จริงๆผมเองอยากจะเขียนเรื่องนี้มานานหล่ะ เนื่องจากอยู่ในวงการนี้มานานนนนน พอสมควร นับๆไปแล้ว จากการจับเมาส์สร้างเว็บครั้งแรก ก็ปาเข้าไป 16 ปี เข้าไปแล้ว ……..
จากเดิมที่เรียกกันว่า พี่โซว จนตอนนี้ จะกลายเป็น ลุงโซว !
ผมเห็นเพื่อนฝูงในวงการ ประสบความสำเร็จบ้าง ล้มหายตายจากไปบ้าง ….. มีเด็กรุ่นใหม่ ขึ้นมาทดแทนรุ่นเก่า สับเปลี่ยนหมุนเวียนเป็นวัฐจักรของโลกใบนี้ แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมเห็นสิ่งที่คล้ายๆกัน สำหรับคนที่ทำ Internet Marketing แล้วไม่ประสบความสำเร็จ ลุ่มๆดอนๆ ไปได้ไม่ถึงที่สุด ผมสรุปได้เป็นข้อๆ ได้ 7 ข้อ ดังนี้ครับ
1) ไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองทำ !!เวลาผมได้รับเชิญเป็น Guess Speaker คำถามที่ผมได้ยินบ่อยที่สุด จะเป็นคำถามแนวๆว่า “จริงหรือครับคุณโซว ทำ Amazon ได้รายได้หลายแสน ?” , “จริงหรือครับ คุณโซว สามารถทำ Adsense ได้เดือนละเป็นล้าน ?” จริงหรือครับ โน้น นี่ นั่น ……. คำถามที่ส่อแนวถึงความไม่เชื่อในตัวเอง หรือ ไม่เชื่อในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ ผมเองได้แต่บอกว่า จริงครับ มีจริงๆครับ จนกระทั่งบางที สมัยที่ยังคึกคะนอง ถึงกับงัดเช็ค ออกมาดูกันให้เห็นๆไปเลย ……. แต่จริงๆแล้ว คนที่ตั้งคำถามแบบนี้ในตอนเริ่ม หรือ เริ่มลงมือไปแล้ว แต่ยังมีการตั้งคำถามทำนองนี้กับตัวเองอยู่ เรียกได้ว่า คนผู้นั้น ก้าวสู่ประตูความล้มเหลวตั้งแต่เริ่มเลยครับ เพราะว่าตัวเอง ไม่มีความมั่นใจ ในสิ่งที่ตัวเองทำ ดังนั้นจึงไม่สามารถมองเห็นปลายทางที่ชัดเจนของตัวเองได้
ว่าไปแล้ว เรื่องนี้คงไม่ใช่แค่เรื่อง Internet Marketing น่ะครับ แต่เป็นทุกๆเรื่องในการริเริ่ม ทำอะไรใหม่ๆ ถ้าเราไม่มีความมั่นใจ ไม่มี passion ที่เพียงพอ จะทำอะไร ก็ประสบความสำเร็จได้ยาก
2) ตามหาสูตรสำเร็จ แต่ไม่ยอมคิดสูตรเอง !อันนี้จะเป็นอะไรที่เห็นบ่อยมากในวงการ IM ประมาณว่าอาจจะมีคนโชว์ยอด หรือ โชว์เทคนิคในการทำ IM ที่สามารถทำเงินได้มาก …. คนก็แห่แหนกันไป ขอสูตร ขอเทคนิคในการทำ จนกระทั่งมีการก็อบสูตร ลงมือทำจนนิยมแพร่หลาย ท้ายที่สุด สูตรหรือเทคนิค ก็ค่อยๆไม่ได้ผล จนกลายเป็นเทคนิคตาย ……
ผมไม่ได้ขัดขวางไม่ให้คนออกมาเปิดเผยเทคนิคของตัวเองน่ะครับ ถึงไม่เปิดเผย เทคนิคมันก็จะกลายเป็นเทคนิคตายอยู่ดี ….. แต่ผมอยากให้คนในวงการ IM คิดลงให้ลึกไปกว่านั้น เวลาเราค้นพบสูตร หรือ ค้นพบเทคนิคอะไรใหม่ๆ ผมอยากให้เราเจาะลึกลงไปอีกขั้น ว่าทำไมเทคนิคแบบนี้ มันถึง work ?? WHY ? WHY ? WHY ?? หา Learning จากมัน …. คิดไปให้ถึงกลไก ของมัน แล้วต่อยอดต่อไปอีก ว่าจะพัฒนาต่อยังไง ?
