ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  อื่นๆ / Cafe / 8 ข้อดี ฉายแสงรักษาสิว ผิวกระจ่างใส ไม่อักเสบขึ้นอีก เมื่อ: 18 กุมภาพันธ์ 2022, 14:46:08

ปัจจุบันนี้มีขั้นตอนการดูแลปัญหาสิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งยากิน ยาทา ครีมแต้มสิว หรือแม้กระทั้งแสงเลเซอร์ต่างๆ ที่เข้ามาช่วยการดูแลปัญหาสิวให้กลายเป็นเรื่องที่เล็กลงไปได้ ใบนางคนมีสิวในช่วงวัยหนุ่มสาว เมื่ออายุมากขึ้นสิวก็ลดลงตามไปแต่ในบางคนเจ้าสิวตัวร้ายก็ไม่ได้หายไปตามกาลเวลา ซ้ำยังทิ้งปัญหารอยดำ รอยแดง หลุมสิว ไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย

การรักษาปัญหาสิวที่ดี คือการรักษาจากสาเหตุของการเกิดสิว เพราะหากรักษาผิดวิธี อาจจะส่งผลเสียต่อผิวของเราได้ในอนาคต หนึ่งในวิธียอดฮิต นั้นก็คือการฉายแสงลงบนที่ผิวหน้า เพื่อกำจัดปัญหาแทรกซ้อนตามมาจากการเป็นสิว ดังนั้นมาดูประโยชน์ของการฉายแสงเลเซอร์กันเถอะ


การฉายแสง มี 2 ประเภท
  • แสงสีแดง : คือการฉายแสงเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C.acnes ที่ทำให้เกิดสิว และยังช่วยลดรอยดำ รอยแดงของสิว ให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น
  • แสงสีเหลือง :  เป็นการฉายแสงเพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิว ช่วยให้ผิวเรียบเนียน และลดการอักเสบของผิวชั้นลึก

ข้อดีของการฉายแสง
  • ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C.acnes
  • ลดการอักเสบของสิว ไม่ให้รุนแรง
  • ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใส
  • ลดรอยดำ รอยแดงของสิว ให้จางลง
  • กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่
  • ลดความมันของใบหน้า
  • ผิวสมานเร็วขึ้น ช่วยให้สิวหายเร็วขึ้น
  • ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมันที่ผิดปกติ

การฉายแสงลงไปที่ผิว จะไม่มีความร้อนลงไปบริเวณที่ทำการรักษา โดยจะไม่ทำให้ผิวไหม้หลังทำการรักษา หลังทำสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะไม่เกิดผลข้างเคียงตามมาภายหลัง แต่อาจจะต้องทำการรักษาบ่อยกว่าการทำเลเซอร์สิว อาจจะต้องใช้เวลามากกว่าเล็กน้อย แต่หากทำควบคู่กันไป จะช่วยให้สิวลดลงได้ไวมากขึ้น และเป็นการเสริมประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี

เลเซอร์รักษาสิว คืนผิวใส ไร้รอยสิว


อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การฉายแสงนั้นก็ช่วยรักษาปัญหาสิวได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาในการรักษานานกว่าการทำเลเซอร์รักษาสิวอยู่บ้าง ดังนั้นหากทำควบคู่กับเลเซอร์สิว จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์การเปลี่ยนแปลงได้ไวขึ้น โดยตัวเลเซอร์จะเข้าไปลดการทำงานของต่อมไขมันที่อยู่ใช้ผิวหนัง ให้มีขนาดเล็กลง กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์ผิวหนังเก่าที่ตายไปแล้ว ทำให้ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวดูเรียบเนียน และที่สำคัญคือช่วยลดการเกิดสิวได้ในระยะยาว ลดการเกิดสิวใหม่ในบริเวณที่เคยทำการรักษา


จากภาพด้านบน คือภาพที่แสดงกระบวนการรักษาปัญหาสิวด้วยเลเซอร์ โดยผิวหนังเดิมมีสิวเกิดขึ้น จากการอุดตันของรูขุมขน จนกลายมาเป็นสิวในที่สุด เลเซอร์ได้ลงไปทำงานถึงต่อมไขมันให้มีขนาดเล็กลง ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน ลดการทำงานของต่อมไขมันในการผลิตน้ำมันที่ผลิตออกมามากเกินความจำเป็น ช่วยลดการเกิดสิวได้ในระยะยาว

