ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1] 2
1  อื่นๆ / Cafe / แนวโน้มนวัตกรรมเครื่องตัดโลหะในปี 2024 เมื่อ: 21 ธันวาคม 2023, 15:00:22
แนวโน้มนวัตกรรมเครื่องตัดโลหะ ในปี 2024แนวโน้มนวัตกรรมเครื่องตัดโลหะ ในปี 2024

จากเทคโนโลยีขั้นสูงสู่นวัตกรรมการตัดอย่างชาญฉลาดในโรงงานเพื่ออนาคตที่ยังยืน
อย่างที่เราทราบกันอยู่ว่าอุตสาหกรรมโลหะเป็นฟันเฟืองหลัก ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างชิ้นงานสำหรับการต่อยอดสู่ชิ้นงานในท้องตลาดมากกว่า 80% ที่เป็นโลหะ ทั้งเหล็ก สแตนเลส อลูมิเนียม เราทุกคนใช้งานกันอยู่ในทุกๆ วัน เช่นนั้นแล้ว อุตสาหกรรมเครื่องจักรโลหะจึงจำเป็นอย่างมากหนึ่งในนั่นก็คือ เครื่องตัดที่ทุกโรงงานการผลิตชิ้นงานจะต้องมีติดโรงงานอย่างน้อยก็ 1 เครื่อง และเพื่อรองรับการผลิตในยุค 4.0 เครื่องตัดเลเซอร์จึงถูกพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด มีฟังก์ชั่นที่หลากหลายให้เลือกใช้งาน โดยอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับโลหะก็อย่างเช่น อุตสาหกรรมการก่อสร้าง ยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์บรรจุภัณฑ์ การแพทย์ การพาณิชย์ การวิจัยวิทยาศาสตร์ สารสนเทศ และการทหาร ด้วยการพัฒนาที่ผ่านมาหลายยุคสมัยที่กล่าวมาข้างต้นถือว่าเป็นอุสาหกรรมที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทยเลยก็ว่าได้
บทบาทสำคัญของเครื่องตัดเลเซอร์ในยุค 4.0

เครื่องตัดเลเชอร์เข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมการผลิตมามากว่า 20 ปีแล้วตั้งแต่ยุคเริ่มการสร้างรถไฟฟ้า และสนามบินสุวรรณภูมิซึ่งใช้โครงสร้างโลหะเป็นจำนวนมาก ทั้งโครงสร้างตัวอาคารรวมถึง งานตกแต่ง จำนวนมากและมีการใช้ชิ้นส่วนในตัดตัดแต่งที่ค่อนข้างสูง และความแม่นยำของชิ้นงานเพื่อความสวยงามการใช้เครื่องตัดโลหะ จึงถูกพัฒนารวมถึงนำเข้ามามามากในช่วงนี้ ถือเป็นการเปิดทางเครื่องตัดโลหะแผ่น Sheet Metal ของประเทศไทยในยุคนี้เลย เครื่องตัดเลเซอร์ถือว่าเป็นเครื่องจักรที่สามรถตัดงานได้เร็วและเที่ยงตรงที่สุด

ในช่วงเริ่มแรกเครื่องตัดเลเซอร์ที่เป็นที่นิยมจะเป็นเครื่องที่มีการผลิตและจำหน่ายมาจากทางฝากฝั่งยุโรป และญี่ปุ่น ซึ่งมีราคาค่อยข้างสูงแต่ด้วยเนื่องจากปัจจุบันนวัตกรรมการผลิตเครื่องตัดโลหะมีการพัฒนาอย่างมากทำให้เครื่องตัดเลเซอร์ในฝั่งจีนหรือไต้หวันมีประสิทธิภาพที่เทียบเท่าและเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมากเพราะด้วยราคาที่มีส่วนด้วยและ รูปแบบและ นวัตกรรมก็เรียกได้ว่าเทียบเท่าสเปคฝั่งยุโรปได้เลย ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่หลากหลายได้ตามความต้องการ

หลักการเลือกใช้เครื่องจักรที่สำคัญหลักๆ จะมีส่วนประกอบการตัดสินใจ 3 อย่างด้วยกัน
  • ราคา
  • ความเร็ว
  • ความแม่นยำ
โดยการคำนึงหลักที่สำคัญที่สุดใน 3 อย่างนี้อาจจะเป็นความแม่นยำที่ควรคำนึงเป็นอันดับแรกเพราะว่าการตัดนั้่นไม่ได้เสร็จแค่เพียงตัดชิ้นงานออกมา แต่ทุกชิ้นงานจะต้องถูกนำไปประกอบตกแต่งเพิ่มเติมอีกทุกครั้งทำให้ความแม่นยำขนาดที่ต้องเป็นสิ่งที่สำคัญมากในงานตัด
ซึ่งในการตัดที่แม่นยำของกระบวนการผลิต การออกแบบจะตอบสนองต่อการที่ใช้งานเครื่องที่ง่าย รวดเร็ว มีความแม่นยําสูง และประหยัดเวลาในการผลิต จึงทำให้เครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์มีบทบาทที่สำคัญในอุตสาหกรรม ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ดังนี้

  • Fast Cutting speed up sheet cutting
  • Circle Centering locate the center on circular sheet metal and processing
  • One-Path FlyCut create fly cutting paths for any shapes to improve cutting efficiency
  • Scan-to-Import read drawings with a simple scan

นอกจากจะสามารถตัดเลเซอร์ได้แล้วเครื่องเลเซอร์ไฟเบอร์ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นไปอีกไม่ว่าจะเป็นการเชื่อม การเจาะ เครื่องแกะสลักไฟเบอร์เลเซอร์ เครื่องการทำความสะอาดโลหะด้วยไฟเบอร์เลเซอร์ บางเทคโนโลยี เครื่องตัดเลเซอร์เพียงเครื่องเดียวก็สามารถทำทุกอย่างได้ทั้งหมดแบบ 3 in 1 ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกคุ้มค่าที่จะลงทุนซื้อเครื่องแปรรูปโลหะ ซึ่งมีข้อได้เปรียบหลาย ๆ ด้าน เช่น ความเร็วสูง ความยืดหยุ่นสูง ประสิทธิภาพสูง คุณภาพดี ผลกระทบด้านความร้อนต่ำ มีฟังก์ชันการทำงานที่ทรงพลัง และมีความเป็นอัตโนมัติในระดับสูง


จากแต่ก่อนที่การตัดเลเซอร์มีข้อจำกัดด้านกำลังวัตต์ที่ต่ำทำให้ไม่สามารถตัดงานที่มีความหนาสูงได้ แต่ด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่องการทำให้กำลังวัตต์ในปัจจุบันสามารถใช้งานได้สูงไม่มีข้อจำกัด อาจจะ 12000W หรือแม้แต่บางเครื่องกำลังวัตต์มากสุงถึง 60000W ทำให้ตัดเหล็กได้มากกว่า 100 มิล หรืออาจจะมากกว่านั้นซึ่งการพัฒนายังคงถูกคิดค้นขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้การซื้อเครื่องตัดเลเซอร์เป็นอะไรที่สามารถพัฒนาไปได้ควบคู่กันไปกับนวัตกรรมใหม่ๆในการแปรรูป



การตัดเลเซอร์ในปัจจุบันเมื่อเทียบกับแต่ก่อนจะลดความซับซ้อนได้อย่างมาก มีการใช้งานการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์เข้ามาทำให้ลดการใช้งานมนุษย์ ลดอันตรายจากการทำงานได้มากขึ้น และสามารถขยายเวลาการทำงานได้มากกว่าเดิมโดยที่ประหยัดค่าใช้จ่ายในการทำงานล่วงเวลาจากการใช้แรงงานมนุษย์ ลดการเหลือของแผ่นงานทำให้ได้งานมากที่สุดสูญเสียเนื้องานที่เหลือน้อยที่สุด โดยสามารถคำนวนและแก้ไขได้ก่อนที่จะลงตัดชิ้นงานจริง


ยิ่งเครื่องมีกำลังวัตต์ที่สูงก็จะช่วยให้งานสามารถตัดได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นและเครื่องสมัยใหม่ที่พัฒนาให้รักษาสิ่งแวดล้อมทำให้ถูกออกมาแบบมาให้มีระบบปิด สามารถตัดงานได้โดยไม่ก่อให้เกิดฝุ่นแลมลพิษต่อผู้ใช้งาน ทำให้เครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์เป็นทีนิยมและเป็นที่จำตามองในยุคนี้เป็นอย่างมากต่อการผลิตชิ้นส่วนโลหะทั่วโลก


https://suthong.co.th/%E0%B8%8...B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%B5%202024
2  อื่นๆ / Cafe / การใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์โลหะในอุตสาหกรรมก่อสร้าง เมื่อ: 06 ธันวาคม 2023, 09:46:40
การใช้งานเครื่องตัดเลเซอร์โลหะในอุตสาหกรรมก่อสร้าง
อย่างแรกที่เราต้องคำนึงถึงคือหลักการทำงานเบื้องต้นของการใช้เครื่องตัดโลหะ
เครื่องตัดเลเซอร์โลหะคือเครื่องจักรที่ใช้พลังงานความร้ิอนจากลำแสงในการตัดโลหะ ลำแสงที่ถูกตั้งค่าให้โฟกัสที่วัสดุ ทำให้พื้นผิวในส่วนที่ถูกลำแสงยิงให่้้เกิดการหลอมละลาย และระเหยกลายเป็นไอส่งผลให้เกิดเป็นรอยการตัดตามขนาดและรูปร่างที่ต้ิองการ
ในรูปแบบการตัดเลเซอร์ที่นิยมใช้ในปัจจุบันที่เห็นโดยทั่วไปคือ การตัดไฟเบอร์เลเซอร์ คือการอาศัยพลังงานแสงจากดเส้ยใยการนำแสงในการตัดโลหะ

คุณสมบบัติหลักๆ ของเครื่องตัดเลเซอร์มีดังนี้

  • เป็นเครื่องที่มีความแม่นยำสูง สามารถตัดโลหะตามรูปร่างและขนาดที่ต้องการได้
  • มีประสิทธิภาพสูง สามารถตัดงานได้รวดเร็วและประหยัดเวลาในการทำงาน
  • ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ลดการเกิดควันหรือฝุ่นละออง
การเลือกใช้เครื่องตัดเลเซอร์โลหะในอุตสาหกรรมก่อสร้าง

  • การตัดโลหะสำหรับโครงสร้างอาคาร เครื่องตัดเลเซอร์โลหะถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมก่อสร้างสำหรับการตัดโลหะสำหรับโครงสร้างอาคาร เช่น โครงหลังคา โครงเสา คาน แผ่นเหล็ก ฯลฯ เครื่องตัดเลเซอร์โลหะสามารถตัดโลหะที่มีความหนาได้หลากหลายตั้งแต่ 0.1 ถึง 50 มิลลิเมตร ด้วยความแม่นยำสูง ส่งผลให้โครงสร้างอาคารมีความมั่นคงและแข็งแรง
  • การตัดโลหะสำหรับเฟอร์นิเจอร์ เครื่องตัดเลเซอร์โลหะยังถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์สำหรับตัดโลหะสำหรับเฟอร์นิเจอร์ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ตู้ ราวบันได ฯลฯ เครื่องตัดเลเซอร์โลหะสามารถตัดโลหะให้มีรูปร่างและขนาดที่ซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้เฟอร์นิเจอร์มีดีไซน์สวยงามและทันสมัย
  • การตัดโลหะสำหรับงานตกแต่ง เครื่องตัดเลเซอร์โลหะยังถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมงานตกแต่งสำหรับตัดโลหะสำหรับงานตกแต่ง เช่น รั้ว ประตู หน้าต่าง ราวบันได ฯลฯ เครื่องตัดเลเซอร์โลหะสามารถตัดโลหะให้มีลวดลายที่สวยงามและโดดเด่น ส่งผลให้งานตกแต่งมีความหรูหราและสวยงามยิ่งขึ้น

ข้อดีของการใช้เครื่องตัดเลเซอร์โลหะในอุตสาหกรรมก่อสร้าง มีดังนี้

  • มีความแม่นยำสูง สามารถตัดโลหะให้มีรูปร่างและขนาดที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
  • มีประสิทธิภาพสูง สามารถตัดโลหะได้อย่างรวดเร็วและประหยัดเวลา
  • ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เกิดควันหรือฝุ่นละออง
โดยสรุปแล้ว เครื่องตัดเลเซอร์โลหะเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงและมีประโยชน์ในอุตสาหกรรมก่อสร้างเป็นอย่างมาก ช่วยให้สามารถตัดโลหะได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม


https://suthong.co.th/main/newsdetail/155
3  อื่นๆ / Cafe / เครื่องจักรแห่งอนาคต เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2023, 13:54:30
เครื่องจักรแบบเก่าอุตสาหกรรมนั้นไม่เพียงพออีกต่อไปเพราะอนาคตของการผลิตมีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น และมีความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ที่มากขึ้น เทคโนโลยีต้องพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ
แรงกดดันในอุตสาหกรรมมีทั้ง ต้นทุนและความคุ้มค่า ประสิทธิภาพการผลิตเครื่องจักร CNC จึงน่าสนใจ เพื่อให้อุตสาหกรรมนั้นผลิตได้ตรงเป้าหมาย

⚙️เปลี่ยนไปใช้การผลิตแบบ High-Mix, High-volume
⚙️เน้นใช้งานเครื่องจักร CNC อเนกประสงค์เพื่อให้จบครบในเครื่องเดียว
⚙️เน้นระบบอัตโนมัติ CNC รวมถึงกระบวนการสนับสนุนต่าง ๆ
⚙️ใช้งานซอฟต์แวร์วางแผนการผลิตและจัดการทรัพยากร
⚙️เน้นเรื่องของการผลิตใหม่ และความพร้อมใช้งานของแรงงาน

4  อื่นๆ / Cafe / แก้วสามารถแกะสลักด้วยเลเซอร์ได้หรือไม่ เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2023, 09:04:36
ใช่ เครื่องแกะสลักด้วยเลเซอร์แก้วสามารถทำได้ ซึ่งเป็นการฝึกใช้เลเซอร์ในการแกะสลักวัตถุ ในทางกลับกัน การมาร์กด้วยเลเซอร์เป็นหมวดหมู่ที่กว้างขึ้นของวิธีการทิ้งรอยไว้บนวัตถุ

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการแกะสลักแก้วได้กลายเป็นแอพพลิเคชั่นเลเซอร์ที่กำลังเติบโตและเป็นที่ต้องการ เครื่องแกะสลักเลเซอร์แก้วเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดการและสร้างความสะอาดสวยงาม ให้ความยืดหยุ่นมากขึ้น เร็วขึ้นมาก และง่ายต่อการจัดการ
ความยาวคลื่นเลเซอร์ยูวีคือ 355nm ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดแสงเลเซอร์เย็นซึ่งสามารถดูดซับด้วยแก้วได้ดีกว่า
นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเทคนิคการแกะสลักแก้วแบบดั้งเดิม เช่น การแกะสลักด้วยเครื่องจักรหรือการเป่าด้วยทราย การแกะสลักด้วยเลเซอร์สามารถทำซ้ำได้และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
แกะสลักเลเซอร์แก้ว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการใช้หมึกพิมพ์หรือไม่ก็เกี่ยวข้องกับบิตเครื่องมือที่ผิวสัมผัสการแกะสลักและสวมใส่ออกให้มันได้เปรียบกว่าการแกะสลักทางเลือกหรือการทำเครื่องหมายที่เทคโนโลยีหมึกพิมพ์หรือหัวบิตต้องถูกแทนที่อย่างสม่ำเสมอ

https://suthong.co.th/%E0%B8%8...%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88
5  อื่นๆ / Cafe / เครื่องกลึงขนาดเล็ก MINI CNC เมื่อ: 31 ตุลาคม 2023, 11:30:18
เครื่องกลึงขนาดเล็ก
เครื่องกลึงขนาดเล็ก เครื่องเครื่องกลึงที่จะเน้นการทำงานชิ้นงานที่ไม่ใหญ่มากเป็นชิ้นงานที่เป็นส่วนประกอบเล็กๆของเครื่องจักร โดยส่วนใหญ่จะเป็นเครื่อง CNC ที่เน้นการทำงานที่มีความละเอียดสูง และทำงานได้ในปริมาณที่มากๆ
โดยเครื่องกลึงขนาดเล็กจะมีความแต่ต่างอย่างชัดเจนในเรื่องของขนาดตัวเครื่องและชิ้นงานที่ทำออกมา โดยโรงงานส่วนใหญ่ที่เน้นการผลิตชิ้นงานมาก และไม่ถึงขั้นที่เป็นชิ้นงานชนาดใหญ่ก็จะเลือกใช้เครื่องกลึง CNC เครื่องเล็กหลายๆเครื่องมากกว่าการซื้อเครื่องขนาดใหญ่เพียงเครื่องเดียว ประกอบด้วยราคาที่ค่อยข้างจะห่างกันมากด้วยจึงเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจชของผู้ใช่งาน