ยกตัวอย่างเช่น เราไปเจอ Script ตัวนึง ที่สามารถสร้างเว็บแล้วทำอันดับใน Google ได้ดีมาก เราก็ต้องมาคิดต่อครับ สาเหตุที่มันทำอันดับได้ดีมาก มันเกิดขึ้นจากอะไร ?? เราจะเอา Script ไปปรับปรุงต่อยังไงดี ? ไม่ใช่แค่ว่ารู้ว่า Script ตัวนี้ดี ก็ใช้ๆมันไป ทำตามๆเพื่อนไป โดยไม่ได้รู้เบื้องหลัง หรือ กลไกของมันเลย
จากประสบการณ์ของผม คนที่สามารถต่อยอด หรือ คิดสูตรของตัวเองเป็นเท่านั้น ที่สามารถยืนระยะในวงการนี้ได้นาน ในขณะที่นักหาสูตร จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จแบบประเดี๋ยวประด๋าว ขึ้นๆลงๆ ไม่แน่ไม่นอน
3) ขาดทักษะภาษาอังกฤษไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ ทักษะภาษาอังกฤษ เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ในวงการ IM โดยเฉพาะทักษะการอ่าน ! เพราะความรู้ใหม่ๆ เทคนิคใหม่ๆ Ebook ดีๆ ส่วนใหญ่เป็นภาษาอังกฤษทั้งนั้น …… อย่าหวังแต่พึ่ง ThaiSEOBoard หรือ Facebook Group คนไทยครับ มันไม่เพียงพอ และยังทันสมัยไม่พอ เพราะโลกของ IM มันหมุนเร็วมากๆ
ใครไม่เก่งภาษาอังกฤษต้องพยายามให้มากครับ เริ่มเสียแต่วันนี้ ไม่มีคำว่าช้าเกินไปสำหรับพวกเราทุกคน
4) Outsource ไม่เป็นอันนี้ก็สำคัญมากเช่นเดียวกันครับ ผมเห็นเพื่อนในวงการ ที่เป็น One Man Show อยู่เยอะเหมือนกัน ประมาณว่า ทำทุกอย่างด้วยตัวเองหมดเลยทุกอย่าง ทำ Design เอง เขียน Copy เอง เขียน Script เอง, เช่า server เอง ฯลฯ สุดแสนจะ อัจฉริยะ แต่เป็นอัจฉริยะสุดเหนื่อย …..
สำหรับน้องๆ ที่อ่านบทความนี้อยู่ ไม่ผิดน่ะครับที่จะทำทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะเราอาจจะยังไม่มีทุน แต่สำหรับเพื่อนๆ ที่เริ่มจะมีทุนแล้ว ผมว่าต้องเริ่มแบ่งงานของตัวเองออกเป็นส่วนๆ หั่นเอางานที่ใช้แรงใช้พลังเยอะๆ Outsource ให้คนอื่นช่วยทำบ้าง ให้เราได้มีเวลาเอาหัวสมองไปคิด ไปพัฒนาระบบอะไรที่ใหญ่ๆ กว่าเดิม เจ๋งกว่าเดิม และที่สำคัญ มีรายได้มากกว่าเดิม และ ประสบความสำเร็จมากกว่าเดิม