รวมรีวิวเลเซอร์สิว ฉายแสงฆ่าเชื้อสิว


คุณชิดชนก เป็นสิวมาตั้งแต่วัยรุ่น เคยคิดว่าเดี๋ยวมันจะหายไปเมื่อเราโตขึ้น แต่ในทางกลับกัน สิวไม่มีทีท่าว่าจะลดลงไป จวบจนก่อนเข้ามารักษา ปัญหาสิวก็ๆไม่ได้หมดไปจากผิวหน้าเสียที ก่อนเข้ามาปรึกษาที่บีเอสแอลคลินิก คุณชิดชนกได้มีการไปรักษามาหลายที่ แต่เจ้าสิวตัวร้ายก็ไม่ได้หายไปอย่างที่คาดหวัง จนตัดสินใจเข้ามารักษาที่บีเอสแอลคลินิก ทีมแพทย์ได้เจอเธอครั้งแรก จึงได้วิเคราะห์ผิว ปัญหาสิวที่เป็นอย่างละเอียด เพื่อวางแผนการรักษาให้ลงตัวที่สุด เพราะตัวคุณชิดชนกเอง ไม่ได้อยู่กรุงเทพเป็นที่อยู่อาศัยประจำ แพทย์ผิวหนังจึงออกแบบการรักษาให้เหมาะสมกับตัวคุณชิดชนก และเรื่องของระยะเวลาในการรักษาอีกด้วย

ขั้นตอนการรักษา

  • มีการเคลียร์สิวเก่า อย่างเช่นสิวอุดตันออกไปจากผิวก่อน โดยครั้งแรกกดสิวไปกว่า 50 เม็ด เพราะหากเราไม่รีบกำจัดสิวอุดตัน ก็อาจจะลามเป็นสิวอักเสบได้
  • ฟื้นฟูผิวด้วยเลเซอร์สิว คือการไปลดการทำงานของต่อมไขมัน ไม่ให้ถูกผลิตมากเกินไป และยังเป็นการกระชับรูขุมขนให้เล็กลง ลดการอุดตัน ที่สำคัญยังช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งแรง ลดการเกิดสิวได้ในระยะยาว
  • มีการฉายแสงฆ่าเชื้อสิว ที่ไปฆ่าเชื้อแบคทีเรีย C.acnes ไม่ให้สิวที่เป็นอยู่เกิดการอักเสบ และยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นได้อีกด้วย
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการล้างหน้า ล้างเครื่องสำอาง หรือบำรุงผิว ทีมแพทย์ได้คิดค้น และวิจัยอย่างละเอียด แม้ว่าในคนที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ก็ยังสามารถใช้ได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผิว

ทั้งนี้วิธีการรักษาปัญหาสิว จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้า สิวที่เป็นอยู่ รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวันอีกด้วย ในบางคนทำการรักษาแบบนั้นแล้วดี แต่เมื่อเราทำตามอาจจะไม่ส่งผลดีต่อตัวเองก็เป็นได้ ในบางคนทำแบบนี้ไม่เวิร์ค แต่สำหรับคนอื่น อาจทำให้สิวที่เป็นอยู่หายไปก็เป็นได้เช่นกัน ดังนั้นหากมี “ปัญหาสิว” ควรที่จะปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนจะเป็นการดีที่สุด อย่างคำที่เคยกล่าวไว้ว่า หากติดกระดุมเม็ดแรกผิด เม็ดต่อไปก็จะผิดตามไปด้วยเช่นกัน  เช่นเดียวกันกับการรักษาเจ้าสิวตัวร้าย หากเราไม่ได้รักษาจากสาเหตุของการเกิดสิว ก็จะทำให้การเป็นสิวนั้นไม่จบไม่สิ้นเสียที เป็นๆ หายๆ ไม่มีวันจบสิ้น

สามารถดูสาเหตุของการเกิดสิวได้ที่ https://bslclinic.co.th/acne-treatment/
หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญที Line ID : @bslclinic (มี@ข้างหน้า)
2  อื่นๆ / Cafe / 5 วิธีรักษาสิวอุดตัน รีบรักษาเร็ว สิวหายทัน ผิวไม่พังแน่นอน เมื่อ: 17 มกราคม 2022, 10:24:17


สาเหตุการเกิดสิวอุดตัน รู้ให้ทัน รักษาไวสิวหายได้

“รู้ให้ทัน รักษาสิว ไว สิวอุดตันหายได้” สิวอุดตันเป็นสิวชนิดหนึ่งที่ไม่มีให้เกิดการอักเสบ ลักษณะเป็นตุ่มนูนเม็ดเล็กๆ  ฝังอยู่บริเวณใต้ผิวหนัง โดยมีสาเหตุการเกิดจากรูขุมขนที่ผิวหนังเอุดตัน จากเซลล์ผิวหนังของเราที่ตายแล้วไปอุดตันบริเวณรูขุมขน และต่อมไขมันใต้ผิวผลิตน้ำมันส่วนเกิน จับตัวกับเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้ว หรือสิ่งสกปรกที่ตกค้างในรูขุมขน เครื่องสำอาง ฝุ่นละออง จนทำให้เกิดการอุดตันที่ผิวขึ้นมา ส่วนใหญ่จะพบได้บริเวณหน้าผาก และคางโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีผิวมัน การรักษาสิวที่อุดตันสามารถรักษาให้หายได้

