ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่า การหาเงินล้านออนไลน์ที่ผมจะมาแชร์ ไม่ได้เป็นรายได้ที่เกิดจากธุรกิจ MLM หรือขายตรงทุกประเภทนะครับ (พวกที่ชอบ Tag บน Facebook แล้วบอกว่าทำงานผ่านเน็ต มักจะอยู่ในกลุ่มชวนเราไปทำ MLM), ไม่ใช่พวก Auto Surf (พวกที่บอกว่าได้เงินจริงๆ แค่อ่านเมลล์เท่านั้น), แล้วยิ่งไม่ใช่จะชวนทุกท่านไปลงทุนกับ HYIP เว็บที่บอกว่าถ้าท่านลงทุนกับมันจะได้ผลตอบแทนสูงๆๆ (แต่จริงๆ คนเกือบ 90% ไม่ได้เงินต้นคืน)

สำหรับประสบการณ์ที่ผมจะมาแชร์ก็จะเป็นพวกนี้ครับ การทำให้เว็บติดหน้าแรกบน Google (การทำ SEO), การหารายได้จาก Google Adsense, การหารายได้จาก Amazon, แชร์ประสบการณ์การทำการตลาดผ่าน Facebook เป็นต้น

วัตถุประสงค์ของบทความชุดนี้นะครับ

1. แบ่งปันประสบการณ์ พร้อมทั้งแนะนำการสร้างรายได้อินเตอร์เน็ต

2. ผมอยากเขียน

Google, Bing, SEM, Adsense, Adwords, PPC, PPV, Payday Loans, Affiliate, Amazon,T3leads, Leadsmarket, Neverblue, Pop Cantonax, SEO, Script, เว็บปั่น, เว็บคุณภาพ, Domain, Hosting, Hostgator, Email, Opt-in, Clickbank, TM, E Commerce, Backlinks, ปรีดา

หลายๆ คนคงสงสัยว่าไอ้เยอะๆ ข้างบนคืออะไร คำตอบก็คือ เป็นคำศัพท์ที่เกี่ยวกับการหาเงินผ่านอินเตอร์เน็ตนะครับ จะเห็นได้ว่าการหาเงินออนไลน์มันหลากหลายมาก ชนิดที่ว่าคนที่เข้ามาใหม่ๆ มึนตึบกันทีเดียว ยิ่งอ่านยิ่งงง แต่ข่าวดีครับ คือเราไม่จำเป็นต้องรู้ทั้งหมดข้างบนก็ได้ครับ เราก็สามารถหาเงินออนไลน์ได้แล้ว เรามาเริ่มกันดีกว่าครับ

การหาเงินออนไลน์ หรือหลายๆ คนก็เรียกงานนี้ว่า Internet Marketing หรือ IM เป็นการหาเงินโดยการทำการตลาดโดยใช้อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อ หน้าที่ของเราก็คือการใช้สื่ออินเตอร์เน็ตในการหาคนมาเข้าเว็บของเราครับ โดยเราจะเรียกคนที่เข้าเว็บเราว่า Traffic (ต่อไปนี้ผมจะใช้คำว่า Traffic แทนคนที่เข้ามาเว็บ, Facebook, Instagram ของเรานะครับ) จากนั้นเราก็แค่เปลี่ยน Traffic ให้กลายเป็นเงินนะครับ โดยเราอาจจะขายของ ขายบริการให้กับ Traffic หรือเราอาจจะเอา Traffic ไปขายให้กับคนอื่นก็ได้ครับ ก่อนจะจบบทความแรกนี้ ผมจะแนะนำ Model ง่ายๆในการเปลี่ยน Traffic ให้เป็นรายได้ของเรานะครับ

1. ขายของหรือขายบริการ

- เราขายอาจจะเป็นของ ขายบริการของเราเอง หรืออาจจะซื้อของหรือบริการของคนอื่นมาขายต่อ โมเดลแบบนี้จะเป็นลักษณะ E-Commerce ครับ เราจะได้กำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อกับราคาขาย ตัวอย่างเช่น สาวนางหนึ่งซื้อครีมมากิโลกรัมละ 300 บาท แต่มาแบ่งขายเป็นกระปุกๆ กระปุกละเป็นพัน จะเห็นว่าสาวนางนี้ได้กำไรจากส่วนต่างของราคาที่ซื้อมากับขายไป

- เราอาจจะขายของหรือบริการของคนอื่น โดยในกรณีเราไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อมาก่อน เรารับรายได้จาก commission แทนนะครับ โมเดลแบบนี้ในต่างประเทศเราจะเรียกว่า Affiliate Marketing ตัวอย่างเช่น เราสามารถเอาของบน Lazada.co.th ไปขายได้นะครับ โดยเราจะได้ค่าคอม 3% จากราคาสินค้า (รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.lazada.co.th/affiliate/ ) จะเห็นได้ว่าในกรณีนี้เราไม่มีต้นทุนเรื่องการสต๊อกสินค้า แต่เราก็จะได้รายได้น้อยกว่าแบบแรกครับ

2. ขายโฆษณา

โมเดลแบบนี้ง่ายมากครับ คือ เราเอาจำนวน Traffic ที่เข้าเว็บเราไปขาย เพื่อให้เค้าเอาโฆษณามาลงที่เว็บของเรา ลองนึกถึง Sanook.com เมื่อเข้าไปจะเห็นโฆษณาเต็มเว็บไปหมด โมเดลนี้ยิ่ง Traffic เยอะเท่าไรก็ยิ่งสร้างรายได้ได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น ดูอย่าง Google กับ Facebook ได้ครับ รายได้มาจากการขายโฆษณาทั้งนั้น

