ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1] 2 3 4
1  อื่นๆ / Cafe / เสนา คิทท์ บางนา กม.29 ตกแต่งพร้อมอยู่ เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2022, 09:51:09
เสนา คิทท์ บางนา กม.29 ตกแต่งพร้อมอยู่
  AREA แถลง ฉบับที่ 857/2565: วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

          เสนา คิทท์ บางนา กม.29 นับเป็นโครงการที่ขายดีที่เพิ่งปิดตัวในเดือนตุลาคม 2565 โดยขายได้แล้วถึง 190 หน่วย หรือครึ่งหนึ่งจากทั้งหมด 378 หน่วย


 

          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (area.co.th) ให้ข้อมูลโครงการเด่นจากการสำรวจโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนตุลาคม 2565 จำนวน 4 โครงการ เป็นประเภทอาคารชุด 3 โครงการ บ้านแฝด 1 โครงการ โดยฉบับนี้จะนำเสนอโครงการเสนา คิทท์ บางนา กม.29 คอนโดราคาไม่ถึงล้าน ตกแต่งพร้อมเข้าอยู่ มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มีรายละเอียดเพิ่มเติมดังนี้

 

          เสนา คิทท์ บางนา กม.29 (Sena Kith Bangna KM.29) บริษัท เสนา เอชเอชพี 14 จำกัด

ประเภทโครงการอาคารชุด 5 ชั้น (จำนวน 7 อาคาร) ที่ตั้งถนนบางนา-ตราด กม.29 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ขนาดที่ดินโครงการ 6-3-43.7 ไร่ จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 378 หน่วย ขายได้แล้ว 190 หน่วย (50.3%) รายการส่งเสริมการขาย ส่วนลดเงินสด ประมาณ 3.5% และยกเว้นค่าใช้จ่ายในวันโอนกรรมสิทธิ์ให้ทั้งหมด กลุ่มเป้าหมาย พนักงานที่ทำงานอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ และบางพลี จุดเด่นของโครงการ ราคาถูก ห้องตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่

 

          รูปแบบบ้านและระดับราคาที่เปิดขาย

•  แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 25.0 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ กั้นห้องนอนด้วยกระจกบานสไลด์ พร้อมระเบียงส่วนตัว ราคาขาย 0.939 ล้านบาท

•  แบบ 1 ห้องนอน พลัส พื้นที่ใช้สอย 37.5 ตารางเมตร ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ กั้นห้องนอนด้วยกระจกบานสไลด์ พร้อมระเบียงส่วนตัว ราคาขาย 1.446 ล้านบาท



 


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
2  อื่นๆ / Cafe / แกรนด์ พลีโน่ เมกา บางนา บ้านแฝดขายดี เมื่อ: 28 พฤศจิกายน 2022, 09:50:35
แกรนด์ พลีโน่ เมกา บางนา บ้านแฝดขายดี
  AREA แถลง ฉบับที่ 854/2565: วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

แกรนด์ พลีโน่ เมกา บางนา นับเป็นโครงการบ้านแฝดที่ขายดีมาก ทั้งนี้มีหน่วยขายรวม 180 หน่วย ขายได้แล้วถึง 72 หน่วยในเดือนเดียว น่าศึกษาเป็นอย่างยิ่ง



          ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (area.co.th) ให้ข้อมูลโครงการเด่นจากการสำรวจโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนตุลาคม 2565 จำนวน 4 โครงการ เป็นประเภทอาคารชุด 3 โครงการ บ้านแฝด 1 โครงการ โดยฉบับนี้จะนำเสนอโครงการแกรนด์ พลีโน่ เมกา บางนา เป็นบ้านแฝดทั้งโครงการ ราคาเกิน 5 ล้านบาท เกินค่าเฉลี่ยของเดือนนี้ แต่ก็ขายได้ดี มีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

 

          แกรนด์ พลีโน่ เมกา บางนา (Grande Pleno Mega Bangna) พัฒนาโดย บริษัท บริษัท เดอะแวลู พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ประเภทบ้านแฝด 2 ชั้น ที่ตั้งถนนกาญจนาภิเษก ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ขนาดที่ดินโครงการ 30-0-79.99 ไร่ จำนวนหน่วยขายทั้งหมด 180 หน่วย ขายได้แล้ว 72 หน่วย (40%) รายการส่งเสริมการขาย ส่วนลดเงินสด 800,000 บาท ยกเว้นค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 1% ค่าติดตั้งมิเตอร์น้ำ-ไฟ ค่าอากรสแตมป์ และค่าส่วนกลาง 1 ปี กลุ่มเป้าหมายคือ พนักงานที่ทำงานอยู่ในย่านสุขุมวิท และย่านสุวรรณภูมิ ที่มีรายได้ค่อนข้างสูง

 