เครื่องกลึงขนาดเล็กแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ

เครื่องกลึงแบบตั้งโต๊ะเป็นเครื่องกลึงแบบแมนนวนขนาดเล็ก จะมีน้ำหนักเบา เหมาะกับการใช้งานที่ไม่ซับซ้อนมาก เน้นงานฝีมือที่ใช้ประสบการณ์การทำงานของช่างผู้ใช้เครื่องจักร

เครื่องกลึง Cncเป็นเครื่องกลึงขนาดเล็กที่ควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์ สามารถใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการกำหนดรูปร่างและขนาดของชิ้นงาน ทำให้สามารถผลิตชิ้นงานได้แม่นยำและรวดเร็ว

เครื่องกลึงขนาดเล็กมีการใช้งานหลากหลาย เช่น

  • สกรู
  • น็อต
  • ผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักร
  • ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
  • ผลิตชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
  • ผลิตชิ้นงานงานฝีมือ
อุปกรณ์เสริมของเครื่องกลึงขนาดเล็ก

  • เครื่องมือกลึง เช่น หัวกัด มีดกลึง ดอกเอ็นมิล
  • อุปกรณ์จับยึด เช่น คีมจับชิ้นงาน แท่นหนีบชิ้นงาน
  • อุปกรณ์ตัดเฉือน เช่น อุปกรณ์ป้อนชิ้นงาน อุปกรณ์ดูดฝุ่น
การดูแลรักษาเครื่องกลึงขนาดเล็ก

  • ตรวจสอบสภาพเครื่องกลึงเป็นประจำ หากพบความผิดปกติ ควรรีบแก้ไข
  • ทำความสะอาดเครื่องกลึงหลังจากใช้งานทุกครั้ง
  • เก็บรักษาเครื่องกลึงในที่แห้งและปลอดภัย
ข้อดีของเครื่องกลึงขนาดเล็ก ได้แก่

  • ขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สะดวกในการเคลื่อนย้าย
  • ต้นทุนไม่สูง
  • ใช้งานง่าย
ความปลอดภัยในการใช้งานเครื่องกลึงขนาดเล็ก

  • สวมอุปกรณ์ป้องกันทุกครั้ง เช่น แว่นตานิรภัย ถุงมือ รองเท้านิรภัย
  • ศึกษาคู่มือการใช้งานอย่างละเอียดก่อนใช้งาน
  • ระมัดระวังขณะใช้งาน ห้ามใช้งานเครื่องกลึงหากมีอาการเหนื่อยล้า

เครื่องกลึงขนาดเล็กเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์สำหรับงานช่างต่างๆ สามารถเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณ



https://suthong.co.th/main/newsdetail/154
6  อื่นๆ / Cafe / โปรที่ใช้ในงานตัดเลเซอร์ เมื่อ: 26 ตุลาคม 2023, 15:12:29
โปรแกรมที่ใช้ในงานตัดเลเซอร์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

โปรแกรมออกแบบ ใช้สำหรับการออกแบบชิ้นงานที่ต้องการตัดเลเซอร์ โดยโปรแกรมออกแบบที่นิยมใช้ในงานตัดเลเซอร์ ได้แก่


AutoCAD เป็นโปรแกรมออกแบบ CAD ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย สามารถใช้ออกแบบชิ้นงานได้หลากหลายประเภท รวมถึงชิ้นงานที่ต้องการตัดเลเซอร์
SolidWorks เป็นโปรแกรมออกแบบ CAD สามมิติ ที่นิยมใช้สำหรับงานวิศวกรรมและการออกแบบผลิตภัณฑ์ สามารถใช้ออกแบบชิ้นงานที่ต้องการตัดเลเซอร์ได้เช่นกัน
CorelDraw เป็นโปรแกรมออกแบบกราฟิก ที่นิยมใช้สำหรับงานออกแบบตกแต่ง สามารถใช้ออกแบบชิ้นงานที่ต้องการตัดเลเซอร์ได้เช่นกัน
โปรแกรมสั่งตัด ใช้สำหรับแปลงไฟล์การออกแบบที่ได้จากโปรแกรมออกแบบเป็นไฟล์คำสั่งสำหรับเครื่องตัดเลเซอร์ โปรแกรมสั่งตัดที่นิยมใช้ในงานตัดเลเซอร์ ได้แก่


LaserCad เป็นโปรแกรมสั่งตัดเลเซอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย สามารถใช้ตัดวัสดุได้หลากหลายประเภท
EverCut เป็นโปรแกรมสั่งตัดเลเซอร์ที่พัฒนาโดยคนไทย สามารถใช้ตัดวัสดุได้หลากหลายประเภทเช่นกัน
LightBurn เป็นโปรแกรมสั่งตัดเลเซอร์ที่พัฒนาโดยชาวต่างชาติ สามารถใช้ตัดวัสดุได้หลากหลายประเภท
โปรแกรมตัดเลเซอร์แต่ละโปรแกรมจะมีจุดเด่นและข้อด้อยที่แตกต่างกันไป การเลือกโปรแกรมตัดเลเซอร์ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้


ประเภทของวัสดุที่ต้องการตัด โปรแกรมตัดเลเซอร์บางโปรแกรมสามารถตัดวัสดุได้หลากหลายประเภท ในขณะที่บางโปรแกรมสามารถตัดวัสดุได้เฉพาะบางประเภท
ความซับซ้อนของชิ้นงาน โปรแกรมตัดเลเซอร์บางโปรแกรมสามารถตัดชิ้นงานที่มีความซับซ้อนได้ ในขณะที่บางโปรแกรมสามารถตัดชิ้นงานที่มีความซับซ้อนได้ยาก
ราคา โปรแกรมตัดเลเซอร์มีราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งาน
ตัวอย่างการใช้งานโปรแกรมตัดเลเซอร์


ตัดตัวอักษรหรือโลโก้บนวัสดุต่าง ๆ เช่น ไม้ พลาสติก อะคริลิก
ตัดฉลากหรือป้ายโฆษณา
ตัดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
ตัดงานฝีมือหรืองานศิลปะ
นอกจากโปรแกรมตัดเลเซอร์แล้ว ยังมีอุปกรณ์และเครื่องมืออื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับงานตัดเลเซอร์ เช่น เครื่องตัดเลเซอร์ เลเซอร์หัวตัด เลเซอร์หัวแกะสลัก เลเซอร์หัวมาร์กเกอร์ เป็นต้น

https://suthong.co.th/main/newsdetail/119
7  อื่นๆ / Cafe / ‘โรบอทดิจิทัล’ การปรับตัวอนาคตการผลิตอย่างยังยืน เมื่อ: 20 ตุลาคม 2023, 15:37:42
"โรบอทดิจิทัล" การปรับตัวอนาคตการผลิตอย่างยังยืน

ตั้งแต่ในช่วงอดีตจนถึงปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาตลอดเวลา ยาวนานต่อเนื่องหลาย 10 ปี นับตั้งแต่จอร์จ ดีวอล (George Devol) และโจเซฟ เอ็นเกลเบอร์เกอร์ (Joseph Engelberger) ได้คิดค้นหุ่นยนต์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมตัวแรกของโลกได้ ในปี ค.ศ. 1961 เพื่อให้หุ่นยนต์ได้มีบทบาทเข้ามาทำงานในส่วนที่อันตรายแทนมนุษย์ จนในปัจจุบันการพัฒนาก้าวหน้ามาขึ้นทำให้เกิดหุ่นยนต์ที่มีการพัฒนาระบบการปฎิบัติการที่หลากหลายขึ้น เช่น หุ่นยนต์อเนกประสงค์, หุ่นยนต์เชื่อม, หุ่นยนต์จัดเรียงสินค้าและวัสดุ, หุ่นยนต์รักษาความปลอดภัย และหุ่นยนต์ขึ้นรูปพลาสติกซึ่งกลุ่มภูมิภาคเอเชียเป็นกลุ่มที่ใช้หุ่นยนต์มากที่สุดในโลกพบว่าการใช้หุ่นยนต์ เฉลี่ยเป็น 99 ตัว ต่อ แรงงาน 1 หมื่นคน
และประเทศไทยมีการใช้หุ่นยนต์ในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมประมาณ 60-70 ตัว โดยประเทศไทยได้เริ่มมีการใช้หุ่นยนต์มากขึ้นตั้งแต่ปี 2555 หลังน้ำท่วมใหญ่ทำให้โรงงานได้เกิดการลงทุนเครื่องจักรใหม่ และมีโอกาศเลือกใช้หุ่นยนต์ระบบอัตโนมัตมากขึ้น รวมถึงช่วงนั้นมีการปรับค่าแรงเพิ่มขึ้่น บวกกับปัญหาในช่วงนั้นขาดแคลนแรงงานจึงทำให้การนำหุ่นยนต์มาใช้กับระบบโรงงานแพร่หลายมากขึ้น

โรโบติกส์ และ Internet og things (IOTs) เป็นการพัฒนานวัตกรรมใหม่เข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบเดิมๆในยุค ดิจิทัล เพื่อลดเรื่องอุบัติเหตุและยิ่งไปกว่านั้นการเกิดวิกฤตไวรัสโควิด-19 ยังเป็นตัวเร่งปรับทัศนคติ ให้ธุรกิจอยู่รอดและเดินหน้าต่อได้โดยการลดแรงงานมนุษย์ลง โดยเพิ่มหุ่นยนต์มาแทนที่ ซึ่งทำให้การผลิตจะต่อเนื่องไม่ว่าจะมีการจึ้นค่าแรงงานคนหรือระบบเศษรฐกิจในอนาคต ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มโรงงานการผลิตอาหารและยา เครื่องดื่ม อุตสาหกรรมการเกษตร โลจิสติกส์ ที่ตื่นตัวมากที่สุด ซึ่งเป็นการลดความเสี่ยงหากเกิดโรคระบาดอื่นๆหรือปัญหาแรงงานในอนาคตเป็นการปรับตัวสู่อนาคตที่จำเป็นต้องพึ่งแรงงานมนุษย์ให้น้อยลง และสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยี่ระบบหุ่นยนต์ในงานอุตสาหกรรมจะเดินหน้าต่อไปเพื่อคุณภาพที่ดีขึ้นของมนุษย์ แม้ในบางครั้งจะยังมีความกังวลว่าหุ่นยนต์จะเข้ามาแทนที่มนุษย์หรือไม่ ก็เลี่ยงไม่ได้ว่าอาจจะมีบ้าง แต่สิ่งที่ชัดเจนที่สุดคือหุ่นนยนต์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมานั้น จะเข้ามาทำงานร่วมกับมนุษย์ ไม่ใช่เข้ามาแย่งงานมนุษย์ เนื่องจากมนุษย์เรามีความสามารถในการพัฒนา และเรียนรู้ที่จะพัฒนาศักยภาพของตนเองให้มีทักษะในด้านต่างๆมากขึ้นได้เสมอนั่นเอง

https://suthong.co.th/%E0%B8%8...%87%E0%B8%A2%E0%B8%B7%E0%B8%99
8  อื่นๆ / Cafe / ประวัติความเป็นมาของเครื่องจักร CNC(ข่าวสารอุตสาหกรรม) เมื่อ: 17 ตุลาคม 2023, 08:47:13
ประวัติความเป็นมาของเครื่องจักร CNC
เครื่องจักร CNC เป็นเครื่องจักรที่พัฒนามาจากเครื่องจักร NC เครื่องจักร NC เครื่องแรกถูกสร้างขึ้นไม่นานหลังจากสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง ในขณะนั้นบริษัทพาร์สันส์ เวอร์กของนายจอร์น พาร์สันส์ (John Parsons) เป็นบริษัทที่สามารถผลิตใบพัดเฮลิคอบเตอร์ได้เที่ยงตรงและรวดเร็ว โดยใช้เทคนิคการผลิต “ด้วยตัวเลข” (by-the-number) ผลิตเทมเพรท เทคนิคการผลิตด้วยตัวเลขคือการใช้เครื่องกัดเจาะรูตามตำแหน่งที่กำหนดไว้เป็นรูปร่างที่ต้องการคร่าวๆ จากนั้นจึงใช้คนแต่งละเอียดอีกครั้ง

นายบิล สตอท (Bill Stout) วิศวกรของบริษัทพาร์สันส์ เวอร์กได้เพัฒนาเทคนิคนี้โดยขียนชุดคำสั่งให้คอมพิวเตอร์ที่ใช้ในงานด้านบัญชีในขณะนั้นคำนวณเพิ่มจุดเจาะจาก 17 จุดเป็น 200 จุดและใช้คนงานสองคนบังคับแกนของเครื่องกัดคนละแกนให้เคลื่อนที่ไปตามตารางที่สร้างขึ้นเพื่อเจาะรูตามตำแหน่งทั้ง200จุด ด้วยวิธีนี้เองที่ทำให้เวลาที่ใช้ในการแต่งละเอียดแผ่นเทมเพรทลดลงอย่างมากและแผ่นเทมเพรทที่ได้ก็มีความเที่ยงตรงสูง

ต่อมาบริษัทได้รับการติดต่อจากกองทัพอากาศสหรัฐให้ผลิตปีกเครื่องบินทิ้งระเบิดที่มีความซับซ้อนและเที่ยงตรงสูงกว่าที่เทคนิคการผลิตในสมัยนั้น(ช่วง ค.ศ.1940) จะทำได้ บริษัทพาร์สันส์ เวอร์กจึงได้เสนอให้สร้างเครื่องกัดที่ใช้เซอโวมอเตอร์ควบคุมแกนทั้งสามแกน ทางกองทัพตอบตกลง การสร้างเครื่องจักรNC เครื่องแรกจึงเริ่มขึ้น บริษัทพาร์สันส์ เวอร์กแบ่งงานออกแป็นสามส่วน โดยมีบริษัทซินเดอร์ (Snyder Corporation) ผลิตตัวเครื่อง บริษัทIBM ผลิตเครื่องอ่านเทปเจาะรู และ ห้องวิจัยด้านกลไกเซอโวของ MIT (Servo Mechanisms Laboratory of the Massachusetts Institute of Technology) ผลิตชิ้นส่วนที่เกี่ยวกับกลไกเซอโว

ในขณะเดียวกันนั้นวิศวกรของบริษัท General Motor ได้ติดอุปกรณ์จับตำแหน่งและกลไกเซอโวเข้ากับเครื่องกลึงทำให้เครื่องกลึงสามารถบันทึกตำแหน่งในการเดินเครื่องผลิตงานด้วยคนในครั้งแรก จากนั้นจึงสามารถป้อนข้อมูลที่บันทึกกลับให้กลไกเซอโวเดินเครื่องผลิตงานชิ้นต่อไป เทคนิคการบันทึกแล้วเล่นกลับนี้ปัจจุบันยังคงใช้กับเครื่องวัดตำแหน่งแบบ CNC (CNC Coordinate Measuring Machine) และหุ่นยนต์อุตสาหกรรมบางประเภท

กองทัพอากาศเลือกที่จะสนับสนุนวิธีของพาร์สันส์เนื่องจากสามารถสร้างงานที่มีความซับซ้อนสูงกว่าโดยการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยคำนวณ และยังลดปัญหาการหยุกชงักของการผลิตเนี่องจากการนัดหยุดงานของคนงานอีกด้วย

ในเดือนกันยายนปีค.ศ.1952 MIT เปิดแสดงสาธิตเครื่องจักร NC เครื่องแรกของโลก
จอร์น พาร์สันส์ เสียชีวิตเมื่อวันพุธที่19เดือนเมษายนปี ค.ศ. 2007 มีอายุรวม 93 ปี