ไว้มาต่อกันอาทิตย์หน้าครับ ผมกะจะโพสอาทิตย์ละ 1 บทความ โดยจะโพสประมาณวันพุธหรือวันพฤหัสบดีนะครับ

Credit: http://www.onlinepassive.com/%...84%E0%B8%A5%E0%B8%99%E0%B9%8C/

general
1. ความสัมพันธ์ระหว่าง google.com และ google.co.th
2. pagerank algorithm
3. คัมภีร์ SEO จาก google ภาษาไทย

adword
1. รวมรวบ tips ต่างๆเกี่ยวกับ google adwords

ช่วงนี้กำลังหาทางเลิกติดเกมส์อยู่ขอโพสมากหน่อยนะครับ เขียนเยอะๆจะได้ไม่ว่างไม่เบื่อ พอดีไปตอบใน pantip มาและเห็นว่าน่าจะเป็นเกร็ดความรู้ให้คนอื่นได้ ไม่มากก็น้อยครับ ก็เป็นแนวคิดทั่วไปนะครับ มาให้อ่านเป็นมุมมองนึง เป็นแนวคิดที่ไม่ได้ผ่านการรับรองอะไร ความเข้าใจส่วนตัวล้วนๆครับ

การคิดราคาทำเว็บไซต์ มันก็มีหลายแนวคิดในการตั้งราคา แต่ส่วนตัวผมจะคำนึงดังนี้ครับ

1.ลูกค้ามีความต้องการ ซับซ้อนหรือละเอียดเท่าใด
2.วิธีการทำเว็บไซต์ด้าน font end : ใช้วิธีการใด เช่น โค้ดดิ้ง 100% , คัดลอกโค้ด , ใช้ platform
3.วิธีการทำเว็บไซต์ด้าน backend : ใช้วิธีการใด เช่น โค้ดดิ้ง 100% , คัดลอกโค้ด , ใช้ platform
4.ระบบ,ลูกเล่น,effect : ต้องทำหรือใช้เยอะแค่ไหน หรือต้องมีการทดสอบมากน้อยแค่ไหน
5.ปริมาณเนื้อหางาน : มีกี่หน้า แต่ละหน้ามีความละเอียดแค่ไหน
6.โฮสติ้ง-โดเมน : ใช้แบบไหน มีอะไรบ้างหรือมีประสิทธิภาพเท่าใด
7.มาตรฐานของ code : มีคุณภาพ ถูกต้องทั้งในแง่ w3c หรือ factor ขนาดไหน
8.ผลงานที่ออกมา : เทียบกับระดับผู้ทำที่ได้รับการยอมรับเราทำได้เท่าไหนและตอบโจทย์ลูกค้าได้ขนาดไหน
9.การออกแบบ : มีความซับซ้อนแค่ไหนหรือเราใส่ความคิดสร้างสรรค์แค่ไหน
10.การทำภาพกราฟฟิก : เราใช้วิธีการอย่างไร หรือ เราทำแบบละเอียดแค่ไหน
11.การได้มาซึ่งภาพประกอบ : ต้องถ่ายรูปเองไหม เราต้องจัดหาให้ทั้งหมดไหม
12.ขั้นตอนทำงาน : มีขั้นเยอะไหม หรือมีความละเอียดมากน้อยแค่ไหน เช่น ต้องทำ wireframe ทำ mockup บีฟงาน หรืออื่นๆแค่ไหน
13.จำนวนบุคลากร : ต้องจ้าง ต้องใช้จำนวนเท่าใด
14.การใส่ความเป็นแบรนด์ให้ลูกค้า : เราต้องทำให้ลูกค้าถึงขนาดไหน ข้อนี้จริงแล้วต้นทุนสูงมาก
15.การปรับเพื่อรองรับ seo : เราทำละเอียดให้ลูกค้าระดับไหน
16.บริการเสริม : มีหรือไม่มี หรือมีอะไรแค่ไหน
17.บริการหลังการขาย : มีอะไร ดูแลแค่ไหน
18.ภาระทุนค่าเสียเวลาต่างๆ ที่เกิดจากกระบวนการของผู้จ้างงาน เราคิดเงินไหมหรือเรายอมรับได้แค่ไหน
19.การเลือกตลาด เราเลือกระดับตลาดใด เราเจอคู่แข่งเป้าหมายระดับไหน
20.ความสามารถในการแข่งขัน เราพร้อมแข่งขันได้มากน้อยเท่าใด
21.สุดท้ายแบรนด์ของผู้ทำเว็บไซต์ มีมากแค่ไหนอย่างไร

Affiliateต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์และอื่นๆอีกมากมายครับ 
เช่น
seo
ppc
facebook ads
ทำเว็บseo
เว็บปั่น
โฆษณาแบนเนอร์
พีพีวี
บล็อกฟรี
ฯลฯ
ต้องค่อยๆ และทดสอบทราฟฟิคไปเรื่อยๆครับ ว่าของเราเหมาะกับTraffic sourceเข้ามาแบบไหน  เป็นต้นครับ  ค่อยๆศึกษาและทดสอบไปเรื่อยๆครับ

 

สงสัยจะเรียบร้อยแล้ว

ทำคีย์เวิดลิงค์ ตรงลายเซนต์ยังไงเหรอครับ ในบอดนี้ คือลองทำ BBC code แล้วมัน Link remove เอง รบกวนชี้แนะด้วยคัรบ