          รูปแบบบ้านและระดับราคาที่เปิดขาย

•  แบบ SHANE ขนาดที่ดิน 35-4 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 142 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ราคาขาย 6.620 ล้านบาท

•  แบบ JANETTE ขนาดที่ดิน 35.5 ตารางวา พื้นที่ใช้สอย 145 ตารางเมตร ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน ราคาขาย 6.790 ล้านบาท

 

          จุดเด่นของโครงการ ทำเลที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ศูนย์การค้าเมกะ บางนา และอีเกียบางนา ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วนกาญจนาภิเษกพระราม 2-บางปะอิน




ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
3  อื่นๆ / Cafe / Update ราคาประเมินค่าก่อสร้างอาคาร ณ กันยายน 2565 เมื่อ: 21 พฤศจิกายน 2022, 16:19:43
Update ราคาประเมินค่าก่อสร้างอาคาร ณ กันยายน 2565
  AREA แถลง ฉบับที่ 845/2565: วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

           มูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย ได้จัดทำราคาค่าก่อสร้างอาคารมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2556 ถึงปัจจุบัน โดยมีการปรับปรุงข้อมูลเป็นรายไตรมาส ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิฯ ได้เปิดเผยล่าสุด ณ เดือนกันยายน 2565 ภาพรวมราคาค่าวัสดุปรับลดลง -1.15%  เมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลโดยรวมทั้งวัสดุก่อสร้าง ค่าแรงงาน กำไรภาษี และค่าดำเนินการแล้ว ทำให้ภาพรวมราคาค่าก่อสร้างอาคารปรับลดลง -0.69% เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการประเมินค่าทรัพย์สิน และสำหรับประชาชน และนักลงทุนทั่วไปได้ใช้ต่อไป
         

            ในการดำเนินการของมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการศึกษาข้อมูลจากทางราชการและภาคสนามมาดำเนินการจัดทำราคาค่าก่อสร้าง และต่อไปนี้เป็นรายงานการเปลี่ยนแปลงราคาค่าก่อสร้างล่าสุด (กันยายน 2565)


            ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้                     7.02%

            ซิเมนต์                                     11.95%

            ผลิตภัณฑ์คอนกรีต                     15.53%

            เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก             24.97%

            กระเบื้อง                                  6.49%

            วัสดุฉาบผิว                               3.28%

            สุขภัณฑ์                                   1.86%

            อุปกรณ์ไฟฟ้าและประปา             11.93%

            วัสดุก่อสร้างอื่น ๆ                      16.79%

            รวม                                       100.00%

 

           สำหรับการเปลี่ยนแปลงล่าสุดตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565-กันยายน 2565 (ไตรมาสที่ 2 ปี 65-ไตรมาสที่ 3 ปี 65) สรุปว่ามีการปรับลดราคาวัสดุลงหลายรายการเฉลี่ย -1.151%  วัสดุก่อสร้างที่ปรับราคาลดลง ได้แก่ เหล็กลดลง -5.08% อุปกรณ์ไฟฟ้า ลดลง -1.80% วัสดุก่อสร้างอื่นๆ เพิ่มขึ้น -0.16% วัสดุที่ราคาปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ ซีเมนต์ เพิ่มขึ้น +0.36% ผลิตภัณฑ์คอนกรีต เพิ่มขึ้น +0.07%  วัสดุฉาบผิว เพิ่มขึ้น +1.46% สุขภัณฑ์ เพิ่มขึ้น +0.19% วัสดุที่มีราคาคงที่ ได้แก่ กระเบื้อง โดยมีรายละเอียดเป็นดังนี้:


            ดัชนีรวม                                 -1.15%

            ไม้                                        +3.62%

            ซีเมนต์                                   +0.36%

            ผลิตภัณฑ์คอนกรีต                   +0.07%

            เหล็ก                                     -5.08%

            กระเบื้อง                                 0.00%

            วัสดุฉาบผิว                             +1.46%

            สุขภัณฑ์                                 +0.19%

            อุปกรณ์ไฟฟ้า                          -1.80%

            วัสดุก่อสร้างอื่นๆ                       -0.16%
 

           ค่าวัสดุข้างต้นเป็นส่วนหนึ่ง แต่ราคาค่าก่อสร้างยังประกอบด้วยค่าแรง และภาษีและค่าดำเนินการต่าง ๆ ดังนั้นค่าก่อสร้างที่แท้จริง ลดลง -0.69% ในไตรมาสที่ 3/2565 โดยมีรายละเอียดดังนี้:

 

            1. ค่าวัสดุ                                       60%             -1.15%             59.31%

            2. ค่าแรง                                        20%               0.00%            20.00%

            3. กำไร ภาษีและค่าดำเนินการ             20%             +0.00%           20.00%

                                                                100%                                   99.31%

            สรุป                                                                                         -0.69%

