สวัสดีครับ สำหรับบทความนี้ ผมได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์การทำ Blog จากเจ้าของบล็อก The CEO Blogger ซึ่งสิ่งที่ทำให้ผมสนใจในตัวของ Blogger ท่านนี้ก็คือ
- การเป็นมนุษย์เงินเดือน ก็ยังแบ่งเวลามาทำ Blog เป็นจริงเป็นจังได้
- การสร้างสินค้าเป็นของตัวเอง คือ E-Book และทำยอดขายถึง 6 หลัก แบบ Passive Income ในเวลาไม่กี่เดือน (เขียนเอง ขายเอง ไม่ต้องง้อสำนักพิมพ์)
- เน้นการสร้าง Blog คุณภาพ มากกว่าการปั่นเว็บ
หวังว่าเพื่อนๆจะได้เรียนรู้และนำไปปรับใช้ให้เข้ากับตนเองบ้างไม่มากก็น้อยครับ
ผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ด้วยครับ

1.ทำความรู้จักเกี่ยวกับผู้เขียน The CEO Blogger
ตอบ ผมชื่อ พรพรหม กฤดากร (พอล) ปีนี้ 33 ปีครับ ผมทำงานในสายค้าปลีกและการนำเข้ามา 8 ปีเริ่มจากระดับพนักงานหน้าร้านแล้วเติบโตมาเป็นผู้ช่วยผู้บริหารฝ่ายจัดซื้อครับ
2.เข้าสู่วงการการเขียน Blog ได้อย่างไร
ตอบ เริ่มจากเมื่อประมาณปี 2008 ผมเริ่มแชร์เทคนิคการทำงานในสาขาจัดซื้อ เทคนิคการพัฒนาอาชีพ และการบริหารธุรกิจทั่วไปผ่านทางเว็บบอร์ดแล้วปรากฏว่ามีคนติดตามมากขึ้นเรื่อยๆแล้วกลายมาเป็นแฟนประจำ ผมเขียนกระทู้อยู่สองปีมีบทความประมาณ 500-600 บทความมีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง แล้วปรากฏว่ามีคนส่งข้อความมาบอกว่าเขาได้งานเพราะใช้ข้อมูลจาก Content ที่ผมแชร์ไว้ในเว็บบอร์ด ตอนนั้นมันจุดประกายว่า “เฮ๊ย! สิ่งที่เรารู้ช่วยคนได้ด้วย” แล้วสมาชิกบอร์ดอีกท่านหนึ่งก็บอกว่า ผมจำเป็นต้องมี Blog เป็นของตัวเอง ผมจึงตัดสินใจเปิด Blog โดยเริ่มจาก Platform ของ Blogger.com เมื่อปี 2010 เว็บชื่อ Career-Alive.com ก่อนจะย้าย Platform มาเป็น WordPress กับ TheCEOBlogger.com ในปี 2013 ระยะเวลา Blog ทั้งหมดถึงปัจจุบันคือ 3 ปีครับ
3.มุมมองที่มีเกี่ยวกับอาชีพ Blogger ในประเทศไทย และ Blogger ชาวไทยที่มีชื่อเสียงที่แนะนำ
ตอบ ผมเชื่อว่าอาชีพ Blogger ในไทยเป็นไปได้เพียงแต่ขาดผู้สื่อสารข้อมูลที่ชัดเจนว่า Blog คืออะไร แล้วมันทำอะไรให้คุณได้ Blog ส่วนมากยังเป็น Blog ไดอารี่กันอยู่ ที่เหลือจำนวนมากเป็น Blog ร้าง แล้วก็ Spam
ส่วน Blogger ในไทยถ้าไม่นับสาขา Internet marketing ผมชอบของคุณภาววิทย์ กลิ่นประทุม จาก PawawitStockComment.com กับ Blog ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร (
http://www.settrade.com/blog/nivate/ 
) ด้านการลงทุนในหุ้น สองท่านนี้ให้ความรู้เยอะมาก อีกท่านชื่อ บล็อกภาษีข้างถนน (
http://tax.bugnoms.com/ 
) เป็นสาย Personal finance ทำออกมาสวยงามมีคนติดตามเยอะมากๆ
4.ความเป็นไปได้ในสายอาชีพ Blogger Full-Time ในประเทศไทย
ตอบ เป็นไปได้แน่นอนครับ แต่คุณจำเป็นต้องพัฒนา Core business ขึ้นบน Blog โจทย์คือคุณจะขายอะไร? หากคุณจะไม่พึ่ง 3rd party อย่าง CPC และ Affiliate สิ่งที่คุณจะขายได้บน Blog มีสามอย่าง สินค้า, บริการ, และ Sponsorship อาทิ Ads ต่างๆ แต่ทั้งหมดนี้ต้องเกิดผ่าน Blog คุณภาพ
