ตามหัวกระทู้เลยครับ
ไม่ทราบว่าผิดกฎของ adword หรือ FB หรือเปล่าครับ
 

อัพเดทละครับ อ่านได้ที่โพส#2 โลด

** พื้นที่สำหรับอัพเดท **

[2 เม.ย.]
- เมื่อวานได้ทำการรีเสิชข้อความและดีไซน์สำหรับนิช Veteran จากเวปไซท์หลายแห่ง เช่น Pinterest, Amazon, Facebook Page คู่แข่ง, Redbubble ฯลฯ  ได้ดีไซน์ที่ต้องการมา 4 แบบ พร้อมกับส่งให้ดีไซน์เนอร์ทำการออกแบบให้
- ได้ดีไซน์สำหรับนิช Christian มาสองตัว แต่รอดีไซน์เนอร์ส่ง Veteran ให้ครบก่อน ค่อยสั่งงานต่อ
- ดีไซน์เนอร์ที่ใช้เป็นชาวฟิลิปปินส์ เคยร่วมงานกันมานานแล้ว คิดค่าออกแบบตัวละ $20
- วันนี้เพิ่งได้ดีไซน์มา 1 ตัว เลยขึ้นแคมเปญทันที
- Traffic Source หลักสำหรับการขายเสื้อออนไลน์คือ Facebook
- สำหรับเสื้อตัวแรก ผมขึ้น 1 แคมเปญ โดยใช้ PPE Objective
- การหา Target ผมใช้วิธีที่แม่นยำที่สุด คือไปยังเพจคู่แข่ง ค้นหาลูกค้าตัวจริงที่ได้ซื้อสินค้าไป แล้วดูว่าเขาไลค์เพจไหนที่เกี่ยวข้องบ้าง นำเพจเหล่านั้นมาใช้ให้หมด (ถึกหน่อย)
- ขึ้นไปทั้งหมด 3 Adsets, Budget $5/day
- ตอนนี้ปล่อยรันไปเรื่อยๆ วันที่ 5 ค่อยมาดูผล
(ดีไซน์ที่เหลือก็ใช้วิธีแบบนี้แหล่ะครับ ไม่ต้องพูดถึงทุกตัวให้ซ้ำซ้อนเนอะ)

[4 เม.ย.]
- ตอนแรกตั้งใจว่าวันที่ 5 ค่อยมาอัพเดทใหม่ แต่มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นจึงมาอัพเดทก่อนดีกว่า
- วันนี้มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย หลังจากรันแคมเปญได้ 2 วัน มีผลลัพธ์ดังนี้

- ค่า CTR >10% และ CPE < 0.1  ถือว่าดีพอสมควร  น่าพอใจ ทั้งๆที่ยังได้เริ่ม Optimize ใดๆ
- ขายเสื้อได้ 1 ตัวแล้วววว!! แต่... ข้อความบนเสื้อผิดหลักไวยากรณ์ ต้องแก้ไขแล้วรันแคมเปญใหม่ T-T
- ตอนนี้ก็ปล่อยรันแบบนี้ไปอีกสักสองวันแล้วค่อยดูอีกทีครับ

[18 เม.ย.]
- รันมา 1 สัปดาห์ขายไม่ได้เลยครับ หมดไปหมื่นกว่าบาท
- สองนิชนี้ยังคงเป็นนิชหินสำหรับผมอยู่ดี  โปรเจคนี้ถือว่าเฟลนะครับ ไว้มีไรใหม่ค่อยมาแชร์อีกครั้ง

- [ฉ10] กระทู้นี้ไม่มีเจตนาอวดอ้างความสามารถ หรือสร้างความขัดแย้งใดๆ
โปรดใช้วิจารณญาณในการบริโภค

*****************************************************************************************
[31 มี.ค.]

สวัสดีครับ

ก่อนอื่นขอเล่าที่มาที่ไปของการเริ่มโปรเจคนี้นะครับ
ผมมีประสบการณ์ทำ Teespring มากว่าสองปีแล้ว แคมเปญเสื้อ (ดีไซน์เดียว) สูงสุดที่เคยขายได้ก็หลักพันต้นๆ
ทีนี้ทำไปทำมาก็เริ่มเบื่อ บวกกับอยู่ในกรุ๊ปต่างชาติด้วย เห็นเขาทำยอดกันได้เป็นหมื่นๆ ตัว ชิวๆ ก็อยากทำบ้าง

เชื่อมั่นว่าเขาทำได้ เราก็ต้องทำได้เหมือนกัน

ระหว่างที่เปื่อยๆ เอื่อยๆ ไปวันๆ ผมก็คิดเล่นๆ ผุดไอเดียขึ้นมาว่าถ้าลองตั้งเป้าหมายทำยอดขายเสื้อ (1 ดีไซน์)
ให้ได้ 5,000 ตัวภายใน 3 เดือน จะเป็นอย่างไร  ปรากฎว่าผมรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกสนุก และอยากทำให้สำเร็จ

