ช่วงนี้เห็นมิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาในบอร์ดมากขึ้น
ก็เลยรวบรวมมาให้พี่น้องชาว Thaiseoboard เอาไว้เป็นแนวทางเอาผิดคนโกง
และเผื่อไปยังมิจฉาชีพที่คิดจะเอาเปรียบคนอื่น จะได้มีหิริโอตัปปะ และ ยั้งคิดได้
กฏหมายและข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงมีดังนี้มาตรา 341
ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไป ซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สามทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 342
ถ้าในการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ผู้กระทำ
(1) แสดงตนเป็นคนอื่น หรือ
(2) อาศัยความเบาปัญญาของผู้ถูกหลอกลวงซึ่งเป็นเด็ก หรืออาศัยความอ่อนแอแห่งจิตของผู้ถูกหลอก ลวง
ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 343
ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา 341 ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชนผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับถ้าการกระทำความผิดดังกล่าวในวรรคแรก ต้องด้วยลักษณะดังกล่าวในมาตรา 342 อนุมาตราหนึ่งอนุมาตราใดด้วย ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งพันบาทถึงหนึ่งหมื่นสี่พันบาท ......
มาตรา 348
ความผิดในหมวดนี้ นอกจากความผิดตามมาตรา 343 เป็นความผิดอันยอมความได้ข้อหาฉ้อโกง จำนวนเงินไม่ใช่สาระสำคัญ (ตัวบท...โดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม) 500 - 1000 บาท ก็แจ้งความได้ถ้ายังอยู่ในอายุความ 3 เดือนนับแต่รู้ว่าถูก หลอกและรู้ตัวผู้กระทำความผิด ขอให้เข้าองค์ประกอบความผิด...มี
1. คนร้าย ( ตัวบทบอกว่า .. ผู้ใด )
2. มีการหลอกลวง ( ตัวบทบอกว่า .. โดยทุจริต หลอกลวง ) ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง
3. ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน จะเป็นเงินหรือสิ่งของ อะไรก็ได้ หรืออื่นๆ ตามตัวบท
4. มีผู้เสียหาย หรือผู้ถูกหลอก
นำหลักฐานการถูกหลอกเท่าที่มีได้แจ้งความที่ท้องที่ที่เกิดเหตุ เช่น เราดูอินเทอร์เน็ตที่บ้าน โอนเงินเข้าธนาคารสาขาใกล้ที่บ้าน ก็ไปแจ้งความที่โรงพักใกล้ๆบ้านนั่นแหละครับ ยิ่งถ้าผู้ใด (คนร้าย) ได้กระทำด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือด้วยการปกปิดความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้งแก่ประชาชน ( ประกาศโฆษณาชวนเชื่อ ) ยิ่งเป็นความผิดยอมความไม่ได้ หลังจากแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยดังกล่าวมาพบที่สถานีตำรวจ ถ้าผู้ต้องสงสัยไม่มาพบเจ้าหน้าที่ ก็จะมีเหตุให้ต้องสงสัย ทำให้ขออนุมัติออกหมายจับได้ หมายจับจะมีอายุความ 5 ปี สำหรับติดตามตัวคนร้าย เมื่อใดผู้เสียหายพบตัวก็สามารถชี้และยืนยันให้จับกุมคนร้ายได้ทันที
ข้อมูลเอื้อเฟื้อจาก Pramool.com
วิธีดำเนินการทางกฎหมาย1. เอาหลักฐานที่พอหาได้ เช่น save ข้อความโต้ตอบ ทางอีเมล์ หรือ ข้อความโพส , หลักฐานการโอนเงิน (รวบรวมเผื่อผู้เสียหายรายอื่นไปด้วยครับ)
ไปถามทางร้อยเวรก่อนว่าถูกหลอกทางอินเตอร์เน็ต จะให้แจ้งความที่สถานีตำรวจ หรือให้แจ้งกับ หน่วยป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.)
2. ถ้าตำรวจให้อย่างหลัง ก็ลงแจ้งความในบันทึกประจำวันก่อน และถ่ายสำเนาใบแจ้งความ
3. ที่อยู่ของหน่วย ปอท.
กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ80พรรษา อาคารB ชั้น4 ถ.แจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กทม 10210
http://tcsd.police.go.th/ 4. ให้โทรไปหาที่หน่วยงาน แจ้งความต้องการไป และบอกว่า จะแจ้งความทางอินเตอร์เน็ตหรือโทรศัพท์ได้ไหม
5. ส่วนเอกสารหลักฐานก็ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียนไป ดังนั้น ตอนโทรไปที่หน่วยงานให้ถามด้วยว่าให้จ่าหน้าถึงใคร และถามด้วยว่าคนรับโทรศัพท์เราชื่ออะไร
และเอกสารที่ส่งไปต้องเป็นตัวจริงหรือสำเนา อะไรบ้าง ถามให้ละเอียดว่าเอกสารที่เรามีพอใช้การได้ไหม
6. ส่งเอกสารไป แล้วให้นอนรอ อาจจะนานหากหลักฐานของเรามันน้อย ดังนั้น ควรหาชื่อ ที่อยู่ ตามบัตรปชช. ของผู้ต้องหาให้ได้
ส่วนใหญ่พวกมิจฉาชีพ มักใช้บัตรปชช. ผู้อื่นเปิด บ/ช , แจ้งที่อยู่เท็จ หรือ ย้ายที่อยู่ ดังนั้น พยายามหาเบาะแสจากธุรกรรมการเงินของคนร้ายว่าอยู่แห่งหนตำบลใด
และธนาคารมักจะมีที่อยู่ปัจจุบันของคนร้าย ซึ่งจะแจ้งไว้สำหรับการติดต่อธุรกรรมกับธนาคารสาขานั้นๆ (อาจจะเป็นที่อยู่ปัจจุบันของผู้ต้องหาจริงๆ)
โดยส่วนใหญ่ธนาคารมักจะปกปิดข้อมูลเพราะถือว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ดังนั้น จึงควรใช้วิธีแยบยลในการได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร แล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำงานได้ง่ายขึ้นในการติดตามให้เรา