ประเภทของสิวอุดตัน ความแตกต่างที่คุณควรรู้



สิวอุดตันแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่ สิวอุดตันหัวดำ, สิวอุดตันหัวขาว

1. สิวอุดตันหัวดำ (Blackheads) จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำขึ้นบริเวณรอบๆ จมูกและใบหน้า เกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน  ในขณะที่สารเหล่านั้นโผล่พ้นขึ้นมาสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศจะทำปฏิกิริยาให้เปลี่ยนเป็นจุดสีดำ

2. สิวอุดตันหัวขาว (Whiteheads) เป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวบนผิวหนัง เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อุดตันอยู่ภายในรูขุมขน แต่รูขุมขนที่อุดตันนั้นจะไม่ได้สัมผัสอากาศ จึงไม่มีการเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจน และยังคงมองเห็นเป็นจุดสีขาวที่อุดตันอยู่บนผิวหนัง

ความแตกต่างของสิวอุดตันหัวดำ กับ สิวอุดตันหัวขาว ที่คุณไม่เคยรู้ที่ไหนมาก่อน



ถึงแม้สิวจะเป็นสิวอุดตันเหมือนกัน และสามารถพัฒนากลายไปเป็นสิวอักเสบได้เหมือนกัน แต่สิวอุดตันหัวดำกับ สิวอุดตันหัวขาว มีความแตกต่างกันอยู่ นั่นก็คือ สิวอุดตันหัวดำสามารถกดหัวสิวให้ออกจากผิวได้อย่างง่ายดาย เพราะว่าเป็นสิวลักษณะหัวเปิด แต่สิวอุดตันหัวขาวเป็นสิวอุดตันหัวลักษณะหัวปิด จึงไม่แนะนำให้กดสิวอุดตันหัวปิดออกจากผิว เพราะหากกดผิดวิธี หัวสิวก็ไม่ยอมออกจากผิว และสิวหัวขาวจะต่อยอดกลายเป็นสิวอักเสบได้เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานานกว่าในการที่หัวสิวจะหลุดออกมา จึงอาจทำให้เกิดการสะสมของเชื้อสิวภายในได้ ดังนั้นหากผิวหน้าเป็นสิวอุดตันหัวขาวเห่อขึ้นหนักเยอะๆ แนะนำให้เข้าปรึกษาและรักษาสิว กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสิวและผิวหนังโดยตรงจะดีที่สุด

5 วิธีรักษา สิวอุดตัน รีบรักษาเร็ว สิวหายทัน ผิวไม่พังแน่นอน



สิ่งสำคัญมากๆ ที่อยากฝากถึงคนที่มีปัญหาสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทใดก็ตาม อยากให้คุณรักผิว และเห็นความสำคัญของการรักษา ให้สิวหายไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ควรรักษาตั้งแต่ที่สิวเพิ่งเริ่มเป็น หรือรักษาตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นสิวเล็กๆ น้อยๆ  การรักษาตั้งแต่สิวอุดตัน จะทำให้สิวหายเร็วที่สุด เมื่อเราป้องกันการอุดตันได้ ก็จะไม่เกิดสิวอักเสบ ไม่เกิดสิวที่มีขนาดใหญ่ เช่นสิวอักเสบ สิวหรือช้าง และป้องกันไม่ให้ผิวเกิดเป็นรอยแผลเป็นหลุมสิวตามมานั่นเอง การรักษา สิวอุดตัน ถือได้ว่าเป็นการรักษาให้สิวหายเร็วที่สุด

1. หาสาเหตุหรือปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดสิวอุดตัน
คุณควรว่าลักษณะผิวที่แท้จริงของเราเป็นผิวแบบใด และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ ในบางคนสิวอุดตัน เกิดจากการไปใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าบางชนิด ที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และเกิดเป็นสิวอุดตันขึ้นผิวได้ แนะนำให้ลองนึกย้อนเวลากลับไปสักประมาณ 2 อาทิตย์ หรือ 1 เดือน ว่าคุณได้เลือกใช้หรือมีการเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ ครีมบำรุงผิวหน้าตัวไหนหรือเปล่า? ที่ทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง จนเกิดเป็นสิวอุดตันได้ ในกรณีอย่างนี้สามารถรักษา สิวที่อุดตันได้ โดยการหยุดใช้สกินแคร์ หรือครีมที่คุณเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ ที่เป็นสาเหตุทำให้ผิวเกิดการอุดตันขึ้น