  • 1947 - จอร์น พาร์สันส์เริ่มทดลองใช้ระบบการผลิตด้วยตัวเลข
  • 1949 - จอร์น พาร์สันส์ เซ็นสัญญากับกองทัพอากาศสหรัฐเพื่อสร้างเครื่องจักร
  • 1952 – MIT สาทิตเครื่องจักร NC ครั้งแรกโดยการกัดงานที่ดอกกัดมีการเคลื่อนที่ ในสองแกนพร้อมกัน
  • 1955 – มีการจัดแสดงเครื่องจักร NC เพื่อการค้าเป็นครั้งแรก
  • 1957– เครื่องจักร NC ติดตั้งลงในสายการผลิตเป็นเครื่องแรก
  • 2007– จอร์น พาร์สันส์ เสียชีวิต เครื่องจักร NC ได้รับการพัฒนาเป็นเครื่องจักร CNC และมีการใช้งานอย่างแพร่หลาย

https://suthong.co.th/main/newsdetail/26
9  อื่นๆ / Cafe / เครื่องตัดเลเซอร์ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัวเครื่อง เมื่อ: 13 ตุลาคม 2023, 09:05:09
เครื่องตัดเลเซอร์ที่รวมทุกอย่างไว้ในตัวเครื่อง
อย่างที่เรารู้กันว่าในตอนนี้การตัดเลเซอร์กลับมาเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว และการใช้งานที่มีให้เลือกหลากหลายครอบคลุมไม่ว่าจะเป็นเครื่องตัดเลเซอร์โลหะ เครื่องเลเซอร์ไม้ เครื่องเลเซอร์อะคริลิค รวมไปถึงงานรูปแบบต่างๆ ในอุตสาหกรรมการผลิต
แล้วรู้หรือไม่ว่าทุกวันนี้ เครื่องตัดเลเซอร์ถูกพัฒนาโดยรวมทุกส่วนไว้ในตตัวเครื่องตัดเพียงตัวเดียวได้แล้ว และยังคงมาตราฐานการตัดได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงว่าทำไม ผู้ผลิตถึงพยายามที่จะรวมอุปกรณ์ทุกส่วนไว้ในตัวเครื่องตัดเลเซอร์กัน และเป็นข้อดีอย่างไรต่อผู้ใช้งาน

อย่างแรกพื้นฐานที่เราต้องรู้คือเครื่องตัดเลเซอร์มีส่วนประกอบอะไร และมีอุปกรณ์แยกออกมาเป็นอะไรบ้าง?
  • ตู้ไฟเบอร์เลเซอร์ (Fiber Laser Source)
  • ระบบทำความเย็น (Water Chiller)
  • ระบบตัดด้วยแรงลม (Air Cutting System)
  • ระบบแก๊สต่างๆ (Gas Cylineders)
  • เครื่องปรับแรงดันไฟฟ้าอัตโนมัติ (Stabilizer)
  • ระบบดูดควัน (Dust Removal System)
ทั้งหมดที่แจ้งมาเป็นอุปกรณ์ที่ติดมากับเครื่องตัดเลเซอร์รุ่นก่อนๆ ซึ่งเครื่องตัดเลเซอร์โลหะรุ่นใหม่ๆ มักรวมทุกอย่างไว้ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นระบบเลเซอร์ ระบบเคลื่อนที่ ระบบควบคุม และระบบระบายความร้อน ทำให้มีขนาดเล็กลง น้ำหนักเบาลง และใช้งานง่ายขึ้น


เครื่องตัดเลเซอร์โลหะในปัจจุบันต้องรวมทุกอย่างไว้ในตัวเครื่อง เพราะมีเหตุผลหลักๆ ดังนี้
  • ความสะดวกในการใช้งาน ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ทำให้สามารถเริ่มต้นใช้งานเครื่องได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เครื่องตัดเลเซอร์โลหะรุ่นเก่าจำเป็นต้องติดตั้งอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม เช่น โต๊ะตัด หัวตัดเลเซอร์ และระบบควบคุม การติดตั้งอุปกรณ์เหล่านี้อาจต้องใช้ทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ทั่วไปไม่สามารถใช้งานได้ เครื่องตัดเลเซอร์โลหะรุ่นใหม่ๆ มักรวมทุกอย่างไว้ในตัวเครื่อง ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มต้นใช้งานเครื่องได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เพียงเชื่อมต่อเครื่องเข้ากับแหล่งจ่ายไฟและคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้ก็สามารถเริ่มตัดชิ้นงานได้ทันที
  • ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น การออกแบบที่รวมทุกอย่างไว้ในเครื่องเดียวช่วยให้สามารถลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้การออกแบบที่รวมทุกอย่างไว้ในเครื่องเดียวช่วยให้ผู้ผลิตสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ ผู้ผลิตไม่จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม ซึ่งช่วยลดต้นทุนในการเริ่มต้นใช้งานเครื่อง นอกจากนี้ การออกแบบที่รวมทุกอย่างไว้ในเครื่องเดียวยังช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ ผู้ผลิตสามารถปรับแต่งเครื่องให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของตนได้ ซึ่งช่วยให้สามารถตัดชิ้นงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ความทนทานที่เพิ่มขึ้น การออกแบบที่รวมทุกอย่างไว้ในเครื่องเดียวช่วยให้สามารถปกป้องชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องจากความเสียหายได้การออกแบบที่รวมทุกอย่างไว้ในเครื่องเดียวช่วยให้สามารถปกป้องชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องจากความเสียหายได้ ชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องถูกติดตั้งอยู่ในตัวเครื่องอย่างแน่นหนา ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่ชิ้นส่วนเหล่านี้จะเสียหายจากการกระแทกหรือการสั่นสะเทือน นอกจากนี้ การออกแบบที่รวมทุกอย่างไว้ในเครื่องเดียวยังช่วยให้ผู้ผลิตสามารถซ่อมแซมเครื่องได้ง่ายขึ้น ผู้ผลิตสามารถเข้าถึงชิ้นส่วนต่างๆ ของเครื่องได้ง่าย ซึ่งช่วยให้สามารถซ่อมแซมเครื่องได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

https://suthong.co.th/main/newsdetail/153
10  อื่นๆ / Cafe / ประโยชน์ของ สแตนเลส (ข่าวสารอุตสาหกรรม) เมื่อ: 09 ตุลาคม 2023, 08:46:37
 wanwan015
ประโยชน์ของ สแตนเลส - Stainless

การเลือกใช้วัสดุในการประกอบชิ้นงาน ถือเป็นสิ่งสำคัญลองมาพิจารณาดูกันว่าสเตนเลสดีอย่างไร ?

ความแข็งแกร่ง ทนทาน

  • คุณสมบัติเด่นอีกประการหนึ่งของสเตนเลส คือ ความแข็งแกร่งทนทาน สเตนเลสสามารถเพิ่มความแข็งได้ด้วยการขึ้นรูปเย็น
    ซึ่งใช้เพื่อออกแบบงาน โดยลดความหนา น้ำหนักและราคา ความต้านทานต่ออุณหภูมิสูงและอุณหภูมิต่ำ สามารถทนความร้อน
    หรือความเย็น รวมถึงการเปลี่ยนอุณหภูมิโดยฉับพลันได้ดี
  • สเตนเลสทุกตระกูลทนทานต่อการกัดกร่อน แต่จะแตกต่างกันไปตามส่วนผสมของโลหะ
    เช่น เกรดที่มีโลหะผสม ไม่สูง สามารถต้านทาน การกัดกร่อนในบรรยากาศทั่วไป ในขณะที่เกรดที่มีโลหะผสมสูงสามารถต้านทาน
    การกัดกร่อน ในกรด ด่าง สารละลาย บรรยากาศคลอไรด์ ได้เกือบทั้งหมด

ง่ายต่อการประกอบ หรือแปรรูป

  • สเตนเลสส่วนใหญ่สามารถ ตัด เชื่อม ขึ้นรูป ตบแต่งทางกล ลากขึ้นรูป ขึ้นรูปนูนต่ำได้ง่าย ด้วยรูปร่าง สมบัติ และลักษณะ
    ต่างๆของสเตนเลสช่วยให้ ผู้ผลิตสามารถนำสเตนเลสไปประกอบกับวัสดุอื่นๆได้ง่าย

ความสวยงาม

  • ด้วยรูปทรงและพื้นผิวที่หลากหลายรูปแบบที่สวยงาม ทำความสะอาดได้ง่าย ปัจจุบันสเตนเลสมีสีให้เลือกมากมายด้วย กรรมวิธี
    ชุบเคลือบผิวด้วยเคมี ไฟฟ้าสามารถทำให้สเตนเลสมีผิวสีทอง บรอนซ์ เขียว เงิน และสีดำ ทำให้สามารถเลือก ประยุกต์ใช้สเตนเลส
    ได้อย่างมากมาย นอกจากนี้ ความเงางามของ สเตนเลสในอ่างล้างจาน อุปกรณ์ประกอบอาหาร หรือ เฟอร์นิเจอร์ทำให้บ้านดูสะอาด
    และน่าอยู่อีกด้วย

ความปลอดภัย และถูกสุขลักษณะ

  • การทำความสะอาด การดูแลรักษาสเตนเลส และมีความเป็นกลางสูงจึงไม่ดูดซึมรสใดๆ เป็นเหตุผลสำคัญที่สเตนเลสถูกนำมา
    ใช้งานในงานโรง พยาบาล เครื่องครัว ด้านโภชนาการและด้านเภสัชกรรม เนื่องจากความทนทาน ต้องการการดูแลรักษาน้อย
    และค่าใช่จ่ายต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลาการใช้ งาน การใช้อุปกรณ์เครื่องครัวสเตนเลสใน บ้านเรือนให้ความรู้สึกถึงความ
    ปลอดภัยแก่ผู้ใช้

ช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

  • ● สเตนเลสเป็นวัสดุที่สามารถนำกลับมาใช้ได้ใหม่เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และกว่า ของวัตถุดีที่ใช้ในการผลิตมาจากเศษเหล็ก


https://suthong.co.th/main/newsdetail/56
11  อื่นๆ / Cafe / เครื่องกลึงขนาดเล็กและเครื่องขนาดใหญ่(ข่าวสารอุตสาหกรรม) เมื่อ: 05 ตุลาคม 2023, 08:39:19
เครื่องกลึงขนาดเล็กและเครื่องขนาดใหญ่
เครื่องกลึงขนาดเล็กและเครื่องขนาดใหญ่ "ความแตกต่างและคุณสมบัติแบบไหนเหมาะกับงานของคุณ"
พื้นฐานแล้วเราควรที่จะรู้เรื่องเครื่องกลึงเบื้องต้นก่อนในบทความนี้เราจะมุ่งไปที่เครื่องกลึง CNC หรือ CNC Lathe Machine โดยเครื่องกลึงระบบนี้อย่างที่เรารู้กันว่า CNC คือการทำงานด้วยระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมด เพื่อสร้างชิ้นงานตามที่เราต้องการ โดยเหมาะสำหรับงานที่มีความละเอียดและซับซ้อนสูง โดยส่วนประกอบหลักของเครื่องกลึง CNC จะประกอบดังนี้

  • ชุดการทำงาน (controller)มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของเครื่องทั้งหมด
  • ระบบกลไกในการเคลื่อนที่ (Drive Machines)มีหน้าที่ขับเคลื่อนแกนต่างๆ ภายในเครื่องกลึง
  • ตัวเครื่อง(Machine Body)ส่วนประกอบโครงสร้างที่รวมได้ทั้งภายใน และโครงสร้างภายในเครื่องกลึงทั้งหมด

โดยการทำงานหลักของเครื่อง CNC จะถูกควบคุมด้วยการสร้างระบบ G-code โดยใช้ซอฟต์แวร์เฉพาะ จากนั้นโปรแกรมจะถูกป้อนเข้าเครื่องกลึง CNC ผ่านเครื่องป้อนข้อมูล โดนจากนั้นเครื่องจักรจริงทำงานตามระบบที่ถูกป้อนเข้าโปรแกรม ทำให้เครื่องผลิตชิ้นงานได้ตามที่เราต้องการ

ข้อดีของเครื่องกลึง CNC
  • ทำงานได้รวดเร็วและมีความแม่นยำสูง
  • มีประสิทธิภาพในการงานที่มีความละเอียดสูง
  • สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมง ทำให้ผลิตงานได้มากขึ้น
  • เครื่องแบบระบบ CNC เหมาะกับการทำงานที่มีจำนวนมากๆ

ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรกล, อุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์, อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น

ตัวอย่างงานที่นิยมใช้เครื่องระบบ CNC ได้แก่

  • การผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกล เช่น ชิ้นส่วนเกียร์ ชิ้นส่วนเฟือง ชิ้นส่วนก้านสูบ เป็นต้น
  • การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น ชิ้นส่วนชิป ชิ้นส่วนแผงวงจร ชิ้นส่วนตัวเก็บประจุ เป็นต้น
  • การผลิตชิ้นส่วนเครื่องประดับ เช่น แหวน กำไล สร้อยคอ เป็นต้น
  • การผลิตชิ้นงานศิลปะ เช่น ประติมากรรม รูปปั้น เป็นต้น
  • การผลิตชิ้นงานอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น ชิ้นส่วนหุ่นยนต์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น

ทั้งหมดนี้คือข้อมูลโดยรวมของเครื่องกลึง CNC ที่เราควรรู้เบื้องต้น และเครื่องกลึง CNC สามารถแบ่งย่อยออกมาเป็นทั้งเครื่องกลึงขนาดเล็ก และเครื่องกลึงขนาดใหญ่ งานของคุณเหมาะกับเครื่องกลึงบแบบไหนสามาถดูได้ตามข้อมูลด้านล่างนี้


ข้อแตกต่างระหว่างเครื่องกลึงขนาดเล็กและเครื่องกลึงขนาดใหญ่
เครื่องกลึงขนาดเล็ก

  • ขนาดเล็ก กะทัดรัด
  • ราคาถูกกว่า
  • ใช้งานง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้ทักษะการกลึงระดับสูง
  • เหมาะสำหรับงานขนาดเล็กและงานผลิตจำนวนมาก

เครื่องกลึงขนาดใหญ่

  • ขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก
  • ราคาแพงกว่า
  • ใช้งานยาก ต้องใช้ทักษะการกลึงระดับสูง
  • เหมาะสำหรับงานขนาดใหญ่และงานผลิตจำนวนมาก


เครื่องกลึงขนาดเล็กเหมาะกับงานประเภทใด

เครื่องกลึงขนาดเล็กเหมาะกับงานที่ไม่ใหญ่ มีขนาดเล็กเป็นงานที่เครื่องกลึงขนาดใหญ่ไม่สามารถจับชิ้นงานได้ โดยต้องคำนึงถึงฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติม เช่น การกัด การเจาะ โดยเครื่องกลึงขนาดเล็กเหมาะกับงานหลายประเภท อย่างเช่น

  • ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
  • ชิ้นส่วนเครื่องประดับ
  • ชิ้นส่วนประกอบในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์
  • ชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ทุกประเภท

เครื่องกลึงขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับงานประเภทต่อไปนี้

  • งานผลิตชิ้นงานขนาดใหญ่ เช่น ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ ชิ้นส่วนโครงสร้างอาคาร
  • งานผลิตชิ้นงานจำนวนมาก เช่น ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลในอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ ชิ้นส่วนโครงสร้างอาคาร
  • งานผลิตชิ้นงานที่มีความซับซ้อน เช่น ชิ้นส่วนเครื่องจักรกลที่มีรูปร่างขนาดใหญ่หรือมีร่องลึก


ตัวอย่างงานที่ใช้กับเครื่องกลึงขนาดเล็ก

  • การผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกลขนาดเล็ก เช่น ชิ้นส่วนเกียร์ ชิ้นส่วนเฟือง ชิ้นส่วนก้านสูบ เป็นต้น
  • การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก เช่น ชิ้นส่วนชิป ชิ้นส่วนแผงวงจร ชิ้นส่วนตัวเก็บประจุ เป็นต้น
  • การผลิตชิ้นส่วนเครื่องประดับ เช่น แหวน กำไล สร้อยคอ เป็นต้น
  • การผลิตชิ้นงานศิลปะ เช่น ประติมากรรม รูปปั้น เป็นต้น
  • การผลิตชิ้นงานอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เช่น ชิ้นส่วนหุ่นยนต์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น
  • เครื่องกลึง CNC ขนาดเล็กสามารถทำงานได้กับวัสดุหลากหลาย เช่น โลหะ พลาสติก ไม้ เป็นต้น ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องมือตัดที่ใช้