คนเก่งที่เป็น One Man Show จากที่ผมเห็นมา มักจะมี Limit ที่ไม่อาจก้าวข้าม เช่น มีรายได้อยู่หลักแสน แต่ทำยังไง ก็ไปไม่ถึงล้าน เพราะพลังของตัวเองมีอยู่แค่นั้น แต่ไม่รู้จักหยิบยืมพลังของผู้อื่นมาใช้
5) ไม่รู้จักการบริหารเงินอันนี้ก็เป็นกับดักสำคัญของวงการ IM เช่นเดียวกันครับ เพราะวงการเรา ถ้าจับทริค หรือ เทคนิค อะไรได้ มักจะสร้างรายได้ที่เหลือเชื่อ เหลือเชื่อแม้กระทั่งตัวเองก็ยังไม่อยากจะเชื่อ ว่าเงินมันจะหาง่ายถึงเพียงนี้ !! …… พอเงินหาง่ายปุ๊บ ก็เลยใช้เงินง่ายไปด้วย ไม่รู้จักการบริหารเงิน นำเงินไปซื้อรถหรู ซื้อบ้านไฮโซ เพื่อจะอวดให้คนรู้ว่า ตรูนี่ รวยแล้วเฟ้ย !! ( คนทำ IM มักจะเก็บกด เพราะเป็นอาชีพ ที่คนทั่วๆไปไม่เข้าใจ )
แต่แล้วเทคนิคที่ตนบังเอิญรู้มา เกิดไม่เวิร์คขึ้นมา โดยมหาเวทย์ของ Google แบนบี้ติดธรณี …. อาการหน้าซีดก็จะเริ่มปรากฏในบัดดล ถ้าซื้อรถ ซื้อบ้าน เป็นเงินสด ก็พอจะยังโอเค แต่ถ้าซื้อเงินผ่อนนี่สิ จะเอาไงต่อดี ??
เชื่อมั้ยครับ ผมเคยมีคนรู้จักที่ร่ำรวยจากการทำ IM นี่แหละ ถอยเปอร์เช่ ป้ายแดงออกมาเลย ตอนที่รุ่งสุดขีด …. แต่พอเทคนิคที่ตัวเองมี โดนแบนจาก Google …. ถึงกับทำอะไรต่อไม่เป็น ชนิดที่ว่า ตังค์เติมน้ำมันรถ ยังไม่มีเลย !!
ดังนั้น เวลาหาเงินจาก IM ได้ จงอย่าอยู่ในความประมาทครับ รู้จักเก็บ รู้จักออม รู้จักนำเงินไปลงทุนต่อยอด ในธุรกิจอื่นๆบ้าง อาจจะไม่ต้องเป็น IM ก็ได้ ….. หุ้น , อสังหา , ทองคำ , ฯลฯ
หนังสือเกี่ยวกับการบริหารเงินมีมากมายครับ แนะนำให้ไปหามาอ่านเสริมความรู้ซ่ะ นอกเหนือจาก ความรู้ทางด้าน IM ที่ต้องหามาเติมอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว …….. แต่โดยหลักการของการบริหารเงินแล้ว ขอให้ท่องให้ขึ้นใจ “เก็บก่อน แล้วค่อยใช้” เสมอ
6) ไม่ได้รัก IMผมพบว่า คนจำนวนมาก เลือกที่จะมาทำ IM เพียงเพราะรักเงิน ที่ได้จากมัน แต่ว่าไม่ได้รัก IM จริงๆ !!
