ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

ThaiSEOBoard.comอื่นๆCafeที่มา KFC เรื่องราวของนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้ เผื่อใครยังไม่ได้อ่านครับ
หน้า: [1]   ลงล่าง
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: ที่มา KFC เรื่องราวของนักสู้ผู้ไม่ยอมแพ้ เผื่อใครยังไม่ได้อ่านครับ  (อ่าน 551 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iCeEffecT
คนรักเสียว
*

พลังน้ำใจ: 14
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 177



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 07 พฤษภาคม 2014, 17:13:15 »

มีชายคน หนึ่ง พ่อของเขาเสียชีวิตตอนที่เขาอายุได้เพียงห้าขวบ
เขาต้องออกจาก โรงเรียนกลางคัน ขณะอายุ 16 ปี
ตอนอายุ 17 ปี เขาแสดงความสามารถ พิเศษด้วยการตกงานติดต่อกันถึง 4 ครั้ง


เขาแต่งงานตอนอายุ 18 ปี ปี ถัดมาเขาได้เป็นพ่อคน แต่ชีวิตคู่ของเขาก็มีความสุขอยู่ได้ไม่นานนัก
อายุ 20 ปี ภรรยา ของเขาพาลูกสาวหนีไป เพราะทนใช้ชีวิตกับเขาไม่ได้

ช่วง อายุ 18-22 ปี เขาประกอบอาชีพเป็นคนขายตั๋วรถไฟแล้วก็ล้มเหลว แต่เขาก็ ยังต่อสู้กับชีวิตด้วยการหาโอกาสให้ชีวิต แต่ทุกอย่างที่เขาทำก็ไม่วาย ล้มเหลวเหมือนเดิม
เขาสมัครเข้าเป็นทหารในกองทัพแต่ก็ถูกขับออกมา หันเหมาสมัครเข้าโรงเรียนกฎหมาย แต่ด้วยความสามารถอันเอกอุเขาถูกปฏิเสธ อย่างไม่ใยดี

แล้วเขาก็ไปทำงานเป็นพนักงานขายประกัน แน่นอนที่ สุดเขาล้มเหลวอีกครั้ง (แล้ว)

แค่เกริ่นมาข้างต้นก็คงไม่ต้องบอกว่า ชาย คนนี้ทำอะไรไม่ได้เรื่องเลยสักอย่าง ! แต่ก็อย่างว่าแหละ คนเราอะไรมันจะ ไม่ได้เรื่องไปเสียหมด สิ่งเดียวที่เขาพบว่า เขาทำได้ดีก็คือ การทำอาหาร ดังนั้นเขาจึงไปทำงานเป็นพ่อครัวและคนล้างจานในร้านกาแฟเล็กๆ แห่งหนึ่งแต่ นั่นก็ไม่ใช่ชีวิตที่ทรงคุณค่าอะไรเลยในความคิดของเขาชีวิตที่ร้าน กาแฟ เขามีเวลามากมายที่จะนั่งคิดและทำอะไรได้มากพอสมควรแต่เขากลับ เลือกใช้เวลานั่งคิดถึงภรรยาและลูกสาวของเขา เขาเพียรพยายามติดต่อภรรยา และอ้อนวอนให้เธอกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันอีกครั้ง แต่ได้รับคำปฏิเสธ


เขาเปลี่ยนความ คิดใหม่ เขาไม่ต้องการภรรยาอีกต่อไป ขอเพียงแต่ได้ลูกสาวกลับคืนมาก็พอ เพราะเขารักและคิดถึงเธอเหลือเกินเขาใช้เวลาว่างในร้านกาแฟวางแผนใน การนำลูกสาวกลับคืนมาสู่อ้อมอกของตน เขาวางแผนทุกขั้นตอนละเอียด ยิบ คำนวณทุกฝีก้าวในที่สุดแผนการอันแสนยาวนานก็เสร็จสิ้นลง เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ คุณพ่อวัยรุ่นผู้น่าสงสารซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ นอกบ้านหลังเล็กๆ ของภรรยาของเขาเฝ้ามองลูกสาวของเขาเล่นอยู่หน้าบ้าน และเตรียม พร้อมที่จะ "ลักพาตัวเธอ!"แล้ววันที่ตั้งใจไว้ก็มา ถึง เขาซ่อนตัวอยู่หลังพุ่มไม้อย่างระมัดระวัง แม้จะรู้สึก กังวล ตื่นเต้น และตระหนกอยู่บ้างแต่นั่นมิอาจเทียบได้กับความรักที่เขา มีต่อลูก เขาตัดสินใจที่จะต้องลงมือทำให้สำเร็จ แต่แล้วอนิจจา...