2. ใช้ยาแต้มสิวหรือยาละลายหัวสิวอุดตัน




ปัจจุบันสามารถหาซื้อยามาใช้ทาหรือแต้มเพื่อละลายหัวสิวที่อุดตันอยู่ใต้ผิวได้ โดยการพลิกกล่องผลิตภัณฑ์อ่านฉลากส่วนประกอบที่อยู่ในตัวยา ว่ามีส่วนประกอบเหล่านี้หรือไม่ เช่น Salicylic Acid (ซาลิซิลิก แอซิด) Benzoyl Peroxide (เบนโซอิล เปอร์ออกไซด์), กรดวิตามินเอ กรดผลไม้ต่างๆ ซึ่งสารเหล่านี้มีคุณสมบัติที่ช่วยลอกผิวด้านบน ทำให้ผิวที่อุดตันด้านบนหลุดออกไป

3. กดสิวอุดตันออกจากผิว อย่างถูกวิธีและสะอาด
“การกดสิว” เคลียร์สิวอุดตันออกจากผิว ก็เป็นวิธีการรักษา สิวที่อุดตัน ที่ได้ผลดีอีกหนึ่งวิธี แต่การกดสิวนั้นก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน เช่น หากกดผิดวิธี วางไม้กดสิวผิดทิศทาง กดสิวออกไม่หมด กดสิวด้วยความแรงเกินไป ก็ย่อมส่งผลเสียทิ้งไว้ที่ผิว จากเป็นแค่สิวอุตัน ผิวก็จะอักเสบจนกลายเป็นสิวอักเสบ หรือเป็นหลุมสิวได้เช่นกัน ดังนั้นการรักษาสิวอุดตันด้วยการกดสิว จึงต้องกดโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี รวมถึงอุปกรณ์การกดสิวต้องสะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อโรค และมีคุณภาพ  เพื่อลดโอกาสที่ผิวจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อนั่นเอง

4. ใส่ใจความสะอาดผิวหน้าและของใช้ที่สัมผัสหน้า
ในชีวิตประจำวันผิวต้องเจอมลภาวะ สิ่งสกปรกมากมาย สิ่งที่คุณควรให้ความสำคัญคือการทำความสะอาดผิวและคราบเครื่องสำอางให้หมดจด ก่อนเข้านอน และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน ไม่มีฟอง ไม่ขัดไม่ถูผิว รวมถึงการหมั่นทำความสะอาดแปรงแต่งหน้าทุกๆ สัปดาห์ ความสะอาดของผิว จะไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียต่างๆ ไม่ไปทำลายเกราะป้องกันผิว เพื่อคงสภาพผิวที่แข็งแรงก็หมดปัญหาผิวต่างๆ ที่จะมาเยือนผิวคุณได้

5. รักษาสิวกับหมอผิวผู้เชี่ยวชาญ
ต้องยอมรับเลยว่าปัญหาสิว ปัญหาผิวหนังนั้น คนที่เชี่ยวชาญมากที่สุด ก็ต้องเป็นคุณหมอหรือทีมแพทย์ที่ได้จบการศึกษาด้านผิวหนัง dermatologist โดยตรง จะช่วยคุณแก้ปัญหาและประเมินวิธีรักษา สิวอุดตันได้อย่างตรงจุด รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและปลอดภัยต่อผิว ช่วยทำให้สิวของคุณหายได้ในระยะยาว เพื่อผิวหน้าที่ใสไร้สิว แต่ก็ต้องเลือกคลินิกที่การรักษาได้มาตรฐาน คลินิกผ่านการอนุญาตจากกระทรวงสาธารณะสุข และยังมีรีวิวผลการรักษาจากคนไข้จริงอีกด้วย

เลือกหมอรักษาให้สิวหาย ไม่เลี้ยงไข้ เพื่อผิวที่ปลอดภัยในระยะยาว
กดดูข้อมูลฟรี https://bslclinic.co.th/acne-treatment/

ปรึกษาปัญหาสิวกับผู้เชี่ยวชาญ
Line ID : @bslclinic **มี @ ข้างหน้า**
Line : https://line.me/ti/p/@bslclinic
Tel : 02-235-8858, 098-289-7805
3  อื่นๆ / Cafe / 7 ข้อควรรู้ ก่อนใช้ยากินรักษาสิว เมื่อ: 16 ธันวาคม 2021, 03:26:45


