประมาณ 9 เดือน เราก็ต้องถูกบังคับให้เริ่มต้นทำในสิ่งที่ยากที่สุดอีก คือการหัดร้อง อุแว้ อุแว้เป็นครั้งแรก ความจริงเสียงมันน่าจะเป็นเสียงร้องไห้มากกว่า แต่การเขียน อุแว้ อุแว้ มันอยู่คุ้นตานักอ่านมากกว่า ลองคิดดูสิครับ มันไม่ง่ายเลยนะ ที่เราจะต้องทำในสิ่งที่เราไม่เคยทำมาเลย มันเป็นการเดิมพันครั้งแรกที่เราต้องเอาชีวิตเป็นประกัน ถ้าเราทำได้เราก็รอด ถ้าเราทำไม่ได้การเริ่มต้นนั้นก็จะเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิตของเรา แต่ใครๆจะคาดคิดเล่าครับ ว่าเด็กน้อยที่พึ่งออกจากท้องแม่มาเพียงไม่กี่นาที ก็สามารถส่งเสียงอันส่งพลังและเต็มเปี่ยมไปด้วยปาฏิหารย์ที่สามารถทำให้ใครหลายต่อหลายคนมีความสุขจนน้ำหูน้ำตาไหลได้แล้ว  

หลังจากนั้น เราก็ต้องอาศัยการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้ปกครอง บางคนเป็นพ่อแม่ บางคนเป็นปู่ย่าตายาย บางคนเป็นพี่ๆน้องๆญาติๆทั้งหลาย หรือบางคนดูโชคร้ายกว่าคนอื่น คือเขาถูกดูแลจากคนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันธ์ใดๆกับเขาเลย แน่นอนว่าตอนนั้นเรายังเป็นแค่เด็กร่างกายเล็กๆ ต่อให้มดมากัดเรา เราก็ไม่มีปัญญาปกป้องอะไรได้ มีแต่ต้องก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมให้ถูกกระทำได้อยู่ฝ่ายเดียว แล้วเราจะทำอะไรได้จากการที่เรามีร่างกายเล็กๆนั่นหละ นอกจากจะพยายามทำตัวให้น่ารักและพยายามพูดว่า "กุหิวนม กุหิวข้าว กุจะขี้ กุจะเยี่ยว" บลาๆๆ โดยพูดออกมาเป็นภาษาร้องไห้ ในตอนนั้นเราไม่มีความสามารถอะไรมากกว่านั้นอีกเลย  

เวลาเดินผ่านไปอีก แล้วอีกครั้งที่เราก็ต้องพยายามเริ่มต้นทำเรื่องยากๆ เมื่อเรารู้ตัวเองว่าถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องหยุดที่จะเป็นฝ่ายนอนรอให้คนอื่นมาหาเราแต่เพียงฝ่ายเดียว เราเริ่มพยายามหัดคลาน และเป็นการหัดคลานที่ทุลักทุเลด้วย การที่จะเปลี่ยนจากนอนมาตลอดชีวิตมาเป็นการใช้สองแขนกระดึ๊บๆไป คุณว่ามันจะต้องใช้ความพยายามขนาดไหน คุณยังจำวันเวลานั้นได้หรือเปล่า ว่าตอนที่คุณหัดคลานสำเร็จเป็นครั้งแรกมันท้าทายความสามารถคุณอย่างไร ถ้าใครบอกว่ามันไม่ยากเลย มันง่ายมากเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของคุณเถอะ ผมนับถือ แต่สำหรับสิ่งมีชีวิตตัวน้อยๆอย่างผมและใครๆอีกหลายคนแล้ว มันคือการเอาชนะชะตากรรมและวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