การเลือกเครื่องกลึงขนาดเล็กให้เหมาะสมกับชิ้นงาน ควรพิจารณาดังนี้
  • ขนาดของชิ้นงาน โดยเครื่องกลึงจะมีหัวจับชิ้นงานที่มีขนาดความยาวของหัวจับไม่เท่ากัน
  • วัสดุที่ใช้งาน โดยเครื่องกลึงถูกแบ่งออกมาสำหรับใช้งานได้หลากหลายประเภท เช่นเครื่องกลึงโลหะ เครื่องกลึงไม้ เป็นต้น
  • ฟังก์ชั่นการใช้งาน เครื่องกลึง CNC บางรุ่นมีฟังก์ชั่นการใช้งานเพิ่มเติม เช่นการกัด การเจาะชิ้นงาน

การเลือกเครื่องกลึงขนาดใหญ่ให้เหมาะสมกับงานนั้น ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  • ขนาดของชิ้นงาน เครื่องกลึงขนาดใหญ่จะมีขนาดและน้ำหนักมาก ไม่สามารถกลึงชิ้นงานขนาดเล็กได้
  • วัสดุที่ใช้ เครื่องกลึงขนาดใหญ่บางรุ่นออกแบบมาเพื่อทำงานกับวัสดุบางชนิดโดยเฉพาะ
  • ฟังก์ชันการใช้งาน เครื่องกลึงขนาดใหญ่บางรุ่นมีฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติม เช่น ฟังก์ชันการกัด ฟังก์ชันการเจาะ เป็นต้น

โดยสรุป การเลือกเครื่องกลึงให้เหมาะสมกับงานนั้น ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้

  • ขนาดของชิ้นงาน
  • วัสดุที่ใช้
  • ฟังก์ชันการใช้งาน
  • งบประมาณ

หากงานที่ต้องการทำมีขนาดเล็ก ผลิตจำนวนมาก และต้องการความแม่นยำสูง เครื่องกลึงขนาดเล็กจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า หากงานที่ต้องการทำมีขนาดใหญ่ ผลิตจำนวนมาก และต้องการกำลังการผลิตสูง เครื่องกลึงขนาดใหญ่จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกว่า


https://suthong.co.th/main/newsdetail/152
12  อื่นๆ / Cafe / เครื่องเจียระไน KENT No.1 in Taiwan เมื่อ: 29 กันยายน 2023, 15:40:55
เครื่องเจียระไน : Grinding
หมายถึง การเจียระไนเป็นการแปรรูปวัสดุด้วยการขัดสีด้วยคมตัดที่เป็นวัสดุแข็งที่ถูกยึดให้ติดกันด้วยตัวยึดและขึ้นรูปเป็นฟอร์มต่างๆ ซึ่งเรียนว่า "หินเจียระไน"

ประเภท ของเครื่องเจียระไน
การเจียระไนด้วยหินเจียระไนสามารถกระทำได้หลายแบบ โดยแบ่งประเภทของ เครื่องเจียระไนได้ตามลักษณะการใช้งานเป็นดังนี้
  • เครื่องเจียระไนตั้งโต๊ะ (Bench Grinder)
  • เครื่องเจียระไนตั้งพื้น (Floor Grinder)
  • เครื่องเจียระไนราบ (Surface Grinder)
  • เครื่องเจียระไนทรงกระบอก (Cylindrical Grinder)
  • เครื่องเจียระไนลับมีดตัดและเครื่องมือ (Cutter And Tool Grinder)

ส่วนประกอบหลัก ของเครื่องเจียระไน
มอเตอร์(Motor)
เป็นต้นกำลังขับล้อหินเจียระไนให้หมุนด้วยความเร็วรอบประมาร 1,500-2,000 รอบต่อนาที โดยมีเพลาต่อออกมาทั้งสองข้างเพื่อยึดล้อหินเจียระไน
ฝาครอบหินเจียระไน(Wheel  Guard)
เป็นฝาครอบล้อหินเจียระไนทั้งสองข้างเพื่อป้องกันอันตรายจากล้อหินเจียระไน ส่วนใหญ่จะทำด้วยเหล็กเหนี่ยวขึ้นรูป
ล้อหินเจียระไน (Grinding Wheel)
จะมีอยู่ 2 ลักษณะ คือล้อหินเจียระไนชนิดหยาบและล้อหินเจียระไนชนดละเอียด จะยึดติดอยู่ อย่างละข้างของแกนมอเตอร โดยจะมีล้อหินเจียระไนชนิดหยาบ เพื่อเจียระไนหยาบช่วยให้เจียระไนได้เร็วขึ้น  และอีกข้างหนึ่จะใช้จับยึดล้อหินเจียระไนชนิดละเอียดเพื่อใช้เจียระไนผิวเรียบเพื่อเป็นการเจียระไนขั้นสุดท้าย ในการเลือกใช้ล้อหินเจียระไนจะต้องเลือกล้อหินเจียระไนให้ตรงกับชนิดวัสดุของมีดตัดที่จะนำมาลับเพราะวัสดุที่มีดตัดมีหลายประเภท เช่น มีดกลึงเหล็กรอบสูง(High Speed Steel)มีดกลึงคาร์ไบด์หรือมืดเล็บ(Carbide  Tool)
แทนรองรับงาน (Tool  Rest)
ทำหน้าที่รองรับงานหรือเครื่องมือวัดและยังช่วยทำหน้าที่ประคองมือผู้ปฏิบัติงานด้วยส่วนใหญ่ทำด้วยเหล็กหล่อขึ้นรูปหรือเหล็กเหนียว ควรตรวจสอบระยะห่างอยู่เสมอ ควรมีระยะห่างมากสุดไม่เกิน  2-3 มม. ถ้ามีระยะห่างมากชิ้นงานอาจจะหลุดลงไปในช่องทำให้เกิดอันตรายได้ล้อหินเจียระไนอาจจะแตกกระเด็นโดนผู้ปฏิบัติงานในขณะปรับระยะห่างระหว่างแท่นรองรับงานจะต้องปิดสวิตซให้ล้อหยุดนิ่งก่อน เมื่อตั้งระยะห่างเรียบร้อย แล้วต้องทำการทดสอบโดยการหมุนด้วยมือก่อนเพื่อป้องกันกรณีล้อหินเจียระไนแกว่งมากระแทกกับแท่นรองรับงาน
สวิตซ์เครื่อง(Switch)
มีไว้เพื่อควบคุมเครื่องเพื่อใช้สำหรับปิด-เปิดในเครื่องเจียระไนเครื่องหนึ่งอาจจะมสวิตซ์ เพิ่มเติมมากขึ้นก็ได้ เพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยแก่ผู้ปฏิบัติงาน
ภาชนะใส่น้ำระบายความร้อน (Water Pot)
ในขณะที่เจียระไนลับคมตัดมีดตัดชนิดต่างๆหรือเจียระไนชิ้นงานจะมีความร้อนเกิดขึ้นที่มีมีดตัดหรือใช้ชิ้นงานจะทำให้ร้อนมือและจะทำให้โครงสร้างวัสดุของมีดตัดเปลี่ยนไปจำเป็นจะต้องมีการระบายความร้อนโดยการจมลงในน้ำแล้วแกว่งไปมาเพื่อเป็นการระบายความร้อนได้เร็วขึ้น ตัวระบายความร้อนสำหรับเครื่องเจียระไนลับคมตัดนิยมใช้น้ำธรรมดาไม่จำเป็นต้องใช้น้ำหล่อเย็นเพราะจะทำให้ล้อหินเจียระไนทื่อเร็วต้องต่างหน้าล้อหินเจียระไนบ่อยขึ้นทำให้สิ้นเปลือง
กระจกนิรภัย (Safety Glass)
จะติดตั้งไว้ทั้งสองล้อเพื่อป้องกันเศษโลหะกระเด็นเข้าตาผู้ปฏิบัติงานเป็นที่ให้ผู้ปฏิบัติงานมองในขณะลับเครื่องมือตัด
ฐานเครื่อง(Base)
อยู่ส่วนล่างสุดของเครื่องมีหน้าที่รองรับส่วนต่างๆ ของเครื่องทั้งหมด ทำจากเหล็กหล่อใช้ยึดติดกับพื้นหรือโต๊ะ

เครื่องเจียระไนราบ : Surface Grinder
เครื่องเจียระไนราบ ใช้สำหรับลดขนาดงานในกระบวนกานผลิตครั้งสุดท้ายหลัง
ผ่านกระบวนการผลิตโดยการไสเพื่อขึ้นรูป หรืองานที่ผ่านการปรับปรุงคุณสมบัติด้วยความร้อนโดยการชุบแข็ง เครื่องเจียระไนราบ แบ่งการทำงานได้ 2 ลักษณะ คือ
  • เครื่องเจียระไนราบเพลาหมุนล้อหินเจียระไนแนวนอน เหมาะสำหรับปฏิบัติงานเจียระไนชิ้นงานที่มีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยม
  • เครื่องเจียระไนราบเพลาหมุนล้อหินเจียระไนแนวดิ่ง เหมาะสำหรับปฏิบัติงานเจียระไนพื้นผิวงานในแนวราบ

https://suthong.co.th/main/newsdetail/51
13  อื่นๆ / Cafe / Machining Center เมื่อ: 26 กันยายน 2023, 09:16:11
ประเภทของเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์
จากบทความข้างต้นว่า เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ คืออะไร จะเห็นได้ว่าเครื่องประเภทแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ถูกตีความไปได้หลากหลายแบบ หลากหลายประเภท โดยเราจะมาดูเรื่องรายละเอียดและส่วนประกอบหลักๆ ที่สำคัญของเครื่องกันนก่อนว่ามีส่วนไหนและทำหน้าที่อะไรบ้าง

ส่วนประกอบที่สำคัญของเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์

  • ตัวเครื่องคือ ส่วนของฐานที่รองรับชิ้นส่วนประกอบต่างๆ ของเครื่องจักร
  • ฐานคือ พื้นที่การทำงานหรือตำแหน่งที่ผู้ใช้งานจะสามารถวางชิ้นงานลงไปเพื่อทำการกลึง เจาะหรือเจียรชิ้นงานให้เป็นไปตามแบบที่ต้องการ
  • แท่นหมุนคือ แท่นที่ถูกวางเพื่อจับชิ้นงานพลิกหมุนไปตามองศาต่างๆ ที่ผู้ใช้งานต้องการ
  • หัวกัดคือ หัวที่ใส่วัสดุเพื่อทำงานซึ่งในส่วนนี้จะสามารถเปลี่ยนถอด ใส่ได้หลากหลายรูปแบบตามประเภทของเครื่องจักร เพื่อสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
  • ระบบการควบคุมคือ หน้าจอการแสดงผล รวมถึงหน้าจอหรือโปรแกรมในการประมวลผลและรับคำสั่งเพื่อสร้างขิ้นงานของเครื่องจักรนั้นๆ
ซึ่งหลักๆ แล้วส่วนประกอบต่างๆ ผู้ใช้งานจะมีความรู้ในเครื่องจักรประเภทดังกล่าวอยู่บ้างแล้วก็ตาม แต่เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ก็ยังถูกแบ่งออกตามลักษณะการใช้งานอีกด้วย ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงเครื่องแมชชีนนิ่งในประเภทต่างๆ ดังนี้


เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 3 แกน
เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 3 แกน เป็นเครื่องที่สามารถเคลื่อนที่ได้ตามชื่อคือจะสามารถเคลื่อนได้ 3 ทาง โดยเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 3 แกนแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ
  • เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์แนวนอน (Horizontal machining center) เป็นเครื่องจักรที่มีหัวกัดเคลื่อนที่ไปในแนวนอน โดยแกน X จะเคลื่อนที่ไปมาด้านซ้าย-ขวา แกน Y จะเคลื่อนที่ขึ้น-ลง และแกน Z จะเคลื่อนที่เข้า-ออก
  • เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์แนวตั้ง (Vertical machining center) เป็นเครื่องจักรที่มีหัวกัดเคลื่อนที่ไปในแนวตั้ง โดยแกน X จะเคลื่อนที่ไปมาด้านหน้า-ด้านหลัง แกน Y จะเคลื่อนที่ขึ้น-ลง และแกน Z จะเคลื่อนที่เข้า-ออก

เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 3 แกนมีข้อดีดังนี้
  • สามารถผลิตชิ้นงานได้หลากหลายรูปแบบ
  • มีความแม่นยำสูง
  • ทำงานได้อย่างรวดเร็ว


เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกน
เครื่องแมนชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกน (4-axis machining center) เป็นเครื่องจักรกลที่ควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (CNC) ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ 4 แกน เหมาะกับงานที่มีการทำงานที่ซับซ้อนเพิ่มขึ้น และต้องการงานที่รวดเร็ว ได้แก่
  • แกน X: เคลื่อนที่ในแนวนอน
  • แกน Y: เคลื่อนที่ในแนวตั้งฉากกับแกน X
  • แกน Z: เคลื่อนที่ในแนวตั้ง
  • แกนที่ 4: เคลื่อนที่ในแนวใดแนวหนึ่งหรือทั้งสองแนวในแนว X, Y, หรือ Z
เครื่องแมนชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกน สามารถใช้ในการกัด กลึง เจาะ และเชื่อมชิ้นส่วนงานได้หลากหลายประเภท เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงและผลิตชิ้นส่วนงานที่มีรูปร่างซับซ้อน เช่น ชิ้นส่วนงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมการบิน และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ประเภทของเครื่องแมนชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกนเครื่องแมนชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่
เครื่องแมนชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกนแบบแกนหมุน (Rotary axis)เครื่องแมนชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกนแบบแกนหมุน จะมีแกนที่ 4 อยู่ในรูปแบบของหัวหมุน (Rotary head) ซึ่งสามารถหมุนชิ้นงานได้รอบแกน X, Y, หรือ Z เหมาะสำหรับงานที่ต้องการกลึงชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อน
เครื่องแมนชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกนแบบแกนเคลื่อนที่ (Moving axis)เครื่องแมนชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกนแบบแกนเคลื่อนที่ จะมีแกนที่ 4 อยู่ในรูปแบบของแกนเคาเตอร์เบ้า (Counterbore axis) ซึ่งสามารถเคลื่อนที่ได้รอบแกน X, Y, หรือ Z เหมาะสำหรับงานที่ต้องการกัดหรือเจาะชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อน
ข้อดีของเครื่องแมนชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 4 แกน
  • สามารถใช้ในการกัด กลึง เจาะ และเชื่อมชิ้นส่วนงานได้หลากหลายประเภท
  • เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูงและผลิตชิ้นส่วนงานที่มีรูปร่างซับซ้อน
  • ช่วยลดระยะเวลาและต้นทุนในการผลิต

เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกน
เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกน (5-axis CNC machining center) เป็นเครื่องจักรกล CNC ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ใน 5 แกน ได้แก่ แกน X, Y, Z, A, และ C แกน A และหมุนรอบแกน Z แกน C หมุนรอบแกน X เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกนมีความสามารถในการประมวลผลชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อนได้ เช่น ชิ้นงานที่มีมุมแหลม ชิ้นงานที่มีร่อง ชิ้นงานที่มีรูโค้ง เป็นต้น เครื่องจักรประเภทนี้จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น งานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอากาศยาน ชิ้นส่วนการแพทย์ เป็นต้น
หลักการทำงานของเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกน คือการเคลื่อนที่ของหัวกัดไปยังตำแหน่งต่างๆ บนชิ้นงานตามโปรแกรมควบคุม (NC program) โปรแกรมควบคุมนี้จะถูกเขียนขึ้นโดยวิศวกรหรือโปรแกรมเมอร์ โดยโปรแกรมควบคุมจะกำหนดทิศทาง ความเร็ว และระยะทางในการเคลื่อนที่ของหัวกัด เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกนมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน เช่น
  • เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกนแบบเพลานอน (Gantry) เหมาะสำหรับงานที่มีชิ้นงานขนาดใหญ่
  • เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกนแบบเพลาตั้ง (Vertical) เหมาะสำหรับงานที่มีชิ้นงานขนาดเล็ก
  • เครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกนแบบหัวกัดหมุน (Rotary) เหมาะสำหรับงานที่มีชิ้นงานที่ต้องหมุน
ข้อดีของเครื่องแมชชีนนิ่งเซ็นเตอร์ 5 แกน
  • สามารถประมวลผลชิ้นงานที่มีรูปร่างซับซ้อนได้
  • ช่วยให้ประหยัดเวลาและวัสดุ
  • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
14  อื่นๆ / Cafe / วิธีการเลือกเครื่องตัดเลเซอร์อย่างไรให้เหมาะกับงานตัด เมื่อ: 21 กันยายน 2023, 10:47:30
วิธีการเลือกเครื่องตัดเลเซอร์อย่างไรให้เหมาะกับงานตัดเลเซอร์ของคุณ