ที่ผ่านมาผมเจอคนที่สนใจ Blog คุณภาพเยอะมากขึ้นเรื่อยๆและอยากจะผันตัวมาสร้าง Professional platform ของตนเองผ่าน Blog สร้าง Brand สร้างผลงาน ฯลฯ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ยกตัวอย่างที่บริษัทที่ผมทำงานอยู่มีพนักงานเกือบ 200 คน หากไม่นับ Director of IT ผมเป็นคนเดียวที่ทำ Blog และมีรายได้ผ่าน Blog แบบ Passive income อัตราส่วนผมขอเดาเอาเองว่าอาจมีคนไทยเพียง 10% ที่เข้าถึงความรู้ด้านการสร้าง Business platform ผ่าน Blog แบบจริงๆจังๆ แต่เวลาผมแชร์ประสบการณ์ให้เพื่อนๆฟังทุกคนมีความสนใจและอยากทำกันมากเพราะทุกวันนี้คนวัย 30 ขึ้นไปเบื่องานประจำกันแทบทุกคน แต่ก็ส่วนมากอีกที่กลัวและไม่กล้าเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ เหตุผลหลัก ทำไม่เป็น และ ไม่มีเวลา ทั้งที่จริงผมและเขาก็มีเวลาเท่ากัน เขาทำงานประจำ ผมก็ทำงานประจำ!
5.ประเภทของเนื้อหาใน The CEO Blogger เกี่ยวกับเรื่องใด
ตอบ The CEO Blogger ให้ความรู้เกี่ยวกับการสร้างธุรกิจอินเตอร์เน็ตที่มุ่งเน้นที่การมี Product และ Service ของตนเองนอกเหนือจากการอาศัย 3rd Party อย่าง AdSense และ Affiliate รวมไปถึงสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการทำธุรกิจอินเตอร์เน็ตโดยการคิดอย่าง CEO (ผู้บริหาร), การผลิต Content ที่มีคุณภาพ, และการสื่อสารการตลาดสำหรับ Blogger ครับ
6.คิดอย่างไรที่ได้สร้าง Information Product ของตนเองขึ้นมา
ตอบ
ข้อแรก) คือผมต้องการแสดงให้คนเห็นว่า Internet business มีอะไรที่มากกว่า CPC และ Affiliate program
ข้อสอง) คือผมถนัดการเขียนและการนำเสนอ และ
ข้อสาม) สื่อการเรียนรู้ เป็นรูปแบบธุรกิจที่มีความมั่นคงสูงมาก ผมจึงเดินในสายของการผลิต Information product ร่วมกับการรุกในส่วนของ Social media marketing ครับ
7.ความคาดหวังและการตอบรับจาก Information Product ที่ The CEO Blogger ได้สร้างขึ้นมา
ตอบ ผมอยากให้ Product ของผมช่วยคนให้ได้มากที่สุด อย่างที่บอกไว้ตอนต้นว่า สิ่งที่ผมแชร์ในเว็บบอร์ดเมื่อหลายปีก่อนทำให้คนได้งานทำ ผมจึงคาดหวังว่า Content ทุกชนิดที่ผมสร้างไม่ว่าจะเป็น Free content และ Premium content จะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนอื่นไปในทางที่ดีได้ และนั่นเองคือสิ่งที่จะทำให้ผมได้รับผลตอบรับที่ดีจากตลาดครับ
8.ข้อแนะนำในการสร้าง Information Product
ตอบ สิ่งสำคัญคือ ความรู้ การสร้าง Information Product ไม่ใช้ทุนในรูปของเงินสดเฉพาะหน้า แต่ใช้ทุนในรูปของความรู้เยอะมาก ก่อนที่ผมจะสามารถเขียน Content ได้มากมาย ผมผ่านการอ่านหนังสือมาเป็นจำนวนมากโดยโฟกัสที่แนว พัฒนาตัวเอง, พัฒนาอาชีพ, และแนวธุรกิจและการลงทุน ความรู้ที่ได้จากหนังสือที่อ่านมาหลายปีทำให้ผมมีวันนี้ ฉะนั้นคนที่จะผลิต Information Product ขอให้ศึกษาให้มากๆ ความรู้มันแปลงเป็นเงินได้จริงๆครับ