เมื่อเราเลิกที่จะเอาแต่นอนอย่างเดียวเป็นการคลานได้สำเร็จ  เราหยุดท้าทายตัวเองไหม ถ้าเราหยุดท้าทายตัวเองก็ลองนึกสภาพตัวคุณเองในวันนี้สิครับ คลานไปอาบน้ำ คลานไปเรียน คลานไปทำงานทั้งๆที่มีอวัยวะครบสมบูรณ์ มันคงดูผ่าเหล่าพึลึก ธรรมชาติไม่ได้บอกให้เราพอใจแค่การคลาน เด็กน้อยคิดการณ์ไกลไปกว่านั้น การคลานมันเป็นของกล้วยๆสำหรับเด็กน้อยที่เป็นผู้เชี่ยวชาญไปเสียแล้ว ความสำเร็จต่อไปที่เด็กน้อยอย่างผม คุณและใครๆอีกหลายคนก็คือการ "เดิน" สำหรับผู้ใหญ่ที่เดินคล่องแล้ว คนพวกนั้นก็อาจจะหัวเราะหรือใจหายเวลาที่เห็นเราพยายามเดินแต่ล้มเหลว แต่เชื่อไหมครับ ผมว่ามันไม่เคยมีใครด่าว่าเราโง่เวลาที่เราหัดเดินแล้วล้ม หรือพยายามวิ่งแล้วกลับหัวขมำแทนที่จะสำเร็จ มีแต่คนเป็นกำลังใจ มีแต่คนเอาใจช่วยให้เราทำมันสำเร็จกันทั้งนั้น

เพียงชั่วระยะเวลาไม่กี่ปีตั้งแต่เราเกิดมา เราเริ่มต้นทำสิ่งมหัศจรรย์หลายต่อหลายเรื่องอย่างที่เราไม่เคยรู้ตัว สิ่งยากๆที่เราไม่เคยคิดว่าจะเราจะทำได้เราก็ทำได้  เช่นการพูด การออกเสียง การอ่านเขียน การร้องเพลงที่เป็นเพลงบ้างไม่เป็นเพลงบ้าง  สิ่งง่ายๆที่เราทำได้เราก็ยิ่งทำได้คล่องใหญ่ เราเสพการประสบความสำเร็จมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ในโลกนี้จะมีอะไรที่ยากกว่าการหัดคลานในตอนที่เราคลานไม่เป็น หัดเดินในตอนที่เราเดินไม่เป็น หัดพูดในตอนที่เราพูดไม่เป็น หัดเรียนในตอนที่เราเรียนไม่เป็น แล้วทำไม คำคมที่ว่า "สิ่งที่ยากที่สุดของมนุษย์คือการเริ่มต้น" ยังคงความขลัง และไม่มีใครสามารถนิยายประโยคใหม่ที่มันมาทำลายล้างประโยคนี้ได้เสียที

ทำไมบางคนอยากพูดภาษาต่างประเทศได้ แต่พูดไม่ได้...Huh?
ทำไมบางคนอยากก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่ทำไม่ได้...Huh?
ทำไมบางคนอยากเป็นนักร้อง แต่ทำไม่ได้...Huh?
ทำไมบางคนอยากจะเป็นสิ่งที่ตัวเองอยากเป็น แต่ทำไม่ได้...Huh?

หรือมันมีบางสิ่งที่หายไปจากชีวิตเรา เป็นสิ่งที่ทำให้เราแตกต่างจากตอนยังเป็นเด็ก...Huh?
หรือเราเคยชินที่จะอยู่ในโซนปลอดภัยของชีวิต มากกว่าที่จะไปเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ...Huh?
หรือเรากลัวผลลัพธ์จะทำให้เราผิดหวัง เลยไม่ทำมันเลยดีกว่าจะได้ไม่ผิดหวัง...Huh?
หรือเพราะบางทีที่การเริ่มต้นมันไม่ได้ยากที่ตัวมันเอง แต่เพราะมันยากที่จะเริ่มต้น...Huh?

ความจริงสาเหตุที่ทำให้ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา เพราะก่อนหน้าที่จะเขียนบทความนี้ไม่กี่ชั่วโมง ผมได้รับข่าวจากญาติผม ว่าได้มีคนคนหนึ่ง ไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไปแล้ว สาเหตุการตายไม่ได้เกิดจากการเริ่มต้นอะไรใหม่ๆเลย เขาตายในห้องน้ำในบ้านของเขา ตายจากกิจวัตรประจำวันอย่างง่ายดายเหมือนเอาลมหายใจดับเทียน เราอยู่ในโลกที่พูดกันกรอกหูว่าการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่สุด แต่จะมีซักกี่คน ที่จะสามารถตายได้อย่างที่ไม่ต้องมาเสียใจว่า "ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้...เราทำอย่างนั้นอย่างนี้ตั้งนานแล้ว" หรือต่อให้เราไม่ใกล้ตาย ผมก็เชื่อว่าคำพูดนี้ก็ดังในหัวใครต่อใครเป็นว่าเล่นเช่นกัน