วิธีการเลือกเครื่องตัดเลเซอร์อย่างไรให้เหมาะกับงานตัดเลเซอร์ของคุณ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยประหยัดเวลาให้คุณอีกด้วย
คุณอาจจะต้องดูในหลายๆเรื่องอย่างเช่น ขนาดของโต๊ะตัดงาน ,พลังของเครื่องเลเซอร์, วัสดุความหนาของชิ้นงานของคุณ รวมถึงอุปกรณ์เสริมของเครื่องจักร
ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับการเลือกเครื่องตัดเลเซอร์เป็นอย่างมาก


งบประมาณของคุณ

งบประมาณเป็นปัจจัยหลักในการเลือกเครื่องตัดเลเซอร์อย่างมาก คุณต้องสำรวจงบประมาณหรือการลงทุนให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี และสามารถรับได้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่นำไปสู้การเลือกคุณภาพเครื่องตัดเลเซอร์ แบรนด์ และวัสดุของโครงสร้างเครืองตัดเลเซอร์
** เครื่องตัดเลเซอร์ในงบประมาณของคุณอาจจะรวมถึงการขนส่ง อุปกรณ์เสริม ปละการบำรุงรักษาที่อาจจะต้องคำนึงถึงตามาด้วย เช่น

  • เครื่องทำความเย็น สิ่งนี้เป็นอะไรที่สำคัญกับหลอดเลเซอร์อย่างมากยิ่งการตัดมีอุณหภูมิสูงเท่าใดการชดเชยอุณหภูมิก็ต้องมากขึ้นเท่านั้น เพื่อให้ตัวหลอดตัดมีความเย็นที่อุณหภูมิปกติ
  • ปั๊มลม ช่วยในเรื่องประสิธิภาพการตัดและลดเปลวไฟที่หัวนอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องการรักษาความสะอาดของเลนส์ตัด ป้องกันไม่ให้ควันเข้าสู่หัวฉีด
  • เครื่องดูดควัน เป็นส่วนหนึ่งในอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างมาก เพราะนอกจากจะส่งผลถึงงบประมาณยังรวมถึงการประเมินคุณภาพอากาศโดยรอบของโรงงานคุณอีกด้วย
ตำแหน่งของเครื่องตัดเลเซอร์ 

ตำแหน่งที่จะวางเครื่องตัดเลเซอร์ มีผลกระทบอย่างมากต่อการตัดงานของคุณซึ่งการวางตัดแหน่งควรคำนึงถึงการนำแผ่นขึ้นลง และการจัดเรียงชิ้นงานเมื่อแผ่นตัดเสร้จแล้ว ด้วยซึ่งจะเป็นการดูถึงลักษณตัวเครื่องการวางแผ่น และขนาดเครื่องเลเซอร์ที่จะสามารถวางได้
**ซึ่งการวางตำแหน่งในที่นี้รวมถึงการขนย้ายเครื่องระหว่างติตตั้งด้วยเช่นกัน ตัวอย่างถ้าหากว่าเครื่องตัดเลเซอร์ของคุณมีขนาดที่ใหญ่กว่าประตุทางเข้าคุณอาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการถอดประกอบเครื่องเพิ่มเติมอีกด้วย
และเมื่อติดตั้งตัวเครื่องตัเลเซอร์เสร์จแล้วคุณต้องเกี่ยวกับตำแหน่งการวางอุปกรณ์เสริมของเครื่องตัดด้วยอย่างปั๊มลม ตัวดูดควันหรือเครื่องทำความเย็น ให้ไม่ใกล้และชิดกันมากเกินไปเพื่อลด การสั่นสะเทือน และการระบายความร้อนระหว่างตัดชิ้นงาน
**คำแนะนำคือคุณควรเว้นพื้นที่ด้านหลังและด้านข้างของเครื่องอย่างน้อย 12" (300mm)
ขนาดแผ่นสูงสุดที่คุณจะใช้ 

คุณอาจจะต้องคำนึงถึงงานตัด หรือขนาดที่คุณจะต้องตัดใหญ่สุดหรืองานที่คุณอาจจะต้องทำในอนาคต แต่ไม่ควรเลือก โอเวอร์มากไปเพราะมันจะทำให้งบประมาณของคุณเสียเปล่าโดยไม่จำเป็น
พลังเลเซอร์ 

กำลังเลเซอร์ต้องสอดคล้องกับความหนาของงานที่คุณต้องการตัด พลังเลเซอรเป็นเช่นเดียวกับโต๊ะตัดคือคุณไม่ควรเลือกโอเวอร์มากไปเพราะว่าส่วนนนี้ก็ส่งผลต่อราคาเครื่องตัดด้วยเช่นกัน แต่ก็ไม่ควรน้อยไป เพราะว่าจะไม่สามารถรองรับการตัดชิ้นงานของคุณได้

นอกจากนี้เมื่อคุณได้พิจารณาจากตัวเครื่องตัดเลเซอร์โดยตรงแล้ว คุณควรพิจารณาอะไรอีก?
  • การรับประกันเครื่องจักรโดยทั่วไปเครื่องจะรับประกันอยู่ที่ 1 ปี จะดีกว่าถ้าหากคุณสามารถดูเครื่องที่รับประกันได้ยาวนานกว่า
  • ฟังก์ชั่นของเครื่องตัดงาน คุณควรดูเครื่องตัดเลเซอร์ที่สามารถทำงานได้หลากหลาย ถ้าหากคุณต้องการความคุ้มค่า
  • โต๊ะตัดโดยทั่วไปจะมีเพียง 1 โต๊ะตัดหากคุณต้องการประหยัดเวลาการทำงานจะดีถ้าหากว่าคุณสามารถเลือกเครื่องตัดเลเซอร์ที่ มีสองโต๊ะเพื่อประหยัดเวลาในการทำงานมากขึ้น
  • คุณควรเลือกเครื่องจักรที่มีโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทานต่อเรื่องไฟฟ้า เพราะการตัดเลเซอรเป็นงานที่ใช้กำลังไฟสูง วัสดุตัวเครื่องและอุปกรณ์ควรมีความแข็งแรงในด้านนี้
  • เครื่องจักที่คุณเลือกต้องมีการรับรองการองณ์กรที่น่าเชื่อถือ เพื่อเป็นหนึ่งในการรับรองว่าคุรได้จะได้เครื่องตัดเลเซอร์ที่ได้มาตราฐานสูงสุดในงานของคุณ

ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดนี้เราได้รวมไว้ที่เครื่อง เลเซอร์ FHBS เป็นเครื่องตัดเลเซอร์สัญชาติจีนที่เทียบเท่าคุณภาพทางยุโรป แต่มาพร้อมราคาที่ย่อมเยาว์ ซึ่งคุณสามารถเข้าเลือกชมได้ที่ เครื่องตัดเลเซอร์ FHBS

https://suthong.co.th/main/newsdetail/138
15  อื่นๆ / Cafe / เครื่องตัดเลเซอร์ และเครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์คืออะไร เมื่อ: 16 กันยายน 2023, 13:18:32
เครื่องตัดเลเซอร์ และเครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์คืออะไร

เครื่องตัดเลเซอร์ และเครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์คืออะไร

ไฟเบอร์เลเซอร์คืออะไร? แนวคิดของเครื่องเลเซอร์ไฟเบอร์เลเซอร์ นั้นเหมือนความรู้ทางคณิตศาสตร์ในหนังสือสำหรับผู้ไม่มีความรู้ทางคณิตศาสตร์ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ยากที่จะเรียนรู้เลเซอร์ไม่ได้เป็นเพียงกล่องเล็ก ๆ ที่ยิงจุดสีแดง แต่ยังใช้ในกระบวนการผลิตจำนวนมาก สามารถใช้ตัดโลหะและอโลหะ แต่เครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์ล่ะ? จากคำว่า “เครื่องจักร” เราสามารถเดาได้ว่ามันเป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซินหรือไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือกิจกรรมการผลิตของมนุษย์ ซึ่งเราทุกคนคุ้นเคย และเครื่องนี้เหมือนกับเครื่องตัดซีโอทู


1. เลเซอร์คืออะไร?
คำจำกัดความ: มันไม่เหมือนแสงธรรมดาที่เกิดจากการปล่อยสสารโดยธรรมชาติ แต่เป็นการกระตุ้นการแผ่รังสีของสสารซึ่งเรียกว่าการขยายแสงโดยการกระตุ้นการปล่อยรังสี

ลักษณะ: มันมี 4 ลักษณะความสว่างสูงทิศทางเดียว เอกรงค์สูงและการเชื่อมโยงสูง คุณลักษณะเหล่านั้นช่วยให้ความเข้มข้นของพลังงานเพิ่มความแม่นยำและความยาวในการวัดทิศทางแสงแบบอินเตอร์เฟอโรเมตริกต่าง ๆ ฯลฯ

ตามการจำแนกประเภทของแถบแสงเลเซอร์แบ่งออกเป็นสามประเภท ได้แก่ อินฟราเรด (เลเซอร์ซีโอทู, เลเซอร์ไฟเบอร์และแย็กเลเซอร์), เลเซอร์สีเขียวและเลเซอร์รังสีอัลตราไวโอเลต

2.การตัดด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์ทำงานอย่างไร?

การทำงานของเลเซอร์เกิดจากการใช้พลังงานความหนาแน่นพลังงานสูงซึ่งเกิดจากการโฟกัสด้วยเลเซอร์ มีตัวกลางที่ได้รับควรใส่ในช่องเลเซอร์สามารถเป็นของแข็งเช่นคริสตัลทับทิม, ของเหลวเป็นสารละลายย้อมสีหรือก๊าซเช่นส่วนผสมฮีเลียม – นีออนที่มีคุณสมบัติของการเปล่งแสงในความยาวคลื่นที่ต้องการเมื่อตื่นเต้น ในขณะที่แหล่งพลังงานสามารถทำให้เกิดการได้รับแสงปานกลางเพื่อเปล่งแสงในโพรงเลเซอร์

มันเกิดขึ้นเพราะอิเล็กตรอนในก๊าซถึงสถานะพลังงานที่สูงขึ้นโดยโมเลกุลที่น่าตื่นเต้นหรือใช้การปล่อย อย่างไรก็ตามเนื่องจากอิเล็กตรอนบางตัวจะกลับไปสู่สภาพพื้นดินตามธรรมชาติโดยการปล่อยแสงเพื่อใช้พลังงานส่วนเกินของพวกเขาเพราะพวกเขาต้องการสถานะนั้นซึ่งทำให้แสงถูกปล่อยออกมาแบบสุ่มในทุกทิศทาง และสามารถแก้ไขได้โดยใช้กระจกพวกเขาจำเป็นต้อง

ใส่ทั้งสองด้านของช่องเลเซอร์ด้วยการจัดตำแหน่งขนานที่แม่นยำ กระจกจะสะท้อนแสงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดสร้างรังสีของแสงที่ตั้งฉากได้อย่างสมบูรณ์แบบ และการสะสมของแสงตามแนวแกนของโพรงเลเซอร์ในที่สุดก็สร้างลำแสงเลเซอร์พลังงานสูงในขณะที่ความยากของการปล่อยก๊าซที่เกิดขึ้นเองสามารถทำได้โดยการกระตุ้นการปล่อยมลพิษ

ดังนั้นตอนนี้ลำแสงเลเซอร์จะถูกส่งและสะท้อนโดยเส้นทางแสงและมุ่งเน้นไปที่พื้นผิวของวัตถุที่ประมวลผลผ่านกลุ่มเลนส์โฟกัสเพื่อสร้างจุดที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงและละเอียดซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพื้นผิวที่จะดำเนินการ และละลายหรือกลายเป็นไอของวัสดุที่จะนำไปแปรรูปที่อุณหภูมิสูงทันที เช่นเดียวกับปืนฉีดน้ำแรงดันสูงลำแสงเลเซอร์จะทำให้เกิดรูเล็ก ๆ และรูปแบบของรูปร่างโดยการเคลื่อนที่สัมพัทธ์อย่างต่อเนื่องภายใต้การควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์

ให้เราทำความเข้าใจกับสิ่งนี้ได้ง่ายกว่าการตัดด้วยเลเซอร์คล้ายกับเกมที่ทุกคนเล่นในวัยเด็กนั่นคือ“ กระดาษเผาไหม้แว่นขยาย” แว่นขยายเป็นเลนส์นูนซึ่งมีฟังก์ชั่นในการโฟกัสแสงที่ส่งผ่านเลนส์ไปยังจุดหนึ่งดังนั้นแสงแดดจะถูกเก็บรวบรวมโดยแว่นขยายที่ความยาวโฟกัส เมื่อแสงมาบรรจบกันความเข้มข้นของแสงอาทิตย์ ณ จุดนั้นจะเพิ่มขึ้นทำให้เกิดความร้อนและสามารถส่องกระดาษได้ นั่นแหละ! คำสำคัญของการตัดด้วยเลเซอร์คือเครื่องกำเนิดเลเซอร์ด้วยหลักการทำงานของการผลิตลำแสงเลเซอร์ความหนาแน่นพลังงานสูงและการรวบรวมบนพื้นผิวของชิ้นงานเพื่อให้พื้นที่ที่ถูกฉายรังสีด้วยจุดโฟกัสที่ละเอียดมากละลายและเป็นแก๊สทันที และการตัดอัตโนมัติจะเกิดขึ้นได้โดยการย้ายตำแหน่งการฉายรังสีเฉพาะจุดผ่านระบบกลไกควบคุมเชิงตัวเลข และระบบซีเอ็นซีที่ใช้สำหรับการตั้งค่าความดันของวาล์วลดความดัน, พลังการตัด, ปริมาณของก๊าซเสริม, พารามิเตอร์การควบคุมการเคลื่อนไหว, ความสูงของตัวเก็บประจุความสูงและแผนที่ตัวอย่างตัด ฯลฯ

กระบวนการดำเนินการทั้งหมดแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอนสำคัญ ก่อนอื่นจำเป็นต้องตรวจสอบว่าเตียง, แร็คเกียร์, ระบบขับเคลื่อน, ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์, ระบบปฏิบัติการ, ระบบตัด, อุปกรณ์เตือนภัยและส่วนประกอบอื่น ๆ ผิดปกติหรือไม่ หลังจากยืนยันข้อผิดพลาดให้เริ่มเครื่องและใช้เครื่องมือเช่นรถยกเพื่อวางวัสดุที่จะตัดบนแผ่นเข็ม ขั้นต่อไปคือการตั้งค่าพารามิเตอร์การตัดต่างๆและรูปแบบการตัดผ่านระบบควบคุมเชิงตัวเลข หลังจากการตั้งค่าเสร็จสิ้นการตัดจะเริ่มขึ้น จากนั้นหลังจากเสร็จสิ้นตัวอย่างการตัดจะถูกดู หากมีปัญหาใด ๆ ก็สามารถดีบั๊กและประมวลผลแล้วในปริมาณมาก เมื่อเครื่องหยุดทำงานจะต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นประจำและปิดเครื่องในเวลา ในเวลาเดียวกันควรรักษาเครื่องให้สะอาดและเป็นระเบียบและต้องวางวัตถุขนาดเล็กเช่นภาพวาดและวัสดุสิ้นเปลืองอย่างเป็นระเบียบ

3.ส่วนประกอบหลักของเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ออปติกคืออะไร?