 
           โดยสรุปแล้วการปรับราคาค่าก่อสร้าง โดยใช้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้างของทางราชการของเดือนกันยายน 2565 มีผลออกมาดังนี้

            สรุปการปรับราคาค่าก่อสร้าง โดยใช้ดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง ของเดือน กันยายน 65         

            1. พิจารณาโดยเทียบเคียงกับเดือน มิถุนายน 65 (มิถุนายน 65 - กันยายน 65)

            2. จากการเทียบดัชนีราคาวัสดุก่อสร้าง เดือน มิถุนายน 65 - กันยายน 65 ปรากฏราคาวัสดุก่อสร้างเมื่อวิเคราะห์แล้ว ภาพรวมราคาค่าวัสดุปรับลดลง -1.15% โดยราคาวัสดุที่ราคาปรับลดลง ได้แก่ เหล็ก อุปกรณ์ไฟฟ้า วัสดุก่อสร้างอื่นๆ ส่วนวัสดุที่ปรับราคาเพิ่มขึ้น ได้แก่ ซีเมนต์ ผลิตภัณฑ์คอนกรีต วัสดุฉาบผิว สุขภัณฑ์ ส่วนกลุ่ม ส่วนกลุ่มที่ราคาคงที่ ได้แก่ กระเบื้อง

            3. ค่าแรงงาน พิจารณาเท่าเดิม ไม่มีการปรับเพิ่ม

            4. กำไรภาษี ค่าดำเนินการ พิจารณาเท่าเดิม ไม่มีการปรับเพิ่ม

            5. เมื่อวิเคราะห์ทั้งค่าวัสดุ และค่าแรงงาน กำไรภาษี ค่าดำเนินการ ทำให้ภาพรวมราคาค่าก่อสร้างอาคารปรับลดลง -0.69% ทั้งนี้เมื่อทำการนำมาปรับราคาค่าก่อสร้างอาคารแล้ว โดยรวมราคาค่าก่อสร้างลดลงเล็กน้อย


รายละเอียดของราคาค่าก่อสร้างอาคารเป็นดังนี้: https://www.thaiappraisal.org/thai/value/value.php


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
4  อื่นๆ / Cafe / สถานการณ์โครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ตุลาคม 65 เมื่อ: 18 พฤศจิกายน 2022, 14:43:35
สถานการณ์โครงการที่อยู่อาศัยเปิดใหม่ตุลาคม 65
  AREA แถลง ฉบับที่ 840/2565: วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

            โครงการเปิดใหม่ในเดือนตุลาคม 2565 ยังเกิดขึ้นอย่างมายมายต่อเนื่อง แม้จะลดลงจากเดือนกันยายนที่เปิดตัวถึง 53 โครงการก็ตาม แต่จำนวนหน่วยขายที่เปิดใหม่ในเดือนตุลาคมกลับเพิ่มขึ้นถึง 29% ปี 2565 นี้จำนวนหน่วยเปิดใหม่เกิดขึ้นมากเป็นประวัติการณ์นับแต่ปี 2562 หรือก่อนโควิด-19


            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (area.co.th) กล่าวถึงผลการสำรวจโครงการอสังหาริมทรัพย์เปิดใหม่เดือนตุลาคม 2565 ว่ามีจำนวน 43 โครงการ ลดลงจากเดือนก่อนถึง 10 โครงการ มีจำนวนหน่วยเพิ่มขึ้นประมาณ 29% แต่มูลค่าโครงการ และราคาเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง เนื่องจากสินค้าที่เปิดขายในเดือนนี้ส่วนใหญ่จะมีราคาปานกลางค่อนข้างต่ำเป็นสำคัญ

            จำนวนหน่วยขายที่เกิดขึ้นใหม่ในเดือนนี้มีทั้งหมด 11,074 หน่วย เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน 2565 ประมาณ 29% โดยประเภทที่มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่มากที่สุดในเดือนนี้ คือ อาคารชุด มีจำนวนหน่วยเปิดขายใหม่ 5,366 หน่วย (48.5%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 3,548 หน่วย (32.0%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 1,171 หน่วย (10.6%) ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด

            ในด้านมูลค่ารวมของการพัฒนาโครงการที่เกิดใหม่ในเดือนตุลาคม 2565 นี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 49,092 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดือนกันยายน 2565 ประมาณ -26.3% ประเภทที่มีมูลค่าการพัฒนาสูงสุด คือ อาคารชุด 20,656 ล้านบาท (42.1%) รองลงมาคือ ทาวน์เฮ้าส์ 15,524 ล้านบาท (31.6%) ส่วนอันดับ 3 คือ บ้านเดี่ยว 7,409 ล้านบาท (15.1%) ของมูลค่าการพัฒนาทั้งหมด ตามลำดับ