กลับมาที่คำถามที่สำคัญของชีวิตอีกครั้ง สิ่งที่ยากที่สุดคือการเริ่มต้น คำถามที่ว่านั้นคือ มันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือ...??

ถึงแม้ศักยภาพของคนเราจะไม่เท่าเทียมกัน แต่ผมเชื่อว่าคำพูดดังกล่างข้างต้น มันไม่ใช่เรื่องจริงอย่างแน่นอน ชีวิตตั้งแต่เกิดจนมาถึงวันนี้ของทุกๆคนล้วนผ่านชัยชนะมาแบบนับครั้งไม่ถ้วน เราเกิดมาไม่ได้มีข้อจำกัดใดๆให้กับชีวิต ธรรมชาติไม่ได้ออกแบบจิตใจของเราให้ยอมแพ้ได้ง่ายๆหากเราไม่ได้อนุญาตให้ตัวเราเองยอมแพ้ ที่เราเริ่มต้นไม่ได้หรือไม่สำเร็จไม่ว่ามันเป็นเรื่องใดๆ ไม่ใช่เพราะการเริ่มต้นมันยาก แต่เรายอมแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ยอมให้ภาพว่าเรามันกระจอก เรามันห่วย มาฉายวนเวียนเป็นหนังที่ไม่รู้จักจบอยู่ในหัวเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ไม่ว่าคุณมีความฝันว่าอยากจะทำอะไรก็ตาม ถามจริงๆเถอะครับ ความต้องการของคุณมันยากกว่าที่สิ่งที่คุณเคยทำสำเร็จอย่างการหัดร้อง หัดคลาน หัดเดิน หัดวิ่ง หัดพูด ตรงไหน มีอะไรยากกว่าการเริ่มต้นที่คุณเคยผ่านมาอีก

อย่าลืมว่าการเริ่มต้นมันจะยากหรือง่าย มันตัดสินกันที่ใจเพรียวๆ ใจถึงก็ชนะ ใจฝ่อก็กลายเป็นหมาขี้แพ้ โลกเรามันก็มีแค่นั้น เด็กทารกไม่เคยมีความกลัวที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เราแข็งแรงกว่า เข้มแข็งกว่า แต่ถ้าเราไม่กล้าเริ่มต้นในสิ่งที่เราปรารถนา ไม่กล้าก้าวข้ามไปในโลกที่เราใฝ่ฝัน ไม่กล้าออกจากชีวีตอยู่ในขวดโหลใบเก่าที่เราไม่ต้องการ ก็แสดงว่าเรายังเต็มใจที่จะมองว่าการเริ่มต้นมันเป็นสิ่งที่ยาก และผลลัพธ์ปลายทางทางของชีวิตเราก็ต้องเป็นไปอย่างนั้นอย่างแน่นอน
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 ธันวาคม 2011, 00:44:28 โดย washiravit » บันทึกการเข้า

dollar
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 27
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 428



ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 00:02:31 »

ขอบคุณครับ  wanwan017
บันทึกการเข้า

aibenz
Newbie
*

พลังน้ำใจ: 0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 26



ดูรายละเอียด
« ตอบ #2 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 00:24:28 »

 ผมก็เป็นคนชอบขีดๆเขียนๆเหมือนกัน ประสบการณ์การเขียนยังไม่เยอะ ถ้าวิจารณ์อะไรไปอย่าถือสานะครับ ผมเองก็วิจารณ์ไม่เก่ง

- ส่วนตัวแล้วคิดว่า ใช้คำฟุ่มเฟือยไปนะครับ ไม่รู้ว่าติดนิสัยมาการเขียนบทความเชิง SEO หรือเปล่า (คือเน้นคำกับประโยคเยอะๆ จะได้มียูนิคคอนเทน) แนะนำว่าให้ลองลดจำนวนตัวอักษรลง เขียนเรื่องให้สั้นขึ้น แต่ัยังคงเนื้อหาหลักๆไว้ บทความยาวๆไม่ค่อยมีใครอ่านหรอกครับ ถ้าบทความนั้นไม่เจ๋งจริงๆหรือโดนใจจริงๆ

- น่าจะใส่หัวข้อบทความ หรือใส่แต่ผมไม่เห็น?