สิวเป็นปัญหาใหญ่ที่ไม่ว่าใคร เพศไหน ก็ต้องพบเจอ ในบางคนก็ไม่ได้เป็นมาก แต่ในบางคนก็กลับมีสิวขึ้นใบหน้าอย่างรุนแรงและเราก็มักจะเห็นรีวิวต่างๆ นาๆ ถึงการใช้ยากินในการรักษาเรื่องสิว เช่น ยาคุม วิตามิน หรือผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากมาย ที่ทานกันแล้วสิวหายได้ใน….. วัน แต่ในความเป็นจริง การใช้ยาโดยที่ไม่ได้ศึกษา หรือไม่มีข้อมูลที่มากพออาจจะทำให้เกิดโทษแทนได้นะ เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาทำความเข้าใจกับยากินที่ช่วยรักษาสิวให้เข้าใจก่อนใช้งานกันเถอะ

ยาคุม ไม่ใช่ยากินที่ช่วยรักษาสิว
ในบางคนอาจจะใช้ยาคุมในการควบคุมสิวไม่ให้เกิดหนักกว่าเดิม และก็ได้รับผลลัพธ์ที่ดี แต่จริงๆ แล้วยาคุมนั้นเป็นยาที่เหมาะกับการคุมกำเนิดหรือปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกายเท่านั้น หากเราได้รับยาในปริมาณที่มากไป และไม่เหมาะสมกับร่างกายตัวเองอาจจะทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคต โดยทางการแพทย์ของหมอผิวหนังจะใช้ยารักษาสิวที่ไม่ใช่ยาคุม โดยการจ่ายยาจะคำนวณจากร่างกาย และลักษณะสิวที่เป็น

ต้องเข้าใจว่าเราเป็นโรคอะไร
การใช้ยาในการรักษาโรคนั้น เราต้องมีความเข้าใจก่อนว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องใด และใช่เรื่องนั้นจริงหรือไม่ เพราะหากเราไม่เข้าใจกับปัญหาที่เป็นอยู่ และไปซื้อยามาทานแบบผิดๆ แน่นอนว่าสิวที่เป็นอยู่ก็จะไม่หายไป หรือถึงขั้นอาจเกิดอาการดื้อยาร่วมด้วย เพราะฉะนั้นเราควรศึกษาข้อมูล และประเมินผิวหน้าอย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าที่เป็นอยู่คือสิวหรือไม่ เป็นสิวแบบใด และต้องรักษาอย่างไร ทางออกง่ายๆ คือการพบแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินก่อนได้นั้นเอง

การเข้าใจในประวัติของตัวเอง
ทางการแพทย์จำเป็นจะต้องวิเคราะห์ เพศ อายุ น้ำหนัก และลักษณะผิวของคนไข้ก่อนที่จะจ่ายยาทุกครั้ง รวมไปถึงภูมิหลังของคุณเช่น เคยแพ้ยาไหม หรือมีอาการดื้อยาร่วมด้วยไหม เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะได้รับปริมาณยารักษาสิววันละเท่าไหร่ และควรจะทานแบบไหนให้ปลอดภัย และครบโดสขอตัวยา



เสี่ยงต่อการดื้อยา
ในปัจจุบันต่างมีรีวิวรักษาสิวมากมายที่มาแชร์กัน สิ่งหนึ่งที่มักพบบ่อยๆ ของคนไข้ที่ซื้อยามารับประทานเอง นั้นก็คือ อาการดื้อยา เมื่อร่างกายของคนเราเกิดอาการดื้อยาขึ้นมาแล้ว ก็จะทำให้ยาที่ทานเข้าไปไม่ได้รับการตอบสนองกับร่างกาย ทำให้ผลการรักษาของคุณนั้น สิวไม่ได้หายไปเลยแม้แต่น้อย

ไม่ช่วยหยุดสิวในระยะยาว
การรักษาเจ้าสิวตัวร้ายของผิวหน้า ต้องอาศัยทั้งเวลา ความเข้าใจ เพื่อที่จะหยุดสิวได้ในระยะยาว ยากินก็เป็นเพียงส่วนช่วยส่วนหนึ่งในการรักษาที่จะทำให้สิวหายไป และทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่ที่วิธีการดูแลผิวของคุณด้วย ไม่ว่าจะเป็นการล้างหน้า การทำกิจกรรมระหว่างวัน การใช้เทคโนโลยีมาช่วย ทั้งหมดจะช่วยผสมผสานให้การดูแลผิวให้สิวห่างไกลไปได้ หมอผิวหนังจึงมีความเข้าใจในผิวหนังของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน บางคนรีวิวว่าสิ่งนั้นดี สิ่งนี้ดี แต่เมื่อเราทำตามอาจจะไม่ได้ผลกับคุณก็เป็นไปได้ การดูแลสิวที่ดีและปลอดภัยจึงควรอยู่ภายใต้ความดูแลของคุณหมอสิวโดยเฉพาะนั้นเอง