            ดังนั้นภาพรวมของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเดือนนี้ส่วนใหญ่หากเป็นบ้านเดี่ยวจะเน้นที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์จะเน้นราคา 2-3 ล้านบาท และอาคารชุดที่ราคา 2-3 ล้านบาท แม้จำนวนหน่วยขายเดือนนี้จะเพิ่มขึ้น แต่มูลค่าโครงการและราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยลดลง เนื่องจากมีที่อยู่อาศัยระดับราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท จำนวนถึงประมาณ 52% ราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนนี้อยู่ที่ประมาณ 4.433 ล้านบาท แต่เดือนที่ผ่านมามีราคาขายเฉลี่ยที่ 7.785 ล้านบาท และมีอัตราการขายได้เฉลี่ย 18% เพิ่มขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาที่มีอัตราการขายได้ที่ 16% ต่อเดือน

            เมื่อพิจารณาถึงผู้ประกอบการที่เปิดตัวโครงการใหม่ในเดือนนี้ จะพบว่าเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ (มหาชน) มีจำนวนเพียง 6 บริษัท คือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท วังทอง กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริษัท อีสเทิร์นสตาร์ เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) บริษัทท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) และบริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ก็ยังมีบริษัทในเครือและบริษัททั่วไปอีกจำนวนหนึ่ง หากเปรียบเทียบการพัฒนาระหว่างบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ บริษัทในเครือ และบริษัททั่วไป

            ในด้านทำเลที่ตั้ง สำหรับอาคารชุดที่เปิดขายจะตั้งอยู่บริเวณกรุงเทพชั้นใน พื้นที่ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้า และบริเวณแหล่งงาน เช่น ถนนสุขุมวิท ถนนพระราม 4 ถนนรามคำแหง ถนนจรัญสนิทวงศ์ ถนนบางนา-ตราด (บางพลี)   เป็นต้น ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบที่มีการเปิดใหม่ส่วนใหญ่จะกระจายตัวอยู่ในเขตกรุงเทพฯ ชั้นกลาง ฝั่งตะวันออก ปทุมธานี นนทบุรี และรอยต่อระหว่างกรุงเทพฯ กับสมุทรสาคร เป็นสำคัญ เช่น ถนนพระราม 2 ถนนกรุงเทพกรีฑา ถนนรามคำแหง ถนนวงแหวนฝั่งตะวันออก ถนนบางนา-ตราด ถนนราชพฤกษ์ ถนนบางกรวย-ไทรน้อย เป็นต้น



ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
5  อื่นๆ / Cafe / Dr.Sopon Interviewed by the Straits Times เมื่อ: 17 พฤศจิกายน 2022, 15:14:54
Dr.Sopon Interviewed by the Straits Times
  AREA แถลง ฉบับที่ 836/2565: วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 


Please see views of Dr.Sopon Pornchokchai on proposed policy of Thai Government on foreign land ownership which was loosely structured.

 

Miss Tan Tam Mei of the Straits Times recently interviewed Dr.Sopon Pornchokchai, President, Agency for Real Estate Affairs on foreign land ownership in Thailand.  The following are the answers.

 
Question: Will the government's proposal help to achieve economic growth and benefit the local real estate market? How?

 
Answer: It won’t because

1. no buying tax unlike Singapore, 30-35%

2. little properties levied at around 0.02% at the assessed value (some one third of market value) when reaching 50 million baht

3. capital gain tax too low too

4. estate tax is very low with a lot of exemption. Whereas it is 55% if the estate is over 160 million Baht
 

During the colonial period, When many British or French we’ll-to-do living in Indochina, they won’t help boost local economy. They just came to use up our resource but took back to their countries

 
Question: Why do you think people have reacted so strongly against the plan?

 
Answer: It is so obvious that the condition is too easy. Perhaps easiest in the world. Bringing 40 million baht can buy land up to 1,600 sq.metres

 
Question: Do you think the proposal has enough safeguards? If not, what more can be done?

 
Answer: Never. We should

1. have minimum prices like in Malaysia and Indonesia (Baht 16 and 13 million respectively)

2. impose reasonable taxes as mentioned above.

 
Question: How will local land ownership and property prices be affected should foreigners take up the proposal to own land?

 
Answer: It may be increased. See Canada they cease foreign buying for two years. Please see this link: https://bit.ly/3ECcDfm

 
Question: Do you think the proposal will gain traction among the foreigners it targets?

 
Answer: It can be. The amount of 40 million is now Baht 240 million today. In 2009 when Chuan Leekpai started this law Chinese rich were few. Now there are a lot. They can only lease for 70 years in their countries. Also Indian Arab rich can join!!!