- ปรับเปลี่ยนการนำเสนอนิด น่าจะเอาตอนท้ายมาเริ่มก่อน ตรงประโยค"คนรู้จักเสียชีวิต จากสาเหตุ ไม่ได้เริ่มอะไรใหม่ๆ" อาจจะได้บทความน่าสนใจขึ้น

- เนื้อหา ถ้าเป็นการเขียงเชิงให้กำลังใจ น่าจะสมมุติตัวละครขึ้นมา (เคยมีเรื่องเล่าว่า ทารกที่เกิดมาใช้ปากกัดสายสะดอขาด)

- ที่เหลือให้เื่พื่อนๆในบอร์ดช่วยละกันครับ

ปล . เชื่อว่าคนชอบขีดๆเขียนๆมักจะชอบอ่านเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว เตือนว่าระวังเขียนๆไปแล้วจะมีกลิ่นอายจากหนังสือที่เราอ่านนะครับ
- พยายามฝึกพิมพ์สัมผัสไว้ มีประโยชน์มากๆสำหรับการเขียนบทความ
- ฝึกเขียนทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที หรือวันละ 1 บทความ
- อย่ารอให้มีอารมณ์ก่อนแล้วค่อยเขียนนะครับ ผมมีเพื่อนที่เีขียนบทความ กว่าจะเขียนบทความได้ ต้องดูดบุหรี่ก่อน ต้องกินเหล้าก่อน กว่าอารมณ์จะมาก็หมดไปเยอะแล้ว

อย่าลืมว่าการเริ่มต้นมันจะยากหรือง่าย มันตัดสินกันที่ใจเพรียวๆ ใจถึงก็ชนะ ใจฝ่อก็กลายเป็นหมาขี้แพ้ โลกเรามันก็มีแค่นั้นเด็กทารกไม่เคยมีความกลัวที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ เราแข็งแรงกว่า เข้มแข็งกว่า แต่ถ้าเราไม่กล้าเริ่มต้นในสิ่งที่เราปรารถนา ไม่กล้าก้าวข้ามไปในโลกที่เราใฝ่ฝัน ไม่กล้าออกจากชีวีตอยู่ในขวดโหลใบเก่าที่เราไม่ต้องการ ก็แสดงว่าเรายังเต็มใจที่จะมองว่าการเริ่มต้นมันเป็นสิ่งที่ยาก และผลลัพธ์ปลายทางของชีวิตเราก็ต้องเป็นไปอย่างนั้นอย่างแน่นอน

ความเห็นส่วนตัว อย่าโกรธนะครับบบบ
บันทึกการเข้า
mookmook
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 10
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 142



ดูรายละเอียด
« ตอบ #3 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 00:32:37 »

อยากเป็นนักเขียนก็ต้องยอมรับการวิจารณ์แรงๆนะคะ
อย่าว่ากันนะ เ่อ่อ คือเราก็ไม่เก่งเท่าไหร่นะคะ
คุณยังเข้าไม่ถึงหัวใจของการใช้ภาษาไทย
ภาษาไทยเป็นภาษาที่ไพเราะ แม้กระทั่งตัวฉันเองยังใช้ไม่ถนัดพอ
รูปแบบการการอ่านเข้าใจง่าย ขอชมนะคะ
แต่ต้องปรับนิดนึง คือ ภาษาพูด กับภาษาเขียน มันต่างกัน
ขอฝากเพียงเท่านี้ สวัสดี
ยังไงก็เป็นกำลังใจ ฝันไม่ไกลเกินเอื้อม
เจ เค โรวลิ่ง เขียนแฮร์รี่ พอตเตอร์ตอนตกงาน สามีทิ้ง ไม่มีบ้านอยู่ แล้วดูเธอตอนนี้สิ
คุณเองก็มีวันนั้นได้ สู้ต่อไปค่ะ
บันทึกการเข้า
washiravit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 525
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,501