อาจจะด้วยโดนโฆษณามามาก ว่า IM รายได้เยอะ โง้น งี้ งั้น …. แต่จริงๆ แล้ว งานอื่นๆ มันก็ได้รายได้เยอะ ไม่แพ้กันน่ะครับ ผมเองชอบคลิป “ศิลปินไส้แห้ง” ของอาจารย์เฉลิมชัยมาก ที่พูดว่า “ทุกศาสตร์ ทุกสาขาอาชีพ มีคนที่เก่งและรวยที่สุด” ผมหล่ะโครตเห็นด้วย สิ่งสำคัญในการทำงาน ทำธุรกิจ ให้ประสบความสำเร็จ คือ “ความรัก และ ความหลงไหล” ในสิ่งที่ตัวเองทำต่างหาก ไม่ใช่ว่าจะเอาเงิน มาเป็นตัวตั้งเพียงอย่างเดียว
ส่วนตัวผมแล้ว ผมรักการทำการ IM มากๆ เพราะมันท้าทาย สนุก ได้ใช้หัวสมองทั้งสองด้าน ทั้งด้านตรรกะ และ ด้านจินตนาการ ผสมผสานความรู้หลายๆด้าน ทั้งด้าน IT , การตลาด , การโฆษณา , ฯลฯ มาช่วงหลังๆ ผมเริ่มมาจับงานการทำการตลาดออนไลน์สำหรับองค์กร บริษัทใหญ่ๆ ยิ่งมันส์หยดเข้าไปใหญ่ เพราะได้เจอกับโจทย์แปลกๆ เจอกับคนเก่งๆ มากมาย เจอกับเจ้าของธุรกิจ ผู้บริหารใหญ่ๆ ระดับ ร้อยล้าน พันล้าน หมื่นล้าน ! ได้ต่อยอดความคิดขึ้นไปอีกขั้น
เพื่อนๆ ลองถามตัวเองดูให้ดีๆน่ะครับ ว่าตัวเองชอบ IM จริงหรือเปล่า ?? ชอบที่จะนั่งหน้าคอมนานๆ ? ชอบ การคิดการวิเคราะห์ ?? ชอบการทำการตลาด ?? ฯลฯ ถ้าเสียงหัวใจบอกว่า “ไม่” บางที IM อาจจะไม่ใช่คำตอบของชีวิตการทำงานก็ได้ครับ !
7) พยายามไม่พออันนี้เจอเยอะเหมือนกันครับ คือคนที่ไม่ได้มีความพยายามพอ ออกแนวจับจด ทำอะไรไม่ตั้งใจจริง แต่ดันคิดไปเองว่าตัวเองตั้งใจแล้ว …….. เคยเจอน้องคนนึงมาปรึกษา ว่าทำ IM มาตั้งนานแล้ว ตั้งใจมากกกกก แต่ยังมีรายได้เข้ามาไม่ถึง $1 เลย ตอนนี้เลยท้อมากกกก อยากจะเลิกทำแล้ว ผมเลยถามดูว่าทำอะไรไปบ้าง ทำมานานขนาดไหนแล้ว น้องตอบกับมาว่า ทำไปตั้ง 5 เว็บแหน่ะ ทำมาตั้งเดือนนึงแล้ว !!!
ผมงี้ช็อคเล็กๆ ทำมาแค่ 1 เดือน จะเลิกซ่ะแล้ว ….. ผมอยากจะบอกว่า นายโซวบักท้ง ทำ IM ครั้งแรก ใช้เวลาถึง 7 เดือนครับ กว่าจะเงินเข้ามา !! ….. ทั้งแฟน ทั้งครอบครัว ทุกคนรอบตัว พากันบอกว่า ให้เลิกเถอะ ออกไปหางานทำเถอะ กดดันต่างๆนาๆ ….. แต่ผมไม่ฟัง !! ผมเชื่อเสมอ “เชื่ออย่างหมดหัวใจ” ว่าสิ่งที่ผมทำอยู่จะต้องประสบความสำเร็จ ผมทำงานทุกวัน วันนึงมากกว่า 16 ชั่วโมง ( มากกว่าพนักงาน office ทั่วไป 2 เท่า ) ทำมันทุกวัน ไม่มีวันหยุด ถึงแม้จะไม่มีรายได้เข้ามาเลย แต่ผมก็ทำไปเรื่อยๆ ปรับปรุงไปเรื่อยๆ พัฒนาไปเรื่อยๆ และแล้วเงินมันก็เข้ามาจนได้ครับ !
อย่าล้มเลิก อย่ายอมแพ้ ศรัทธา & ความตั้งใจ & ความพยายาม คือหัวใจของทุกธุรกิจครับ
เท่าที่ผมนึกได้ ผมคิดว่า 7 ข้อนี้ คือหัวใจสำคัญ ของคนที่ทำธุรกิจ IM ครับ ถ้าอยากจะประสบความสำเร็จในวงการนี้ ลองอ่าน แล้วลองพิจารณาดูครับ
อ่านแล้วถูกใจ อย่าลืมกด Like Page Solbugtong (
https://www.facebook.com/SolbugtongFC ) แล้วแชร์ให้เพื่อนๆอ่านด้วยน่ะครับ