ต่อมาคือความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์จะสะท้อนลงในคุณภาพของเนื้อหาและอันที่จริงมันจะสะท้อนกันตั้งแต่ในคุณภาพของ Free content เลยทีเดียว ผมเคยได้ยินคนบ่นว่า E-Book บางเล่มแพงมากแต่เนื้อหาไม่มีประโยชน์ คัดลอกมาจากในเว็บบอร์ด ฯลฯ คนผลิตงานต้องคิดถึงใจผู้บริโภคให้มากๆ
สุดท้ายความเพียร การสร้าง Information product กำไรแทบจะ 100% แต่เหนื่อยมาก มันไม่ Plug& Play เหมือน Google AdSense หรือ Amazon affiliate นอกจากต้องสร้าง Product เองแล้วต้องทำการตลาดเอง ฯลฯ ขอบอกว่า Information product อาจใช้กับ SEO ไม่ค่อยได้ผล เพราะมันไม่ได้ต้องการ Traffic สูงๆในการ Convert เหมือนสาย CPC และ Affiliate แต่มันต้องการ Relationship กับ Audience ตัวเป็นๆที่เข้ามายังเว็บของคุณครับ
9.มีความคิดเห็นอย่างไรกับตลาดคนไทยกับ E-Book ในวงการอื่นๆ ที่ไม่ใช่เนื้อหาเกี่ยวกับการหาเงินออนไลน์
ตอบ ผมเชื่อว่าถ้ามีคนทำแนวอื่นออกมาก็มีคนสนับสนุน อาทิ Content แนวสุขภาพ, แนวออกกำลังกาย, หรือแม้แต่ แนวจิตวิทยาจีบผู้หญิงนี่ผมก็คิดว่าต้องไปได้ แนวเหล่านี้ฝรั่งทำแล้วเขาก็ขายดี มีคนบอกผมว่าแนวพวกนี้ขายในไทยไม่ได้หรอกเพราะไม่มีคนทำกัน… ก็นั่นล่ะครับเพราะไม่มีคนทำมันเลยไม่มีคนซื้อ ทุกวันนี้คนเขาก็ต้องไปซื้อของฝรั่งมาอ่าน ผมเองก็ซื้อ E-Book แนวอื่นเช่น เรื่องการเป็นนักแปล, เรื่องการเป็นนักเขียน, และเรื่องจิตวิทยามนุษย์ มาอ่านครับแต่ต้องไปซื้อของฝรั่งเพราะคนไทยไม่ค่อยทำ สาเหตุหลักๆ คือลังเลใจว่าทำแล้วจะเวิร์คหรือไม่แค่นั้นเอง เหมือนของผมตอนแรกผมก็กลัวเพราะในตลาดมีแต่ E-Book สอนปั่น Amazon, สอนทำ AdSense, สอนทำ ClickBank แล้วโชว์ยอดรายได้สูงๆมาเป็นจุดขาย ส่วน E-Book ของผมเป็นด้านบริหารธุรกิจอินเตอร์เน็ตแล้วชูจุดขายว่าผมไม่เชื่อเรื่อง Get-rich-quick ซ้ำลงไปอีกแต่ปรากฏว่าขายดีเกินคาด
10.แนวทางในอนาคตของ The CEO Blogger จะไปในทิศทางใด
ตอบ The CEO Blogger จะมุ่งเน้นที่การให้ความรู้สำหรับผู้คนไปสร้างธุรกิจอินเตอร์เน็ตแบบยั่งยืนหรือการมี Real business เกิดขึ้นบนอินเตอร์เน็ตจริงๆ อาทิ การพัฒนาเว็บ E-Commerce, การทำงาน Freelance, การสร้าง Personal branding ส่วนรูปแบบของ Information product ผมจะมีลูกเล่นใหม่ๆมาให้แฟนๆมากขึ้น แน่นอนว่าหนึ่งในความฝันของผมคือการมี Video content และการทำ Live workshop ครับ
อ่านบทสัมภาษณ์เต็มๆได้ที่นี่ครับ
http://www.asuradech.com/the-ceo-blogger-interviews/ 
หากเพื่อนๆมีคำแนะนำใดๆเพิ่มเติม เพื่อปรับปรุงการสัมภาษณ์ Blogger ท่านอื่นๆต่อไป รบกวนเพื่อนๆชี้แนะด้วยนะครับผม

อ่านบทความสัมภาษณ์ Blogger ท่านอื่นๆ
- บทสัมภาษณ์ Blogger สาวสวย จาก erk-erk.com - Beauty Blog อันดับ 1 -
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,338042.0.html
- บทสัมภาษณ์ Blog หมอดู จาก Vittarot.com -
http://www.thaiseoboard.com/index.php/topic,340216.0.html 