ดูรายละเอียด
« ตอบ #4 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 00:43:19 »

ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านครับ
ติเพื่อก่อ บางครั้งการได้รับคำชมกลับกลายเป็นการฆ่ากันตายได้

ตอนนี้ยิ่งติมาก ผมยิ่งมีกำลังใจครับ
เพราะนั่นหมายความว่าผมยังพัฒนาไปได้อีกไกลมาก
และการที่เดินทางไกลมาก มันมักเหนื่อยและสนุกเสมอ

แค่ 3 ท่านที่มาตอบก็ได้ใจผมไปเต็มๆแล้วครับ
อย่างที่ผมได้เขียนไป บทความนี้เป็นจุดเริ่มต้นความฝัน
เพราะมันเป็นบทความเพื่อที่จะเตือนตัวเองให้ทำตามความฝันครับ

ท่านอื่นๆ ลองเข้ามาอ่านดูนะครับ

บันทึกการเข้า

visavavit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 69
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,719



ดูรายละเอียด
« ตอบ #5 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 00:47:25 »

เข้ามาบอกว่า งานเขียนเป็นงานศิลปะ
งานศิลปะไม่อาจงดงามหรือไม่งดงาม ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ความงามของแต่ละคน

แต่ทั้งนี้ความงามมักจะมีลักษณะคล้ายกัน
บันทึกการเข้า

WP newbie
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 248
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1,495



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #6 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 00:51:51 »

ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านครับ
ติเพื่อก่อ บางครั้งการได้รับคำชมกลับกลายเป็นการฆ่ากันตายได้

ตอนนี้ยิ่งติมาก ผมยิ่งมีกำลังใจครับ
เพราะนั่นหมายความว่าผมยังพัฒนาไปได้อีกไกลมาก
และการที่เดินทางไกลมาก มันมักเหนื่อยและสนุกเสมอ

แค่ 3 ท่านที่มาตอบก็ได้ใจผมไปเต็มๆแล้วครับ
อย่างที่ผมได้เขียนไป บทความนี้เป็นจุดเริ่มต้นความฝัน
เพราะมันเป็นบทความเพื่อที่จะเตือนตัวเองให้ทำตามความฝันครับ

ท่านอื่นๆ ลองเข้ามาอ่านดูนะครับ



ผมชอบงานเขียนแนว "ภาพวาดตามใจชอบ" ครับ
งานเขียนดีๆ ควรจะมี outline
แต่งานเขียนที่กลั่นจากฝัน ควรจะมีสีสันและจินตนาการครับ
บันทึกการเข้า
ton_dollar
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 41
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 303



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #7 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 01:32:00 »

ถ้าบทความนี้เป็นคำนำหนังสือ ผมอ่านแสกนผ่านๆแล้วจะไม่ซื้อครับ เล่มนี้

-ภาษาอ่านแล้วติดขัดยังไงชอบกล อ่านไปบางช่วงมันไม่เข้ากันน่ะครับ

-ช่วงที่ทำให้อ่านแล้วเหนื่อยมีเยอะ สำหรับผม ยกตัวอย่างช่วงนี้ครับ

หลังจากนั้น เราก็ต้องอาศัยการดูแลอย่างใกล้ชิดจากผู้ปกครอง บางคนเป็นพ่อแม่ บางคนเป็นปู่ย่าตายาย บางคนเป็นพี่ๆน้องๆญาติๆทั้งหลาย หรือบางคนดูโชคร้ายกว่าคนอื่น คือเขาถูกดูแลจากคนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวพันธ์ใดๆกับเขาเลย แน่นอนว่าตอนนั้นเรายังเป็นแค่เด็กร่างกายเล็กๆ