เครื่องกำเนิดไฟเบอร์เลเซอร์ต้องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างแน่นอนแล้วคนอื่น ๆ ล่ะ? เยี่ยมเลยมาดูกัน เนื่องจากเครื่องจักรสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างมีการกำหนดค่าที่แตกต่างกันและการออกแบบพิเศษบางอย่างดังนั้นเราจะเริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ปกติระบบซีเอ็นซีและซอฟต์แวร์


การตัดด้วยเลเซอร์หมายถึงการใช้ลำแสงเลเซอร์ความหนาแน่นสูงกำลังแรงสูงเพื่อส่องสว่างชิ้นงานทำให้วัสดุที่ฉายรังสีละลายอย่างรวดเร็วกลายเป็นไอระเหยระเหยหรือถึงจุดเผาไหม้ในขณะที่ตัดวัสดุหลอมเหลวโดยใช้ความร้อนสูง การไหลของอากาศความเร็วคู่กับลำแสงจึงตัดชิ้นงาน การตัดด้วยเลเซอร์เป็นหนึ่งในวิธีการตัดด้วยความร้อน การตัดด้วยเลเซอร์ใช้งานได้ด้วยการส่งเอาต์พุตของเลเซอร์กำลังแรงสูงโดยทั่วไปผ่านเลนส์ [laser optics] และ CNC (การควบคุมเชิงตัวเลขของคอมพิวเตอร์) ใช้เพื่อควบคุมวัสดุหรือลำแสงเลเซอร์ที่สร้างขึ้น เลเซอร์มีสามประเภทหลักที่ใช้ในการตัดด้วยเลเซอร์ เลเซอร์ CO2 เหมาะสำหรับการตัดน่าเบื่อและการแกะสลัก เลเซอร์นีโอดิเมียม (Nd) และนีโอดิเมียม yttrium-aluminum-garnet (Nd: YAG) เลเซอร์เหมือนกันในรูปแบบและแตกต่างกันเฉพาะในการใช้งาน Nd ใช้สำหรับการคว้านและในกรณีที่พลังงานสูง แต่ต้องการการทำซ้ำต่ำ เลเซอร์ Nd: YAG ถูกใช้เมื่อต้องการพลังงานสูงมากและสำหรับการคว้านและการแกะสลัก เลเซอร์ CO2 และ Nd / Nd: YAG สามารถใช้เชื่อมได้

ตามเครื่องกำเนิดเลเซอร์ที่แตกต่างกันเครื่องตัดเลเซอร์ทั่วไปในตลาดสามารถแบ่งได้เป็นสามประเภท:

เครื่องเลเซอร์ CO2 เครื่องตัดเลเซอร์ YAG (ของแข็ง) และเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ในหมู่พวกเขาเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 คือ เหมาะสำหรับอโลหะ มันสามารถตัดวัสดุที่ไม่ใช่โลหะเช่นไม้อะคริลิค PP และลูกแก้วที่มีคุณภาพสูง แต่อัตราการแปลงโฟโตอิเล็กทริกของเลเซอร์ CO2 มีเพียงประมาณ 10% ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร ตัดชิ้นส่วนพิเศษอย่างสม่ำเสมอการโฆษณาการตกแต่งและวัสดุที่ไม่ใช่โลหะอื่น ๆ ที่มีความหนาไม่เกินสามมิลลิเมตรและวัสดุที่ไม่ใช่โลหะที่ไม่เกินยี่สิบมิลลิเมตรเหมาะสำหรับเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 การตัดชิ้นงานที่มีรูปทรงการตัดที่ซับซ้อน แต่ปริมาณเล็กน้อยเหมาะสำหรับเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนและวงจรการผลิตแม่พิมพ์


https://suthong.co.th/main/newsdetail/122
16  อื่นๆ / Cafe / เครื่องตัดเลเซอร์ และเครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์คืออะไร เมื่อ: 12 กันยายน 2023, 10:42:34
ไฟเบอร์เลเซอร์คืออะไร? แนวคิดของเครื่องเลเซอร์ไฟเบอร์เลเซอร์ นั้นเหมือนความรู้ทางคณิตศาสตร์ในหนังสือสำหรับผู้ไม่มีความรู้ทางคณิตศาสตร์ แต่ในความเป็นจริงมันไม่ยากที่จะเรียนรู้เลเซอร์ไม่ได้เป็นเพียงกล่องเล็ก ๆ ที่ยิงจุดสีแดง แต่ยังใช้ในกระบวนการผลิตจำนวนมาก สามารถใช้ตัดโลหะและอโลหะ แต่เครื่องตัดไฟเบอร์เลเซอร์ล่ะ? จากคำว่า “เครื่องจักร” เราสามารถเดาได้ว่ามันเป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซินหรือไฟฟ้าเพื่อช่วยเหลือกิจกรรมการผลิตของมนุษย์ ซึ่งเราทุกคนคุ้นเคย และเครื่องนี้เหมือนกับเครื่องตัดซีโอทู

1. เลเซอร์คืออะไร?

คำจำกัดความ: มันไม่เหมือนแสงธรรมดาที่เกิดจากการปล่อยสสารโดยธรรมชาติ แต่เป็นการกระตุ้นการแผ่รังสีของสสารซึ่งเรียกว่าการขยายแสงโดยการกระตุ้นการปล่อยรังสี

ลักษณะ: มันมี 4 ลักษณะความสว่างสูงทิศทางเดียว เอกรงค์สูงและการเชื่อมโยงสูง คุณลักษณะเหล่านั้นช่วยให้ความเข้มข้นของพลังงานเพิ่มความแม่นยำและความยาวในการวัดทิศทางแสงแบบอินเตอร์เฟอโรเมตริกต่าง ๆ ฯลฯ

ตามการจำแนกประเภทของแถบแสงเลเซอร์แบ่งออกเป็นสามประเภท ได้แก่ อินฟราเรด (เลเซอร์ซีโอทู, เลเซอร์ไฟเบอร์และแย็กเลเซอร์), เลเซอร์สีเขียวและเลเซอร์รังสีอัลตราไวโอเลต

2.การตัดด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์ทำงานอย่างไร?


การทำงานของเลเซอร์เกิดจากการใช้พลังงานความหนาแน่นพลังงานสูงซึ่งเกิดจากการโฟกัสด้วยเลเซอร์ มีตัวกลางที่ได้รับควรใส่ในช่องเลเซอร์สามารถเป็นของแข็งเช่นคริสตัลทับทิม, ของเหลวเป็นสารละลายย้อมสีหรือก๊าซเช่นส่วนผสมฮีเลียม – นีออนที่มีคุณสมบัติของการเปล่งแสงในความยาวคลื่นที่ต้องการเมื่อตื่นเต้น ในขณะที่แหล่งพลังงานสามารถทำให้เกิดการได้รับแสงปานกลางเพื่อเปล่งแสงในโพรงเลเซอร์

มันเกิดขึ้นเพราะอิเล็กตรอนในก๊าซถึงสถานะพลังงานที่สูงขึ้นโดยโมเลกุลที่น่าตื่นเต้นหรือใช้การปล่อย อย่างไรก็ตามเนื่องจากอิเล็กตรอนบางตัวจะกลับไปสู่สภาพพื้นดินตามธรรมชาติโดยการปล่อยแสงเพื่อใช้พลังงานส่วนเกินของพวกเขาเพราะพวกเขาต้องการสถานะนั้นซึ่งทำให้แสงถูกปล่อยออกมาแบบสุ่มในทุกทิศทาง และสามารถแก้ไขได้โดยใช้กระจกพวกเขาจำเป็นต้อง

ใส่ทั้งสองด้านของช่องเลเซอร์ด้วยการจัดตำแหน่งขนานที่แม่นยำ กระจกจะสะท้อนแสงอย่างไม่มีที่สิ้นสุดสร้างรังสีของแสงที่ตั้งฉากได้อย่างสมบูรณ์แบบ และการสะสมของแสงตามแนวแกนของโพรงเลเซอร์ในที่สุดก็สร้างลำแสงเลเซอร์พลังงานสูงในขณะที่ความยากของการปล่อยก๊าซที่เกิดขึ้นเองสามารถทำได้โดยการกระตุ้นการปล่อยมลพิษ

ดังนั้นตอนนี้ลำแสงเลเซอร์จะถูกส่งและสะท้อนโดยเส้นทางแสงและมุ่งเน้นไปที่พื้นผิวของวัตถุที่ประมวลผลผ่านกลุ่มเลนส์โฟกัสเพื่อสร้างจุดที่มีความหนาแน่นพลังงานสูงและละเอียดซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับพื้นผิวที่จะดำเนินการ และละลายหรือกลายเป็นไอของวัสดุที่จะนำไปแปรรูปที่อุณหภูมิสูงทันที เช่นเดียวกับปืนฉีดน้ำแรงดันสูงลำแสงเลเซอร์จะทำให้เกิดรูเล็ก ๆ และรูปแบบของรูปร่างโดยการเคลื่อนที่สัมพัทธ์อย่างต่อเนื่องภายใต้การควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์

ให้เราทำความเข้าใจกับสิ่งนี้ได้ง่ายกว่าการตัดด้วยเลเซอร์คล้ายกับเกมที่ทุกคนเล่นในวัยเด็กนั่นคือ“ กระดาษเผาไหม้แว่นขยาย” แว่นขยายเป็นเลนส์นูนซึ่งมีฟังก์ชั่นในการโฟกัสแสงที่ส่งผ่านเลนส์ไปยังจุดหนึ่งดังนั้นแสงแดดจะถูกเก็บรวบรวมโดยแว่นขยายที่ความยาวโฟกัส เมื่อแสงมาบรรจบกันความเข้มข้นของแสงอาทิตย์ ณ จุดนั้นจะเพิ่มขึ้นทำให้เกิดความร้อนและสามารถส่องกระดาษได้ นั่นแหละ! คำสำคัญของการตัดด้วยเลเซอร์คือเครื่องกำเนิดเลเซอร์ด้วยหลักการทำงานของการผลิตลำแสงเลเซอร์ความหนาแน่นพลังงานสูงและการรวบรวมบนพื้นผิวของชิ้นงานเพื่อให้พื้นที่ที่ถูกฉายรังสีด้วยจุดโฟกัสที่ละเอียดมากละลายและเป็นแก๊สทันที และการตัดอัตโนมัติจะเกิดขึ้นได้โดยการย้ายตำแหน่งการฉายรังสีเฉพาะจุดผ่านระบบกลไกควบคุมเชิงตัวเลข และระบบซีเอ็นซีที่ใช้สำหรับการตั้งค่าความดันของวาล์วลดความดัน, พลังการตัด, ปริมาณของก๊าซเสริม, พารามิเตอร์การควบคุมการเคลื่อนไหว, ความสูงของตัวเก็บประจุความสูงและแผนที่ตัวอย่างตัด ฯลฯ

กระบวนการดำเนินการทั้งหมดแบ่งออกเป็นหลายขั้นตอนสำคัญ ก่อนอื่นจำเป็นต้องตรวจสอบว่าเตียง, แร็คเกียร์, ระบบขับเคลื่อน, ระบบควบคุมอิเล็กทรอนิกส์, ระบบปฏิบัติการ, ระบบตัด, อุปกรณ์เตือนภัยและส่วนประกอบอื่น ๆ ผิดปกติหรือไม่ หลังจากยืนยันข้อผิดพลาดให้เริ่มเครื่องและใช้เครื่องมือเช่นรถยกเพื่อวางวัสดุที่จะตัดบนแผ่นเข็ม ขั้นต่อไปคือการตั้งค่าพารามิเตอร์การตัดต่างๆและรูปแบบการตัดผ่านระบบควบคุมเชิงตัวเลข หลังจากการตั้งค่าเสร็จสิ้นการตัดจะเริ่มขึ้น จากนั้นหลังจากเสร็จสิ้นตัวอย่างการตัดจะถูกดู หากมีปัญหาใด ๆ ก็สามารถดีบั๊กและประมวลผลแล้วในปริมาณมาก เมื่อเครื่องหยุดทำงานจะต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นประจำและปิดเครื่องในเวลา ในเวลาเดียวกันควรรักษาเครื่องให้สะอาดและเป็นระเบียบและต้องวางวัตถุขนาดเล็กเช่นภาพวาดและวัสดุสิ้นเปลืองอย่างเป็นระเบียบ

3.ส่วนประกอบหลักของเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ออปติกคืออะไร?


เครื่องกำเนิดไฟเบอร์เลเซอร์ต้องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างแน่นอนแล้วคนอื่น ๆ ล่ะ? เยี่ยมเลยมาดูกัน เนื่องจากเครื่องจักรสำหรับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างมีการกำหนดค่าที่แตกต่างกันและการออกแบบพิเศษบางอย่างดังนั้นเราจะเริ่มต้นด้วยอุปกรณ์ปกติระบบซีเอ็นซีและซอฟต์แวร์


การตัดด้วยเลเซอร์หมายถึงการใช้ลำแสงเลเซอร์ความหนาแน่นสูงกำลังแรงสูงเพื่อส่องสว่างชิ้นงานทำให้วัสดุที่ฉายรังสีละลายอย่างรวดเร็วกลายเป็นไอระเหยระเหยหรือถึงจุดเผาไหม้ในขณะที่ตัดวัสดุหลอมเหลวโดยใช้ความร้อนสูง การไหลของอากาศความเร็วคู่กับลำแสงจึงตัดชิ้นงาน การตัดด้วยเลเซอร์เป็นหนึ่งในวิธีการตัดด้วยความร้อน การตัดด้วยเลเซอร์ใช้งานได้ด้วยการส่งเอาต์พุตของเลเซอร์กำลังแรงสูงโดยทั่วไปผ่านเลนส์ [laser optics] และ CNC (การควบคุมเชิงตัวเลขของคอมพิวเตอร์) ใช้เพื่อควบคุมวัสดุหรือลำแสงเลเซอร์ที่สร้างขึ้น เลเซอร์มีสามประเภทหลักที่ใช้ในการตัดด้วยเลเซอร์ เลเซอร์ CO2 เหมาะสำหรับการตัดน่าเบื่อและการแกะสลัก เลเซอร์นีโอดิเมียม (Nd) และนีโอดิเมียม yttrium-aluminum-garnet (Nd: YAG) เลเซอร์เหมือนกันในรูปแบบและแตกต่างกันเฉพาะในการใช้งาน Nd ใช้สำหรับการคว้านและในกรณีที่พลังงานสูง แต่ต้องการการทำซ้ำต่ำ เลเซอร์ Nd: YAG ถูกใช้เมื่อต้องการพลังงานสูงมากและสำหรับการคว้านและการแกะสลัก เลเซอร์ CO2 และ Nd / Nd: YAG สามารถใช้เชื่อมได้


ตามเครื่องกำเนิดเลเซอร์ที่แตกต่างกันเครื่องตัดเลเซอร์ทั่วไปในตลาดสามารถแบ่งได้เป็นสามประเภท:

เครื่องเลเซอร์ CO2 เครื่องตัดเลเซอร์ YAG (ของแข็ง) และเครื่องตัดเลเซอร์ไฟเบอร์ในหมู่พวกเขาเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 คือ เหมาะสำหรับอโลหะ มันสามารถตัดวัสดุที่ไม่ใช่โลหะเช่นไม้อะคริลิค PP และลูกแก้วที่มีคุณภาพสูง แต่อัตราการแปลงโฟโตอิเล็กทริกของเลเซอร์ CO2 มีเพียงประมาณ 10% ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร ตัดชิ้นส่วนพิเศษอย่างสม่ำเสมอการโฆษณาการตกแต่งและวัสดุที่ไม่ใช่โลหะอื่น ๆ ที่มีความหนาไม่เกินสามมิลลิเมตรและวัสดุที่ไม่ใช่โลหะที่ไม่เกินยี่สิบมิลลิเมตรเหมาะสำหรับเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 การตัดชิ้นงานที่มีรูปทรงการตัดที่ซับซ้อน แต่ปริมาณเล็กน้อยเหมาะสำหรับเครื่องตัดเลเซอร์ CO2 ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนและวงจรการผลิตแม่พิมพ์


https://suthong.co.th/main/newsdetail/122

บริษัท สุทอง แมชชีนเนอรี่ จำกัด ดำเนินการธุรกิจนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมงานโลหะ เครื่อง CNC เครื่องเลเซอร์ ครบวงจร