สังเกตตัวเองบ่อยๆ ขณะใช้ยา
โดยวิธีนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่ายาที่รับประทานอยู่นั้น เกิดผลข้างเคียงอะไรกับร่างกาย และผิวหน้าไหม และหลังทานไปแล้ว ในระยะ2-4 สัปดาห์แรก สิวเริ่มยุบไปบ้างหรือเปล่า หากคุณซื้อยามาทานเองและยังไม่เห็นผลควรหยุดยาทันที เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในอนาคตได้ และหากใครที่กำลังรักษากับหมอผิวหนังสามารถแจ้งโดยตรงกับแพทย์ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันที

สุขภาพในระยะยาวคือสิ่งสำคัญ
เพราะร่ายกาและใบหน้าของเรามีอยู่เพียงอันเดียว ดังนั้นการที่เราจะใช้ยาหรือทำบางอย่างควรทำความเข้าใจกับปัญหาที่เป็นอยู่ก่อน เช่นคุณมีสิวประเภทไหนบ้าง ผิวหน้าคุณเป็นอย่างไร มันหรือแห้ง เคยแพ้ยาไหม เคยผ่านการรักษาแบบไหนมาบ้าง เพราะหากเราเข้าใจตัวเองได้อย่างดีแล้วนั้น จะช่วยทำให้การรักษาออกมาได้พบลัพธ์ที่ดี รวมไปถึงการพบแพทย์ผิวหนังเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะอย่างน้อยเราได้คุย ได้เข้าใจถึงปัญหาที่เป็นอย่างแท้จริง และหาหนทางการดูแลสิวให้มันจบได้ในระยะยาว

หากกังวลใจเรื่องปัญหาสิว สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://bslclinic.co.th/acne-treatment/
Line@ : @bslclinic
4  อื่นๆ / Cafe / แชร์ 5 เคล็ดลับ รักษาสิวด้วยตัวเอง ต้องเป็นสิวแบบไหน รักษาเห็นผล !! เมื่อ: 19 พฤศจิกายน 2021, 13:56:17


อยากสิวหาย มีหน้าผิวหน้าที่ขาวใส ต้องรักษาสิวให้ถูกวิธีและการ รักษาสิว ด้วยตัวเอง คงต้องเป็นวิธีแรกๆ ที่คนเป็นสิวเลือกอย่างแน่นอน แต่จะว่าไปการดูแลรักษาสิว แบบไม่ต้องพึ่งหมอคลินิค ก็มีข้อดี-ข้อเสีย ที่หลายๆ คนควรชั่งใจไว้เหมือนกันนะ

เปรียบเทียบข้อดี - ข้อเสีย ของการ รักษาสิวด้วยตัวเอง



ผิวหน้ามีสิวกวนใจ ทำยังไงดี ใครที่กำลังเลือกวิธีรักษาสิว จะบอกว่าถ้าเราเสิร์ชหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำให้สิวหาย จะมีข้อมูลเยอะมากๆ และหนึ่งในช้อยส์ที่ส่วนมากคนจะเลือกคือ รักษาสิว ด้วยตัวเอง แต่มีใครเคยเช็คลิสต์ไหมว่าวิธีนี้ดีจริงหรือเปล่า ถ้าเปรียบเทียบระหว่างข้อดีกับข้อเสียของการดูแลรักษาสิวด้วยวิธีนี้



ข้อดีของการรักษาสิวด้วยตัวคุณเอง

ไม่เสียเวลา ไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าไปรักษาสิวตามคลินิกหรือสถานพยาบาล พอได้รักษาสิวด้วยตัวคุณเอง คุณอาจจะถ่ายรูปสิวของคุณทุกวัน ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไรบ้าง ทำให้คุณเปรียบเทียบได้ว่าสิวลดลง หรือเป็นหนักขึ้น จากการที่คุณดูแลรักษาด้วยตัวเอง

