ตอบยากครับ ขึ้นอยู่ปัจจัยอื่นๆ ด้วยครับ
1.ความรู้ด้านเกษตรของคุณด้วย
2.สถานที่ที่ดินของคุณ (ใกล้กับแหล่งน้ำ หรือที่บนดอย ราบลุ่ม) อยู่ใกล้กับที่อาศัยของคุณหรือป่าว (เคยได้ยิน โจรขโมยข้าวไหมครับ แสบสุด ยางก็มีนะครับคนเฝ้านั้นเเหละ)
3.ความต้องการตลาด ทั้งในอานาคต และปัจจุบัน แนวโน้ม (ข้าวคนต้องกิน ยาง,ไม้ อาจจะราคาสูงหรืออาจจะต่ำ)
4.เวลาในการดูแล
5.อื่นๆ (เช่นงาน IM ของคุณทำประเภทอะไร ปล่อยทิ้งให้ทำเงินเองได้ป่าว หรือว่าต้องติดต่อลุกค้าตลอด)
วิเคาระห์จากปัจจัยเหล่านี้ก่อนครับ ว่าจะปลูกอะไร
ถ้าให้ผมคิดผมแบ่งออกเป็น 3 สายนะครับ
1.แบบไม่ต้องดูแลมาก เช่นปลูกยาง ต้นยูคา ต้นสัก (6ปีขึ้นไปถึงจะเห็นเงิน)
- ข้อดี ไม่ต้องดูแลมาก
- ข้อเสีย ไม่ยั่งยืนมากนัก เห็นผลช้า
(ข้อแนะนำ) ปลูกพืชอื่นเสริมด้วย (กระจายความเสี่ยง)ศึกษาตลาดไว้ด้วยครับ ปลูกได้เกือบทุกสภาพพื้นที่ดอย ภูเขา ที่ราบ
2.แบบ ปลูกสวนผลไม้
- ข้อดี ขายได้แน่นอนความต้องการตลาดมีอยู่ตลอด
- ข้อเสีย ต้องมีดูแลและคนช่วยเหลือ ถ้า 50 ไร่นะ ตลาดที่ควบคุมไม่ได้
(ข้อแนะนำ) ทำรายได้ให้ทุกปี แต่เรื่องราคาก็ ถ้าออกตามฤดูก็จะถูก ต้องดิวผู้ขายดีๆ (เช่น คนขายลำใยรับภาคเหนือไปขายไปกลาง แล้วรับทุเรียนไปขายภาคเหนือ) ถ้าไม่มีตลาด เตรียมเอาไปเททิ้งถนนประท้วงกับอื่นคนได้เลย
3.แบบ เศรษฐกิจพอเพียงและการพัฒนาที่ยั่งยืน ทำครบวงจร <--ตามแบบในหลวง
-ข้อดี ถ้าวันไดระบบเราครบวงจร ก็ไม่จำเป็นต้องใข้เงิน (อิสระทางการเงินอีกอย่างนึ่ง)
-ข้อเสีย คุณต้องใช้เวลาศึกษาด้วยตนเอง ลองผิดลองถูก ดูงาน
ที่ว่ามานี้งานทุกงาน และทุกแบบ มันก็มีความยากภายในตัวมันนะครับ ที่ 50 ไร่เยอะมาก ถ้าเป็นผม ผมทำทุกแบบครับ 50 ไร่ ปลูกยางไว้สัก 20 ปลูกสวนผล (อย่างบ้านผมก็ มะม่วง 20ไร่ ปลูกมะม่วงแทรกต้นลำใยตามสูตรชาวบ้าน เห็นเขาปลูกแทรกนะครับ ไม่ได้ปลูกแบ่งแยก ผมก็ไม่ได้ศึกษาถ้าปลูกก็ต้องลงไปศึกษาก่อน) อีก 10 (ใช้สูตรในหลวง 30 : 30 : 30 : 10 )
ที่ว่ามานี้ผมไม่ได้ทำนะครับ ผมกำลังหาตังค์จาก IM ชื้อไร่อยู่ครับ แต่เป็นแผนในอานาคตของผม ผมเดาว่าอีกหน่อยอานาคตไม่แน่นอน แต่มันต้องเป็นแบบที่ผมคิดไว้แน่
มันเป็นแค่การกระจายความเสี่ยงครับ 5555+ เริ่มต้นก่อนได้เปรียบครับ อิจฉาเจ้าของกระทู้