สามารถเข้าชมเครื่องจักรได้ที่โชว์รูม สุทอง แมชชีนเนอรี่
เวลาเปิดทำการ : จันทร์-เสาร์ (8.00-17.00 น.) โทร 02-896-1818
ติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : Suthong1990
 
17  อื่นๆ / Cafe / การใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องมิลลิ่ง ความเปลี่ยนแปลงในอนาคตของเครื่องมิลลิ่ง เมื่อ: 28 สิงหาคม 2023, 14:21:28
การใช้งานและการบำรุงรักษาเครื่องมิลลิ่ง ความเปลี่ยนแปลงในอนาคตของเครื่องมิลลิ่ง

โดยทั่วไปแล้วเครื่องมิลลิ่งเป็นเครื่องจักรที่สำคัญเป็นอย่างมากในการผลิตชิ้นส่วนในงานโลหะ เรียกได้ว่าทุกโรงงานจะต้องมีใช้งานกันโดยทั่วไป ซึ่งเครื่องมิลลิ่งจะนิยมใช้ในงานผลิตที่มีความซับซ้อนและความแม่นยำต่ำจนถึงความแม่นยำสูงในหลากหลายอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น

  • อุตสาหกรรมยานยนต์: เครื่องมิลลิ่งใช้ในการผลิตชิ้นส่วนของรถยนต์ เช่น ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนของ assis หรือคอมโพเนนต์ต่างๆ ที่มีความซับซ้อนและต้องการความแม่นยำสูงในการผลิต
  • อุตสาหกรรมการผลิตอิเล็กทรอนิกส์: การผลิตวงจรพิมพ์ (PCB) เป็นต้น ความแม่นยำในการกัดเจิมเส้นที่บางมากในวงจรพิมพ์ต้องใช้เครื่องมิลลิ่งเพื่อความแม่นยำและคุณภาพที่ดี
  • อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์ไฟฟ้า: การผลิตชิ้นส่วนของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น มอเตอร์ สวิตช์ หรือเซ็นเซอร์ ต้องใช้เครื่องมิลลิ่งในการเนียนแกนหรือชิ้นส่วนต่างๆ
  • อุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์การแพทย์: การผลิตชิ้นส่วนของอุปกรณ์การแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ ชิ้นส่วนของเครื่องฉีดยา หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วย
  • อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือและอุปกรณ์โลจิสติกส์: เครื่องมิลลิ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตชิ้นส่วนของเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในงานโลจิสติกส์ เช่น ราวสไลด์ เครื่องมือกล เป็นต้น
  • อุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์อุตสาหกรรม: การผลิตชิ้นส่วนของเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น ลูกปืน สายพาน และชิ้นส่วนเครื่องจักรอื่นๆ
  • อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุ: เครื่องมิลลิ่งมีบทบาทในการผลิตวัสดุที่มีความซับซ้อน และต้องการความแม่นยำ เช่น ชิ้นส่วนของรูปพลาสติก ชิ้นส่วนเหล็กสแตนเลส หรือวัสดุอื่นๆ
  • อุตสาหกรรมการผลิตงานชิ้นงานทางศิลปะและดีไซน์: เครื่องมิลลิ่งใช้ในการผลิตชิ้นงานทางศิลปะ ชิ้นงานตกแต่ง หรือส่วนของผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบที่ซับซ้อน

นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กน้อยเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้เครื่องมิลลิ่งในการผลิตชิ้นส่วนในหลากหลายอุตสาหกรรม ความสามารถของเครื่องมิลลิ่งในการเรียกใช้ในงานต่างๆ ยังมีความหลากหลายมากและเป็นเรื่องน่าทึ่งที่จะสำรวจอีกมากมายได้



ประเภทของเครื่องจักรมิลลิ่ง: เครื่องมิลลิ่งมีหลายประเภทตามลักษณะการทำงานและการเคลื่อนที่ของเครื่อง ยกตัวอย่างประเภทของเครื่องมิลลิ่ง

  • มิลลิ่งแนวตั้ง (Vertical Milling Machine): เครื่องมิลลิ่งที่มีตารางที่เคลื่อนที่ขึ้น-ลงและสามารถหมุนรอบแกนตั้งได้ ส่วนมิลลิ่งหัวมีการเคลื่อนที่ไป-กลับและซ้าย-ขวา ประเภทนี้เหมาะสำหรับการทำงานที่ต้องการการกัดเจิมแนวตั้งหรือการทำช่องร่องในชิ้นงาน
  • มิลลิ่งแนวนอน (Horizontal Milling Machine): เครื่องมิลลิ่งที่ตารางเคลื่อนที่ไป-มาและหัวมิลล์เคลื่อนที่ขึ้น-ลง ส่วนการเคลื่อนที่ไป-กลับและซ้าย-ขวา ประเภทนี้เหมาะสำหรับการกัดเจิมแนวนอนหรือการทำช่องร่องแนวนอนในชิ้นงาน
  • Bed Type Milling Machine: เครื่องมิลลิ่งที่มีส่วนเสา (bed) ที่เสริมสร้างขึ้นมาเพื่อรองรับตัวแปรง ซึ่งทำให้เครื่องมีความแม่นยำสูงและเหมาะสำหรับงานที่ซับซ้อน
  • มิลลิ่งเจาะ (Drill Press Milling Machine): เครื่องมิลลิ่งที่มีความเชื่อมโยงระหว่างมิลลิ่งและเครื่องเจาะ ช่วยให้สามารถทำงานเจาะและกัดเจิมได้ในรูปแบบเดียวกัน
  • Planer Type Milling Machine: เครื่องมิลลิ่งที่มีชุดมีดสองชุดที่เคลื่อนที่เชื่อมต่อกัน ชุดหนึ่งเคลื่อนที่แนวตั้งและอีกชุดเคลื่อนที่แนวนอน ประเภทนี้เหมาะสำหรับงานที่ใหญ่และซับซ้อน
  • เครื่องมิลลิ่ง CNC (CNC Milling Machine): เครื่องมิลลิ่งที่ใช้ระบบคอมพิวเตอร์แบบประสมที่สามารถควบคุมการเคลื่อนที่ของมิลล์และการทำงานอื่นๆ อัตโนมัติได้ มีความแม่นยำสูงและเหมาะสำหรับงานที่ซับซ้อน
  • Facing Milling Machine: เครื่องมิลลิ่งที่ใช้ในการทำงานเข้าฉายหรือกัดผิวตัวชิ้นงาน ช่วยให้การทำความสะอาดผิวชิ้นงานหรือการหั่นตัดให้แนวตรงกับผิวชิ้นงาน
  • มิลลิ่งสายพาน (Copy Milling Machine): เครื่องมิลลิ่งที่ใช้สายพานหรือพื้นแผ่นเป็นตัวนำในการกัดเจิมโดยสามารถคัดลอกรูปร่างของสายพานหรือพื้นแผ่นลงบนชิ้นงานได้


กระบวนการทำงานของเครื่องมิลลิ่ง

  • เตรียมชิ้นงานและเครื่องมือ:ตั้งแต่เริ่มต้นก่อนเริ่มทำงาน เครื่องมิลลิ่งต้องเตรียมชิ้นงานและเครื่องมือที่ใช้ให้พร้อม เช่น ความแม่นยำในการจัดตำแหน่งชิ้นงานบนตาราง เลือกเครื่องมือตัดที่เหมาะสม เป็นต้น
  • กำหนดตำแหน่งเริ่มต้น:ก่อนเริ่มทำงาน เครื่องมิลลิ่งจะต้องเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งเริ่มต้นของการกัดหรือเจาะ การกำหนดตำแหน่งนี้อาจใช้ระบบ CNC (Computer Numerical Control) ในกรณีเครื่องมิลลิ่งแบบอัตโนมัติ
  • การตั้งค่าความละเอียดและความเร็ว:ตั้งค่าความละเอียดที่ต้องการในการกัดหรือเจาะ รวมถึงความเร็วการหมุนของเครื่องมิลล์ การตั้งค่าเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับวัสดุของชิ้นงานและเครื่องมือที่ใช้
  • การเคลื่อนที่ของเครื่องมิลล์:เมื่อตั้งค่าเสร็จสิ้น เครื่องมิลล์จะเริ่มเคลื่อนที่ตามตำแหน่งที่กำหนด แกนต่างๆ ของเครื่องมิลล์จะเคลื่อนที่ตามแนวตรงหรือแนวหมุนตามคำสั่งที่กำหนด
  • การกัดหรือเจาะ:เครื่องมิลล์จะใช้เครื่องมือตัดเช่น หัวมิลล์ หรืออุปกรณ์ตัดอื่น ๆ ในการกัดหรือเจาะชิ้นงาน การกัดหรือเจาะจะเกิดขึ้นเมื่อเครื่องมิลล์เคลื่อนที่และทำการตัดเป็นช่องว่างในชิ้นงาน
  • การเคลื่อนที่ของเครื่องมิลล์ในแต่ละแกน:ขึ้นอยู่กับงานที่ต้องการ เครื่องมิลล์อาจต้องเคลื่อนที่ในแกนต่าง ๆ ในขณะที่กำลังกัดหรือเจาะ เพื่อสร้างรูปร่างหรือขนาดที่ต้องการ
  • การควบคุมความละเอียดและความแม่นยำ:ระหว่างการทำงาน เครื่องมิลล์จะต้องควบคุมความละเอียดและความแม่นยำในการเรียบเรียงและตำแหน่งการตัดเพื่อให้ได้รูปร่างและมิติที่ถูกต้อง
  • การเสร็จสิ้นการทำงาน:เมื่อการกัดหรือเจาะเสร็จสิ้นตามแบบที่กำหนด เครื่องมิลล์จะหยุดเคลื่อนที่และเริ่มที่ตำแหน่งเริ่มต้น
  • การตรวจสอบและความสะอาด:หลังจากเสร็จสิ้นการทำงาน เครื่องมิลล์จะต้องทำการตรวจสอบชิ้นงานว่ามีความแม่นยำและคุณภาพตามที่ต้องการ


การตรวจสอบและความสะอาด:หลังจากเสร็จสิ้นการทำงาน เครื่องมิลล์จะต้องทำการตรวจสอบชิ้นงานว่ามีความแม่นยำและคุณภาพตามที่ต้องการ
  • การอัตโนมัติและความเชื่อมโยงกับระบบอื่น ๆ:เครื่องมิลลิ่งอาจก้าวสู่ระบบการทำงานอัตโนมัติที่ซับซ้อนขึ้น รวมถึงการเชื่อมโยงกับระบบอื่น ๆ เช่น การใช้ร่มทางเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่งและระบบเซ็นเซอร์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการติดตามสถานะของการผลิต
  • การใช้เทคโนโลยี CNC และความฉลาดประดิษฐ์:เครื่องมิลลิ่งที่มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี CNC (Computer Numerical Control) และความฉลาดประดิษฐ์สูง จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงความสามารถในการปรับปรุงกระบวนการได้อย่างรวดเร็ว
  • การใช้วัสดุและเทคโนโลยีใหม่:การพัฒนาวัสดุที่ใช้ในการผลิตและการใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น วัสดุที่มีความแข็งแรงสูงและเบ็ดเสร็จที่ยิ่งใหญ่ อาจส่งผลให้เครื่องมิลลิ่งสามารถกัดหรือเจาะวัสดุที่ซับซ้อนและแข็งแรงได้มากขึ้น
  • การพัฒนาความสามารถในการกัดแบบหลายมิติ:เครื่องมิลลิ่งแบบหลายมิติ (Multi-axis Milling) อาจก้าวข้ามขีดจำกัดของการกัดแบบสามมิติ ซึ่งจะช่วยให้สามารถกัดชิ้นงานที่ซับซ้อนและรูปร่างที่ซับซ้อนได้มากขึ้น
  • ความสำคัญของการอนุมัติและความสิ่งแวดล้อม:ตลาดที่มีความสำคัญกับการอนุมัติและความสิ่งแวดล้อมมีแนวโน้มที่จะเน้นในการพัฒนาเครื่องจักรมิลลิ่งที่มีประสิทธิภาพสูงและอยู่ในเนื้อที่กึ่งอนุมัติ เพื่อลดการใช้พลังงานและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
  • การใช้งานในอุตสาหกรรมต่างๆ:เครื่องจักรมิลลิ่งจะยังคงเป็นส่วนสำคัญของหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การแพทย์ โลจิสติกส์ และอื่น ๆ

ดังนั้น การพัฒนาเครื่องจักรมิลลิ่งที่ตอบสนองความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรมจะยังคงมีความสำคัญ การพัฒนาเครื่องจักรมิลลิ่งในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยี ความต้องการของตลาด และความสามารถในการรับมือกับความท้าทายในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

18  อื่นๆ / Cafe / ความรู้เกี่ยวกับเครื่องตัดเลเซอร์ เมื่อ: 28 สิงหาคม 2023, 13:58:41
ความรู้เกี่ยวกับเครื่องตัดเลเซอร์

เครื่องตัดเลเซอร์ Laser Cutting Machine มีคุณสมบัติและหลักการทำงานอย่างไร

คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการตัดวัสดุที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นเทคโนโลยีสำหรับการตัดชิ้นงานที่มีคุณภาพภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว สามารถตัดวัสดุทั่วไปที่มีขนาดไม่หนามาก ปัจจุบันสามารถตัดได้หนาถึง 15มม สามารถตัดวัสดุที่มีรูปร่างซับซ้อนได้อย่างแม่นยำ การตัดโดยใช้เลเซอร์ เป็นการใช้ความร้อนจากลำแสงเลเซอร์ ซึ่งเป็นแสงที่มีช่วงความถี่คลื่นแคบ มีความเข้มและพลังงานสูงผ่านไปบนวัสดุ ทำให้บริเวณจุดที่รับลำแสงหลอมละลาย โดยเมื่อเคลื่อนแนวลำแสงนี้ ก็จะทำให้สามารถตัดชิ้นวัสดุได้ เครื่องตัดเลเซอร์ มีทั้งแบบตัดด้วยมือ และแบบติดตั้งกับระบบ CNC ซึ่งควบคุมการตัดด้วยคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะวัสดุที่มีรูปร่างซับซ้อน การใช้เลเซอร์ในการตัดจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจและแม่นยำอย่างมากทีเดียว โดยระบบการตัดด้วยเลเซอร์นี้จะใช้ความร้อนผ่านไปบนวัตถุ ทำให้วัตถุบริเวณที่โดนความร้อนจากลำแสงละลายอย่างรวดเร็วและถูกตัดออกมาเป็นชิ้นอย่างละเมียดสวยงาม อีกทั้งเครื่องตัดเลเซอร์ดังกล่าวก็มี 2 แบบด้วยกัน คือแบบตัดด้วยมือ และแบบติดตั้งกับระบบ CNC ที่ควบคุมการตัดด้วยคอมพิวเตอร์



แหล่งกำเนิดของแสงเลเซอร์
แสงเลเซอร์มีแหล่งกำเนิดมาจากกระบวนการหนึ่ง โดยเป็นกระบวนการที่ทำให้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซฮีเลียมและก๊าซไนโตรเจน ผ่านเข้าไปในแท่งทรงกระบอกกลวงพร้อมๆ กัน ตามด้วยการกระตุ้นอะตอมของก๊าซด้วยพลังงานไฟฟ้า จึงทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ คือพลังงานที่ถูกปลดปล่อยออกมาในรูปของลำแสงเลเซอร์


หัวตัดเลเซอร์

หัวตัดเลเซอร์ จะประกอบด้วยส่วนสร้างลำแสงเลเซอร์ ซึ่งลำแสงที่ได้นี้ก็จะมีช่วงความยาวคลื่นเฉพาะ โดยลำแสงเลเซอร์จะส่องผ่านไปยังเลนส์เพื่อบีบลำแสงให้แคบและมีความเข้มสูงทำให้เกิดลำแสงเลเซอร์ที่พร้อมตัดวัตถุให้ขาดจากกันได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ นอกจากนี้ หลังตัดชิ้นงานเรียบร้อยแล้ว หัวตัดก็จะนำเข้าก๊าซที่มีความดันต่ำ เพื่อเป่าไล่เศษจากการตัดชิ้นงานให้หมดไปอีกด้วย จึงไม่เหลือร่องรอยการตัดไว้ให้เห็น