วันนั้นลูกสาวของเขาไม่ออกมาเล่นหน้าบ้านเลย แม้กระทั่งความพยายามในการก่อ อาชญากรรม เขาก็ยังล้มเหลว เขารู้สึกเหมือนคนที่พ่ายแพ้ต่อโชคชะตา รู้สึกเหมือนคนไม่มีค่าและเหมือนพระเจ้ากำหนดมาแล้วว่าเขาจะ ต้องอยู่เพียงลำพังไปตลอดชีวิต แต่เหมือนปาฏิหาริย์ ในที่สุดเขาก็สามารถโน้มน้าวภรรยาให้กลับมาอยู่ด้วยกันได้พวกเขาทำงานด้วยกันในร้าน กาแฟแห่งนั้น ทำอาหารและล้างจานอยู่จนกระทั่งเขาเกษียณ ตอนอายุ 65 ปี

วันแรกของการเกษียณอายุ เขาได้รับเช็คเงินประกันสังคมฉบับแรกของเขา เป็น เงิน 105 ดอลลาร์(ราวสี่พันบาท) เช็คดังกล่าวเหมือนเป็นตัวแทนของรัฐ ที่ฝากมาบอกเขาว่า เขาไม่อาจจะดูแลตัวเองได้อีกต่อไปแล้ว ทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือใช้ชีวิต อยู่จนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยเงินสนับสนุนจากรัฐบาล มันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขารู้สึกถูกปฏิเสธ ล้มเหลว เสีย กำลังใจ และท้อแท้ชีวิตของเขาได้รับความผิดหวังอีกครั้งหนึ่งหลัง จาก 65 ปี อันยาวนานเขาบอกกับตัวเองว่าถ้าเขาดูแลตัวเองไม่ได้ ต้อง มีชีวิตอยู่โดยให้รัฐบาลดูแลเขาก็ไม่สมควรจะมีชีวิตอีกต่อไป เขาตัดสินใจ (อีกแล้ว) ว่า "จะฆ่าตัวตาย"

เขาหยิบกระดาษหนึ่งแผ่นกับดินสอ หนึ่งแท่งนั่งลงใต้ต้นไม้ในสวนหลังบ้านอย่างสงบ ตั้งใจที่จะเขียนคำสั่ง เสียและพินัยกรรมแต่แทนที่จะทำเช่นนั้น กลับเหมือนมีอะไรมาดล ใจ เหมือนเป็นครั้งแรกที่ชีวิตเกิดปัญญา เขาเริ่มต้นเขียนสิ่งที่เขาควร จะเป็น ชีวิตที่เขาควรจะมี และสิ่งที่เขาปรารถนาในช่วงชีวิตสุดท้ายที่ เหลืออยู่เขาตกใจมาก เมื่อค้นพบความจริงในชีวิตว่า เขายังไม่เคยทำ อะไรสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันกับเขาสักอย่างเลย ! (เพิ่งนึกได้) เขานั่งครุ่นคิดกับตัวเองอย่างจริงจัง มีบางอย่างที่เขาสามารถทำได้ บางอย่าง ที่คนที่รอบตัวทำสู้เขาไม่ได้ ใช่ ! เขารู้วิธีปรุงอาหารชีวิตเกือบทั้ง หมดของเขา อยู่ที่หน้าเตาร้อนๆ มาตลอด เขาตัดสินใจกับตัวเองอีก ครั้งในที่สุดเขาเลือกที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อทำอะไรสักอย่างในชีวิตให้ ประสบความสำเร็จเขาตั้งใจว่าถ้าเขาจะตาย เขาก็อยากจะตายในแบบที่ได้ลองพยายามเป็นใครสักคนและทำบางสิ่งบางอย่างที่มีค่าด้วยชีวิตที่เหลือ อยู่น้อยนิดของเขาเขาลุกจากเงาไม้ มุ่งหน้าไปยังธนาคารในเมือง เพื่อ ขอยืมเงินจำนวน 87 ดอลลาร์จากเช็คประกันสังคมฉบับต่อไปของเขาด้วย เงิน 87 ดอลลาร์นั้น เขาซื้อกล่องเปล่าและไก่จำนวนหนึ่ง จากนั้นเขา ก็กลับไปที่บ้านและลงมือทอดไก่ที่ซื้อมาด้วยสูตรพิเศษที่เขาได้คิดค้น ขึ้นมาในช่วงหลายปีที่ทำงานที่ร้านกาแฟนั้น เขาเริ่มขายไก่ทอดของเขา ตามบ้านต่างๆ ในเมืองคอร์บิน รัฐเคนตั๊กกี้ของเขา แล้วคนขายไก่ทอด อายุ 65 ปี