ข้อเสียของการรักษาสิวด้วยตัวคุณเอง

เห็นเป็นแค่สิวเม็ดเล็กๆ แต่ก็ทำให้ใครหลายๆ คนหมดความมั่นใจได้ ส่วนข้อเสียของการรักษาสิวด้วยตัวคุณเองก็มีไม่ใช่น้อย เช่น มีโรคผิวหนังหลายชนิดที่มีลักษณะหน้าตาคล้ายสิว แต่ไม่ใช่สิว ซึ่งมีการรักษาที่แตกต่างกัน การใช้ยาที่ไม่ตรงกับกับชนิดของสิวที่เป็นอยู่ อีกข้อหนึ่งก็เป็นการใช้ยาผิดวิธี เพราะไม่อยู่ในการดูแลของคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ ก็อาจทำให้สิวไม่หาย หรือมากไปกว่านั้น จากสิวที่เป็นน้อยๆ เมื่อดูแลอย่างผิดวิธีก็อาจทำให้อาการของสิวรุนแรงขึ้น จนกลายเป็นสิวเรื้อรัง ที่ยากต่อการรักษาได้

รู้หรือไม่ สิวก็มีเลเวล มาเช็คผิวด่วน คุณเป็นสิวเยอะระดับไหน



ระดับอาการของสิวที่มีความแตกต่างกัน ทำให้แนวทางและวิธีการในการรักษาสิวไม่เหมือนกัน ถ้าหากผิวคุณสิวอยู่ ลองเช็คผิว ว่าคุณเป็นสิวเยอะ ระดับไหน

สิวเล็กน้อย (Mild acne)
มีหัวสิวไม่อักเสบ สิวอุดตันเป็นส่วนใหญ่ หรือมีสิวอักเสบ ที่เป็นตุ่มแดง ตุ่มหนอง ไม่เกิน 10 จุด และไม่มีสิวที่เป็นก้อนสีแดงภายในมีหนองปนเลือด ลักษณะโดยรวมแบบนี้ถือว่า เป็นสิวเล็กน้อย

สิวปานกลาง (Moderate acne)
มีสิวอักเสบ ตุ่มแดงและ ตุ่มหนอง ขนาดเล็กจำนวนมากกว่า 10 จุด และมีสิวที่เป็นก้อนสีแดงภายในมีหนองปนเลือดน้อยกว่า 5 จุด

สิวรุนแรง (Severe acne)
ลักษณะสิวประเภทนี้น่าเป็นห่วง เพราะมีทั้งสิวอักเสบตุ่มแดง ตุ่มหนอง ขึ้นเยอะ บวกกับ สิวที่เป็นก้อนสีแดงภายในมีหนองปนเลือดอักเสบอยู่นาน กลับเป็นซ้ำหรือมีหนองไหล  และสิวที่เป็น Cyst ก้อนนูนแดง นิ่ม ภายในมีหนองปนเลือดขึ้นหลายหัวติดกัน ที่มากไปกว่านั้นมีการอักเสบอย่างเรื้อรังเกิดขึ้น

เป็นสิวระดับแบบไหน สิวแบบ ที่เหมาะกับการรักษาด้วยตัวเอง



ระดับสิวที่คุณคิดไว้ในใจ จะใช่ไหมนะ? สิวที่เหมาะกับการรักษาด้วยตัวเองมากที่สุด ก็ต้องเป็นสิวระดับเล็กน้อย เท่านั้น !!! ปัญหาสิวก็คือ มีหัวสิวไม่อักเสบป็นส่วนใหญ่ ก็คือเป็นสิวอุดตัน หรือถ้ามีสิวอักเสบ (papule/pustule) ก็ไม่เกิน 10 จุด แต่ทางที่ดีที่สุด การรักษาสิวที่ตรงกับสาเหตุของการเกิดสิว ตั้งแต่เริ่มเป็น จะช่วยป้องกันไม่ให้สิวลุกลาม หรือเพิ่มระดับความรุนแรงขึ้น อีกทั้งยังช่วยไม่ให้ผิว เกิดรอยแผลเป็นหลุมสิวตามมาอีกด้วย

5 เคล็ดลับ รักษาสิวด้วยตัวเอง ให้หน้าเนียนใส ผิวดีขึ้นจริงๆ



1. เช็คปัญหาสิวของคุณก่อน อยู่ในระดับไหน?
อย่างที่บอกไปข้างต้น ระดับสิวที่เหมาะกับการรักษาด้วยตัวเองมากที่สุด คือ สิวระดับเล็กน้อย ทางที่ดีคุณจึงควรเช็คระดับสิวที่เป็นอยู่ และคำนึงถึงลักษณะผิวที่เป็น คุณเป็นคนผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม ทำความเข้าใจเกี่ยวกับผิว ผิวแบบที่เราเป็นอยู่ควรต้องได้รับการดูแลแบบไหนเป็นพิเศษไหมนะ จึงเป็นการเริ่มต้นของการดูแลผิว รักษาสิวด้วยตัวคุณเองที่ดีเลย