แต่ครั้นจะทำดีไซน์ใหม่ขายให้ลูกค้ากลุ่มเดิม (นิชเดิม) ก็ไม่เห็นจะน่าสนุกตรงไหน เรียกได้ว่ามีแต้มต่อแล้วนั่นเอง

เพื่อให้ทวีความตื่นเต้นยิ่งขึ้น ผมตั้งใจว่าจะทำนิชที่ตัวผมเองไม่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน พูดง่ายๆ คือขายกี่ตัวก็มีแต่เจ๊ง

นั่นคือ...

Veteran และ Christian
(ผมเลือกทำสองนิชกันเหนียวนะ เผื่อนิชนึงพลาดยังมีอีกนิชให้ลุ้น 555)

รวมถึงเปิด acc ใหม่สำหรับโปรเจคนี้โดยเฉพาะ


เป้าหมาย: ขายเสื้อ (1 ดีไซน์) ให้ได้ 5,000 ตัว
ระยะเวลา: 1 เม.ย. - 30 มิ.ย.

ทำคนเดียวเงียบๆ ก็ไม่สนุก เลยมาตั้งเป็นกระทู้เพื่อเล่าความคืบหน้า รวมถึงแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆ ฟังกันด้วย

ช่วยติดตามกันด้วยนะครับ 

ขอยกตัวอย่างนะครับ

สมมุติว่าผมมีคอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง และมีเมาส์+คีย์บอร์ด 1 ชุด
เวลาขยับเมาส์หรือพิมพ์อะไรก็ตาม จะเป็นการควบคุมคอมทุกเครื่องพร้อมกัน

เลื่อนเมาส์ไปทางขวา... คอมทั้ง 5 เครื่องก็ขยับเมาส์ไปทางขวาพร้อมกัน
พิมพ์ข้อความ... คอมทั้ง 5 เครื่องก็พิมพ์ข้อความเหมือนกัน

พอจะมีอุปกรณ์อะไรรองรับกับที่ผมต้องการได้บ้างไหมครับ

ขอบคุณครับ

...ออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงในการรับสมัครงานตรงนี้...

ผมกำลังจะฟอร์มทีมขึ้นมาโดยเฉพาะ และมี Ad Manager คอย Track & Optimize แคมเปญต่างๆ
สิ่งที่ผมกังวลคือ ถ้าเราไม่มีแรงกระตุ้น เขาก็จะทำให้ไม่เต็มที่

แต่พอคิดจะใช้เรื่องรางวัลเป็นสิ่งจูงใจ เลยทำให้ตัดสินใจไม่ได้...

ส่วนตัวผมไม่อยากให้รางวัลเป็นตัวเงินโดยเทียบสัดส่วนกับยอดที่ทำได้ เพราะมันจะทำให้เขาโฟกัสแต่เรื่องเงินของบริษัท
นานวันเข้าอาจจะคิดว่าตัวทำยอดให้บริษัทเยอะ แต่กลับได้ส่วนแบ่งน้อย จะกลายเป็นปัญหาในระยะยาว

หรือจะให้เป็นในรูปสิ่งของ หรือให้โบนัสปลายปีทีเดียวเลย หรือไม่ต้องให้เลย.... ไม่รู้วิธีไหนจะ win-win ทั้งสองฝ่าย

ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆ ด้วยครับ
 

ดันตอนเที่ยง 

เล่มใหม่สัปดาห์นี้ สมัครช้าอดนะจ๊ะ

อีบุ๊คสำหรับสัปดาห์นี้

แทรฟฟิคจาก Youtube เป็นสิ่งที่เมืองนอกนิยมทำเป็นอย่างมาก

ถ้าไม่อยากตกขบวน ต้องรีบอ่านนะครับ

ขออภัยด้วยครับ เล่มเก่าจะไม่มีการนำมาขายใหม่ ผ่านแล้วก็ผ่านเลยครับ

เปิดแล้วครับ

ดันหน่อยครับ 

ตลาดจองโรงแรมมีมูลค่าสูงถึง 162 พันล้านดอลล่าห์
บางทีอาจจะเป็นแหล่งขุมทรัพย์ของบางคน
ตอนนี้ ThaiWSO กำลังจะเปิดเผยให้สมาชิกได้รู้แล้ว...

สมาชิก ThaiWSO สามารถดาวน์โหลดของสัปดาห์นี้ได้แล้วครับ ^^

ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับ เครื่องมือในฝันเลย 

อยากเล่น Traffic จาก Mobile รีบอ่านเลยครับ
สมาชิกโหลดได้ถึงวันที่ 29 กันยายนนี้ มาช้าอดนะขอบอก...