คนนั้นก็กลายมาเป็นผู้พันฮาร์แลนด์ แซนเดอร์สราชาผู้เป็นที่ รักของอาณาจักร Kentucky Fried Chicken หรือที่เรารู้จักกันใน นาม KFC นั่นเอง


ตอน อายุ 65 ปี เขาเป็นเหมือนอนุสรณ์แห่งความล้มเหลวที่ยังมีชีวิต แต่ใน วัย 85 ปี เขาก็กลายเป็นเศรษฐีพันล้านและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก มีผู้คน ให้เกียรติเขาทั่วประเทศ
เรื่องราวชีวิตของผู้พันแซนเดอร์ส เป็นอีก บทหนึ่งของเรื่องราวความสำเร็จที่ได้รับคำยกย่องจากผู้คนทั่วโลก แต่ใคร จะรู้บ้างว่าหากใต้ต้นไม้วันนั้นผู้พันแซนเดอร์สได้ทำตามที่เขาตั้งใจ ไว้แต่แรก ตำนานไก่ทอดสะท้านโลก ก็คงจะไม่มีให้เราได้เห็นกัน


จริงอย่างที่เขาว่า ความสำเร็จกับความล้มเหลวห่างกันเพียงแค่พลิกฝ่ามือมัน อยู่ที่ว่าคุณเลือกที่จะ "สู้ต่อ" หรือ "ยอมแพ้"
สำหรับผู้พันแซนเดอร์ส 65 ปี ของชีวิตที่ล้มเหลว เทียบคุณค่าอะไรไม่ได้เลยกับ 20 ปี แห่งความสำเร็จแล้วชีวิตของคุณหละ ล้มเหลวมากพอหรือยัง ?

เห็นได้ว่าเรื่องของผู้พันแซนเดอร์สที่เป็นเรื่องรา่วของนักสู้ชีวิตคนหนึ่งคงทำให้ใครหลายๆคน ได้นำไปเป็นตัวอย่างของการต่อสู้เพื่อการดำเนินชีวิตและสร้างครอบครัวให้มีความสุข ด้วยความตั้งใจและเชื่อในตัวเองว่าเราก็ทำได้ คงเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังท้อแท้ได้สู้กับปัญหามากมายได้อย่าง ผู้พันแห่งตำนานไก่ทอดสะท้านโลก แต่ถ้าเราไม่รู้จักคำว่าท้อ ไม่รู้จักคำว่าผิดหวัง ผิดพลาด ล้มเหลว เราอาจจะไม่รู้จักกับคำว่า ประสบความสำเร็จเลยก็ได้เพื่อนๆน้องๆชาว TSB ต้องสู้ และไม่ท้อในสิ่งที่เรายังไม่ได้ลอง เชื่อในตัวเองได้อย่างผู้พัน KFC นะครับ ชาว TSB จะพบกับคำว่าประสบความสำเร็จได้ไม่ยากครับ สู้ๆ ^^

เครดิต : http://webboard.yenta4.com/topic/406584
ขอบคุณที่มาจาก
ที่มา : นิตยสาร Financial Freedom
รูปภาพ : wiki
เว็บไซน์ : http://pbmath.exteen.com/20090703/235-kfc
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์