#1 คุณ xvlnw.com ครับ
ใน link บอกว่า จริงๆแล้วถ้าไม่จำเป็น ไม่ควรใช้ครับ เพราะมัน .htaccess override server security และมันมี overhead ระดับหนึ่ง
แต่ไหนๆ ก็เช่า host เขาแล้ว เอาให้คุ้มละกัน

ถ้าโหลดมาก / ไปสร้างช่องโหว่ให้เขา เขาก็เฉดหัวเราออกมาเองแหละ

#2 คุณ woratana ครับ
เรื่องอ่านไฟล์จากข้างล่างขึ้นบน อันนี้ความรู้ใหม่เลยนะครับ ขอ reference หน่อยได้ไหมครับ
อันนี้ที่กังวลก็คือ
ผมเข้าใจเอาเองว่า "ทุกๆ" request ที่ส่งมาที่ server จะโดน .htaccess ดัก
นั่นก็คือ ทั้งรูป ทั้ง css ทั้ง js จะโดน overhead ของ .htaccess กินหมด
เนื่องจากเป็นเวบไซท์ขายของ รูปมันเยอะมากเลยครับ เลยกังวลนิดหน่อย :'(
#3 คุณ IzeSem ครับ
อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันอ่ะ ผมก็มือใหม่ mod_rewrite เหมือนกัน

แต่เท่าที่อ่านใน cheat sheet เนี่ย [L] คือการกำหนดว่า rule นี้จะเป็น last rule
และถ้าเงื่อนไขตรงแล้วจะไม่ check condition ในลำดับต่อๆไปอีก
ลองดู รายละเอียดตาม cheat sheet ที่ผมใช้อยู่ตามนี้ครับ
http://www.addedbytes.com/cheat-sheets/mod_rewrite-cheat-sheet/
#5 คุณ Kobsoft ครับ
จริงๆแล้วตัว shop ที่เขาใช้อยู่เป็น opensource น่ะครับ (ตัวที่ใหญ่ๆ config ได้เยอะๆนั่นแหละครับ)
แล้วก็โดน customize ไปพอสมควรแล้ว แทนที่จะเป็นเรื่องของ product id ตาม code หลัก
เลยกลายเป็นว่ามีเรื่องของ attribute / custom stock (ที่ customzie) ภายหลังมาเกี่ยวด้วย
จริงๆ เพราะมองว่า จำนวนหน้าจริงๆมันมีไม่มากน่ะครับ และ product / บทความ ก็ไม่ได้ update บ่อย
ผมคิดว่าถ้าให้ system generate product / variant ทั้งหมด โดยมี standard format มาอยู่แล้ว
เช่น
[brand]-[color]-[model]-[product_id].html => product_detail.php?id=[product_id]
แล้วเจ้าของสามารถแก้ไข URL ให้มัน "friendlier" กว่า
เช่น
[brand]-[color]-[model].html (ไม่มี id เลย) น่าจะดีกว่าน่ะครับ
ส่วนนี้ ได้ idea มาจากที่เขาบอกให้ทำ faq.html ที่ rewrite article.php?id=1
ซึ่งถ้าผมเข้าใจไม่ผิด faq.html น่าจะดูดีกว่า article-faq-1.html อยู่ดีน่ะครับ