เหมือนพยายามยืดให้เยอะเข้าไว้  wanwan020

-ถึงย่อหน้าที่บอกว่าได้ข่าวจากญาติ มันดึงอารมณ์ร่วมผมไม่ได้เลยครับ

-อ่านจบแล้วผมนึกถึงโฆษณาไทยประกันชีวิตหลายๆตัว โทนเรื่องคล้ายๆกันครับ

-ตั้งใจสื่อออกมาได้ดีครับ รู้สึกถึงความพยายาม

เห็นด้วยกับความคิดเห็นข้างบนนะครับอย่างเรื่องการติดวิธีการเล่าเรื่องจากหนังสือที่เราชื่นชอบหรืออาจจะเป็นบทความจากคนที่เราชื่นชมในบอร์ดต่างๆครับ

ทำบ่อยๆเนาะเหมือนกันทุกอย่าง ทุกทักษะ ... เป็นกำลังใจให้ครับ

ความเห็นจากหนอนหนังสือคนหนึ่งครับผม  Smiley
บันทึกการเข้า

g-blue
ก๊วนเสียว
*

พลังน้ำใจ: 30
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 270



ดูรายละเอียด
« ตอบ #8 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 01:56:51 »

เอาแบบมุมมองคนอ่านได้มั้ยคะ วิจารณ์ไม่เป็นแต่เห็นคุณตั้งใจเขียนเลย login เข้ามาโพสต์ค่ะ

ข้อแรกที่สะดุดตาเลยก็... ใช้คำฟุ่มเฟือยค่ะ
ข้อต่อมาหลังจากอ่านย่อหน้าแรก เรารู้สึกถูกทำให้เห็นด้วยมากกว่าถูกโน้มน้าว
ใช้ภาษาพูดมากไป
ไม่มีลำดับเรื่อง

พยายามไม่แรงแต่ยังไงก็ขออภัยจขกท. ด้วย อย่าซีเรียสนะคะ

 wanwan017


-------
edit

ลองเขียนลงบล็อกด้วยสิคะ เขียนไปเรื่อยๆ แล้วกลับมาอ่าน เราจะได้เห็นข้อบกพร่องกับพัฒนาการของตัวเองอ่ะค่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 ธันวาคม 2011, 02:04:33 โดย g-blue » บันทึกการเข้า
washiravit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 525
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,501



ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 07:50:01 »

ผมต้องขอขอบคุณทุกท่านครับ
ติเพื่อก่อ บางครั้งการได้รับคำชมกลับกลายเป็นการฆ่ากันตายได้

ตอนนี้ยิ่งติมาก ผมยิ่งมีกำลังใจครับ
เพราะนั่นหมายความว่าผมยังพัฒนาไปได้อีกไกลมาก
และการที่เดินทางไกลมาก มันมักเหนื่อยและสนุกเสมอ

แค่ 3 ท่านที่มาตอบก็ได้ใจผมไปเต็มๆแล้วครับ
อย่างที่ผมได้เขียนไป บทความนี้เป็นจุดเริ่มต้นความฝัน
เพราะมันเป็นบทความเพื่อที่จะเตือนตัวเองให้ทำตามความฝันครับ

ท่านอื่นๆ ลองเข้ามาอ่านดูนะครับ



ความเห็นจากทุกๆท่านแล้ว
ทำให้ผมเห็นจุดบอดที่ควรจะเร่งพัฒนา
จุดแรกคือภาษาฟุ่มเฟือยกับการลำดับเรื่องที่ยังไม่เข้าขั้น

ขอบคุณมากครับ
เดี๋ยวผมจะแก้ไขเเละเรียบเรียงใหม่ให้เป็นบทความรีไรท์ใหม่
แล้วเอามาให้วิจารณ์อีกครั้งครับ
บันทึกการเข้า

washiravit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 525
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,501



ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 07:57:50 »

เอาแบบมุมมองคนอ่านได้มั้ยคะ วิจารณ์ไม่เป็นแต่เห็นคุณตั้งใจเขียนเลย login เข้ามาโพสต์ค่ะ

ข้อแรกที่สะดุดตาเลยก็... ใช้คำฟุ่มเฟือยค่ะ
ข้อต่อมาหลังจากอ่านย่อหน้าแรก เรารู้สึกถูกทำให้เห็นด้วยมากกว่าถูกโน้มน้าว
ใช้ภาษาพูดมากไป
ไม่มีลำดับเรื่อง