 
Please see the News here:



 


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
6  อื่นๆ / Cafe / หากต่างชาติซื้อบ้านในไทยได้เสรี ผู้ซื้อบ้านจะกระทบอะไร เมื่อ: 16 พฤศจิกายน 2022, 14:06:11
หากต่างชาติซื้อบ้านในไทยได้เสรี ผู้ซื้อบ้านจะกระทบอะไร
  AREA แถลง ฉบับที่ 835/2565: วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

            สัมมนา “หากต่างชาติซื้อบ้านในไทยได้เสรี ผู้ซื้อบ้านจะกระทบอะไร” ได้จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2565 ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) ในฐานะนายกสมาคมผู้ซื้อบ้านและคณะกรรมการสมาคม เป็นผู้ร่วมกันจัดขึ้น

หากต่างชาติซื้อบ้านในไทยได้เสรี ผู้ซื้อบ้านจะกระทบอะไร https://youtu.be/wixRCVYVjQQ .


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
7  อื่นๆ / Cafe / สัมมนา-นิทรรศการอสังหาฯ นานาชาติฟรี เมื่อ: 14 พฤศจิกายน 2022, 14:59:36
สัมมนา-นิทรรศการอสังหาฯ นานาชาติฟรี
  AREA แถลง ฉบับที่ 825/2565: วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

            ฟรี ขอเชิญทุกท่านที่สนใจเรื่องอสังหาริมทรัพย์ เข้าร่วมการสัมมนานานาชาติด้านอสังหาริมทรัพย์โดยผู้รู้ นายกหรือผู้แทนสมาคมอสังหาริมทรัพย์หลายประเทศโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย พร้อมดูนิทรรศการอสังหาริมทรัพย์ ฟรี ในระหว่างวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต ประตูน้ำ โปรดลงทะเบียนด่วน และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.fiabci-thai.org/th/IREC-TH1.php


สมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์สากล (FIABCI-Thai) และพันธมิตรสมาคมอสังหาริมทรัพย์ในหลายประเทศจะร่วมกันจัดงานแสดงอสังหาริมทรัพย์นานาชาติ และ FIABCI-Thai Prix D'Excellence Awards ในวันที่ 24-25 พฤศจิกายน 2565 ณ โรงแรมอมารี วอเตอร์เกต กรุงเทพฯ ห้องบอลรูม ชั้น 6 โดยมีแนวคิดหลักคือ “นวัตกรรมการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ข้ามชาติ”



 

            ซึ่งในงานนอกจากจะมีโครงการที่เข้าร่วมมากกว่า 50 โครงการจากทั่วประเทศไทย มาจัดแสดง และมีผู้แทนจากสมาคม FIABCI World ในแต่ละประเทศกว่า 150 ท่าน พร้อมยังมีงานสัมมนาใหญ่ ที่จะเชิญชวนนักลงทุน นักพัฒนาที่ดิน เจ้าของโครงการ และตัวแทนนายหน้า มาร่วมงานอีกกว่า 500 ท่าน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการของท่านได้ตรงกลุ่มเป้าหมายอย่างแน่นอน

FIABCI เกิดขึ้นมา 71 ปีแล้ว โดยเป็นองค์กรอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการยอมรับจากองค์การสหประชาชาติ และครอบคลุม 60 ประเทศทั่วโลก FIABCI เป็นสมาคมของผู้เกี่ยวข้องในวงการอสังหาริมทรัพย์ทุกสาขา เช่น นักพัฒนาที่ดิน นายหน้า ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน ผู้บริหารทรัพย์สิน นักลงทุน เป็นต้น

ผู้เข้าร่วม

ผู้เข้าร่วมจะสามารถร่วมฟังการบรรยายความรู้จากวิทยากรชั้นนำจากหลายประเทศทั่วโลกโดยจะได้ นับชั่วโมงความรู้ (CPD) รวม 10 ชั่วโมง รับรองโดย FIABCI-Thai และโรงเรียนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย ในความควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ

กำหนดการ

   วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2565

   09:00 : เปิดงาน

   09:30 : แขกผู้มีเกียรติร่วมถ่ายภาพกับประธานในพิธี

   10:00 : ผลกระทบจากการลงทุนของชาวต่างชาติต่อตลาดอสังหาฯ ในมาเลเซีย

             Details:

             1. Policy and measurement on foreign real estate investment. What are

             the law and regulations that foreigners must follow to buy properties in

             Malaysia.

             2. Malaysia real estate market outlook in 2022 and 2023

             Sr Dainna Baharuddin, CQS FRISM, FRICS President Royal Institution of

             Surveyors, Malaysia

   10:40 : เทคนิคการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศของชาวอินเดีย

             Mr.Farook Mahmood Past World President FIABCI

   11:20 : เสวนา "แนวโน้มตลาดโลกต่อตลาดทุนและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไทย"

             คุณกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและการบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์

             โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) (อยู่ระหว่างเรียนเชิญ)

             คุณหยง วศิน ปริธัญ Head of Investment Finnomena

             Moderator: Ms.Namtip Laoonual Managing Director AREA Research Co.,

             Ltd.