อ่านรายละเอียดได้ที่ http://thaiwso.com ครับ ^^

เล่มใหม่สัปดาห์นี้ครับ
นิชใหม่ๆ ค่าคอมแพงๆ ($100-$1,000)
ถ้าอยากรู้ต้องอ่านครับ ^^

หากคุณคิดว่าความรวยได้มาจากโชคช่วย ให้คิดใหม่ ปัญหาอาจจะเกิดจากการบริหารเวลาของคุณเองเริ่มตั้งแต่ตื่นนอน

นักวางแผนการเงิน, Tom Corley, ใช้เวลากว่า 5 ปีในการศึกษาการใช้ชีวิต, การทำงาน กระทั่งการนอนหลับของ "คนรวย" และ "คนจน" แล้วนำไปเขียนหนังสือชื่อ "Rich Habits: The Daily Success Habits of Wealthy Individuals"  เขานิยามผู้ที่ "มั่งคั่ง" ว่าต้องมีรายได้ขั้นต่ำ $160,000 ต่อปี และมีทรัพย์สินอย่างน้อย $3.2 ล้านเหรียญ  สำหรับ "คนจน" คือคนที่มีรายได้ต่ำกว่า $30,000 ต่อปี และมีทรัพย์สินน้อยกว่า $5,000

"ผมรู้ว่าแต่ละธุรกิจไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่พฤติกรรมประจำวัน, กิจกรรมที่ทำต่างหากที่สร้างความแตกต่างระหว่างคนจนและคนรวย"  Corley กล่าว

ตื่นแต่เช้า
Corley พบว่าคนรวยจะใช้ประโยชน์จากเวลาในตอนเช้า  44% ตื่นก่อนเวลาทำงาน 3 ชั่วโมง พวกเขาใช้เวลานั้นเพื่อพัฒนาตนเอง, อ่านหนังสือหาความรู้เพิ่มเติม เช่น นิตยสารเกี่ยวกับหุ้น หรือบล๊อกเกี่ยวกับธุรกิจของเขา  นอกจากนั้นเขายังแบ่งเวลาไว้ออกกำลังกายด้วย ทำให้สามารถทำงานได้มากขึ้นและมีผลลัพธ์ที่ดี

ลำดับสิ่งที่ต้องทำอยู่เสมอ
เมื่อมาถึงที่ทำงาน คนรวยจะไม่ยอมเสียเวลาแม้แต่น้อย  70% จะดูรายการสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวันและพยายามทำให้สำเร็จ  พวกเขาจะไม่จดจ่ออยู่กับแผนระยะเท่านั้น แต่ยังใส่ใจในแผนระยะยาวด้วย

ไม่พักเที่ยงนาน
คนรวยไม่ชอบมื้อเที่ยงที่หรูหราและทำให้เสียเวลา  มีมากถึง 55% ที่เจรจาธุรกิจและสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างทานอาหาร

ใส่ใจกับแคลอรี่
สำหรับการกิน คนรวยจะใส่ใจกับการนับแครอลี่มาก  Corey พบว่าคนรวยส่วนใหญ่จะจำกัดปริมาณการดื่นแอลกอฮอลล์ และควบคุมอาหารขยะให้ไม่เกิน 300 แคลอรี่ต่อวัน  "คนรวยคือคนที่มีสุขภาพดี  หากต้องการรวย มีแต่คนที่สุขภาพดีเท่านั้นถึงหาเงินได้มาก" Corey กล่าว   "ถ้าพวกเขามีสุขภาพดีก็จะป่วยน้อยลง, พวกเขาชอบออกกำลังกาย, พวกเขามีพลังงานมากมาย, พวกเขาดูแลสุขภาพและการใช้ชีวิตเป็นอย่างดี เพื่อจะได้ทำงานได้มากขึ้น"

ไม่นินทา
กรุณาทบทวนข้อความต่อไปนี้หลายๆรอบ:  79% ของผูัมีรายได้น้อยชอบการนินทา ซึ่งคนรวยมีเพียง 6% เท่านั้น

ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ต
ข้อสุดท้าย เมื่อถึงเวลาเลิกงาน คุณจะทำอะไร?  เที่ยวกลางคืน?  ดูโทรทัศน์?  จากรายงานพบว่าคนรวยใช้เวลากับการสร้างสายสัมพันธ์, เป็นอาสาสมัคร และทำกิจกรรมสังคม  Corey พบว่าผู้ที่มีปัญหาการเงินจะใช้เวลามากกว่า 1 ชั่วโมงไปกับการเล่นอินเทอร์เน็ต โดยส่วนใหญ่จะเล่น Facebook ทุกวัน



cr: แปลจาก http://finance.yahoo.com/news/...c5BHBzdGNhdAMEcHQDc2VjdGlvbnM-