พยายามไม่แรงแต่ยังไงก็ขออภัยจขกท. ด้วย อย่าซีเรียสนะคะ

 wanwan017


-------
edit

ลองเขียนลงบล็อกด้วยสิคะ เขียนไปเรื่อยๆ แล้วกลับมาอ่าน เราจะได้เห็นข้อบกพร่องกับพัฒนาการของตัวเองอ่ะค่ะ


ข้อต่อมาหลังจากอ่านย่อหน้าแรก เรารู้สึกถูกทำให้เห็นด้วยมากกว่าถูกโน้มน้าว นี่ถือเป็นสิ่งที่ผมกังวลใจมากที่สุดครับ
ทำอย่างไรหนา บทความถัดไปผมจะพยายามครับ
บันทึกการเข้า

V4lenTinE
สมุนแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 62
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 670



ดูรายละเอียด
« ตอบ #11 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 08:12:02 »

ผมขอตอบแบบว่าผมเป็นคนอ่านนะครับ เพราะผมชอบอ่านหนังสือ
- รู้สึกเหนื่อยเมื่อ่านไปนาน ๆ ต้องฝืนอ่านจนจบ (คิดว่า อาจจะเป็นเพราะบางประโยคมันยื้อมาก ผมอย่กรู้ตอนต่อไปแล้ว)
- อ่านแล้วไม่ค่อยเพลินเลยครับ (อาจจะเป็นเพราะคุณยังสื่ออารมณ์ให้ผมได้ไม่ดีพอ)
- ผมคิดว่าเรื่องเรียบเรียงเนื้อหาโอเคอยู่ สำหรับผมนะ
สุดท้าย สู้ ๆ ครับ อย่ายอมแพ้ แล้วอย่าโกรธที่ผมตินะ
บันทึกการเข้า
GreenLM
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 17
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 119



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #12 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 08:22:00 »

ใช้คำฟุ่มเฟือย + เหนื่อยกับการอ่าน 2สิ่งหลักๆที่รู้สึก ข้อ3สำหรับผมคือ การเลือกใช้ความอย่างเหมาะสมกับเนื้อหาครับ

เช่น... "กุหิวนม กุหิวข้าว กุจะขี้ กุจะเยี่ยว" บลาๆๆ  

คำว่า "บลาๆๆ" เหมาะกับการอ่านเนื้อหาที่บอกเล่าหรือพูดคุยกันมากกว่าครับ


ส่วนหนึ่งคือ ควรจะเขียนให้ผู้อ่า่นเกิดความคล้อยตามและอยากจะตามอ่านในบรรทัดต่อๆไป ถ้าจะให้ีีดีควรจะทำให้ผู้อ่านสามารถตามอ่านเนื้อหายาวๆได้โดยไม่รู้สึกมันเยอะ! (ตอนนี้ผมอ่านได้ไม่นานก็รู้สึกหนัก...จนไม่อยากจะตามอ่านต่อครับ)

หลังจากเขียนแล้วนำมาให้เพื่อนๆช่วยกันอ่านเป็นการเริ่มต้นที่ดีเลยครับ ถ้าเพื่อนๆอ่านแล้วชอบ ก็ลองเกลาแล้วนำไปเสนอ สนพ.ดู  หรืออาจจะเขียนใน1000ติ๊บก็ไ้ค้ครับ  หลาย สนพ.แอบส่องอยู่เยอะ อาจจะต้องใช้เวลาตามฝันมากหน่อย แต่ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ  wanwan003 wanwan003 wanwan003
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 ธันวาคม 2011, 08:25:54 โดย GreenLM » บันทึกการเข้า

washiravit
หัวหน้าแก๊งเสียว
*

พลังน้ำใจ: 525
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 2,501



ดูรายละเอียด
« ตอบ #13 เมื่อ: 08 ธันวาคม 2011, 09:49:54 »

ขอบคุณทั้งสองท่านที่คอมเม้นท์ใหม่ครับ
ผมอ่านแล้วไฟลุกครับ ต้องสู้เพื่อความฝัน
ปรับปรุงและพัฒนาผลงานให้ดีและเป็นที่ยอมรับให้ได้ครับ

สู้ๆ
บันทึกการเข้า

หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์