   13:00 : ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในฟิลิปปินส์ การซื้ออสังหาริมทรัพย์ของชาวต่างชาติ

             Detail: How Business Processing Outsourcing (BPO) industry and foreign

             property investor affect Philippine real estate market

             Ms.May P. Rodrigue, President of the Subdivision and Housing Developers

             Association

   14:00 : สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยในสิงคโปร์ เป็นตลาดผู้ซื้อ หรือ ผู้ขาย?

             Detail: Singapore residential real estate outlook in 2022 and 2023

             Mr.Adam Wang President Singapore Estate Agents Association

   14:40 : สงครามกับมูลค่าอสังหาริมทรัพย์จากมุมมองของชาวอเมริกัน

             Mr.Darr Goss, CEO Capital Valuation Group Ltd.

   15:20 : เหตุผลที่อสังหาริมทรัพย์ในกาฐมาณฑุประเทศเนปาล ราคาสูงเกินไป

             Detail: Why does real estate price in Kathmandu rise so fast? Does it

             match the real value? What is the real estate market situation in 2022 and

             2023.

             Dr.Om Rajbhandary, Executive Chairman, Brihat Group

   16:00 : อินโดนีเซียออกมาตรการ วีซ่าบ้านหลังที่สอง ส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาด

             อสังหาริมทรัพย์อย่างไร?

             Detail: How does Indonesia plan to attract more tourist and foreign real

             estate investment. How the rise of remote work, a second-home visa, and

             high rents caused foreign expats to buy houses in Indonesia and how does

             it affect local real estate market?

             Mr.Jaya Cahyadi, Vice President of AREBI

             จบงานวันแรก

 

   วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน 2565

   09:00 : เคล็ดลับการครองตำแหน่ง นักพัฒนาอสังหาฯ อันดับต้น ๆ ของประเทศ อย่างยั่งยืน

             Datuk CHUA Soon Ping, Vice President, FIABCI Malaysia & President,

             SHAREDA

   10:00 : เสวนา "สถานการณ์ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย และ การซื้ออสังหาฯ ของ

             ชาวต่างชาติ"

             Dr.Sopon Pornchokchai President FIABCI-Thai

             คุณสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์

             ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาดและการขาย บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้

             คุณชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บจก.ฮาบิแทท กรุ๊ป

             (อยู่ระหว่างเรียนเชิญ)

             Moderator: Ms.Namtip Laoonual, MD of AREA Research Co., Ltd.

   11:30 : การพัฒนาย่านเมืองใหม่ให้ประสบความสำเร็จ กรณีศึกษาจากอินโดนีเซีย

             Mr. Budiarsa Sastrawinata, President FIABCI-Indonesia

   12:30 : Break

   13:00 : ผลกระทบจากการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ของทุนจีนในกัมพูชา

             Detail:

             1. The effect from foreign real estate investment (Chinese and

             international investors)

             2. Do they joint venture with local companies or do these investment buy

             land and develop by themselves?

             3. How does it affect local real estate market and the economy.

             Dr.Kim Heang Past President Cambodia Valuers and Estate Agents

             Association

   14:00 : อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ตอบโจทย์สถานที่จัดงานแต่งงาน และแหล่ง

             ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัวของนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย

             Detail:

             In 2022, Indian tourist is the top international tourist in Thailand who

             comes for their weddings and for family trip. Why does Indian tourist

             choose Thailand as their top destination and what should Thai tourism

             industry do?

             Ms.Vanessa De Souza President FIABCI-India

   15:00 : จบงานสัมมนา



ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
8  อื่นๆ / Cafe / นิราศตะลุยกรุงจาการ์ตา 28 ตุลาคม 2565 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน 2022, 14:04:52
นิราศตะลุยกรุงจาการ์ตา 28 ตุลาคม 2565
  AREA แถลง ฉบับที่ 821/2565: วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
นี่คือปฏิบัติการ 1 วันในกรุงจาการ์ตาของผม ว่าทรหดหรือไม่อย่างไร นี่ถึงขั้นนอนสนามบินเลย (ทดสอบความอดทนต่อความยากลำบาก จะได้ไม่ลืมตัว) มาดูกัน

นิราศตะลุยกรุงจาการ์ตา 28 ตุลาคม 2565

ดร.โสภณ พรโชคชัย

            ผมไปกรุงจาการ์ตาในเวลา 1 วัน ไม่ได้ไปถึงแล้วกลับ แต่ไปปฏิบัติงานประเมินค่าทรัพย์สินในจังหวัดใกล้ๆ กรุงจาการ์ตา มาดูการตะลุยในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน

            แม้จะอายุ 64 ปีแล้ว แม้จะพอมีฐานะสะสมความมั่งคั่ง (เล็กๆ น้อยๆ) ไว้บ้างแล้ว แต่คนเราต้องไม่ลืมความยากลำบากในสมัยเด็กๆ และยังต้องพยายามต่อสู้กับสังขารของตนเองบ้าง  โดยในนิราศนี้ ผมออกเดินทางจากกรุงเทพมหานครในเวลา 00:30 ของวันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม 2565 ก็คือเดินทางไปรอที่สนามบินดอนเมืองตั้งแต่ค่ำวันพฤหัสบดีที่ 27 ตุลาคม

            เสียดายไม่มี Lounge พอดีผมเป็นสมาชิกของบัตร Priority Pass ที่ภริยาสมัครไว้ให้ แต่ที่สนามบินดอนเมืองปรากฏว่า Lounge ที่เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวก็ปิดตั้งแต่ 2 ทุ่ม ผมไปรอขึ้นเครื่องตอน 3 ทุ่มก็เลยอด แต่ก็ดีอย่าง เพราะจะได้ไม่ทานอะไรมากเกินไป จะได้ไม่อ้วน (ไปกว่านี้)

            พอขึ้นเครื่องได้ผมก็พยายามหลับให้ได้มากที่สุด เพราะในเช้าวันที่ 28 ตุลาคม จะต้องไปปฏิบัติงาน ปรากฏว่าเครื่องบินไปถึงกรุงจาการ์ตาในเวลา 04:00 น. ผมก็ถือโอกาสนอนที่สนามบินจนถึงเวลา  06:30 น. ก็มีคนมารับไปทำงานเลย แรกๆ นอนบนม้านั่งก็ยังไม่หลับ แต่ภายหลังก็หลับสนิท ดีที่ตั้งเวลาปลุกไว้ ก็เลยได้ตื่นขึ้นมา

            เคล็ดลับสำคัญของการหลับที่สนามบินก็คือต้องมีแจ็กเก็ตสักตัวหนึ่งเพราะในสนามบินจะหนาวกว่าปกติ ลำพังเสื้อยืดหรืออะไรนี่จะเอาไม่อยู่ ทนหนาวไม่ได้  แต่ก็ต้องใส่ร้องเท้าไว้ด้วยก็ดี คล้ายๆ กับศพที่เขาจะใส่รองเท้าให้เรียบร้อย  ที่ผมใส่ร้องเท้าไว้ก็เพราะจะได้ไม่ (บังเอิญ) หาย และกันความเย็นจากแอร์ในสนามบินด้วย

            จากเวลา 06:30 – 15:00  ผมก็ปฏิบัติการสำเร็จ ไปสำรวจโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม ถ่ายภาพ คุยกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง สำรวจราคาทรัพย์สิน สำรวจสภาพสิ่งก่อสร้างและที่ดิน ตลอดจนสำรวจสภาพแวดล้อมโดยรอบของทรัพย์สินว่าเป็นอย่างไร มีความเปลี่ยนแปลงจากอดีตอย่างไรบ้าง ทั้งนี้ทรัพย์สินที่ผมสำรวจนั้นอยู่ในจังหวัดบันเทนซึ่งอยู่นอกกรุงจาการ์ตาไปทางตะวันตก ทางเดียวกับที่ไปเกาะสุมาตราและหมู่เกาะกรากะเตาที่เคยระเบิดเมื่อร้อยกว่าปีก่อน

            หลังจากสำรวจเสร็จ ผมก็มีโอกาสมา update สถานการณ์ในตัวกรุงจาการ์ตา ผมเลือกลงในเขตใจกลางเมือง ไปเยี่ยมเพื่อนร่วมวิชาชีพประเมินค่าทรัพย์สิน ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง แต่ต้องเดินผ่านชุมชนแออัด ซึ่งครั้งหนึ่งผมเคยได้เป็นที่ปรึกษาของธนาคารโลก มาศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาเมือง  ผมเคยเสนอให้พัฒนาชุมชนแออัดให้ขึ้นในแนวตั้งเพื่อให้ประชาชนสามารถอยู่ในเขตเมืองได้โดยไม่ต้องออกไปอยู่นอกเมือง ทำให้การจราจรไม่ติดขัดจนเกินไป

            หลังจากการเยี่ยมเยียนเพื่อนร่วมวิชาชีพที่เป็นกรรมการของสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งอาเซียนแล้ว ก็เดินไปขึ้นรถไฟเพื่อจะไปสนามบินนานาชาติซูการ์โน-ฮัตตาของกรุงจาการ์ตา ผมเดินเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ระหว่างทางก็ยังได้อัดคลิปเปิดโปงและต่อต้านการ “ขายชาติ ขายแผ่นดิน” ในประเทศไทยที่ให้ต่างชาติมาซื้อที่ดินอยู่อาศัยได้ 1 ไร่ เพียงนำเงินเข้ามา 40 ล้านบาท

