นักวิทยาศาสตร์ในออสเตรเลียกำลังคิดค้น”ไส้กรอกเนื้อคางคก cane toad”ซึ่งสามารถช่วยปกป้องนักล่าที่อ่อนแออย่างเจ้า Quoll จากคางคกพิษได้

นักวิจัยกำลังพัฒนาไส้กรอกนี้เพื่อใช้เป็นเหยื่อสำหรับ Quoll ได้กินเพื่อให้มันหลีกเลี่ยงจากการกินคางคกยักษ์ โดยพวกเขาต้องการให้มันรังเกียจรสชาติของไส้กรอกนี้ โดยเพิ่มรสให้เกิดอาการคลื่นไส้ รวมทั้งไส้เนื้อคางคก cane toad ลงไปด้วย

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ไส้กรอกนี้จะทำให้สัตว์เชื่อมโยงกลิ่นของคางคกกับความรู้สึกป่วยให้สัมพันธ์ กัน

Jonathan Webb สมาชิกอาวุโสของทีมวิจัย แห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์อธิบายว่า “มันเป็นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพจริงๆ”

“หลายคนคงเคยมีประสบการณ์กันมาบ้างว่า ถ้าเราทานอาหารที่เป็นพิษ เราจะรับรู้รสชาติของอาหารนั้น รวมทั้งกลิ่นของอาหารนั้น สิ่งนี้ทำให้พวกเขาป่วยและรู้สึกไม่สบาย”

ทีมงานของเขาเน้นที่ Quoll สัตว์กินเนื้อขนาดเล็กในตระกูล marsupials เคยมีอยู่มากในภาคเหนือของออสเตรเลีย จำนวนของสัตว์ชนิดนี้กำลังลดลงอย่างมากเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมานี้เอง โดย ดร.เว็บบ์ กล่าวว่า “พวกมันน่ารักมาก และพวกมันยังมีบุคลิกอีกด้วย”...

www.sciencenaru.com

ที่มาฺฺฺ   BBC News    http://news.bbc.co.uk/2/hi/science/nature/8640207.stm

                                                       
ในเดือนกันยายน ปี 1987 ชาย 2 คน เข้าไปในคลินิกแห่งหนึ่งซึ่งเป็นคลินิกร้าง ในรัฐ Goiânia ในบราซิล หลังจากเข้าไปภายในวันเดียวกันนั้น ทั้งคู่ก็เกิดอาเจียนขึ้นมา เกิดอาการท้องร่วงและวิงเวียนศีรษะตามมา ทั้งคู่ไม่เคยตระหนักเลยว่า เศษเล็กเศษน้อยต่างๆในคลินิก จะเต็มไปด้วยสารกัมมันตรังสีความเข้มข้นสูง ซึ่งไว้ใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยมะเร็ง

พ่อค้าเศษแร่ ทีี่ชื่อ Devair Ferreira ผู้ที่ซื้อแร่นี้มา กำลังคิดจะทำอะไรบางอย่างจากสารชนิดหนึ่งที่เรืองแสงสีฟ้าในที่มืด เขานำกระป๋องของผงของสารนี้ไปวางไว้ในห้องอาหาร และเชิญเพื่อนๆ รวมทั้งครอบครัวมาเพื่อดูสารนี้ด้วยความประหลาดใจ พวกเขาสัมผัสและแต้มสารนั้นตามร่างกายด้วยความสนุกสนาน สารนั้นคือ สารกัมมันตรังสี ซีเซียม คลอไรด์ในรูปของเกลือ ภายในเดือนนั้น ภรรยาของเขาและหลานสาววัย 6 ขวบพร้อมทั้งลูกน้องของเขาเสียชีวิตจากการได้รับรังสีอย่างเฉียบพลัน และทั้งหมด 249 คนที่ได้โดนรังสีนี้

จากการศึกษาปริมาณรังสี ที่วัดในหน่วย sieverts คำนวนโดยใช้ชนิดของรังสีและบริเวณของร่างกายที่ได้รับรังสีระบุว่า ทั้งหมดของผู้ที่เสียชีวิตจาการได้รับรังสีเกิดจาการได้รับรังสี ระหว่าง 4.5 และ 6 sieverts ต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณมากทีเดียวถ้าเทียบกับการได้รับรังสีเรดอนจากแหล่งน้ำ ธรรมชาติ เฉลี่ยเพียง 2.4 millisieverts ต่อปีเท่านั้น...

http://www.sciencenaru.com/

Filezilla ครับ ใช้ง่ายดี  

1. ไปสมัคร facebook ด้วยนะครับ เห็นมีแต่ twitter จากนั้นหาเพื่อนเยอะ ๆ ครับ
following ไปเรื่อย ๆ ไปหมวดเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์

2. ไปโปรโมทเว็บไซต์ตาม digg ต่าง ๆ และบอร์ดพวก smf

3. http://dlvr.it/ สมัครไว้ซะนะ เว็บนี้จะบริการ auto post ไปยัง twitter และ facebook โดยใช้ feed url ของเรา

4. ปรับ permalink ให้เป็น /%category%/%postname%

5. submit feed ซักหน่อย

ข้อ 1 กับข้อ 3 ผมทำแล้วครับ 
แต่ข้อ 4 กับ 5 ผมทำไม่เป็น ใครทราบกรุณาชี้แนะด้วยครับ ขอบคุณครับ 

 :Pที่ www.sciencenaru.com นะครับ (ลืม บอก)

เว็บไซต์ของผม นำเสนอข่าววิทยาศาสตร์จากเว็บไซต์องค์กรทางวิทยาศาสตร์ต่างๆทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งข่าวทั่วไปเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ ผมเริ่มทำมาตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 2553 ครับ แต่ปัจจุบันนี้ เว็บไซต์ของผมมี Traffic น้อยมาก ไม่มีใครรู้จักมากเท่าไหร่ ผมควรจะโปรโมทเว็บอย่างไรให้เป็นที่รู้จัก ถ้าท่านใดทราบว่ามีชุมชนวิทยาศาสตร์อยู่ที่ไหนในโลกออนไลน์นี้ หรือมีวิธีการใดที่เว็บไซต์วิชาการอย่างนี้ มีผู้ชมเข้ามามากขึ้น ก็กรุณาชี้แนะด้วยครับ 

ผมกำลังหัดทำเว็บไซต์ครับ เว็บไซต์ของผมเ้ป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ โดยรวบรวมข่าวที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ จากแหล่งข้อมูลต่างๆ มาไว้ในเว็บไซต์ แต่ตอนนี้มีคนเข้าเว็บไซต์ผมน้อยมาก ผมจึงขอความกรุณาทุกท่าน โปรดแนะนำผมด้วยครับว่าทำอย่างไรเว็บไซต์จึงจะน่าสนใจ มีคนเข้าชมมากๆ กรุณาชี้แนะด้วยครับ

เว็บไซต์ http://www.sciencenaru.com/