2. เลือกใช้ยารักษาสิว ที่เป็นการรักษามาตรฐาน
การรักษามาตรฐาน (First line treatment) คือการรักษาที่ขึ้นกับความรุนแรงของสิว โดยลักษณะสิวที่เป็นเล็กน้อย สามารถรักษาโดยพิจารณาใช้ยาทาเฉพาะที่ได้
  • Benzoyl peroxide (เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์) 2.5%-5% เป็นยาทาสำหรับรักษาสิว มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรียและช่วยทำให้ผิวแห้ง ผิวแห้งใช้ 2.5% ผิวมันใช้ 5%
  • Topical retinoids 0.01%-0.1% จะออกฤทธิ์ ผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน หรือลดการอักเสบด้วย ใช้สำหรับรักษา สิวอุดตันและสิวอักเสบ
  • Clindamycin 1% solution มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว
  • Erythromycin 2%-4% solution หรือ gel มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ใช้ทาเฉพาะบริเวณที่มีสิวอักเสบ วันละ 2-3 ครั้ง ผลข้างเคียง คือ ผิวลอก ผิวบาง แสบผิว
  • Salicylic acid กรด BHA ชนิดหนึ่ง ช่วยลดการอักเสบของผิวหนัง ทำให้สามารถยับยั้งป้องกันการเกิดสิว
  • Azelaic acid ยานี้จะช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ละลายสิวอุดตัน ลดรอยดำ และการอักเสบของสิว
ไม่ควรใช้ยาทาฆ่าเชื้อทาเพียงอย่างเดียว เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยาในระยะยาวได้

3. ปรับพฤติกรรมที่เป็นตัวกระตุ้นสิว
  • ไม่ควรล้างหน้าบ่อยๆ แนะนำให้ล้างหน้าเพียงวันละ 2 ครั้งก็เพียงพอ หากแต่งหน้าหรือเพียงแค่ทาครีมกันแดด ก็ควรใช้ทำความสะอาดเครื่องสำอางให้หมดจด ก่อนเข้านอน ด้วยเป็นคลีนซิ่งที่ใช้นิ้วมือ วนเบาๆ แทนการใช้สำลี เพื่อขจัดคราบเครื่องสำอางก่อนการล้างหน้า
  • ไม่แคะ แกะ เกา ไม่บีบสิว ไม่กดสิว เพราะจะทำให้ผิวและสิวเกิดการระคายเคืองและอักเสบได้ง่ายขึ้น
  • หมั่นทำความสะอาดปลอกหมอน ผ้าปูที่นอน ที่สัมผัสกับใบหน้าของเราในทุกๆ วันอย่างน้อยอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค และฝุ่นละอองที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
  • ไม่ควรนอนดึก พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8-10 ชม. เพราะการที่ร่างกายของคุณหลับสนิท จะทำให้เกิดการซ่อมแซมในส่วนที่สึกหลอของร่างกาย ส่งผลให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพที่ดี ทำให้ผิวดูสดใส
  • การดื่มน้ำที่เพียงพอเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับการฟื้นฟูผิวพรรณ

4. บำรุงฟื้นฟูให้ผิวแข็งแรง
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (oil-free) หรือผลิตภัณฑ์ประเภท Non - Comedogenic ที่หมายถึงผลิตภัณฑ์ชนิดนั้นไม่มีส่วนผสมที่ทำให้เกิดภาวะรูขุมขนอุดตันได้ ช่วยไม่ให้ผิวเกิดการระคายเคือง ส่วนนี้จึงช่วยลดการอุดตันที่เป็นสาเหตุของสิวได้เป็นอย่างดี

5. ติดตามผลการเปลี่ยนแปลงรักษาสิวด้วยตัวเองอย่างใกล้ชิด
ข้อนี้สำคัญมากๆ เพราะจะช่วยทำให้คุณเห็นผลการเปลี่ยนแปลงของสิวได้เป็นอย่างดี คำแนะนำควรถ่ายรูปผิวหน้าที่เป็นสิวที่เป็นช่วงเวลาเดียวกัน เก็บไว้ทุกวัน เช่น หลังล้างหน้าตอนเช้า หรือผิวหน้าก่อนนอน เพื่อเเปรียบเทียบให้เห็นการเปลี่ยนเปลง ในกรณีที่เป็นสิวรุนแรงขึ้นหรือไม่สนองต่อวิธีการรักษาใน 2-3 เดือน ควรรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสิวโดยเฉพาะ จะดีที่สุด

เลือกคลินิกรักษาสิวอย่างไรดี กดดูข้อมูลเพิ่มเติมที่
https://bslclinic.co.th/acne-treatment/
หน้า: [1]