ปัจจุบันอุตสาหกรรมการผลิตนิยมใช้ การตัดชิ้นงานด้วยเลเซอร์ เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและความแม่นยำในการผลิต ทำให้ได้ชิ้นงานที่สวย ตรงสเปคและประหยัด แต่หากชิ้นงานมีความหนามาก ก็อาจทำให้ต้องสิ้นเปลืองก๊าซและพลังงานในการผลิตเลเซอร์มากพอสมควร ซึ่งเลเซอร์ที่นิยมใช้ในการตัดโลหะนั้น ก็คือ CO2 Laser ที่สามารถตัดชิ้นงานที่มีช่วงความหนาตั้งแต่ 0.5-15 มม. นอกจากนี้ การตัดวัตถุด้วยเลเซอร์ก็นิยมใช้กับชิ้นงานที่มีความซับซ้อน เนื่องจากเครื่องตัดเลเซอร์ สามารถนำเข้า CAD ได้โดยตรง จึงสามารถตัดชิ้นงานที่มีความซับซ้อนให้ได้ชิ้นงานตามต้องการ อย่างรวดเร็วทันใจและคุ้มค่าต้นทุนในการตัด ทั้งยังเหมาะกับการนำมาตัดงานตามแบบเพื่อใช้เป็นต้นแบบ


ไฟล์งานที่ โปรแกรมของเครื่องตัดเลเซอร์ รองรับได้คือ

File “.ai” จากโปรแกรม Coral Draw

File “.dxf” จากโปรแกรม Auto Cad


เปรียบเทียบการตัดโดยเครื่องตัดเลเซอร์กับการตัดแบบหัวตัดพลาสม่า หัวตัดแก๊ส LPG จะมีรอยตัดใหญ่ เกิดรอยไหม้ที่ชิ้นงานในบริเวณกว้าง ต้องเสียแรงงานในการปรับแต่งผิวชิ้นงาน การตัดโดยเครื่องตัดเลเซอร์ทำให้เกิดแก๊สน้อย, ได้ชิ้นงานที่มีคุณภาพ, และมีความเร็วในการตัดสูงมาก ดังนั้น การตัดด้วยเลเซอร์จึงเป็นวิธีที่น่าสนใจอย่างมาก



https://suthong.co.th/main/newsdetail/120
19  อื่นๆ / Cafe / ความสำคัญของเครื่องกลึงในโรงงาน เมื่อ: 31 กรกฎาคม 2023, 16:05:07
ความสำคัญของเครื่องกลึงในโรงงาน

เครื่องกลึงโลหะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการการผลิตและการกลึงโลหะเพื่อสร้างชิ้นงานโลหะที่ต้องการรูปร่างหรือขนาดเฉพาะ นอกจากนี้ยังสามารถใช้กับวัสดุอื่น ๆ เช่น ไม้ และพลาสติก ซึ่งมีประโยชน์ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมโลหะการผลิตรถยนต์, อุตสาหกรรมการขนส่ง, และอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ด้วยเหตุนี้ เราจะมาเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องกลึงได้ดังนี้:
  • ประวัติความเป็นมาของเครื่องกลึงโลหะ : เครื่องกลึงในยุคอุตสาหกรรม: ในปี 1800 โรงงานอุตสาหกรรมในยุโรปเริ่มใช้เครื่องกลึงสำหรับการผลิตในมาตรฐานใหม่ ๆ การพัฒนาเครื่องกลึง CNC: ในปี ค.ศ. 1940 เครื่องกลึงควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์หรือเครื่องกลึง CNC (Computer Numerical Control) ได้ถูกพัฒนาขึ้น ซึ่งเปิดโอกาสในการผลิตชิ้นงานที่ซับซ้อนและซ้ำซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หลักการทำงานของเครื่องกลึงโลหะ:
    - หน่วยขับเคลื่อน: ซึ่งประกอบด้วยมอเตอร์หรือเครื่องยนต์ที่ให้พลังงานในการเคลื่อนไหวของเครื่องกลึง โดยส่วนนี้สามารถทำงานด้วยพลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานไอน้ำ ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องกลึง
    - พวงมาลัยหรือเพลา (Headstock): ส่วนที่ทำหน้าที่ในการเก็บเครื่องมือสำหรับกลึง เพลาสามารถหมุนเพื่อกลึงวัสดุโลหะ
    - กระบอกสกีน (Tailstock): ส่วนที่ทำหน้าที่ในการรัดตัวอย่างของวัสดุในเครื่องกลึง และช่วยให้เครื่องกลึงสามารถกลึงชิ้นงานที่ยาวขึ้นได้
    - โต๊ะกลึง (Toolpost): ส่วนที่เกิดการกลึงโลหะจากการใช้เครื่องมือต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นมีดกลึง (cutting tool) หรือเครื่องมืออื่น ๆ ตามความต้องการ
  • ประเภทของเครื่องกลึงโลหะ:
    - Manual Lathe
    - Engine Lathe
    - Computer Numerical Control Lathe
    - Turret Lathe
    - Swiss Lathe
  • ความปลอดภัย:
    - ตรวจสอบเครื่องกลึง: ก่อนการใช้งานเครื่องกลึง ควรตรวจสอบสภาพของเครื่องกลึงทุกครั้ง เช่น สภาพของพวงมาลัยและกระบอกสกีน การเคลื่อนไหวของส่วนประกอบ เป็นต้น เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องกลึงพร้อมใช้งานและประสิทธิภาพ
    - การใส่เครื่องมือกลึง: ใส่เครื่องมือกลึงให้สนิทและมั่นใจว่าถูกติดตั้งอย่างถูกต้อง และเสียบรัดไว้อย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันการหลุดหรือไหล่ออกของเครื่องมือระหว่างการกลึง
    - การใส่งาน (Workpiece): ต้องเก็บและควบคุมงานให้แน่นหนาและติดตั้งให้สม่ำเสมอเพื่อป้องกันการถูกปล่อยหรือขับออกเมื่อกลึง
    - การสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน: ช่างกลึงควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวกกันกระแทก, แว่นกันแดด, เสื้อคลุม และถุงมือ เพื่อป้องกันอันตรายจากวัสดุที่กระสุนออกมาระหว่างการกลึง
  • การบำรุงรักษา:
    - การทำความสะอาด: เครื่องกลึงควรถูกทำความสะอาดและขัดแต่งเป็นประจำ เพื่อล้างออกคราบอากาศ สิ่งสกปรก และหนอนที่สะสมในการใช้งาน
    - การเช็ดน้ำมัน: ใช้น้ำมันหล่อลื่นที่ถูกต้องในการบำรุงรักษาต่อเครื่องกลึง ซึ่งช่วยลดการเกิดการแตกหรือหายใจของเครื่องและส่วนประกอบ
    - การตรวจสอบเครื่องมือกลึง: ตรวจสอบเครื่องมือกลึงอย่างเป็นประจำ และแทนที่เครื่องมือที่ใช้งานไม่ได้และสึกหมดอายุการใช้งาน
    - การตรวจสอบสภาพพื้นผิว: ตรวจสอบสภาพพื้นผิวของเครื่องกลึงและรัดควบคู่ให้แน่นหนา
    - ตรวจสอบระบบควบคุม: ตรวจสอบระบบควบคุมการทำงานของเครื่องกลึงและการปรับปรุงให้มั่นใจว่าการทำงานเป็นไปอย่างต่อเนื่องและถูกต้อง

ความสำคัญของเครื่องกลึงในโรงงาน
เครื่องกลึงเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญอย่างมากในโรงงานและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนี้:
  • การผลิตและการรูปร่างงาน: เครื่องกลึงช่วยให้การผลิตสินค้าและชิ้นงานที่ต้องการรูปร่างหรือขนาดเฉพาะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถกลึงโลหะหรือวัสดุอื่น ๆ ให้เป็นรูปที่ต้องการได้ง่ายและรวดเร็ว
  • ความหลากหลายในการผลิต: เครื่องกลึงมีความสามารถในการทำงานกับวัสดุหลากหลายชนิด เช่น โลหะ, ไม้, พลาสติก ซึ่งช่วยให้โรงงานสามารถผลิตชิ้นงานที่หลากหลายและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น
  • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: การใช้เครื่องกลึงในกระบวนการผลิตช่วยลดเวลาและค่าใช้จ่ายในการผลิต เนื่องจากสามารถรับรู้รูปทรงและขนาดที่ต้องการของชิ้นงานได้เร็วและง่าย
  • ความแม่นยำในการผลิต: เครื่องกลึงทำให้สามารถผลิตชิ้นงานที่มีความแม่นยำสูงได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในอุตสาหกรรมที่ต้องการความพิเศษ เช่น อุตสาหกรรมเครื่องกีต้าร์, การผลิตชิ้นส่วนของเครื่องจักร, อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นต้น
  • นวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์: การใช้เครื่องกลึงในกระบวนการการผลิตช่วยเสริมสร้างนวัตกรรมและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่มีความสามารถใหม่ๆ หรือรูปทรงที่ไม่เคยมีมาก่อน
  • ลดการสูญเสียของวัสดุ: เครื่องกลึงช่วยลดการสูญเสียของวัสดุในกระบวนการผลิตเนื่องจากสามารถกลึงวัสดุให้เป็นรูปร่างที่ต้องการเสมอ และนำไปใช้ประโยชน์ให้ครบถ้วน
  • ควบคุมคุณภาพ: เครื่องกลึงสามารถช่วยให้การผลิตมีความแม่นยำและมีคุณภาพสูง เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีและตอบสนองความต้องการของตลาด
  • การเพิ่มผลตอบแทนการลงทุน: การลงทุนในเครื่องกลึงสามารถช่วยเพิ่มผลตอบแทนและส่งเสริมให้โรงงานเติบโตและเป็นอุตสาหกรรมที่มีความเชื่อมั่นและมั่นใจในความสามารถในการผลิตสินค้าและบริการ

https://suthong.co.th/main/newsdetail/149
20  อื่นๆ / Cafe / เครื่องตัดเลเซอร์แบบ 2 พาเลท เมื่อ: 21 กรกฎาคม 2023, 09:50:31
เครื่องตัดเลเซอร์ แบบ 2 พาเลท

เครื่องตัดเลเซอร์คืออะไร?
เครื่องตัดเลเซอร์ ในปัจจุบันถือเป็นเครื่องจักรที่สำคัญมาก แทบจะทุกโรงงานที่ทำงานหรือผลิตเกี่ยวกับงานโลหะ จะต้องใช้เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องตัดเลเซอร์แบบแผ่นหรือเครื่องตัดเลเซอร์แบบท่อ ไม่เว้นแม้แต่เครื่องเชื่อมที่มีการพัฒนาให้เชื่อมโลหะได้หลากหลายมากขึ้น

เครื่องตัดเลเซอร์ เป็นเครื่องจักรที่มีการตัดที่รวดเร็ว และสวยงาม โดยเฉพาะการตัดที่มีรูปร่างลักษณะที่ซับซ้อน มีความแม่นยำ และคงมาตรฐานที่ลงที่ในการตัด โดยหลักๆ แล้วคุณภาพการตัดจะขึ้นอยู่กับ กำลังวัตต์ที่ลูกค้าเลือก ว่าต้องการความหนา และผิวงานอยู่ที่เท่าไร และอีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามคือความต้องการในปริมาณการตัดงาน สำหรับโรงงานที่ต้องมีการตัดงานเป็นจำนวนมากๆ การใช้เครื่องจักรที่เป็นแบบ 2 พาเลทถือเป็นการเลือกใช้ที่เหมาะสม ซึ่งเหมาะสมอย่างไรเราจะมาดูกัน


เครื่องเลเซอร์ 2 พาเลทคือ และแตกต่างจากเครื่อง 1 พาเลท อย่างไร
เครื่องตัดเลเซอร์แบบ 1 พาเลท เป็นเครื่องตัดเลเซอร์ที่มีโต๊ะการงานเดียว เมื่อทำการตัดเสร็จแล้ว ถึงจะสามารถเปลี่ยนแผ่นหรือเก็บชิ้นงานได้ ทำให้ต้องหยุดการตัดเพื่อเคลียร์งานบนโต๊ะตัด แต่ในทางตรงกันข้ามในปัจจุบันเครื่องจตัดเลเซอร์ถูกออกแบบมาให้มี 2 โต๊ะตัดเพื่อประหยัดเวลาในการทำงาน

โดยการทำงานจะเป็นการตัด ซึ่งในขณะที่อีกโต๊ะหนึ่งตัดงานอยู่ อีกโต๊ะก็สามารถ เก็บชิ้นงาน หรือแม้แต่เตรียมนำแผ่นขึ้นไปเตรียมเพื่อรอการตัดได้ ทำให้การตัดสมูท ไม่เสียเวลา ซึ่งในโรงงานที่เน้นการตัดงานจำนวนมากๆ และต้องการความรวดเร็วในการตัดงาน เครื่อง 2 พาเลทค่อยข้างที่จะตอบโจทย์การทำงานเป็นอย่างมาก โดยเครื่องตัดเลเซอร์ ของทาง บริษัท สุทอง แมชชีนเนอรี่ จำกัด มีคุณสมบัติพิเศษ และมีรางวัลการันตีคุณภาพจากทั่วโลกทำให้ลูกค้าสามารถเชื่อมั่นในเครื่องจักรของเราได้ 100%


คุณสมบัติ และข้อดีของเครื่องตัดเลเซอร์แบบ 2 พาเลท
  • ซอฟต์แวร์ที่ใช้งานเป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานง่าย ผู้ที่มีพื้นฐานข้างต้นก็สามารถใช้งานได้อย่างคล่องโดยระยะเวลาที่รวดเร็ว
  • การตัดเลเซอร์มีการตัดเฉือนที่รวดเร็วและ ดูแลรักษาง่าย
  • สามารถเลือกการใช้งานได้ตามที่ต้องการ ทั้งความหนาของชิ้นงาน ความเร็ว และคุรสมบัติต่างๆ
  • มีทั้งระบบเปิดและปิดของตัวเครื่อง มีขนาดที่หลากหลายกับพื้นที่การวางภายในโรงงาน
  • สามารถเปลี่ยนโต๊ะตัดชิ้นงานได้ ในเครื่องแบบ 2 พาเลท
  • มีระบบกันชนอัตโนมัติในระบบแบบปิด มีกล้องวงจรสามารถแสดงการทำงานภายในได้แบบเรียลไทน์ควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์

การปิดทั้งหมดของตัวเครื่อง
The machine's enclosure protects operators from the laser beam and other hazards, reducing the risk of accidents and injuries. The enclosure also helps to contain dust and fumes, making the machine suitable for use in a variety of environments.

โครงสร้างตัวเครื่องช่วยปกป้องผู้ปฏิบัติงานจากลำแสงเลเซอร์และอันตรายอื่นๆ ลดความเสี่ยงของการเกิดอุบัติเหตุและการบาดเจ็บ ตัวเครื่องยังช่วยกันฝุ่นและควัน ทำให้เครื่องเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย


แพลตฟอร์มการเปลี่ยนแบบกำแพงปิด

[/b]

It utilizes a climbing exchange method that allows for quick platform switching in just 10-15 seconds. When the platforms are exchanged, they are at the same height, reducing the Z-axis travel distance and improving cutting precision.

เราใช้วิธีแลกเปลี่ยนที่ช่วยให้เปลี่ยนแพลตฟอร์มได้อย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 10-15 วินาที เมื่อมีการเปลี่ยนแท่น แท่นจะสูงเท่ากัน ลดระยะการเคลื่อนที่ของแกน Z และปรับปรุงความแม่นยำในการตัด


สุทอง แมชชีนเนอรี่
ดำเนินการธุรกิจนำเข้าและเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องจักรอุตสาหกรรมงานโลหะ
เครื่อง CNC และ Cobot (Collaborative Robot) ครบวงจร
● ติดตามข่าวสารได้ที่ : https://suthong.co.th/
หน้า: [1] 2