            ผมยังได้ชมทัศนียภาพกรุงจาการ์ตาที่มีหมู่ตีกสวยงามบนสะพานสูงแห่งหนึ่ง ซึ่งวิวนี้คนจาการ์ตาเองคงไม่ค่อยได้มีโอกาสชม เพราะจะชมได้ก็ต้องเดินขึ้นสะพาน และคงมีน้อยคนนักที่จะเดินเช่นผม  อย่างไรก็ตามบนสะพานก็มีหนุ่มสาวมายืนคุยกันโดยขี่มอเตอร์ไซค์มาจอด และพามีคนมา ก็จะมีมอเตอร์ไซค์ขายชา-กาแฟและขนมมาจอดเช่นกัน เรียกได้ว่าทำธุรกิจได้ในทุกสภาวะ

            ผมนั่งรถไฟจากใจกลางกรุงจาการ์ตาไปสนามบิน ทั้งนี้แต่ก่อนเคยแต่นั่งรถบัสจากสนามบินเข้าเมือง รถไฟสายนี้เพิ่งเปิดเมื่อ 4 ปีก่อนนี้เอง (ก่อนโควิด 19) ซึ่งนับว่าสะดวกมาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที ก็ถึงสนามบิน รถไฟก็สะอาดสะอ้านดีมาก คนขึ้นไม่มาก คงปีละประมาณแค่ 2 ล้านคน

            พอถึงสนามบินเวลา 20:00 น. ผมก็นั่งทำโน่นนี่ไป และพยายามหลับในช่วงเวลา 23:00 – 03:00 น. โดย “ตามฟอร์ม” นอนราบบนม้านั่ง ซึ่งก็นอนหลับได้สนิทพอสมควร ไม่เฉพาะแต่ผมที่นอนแบบนี้ มีคนหลายคนก็ทำเช่นกัน เพราะมีไฟลท์ตลอดทั้งคืน และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมนอนที่สนามบินแห่งนี้ เพียงแต่ครั้งนี้ใช้ Terminal 3 จากแต่เดิมเป็น Terminal 2 ซึ่งเต็มแล้ว

            พอตื่นขึ้นมาเช็คอิน แต่น่าเสียดายที่ต้องยืนเข้าคิวเป็นชั่วโมง เพราะแต่ละคนมีกระเป๋าหิ้วขนาดใหญ่ๆ ทั้งนั้น มีเพียงผมที่มีถุงผ้าใบเดียว ทำให้พอเดินมาถึง Lounge ก็เป็นเวลาต้องขึ้นเครื่องบินแล้วในเวลา 05:00 น. จึงไม่ได้รับประทานอะไรเลย จนมาถึงกรุงเทพมหานคร ซึ่งก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่อ้วน (ไปกว่านี้)

            ขอกล่าวถึงสัมภาระ ผมมีถุงผ้าใบเดียว ประกอบด้วยเสื้อ 1 ตัว เอกสารบางส่วน และหนังสือของผมที่เอาไปฝากลูกค้าจำนวนหนึ่งเท่านั้น ยิ่งขากลับ ยิ่งแทบไม่มีอะไรเลย สำหรับแจ็กเก็ตผมก็ใส่ไปด้วยเลย เวลาไป ก็ใส่เสื้อยืด ทับด้วยแจ็กเก็ต พอถึงเวลาเช้า ก็เปลี่ยนเป็นใส่เสื้อเชิร์ตเพื่อให้ดูสุภาพ  ตกกลางคืนตอนนอนที่สนามบิน ก็ยังใส่เสื้อเชิร์ตตัวเดิมและทับด้วยแจ็กเก็ต จนมาถึงเช้าวันที่ 29 ตุลาคม ขณะพานักศึกษาดูงาน จึงค่อยใส่เสื้อยืดที่ใส่ตอนนอนในคืนวันที่ 27 ตุลาคม คาบเกี่ยว 28  ตุลาคม เพราะเสื้อยืดดังกล่าวยังถือว่า “สะอาด” อยู่

            เช้าวันที่ 29 ตุลาคม 2565 ผมก็กะจะ “ฟาด” ข้าวแกงสักหน่อย แต่ไม่มีจังหวะ ผมนั่งรถเมล์ปรับอากาศไปลงสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วต่อแท็กซี่ไปลงนวนคร พอจะทานข้าว ก็ปรากฏว่ารถของคณะนักศึกษาที่นัดไว้ มาแล้ว ผมก็เลยได้รับประทานเมื่อเวลา 12:00 น. และพากันไปดูงานทั้งที่ปทุมธานีและนนทบุรี หลังจากการดูงานและบรรยาย ก็กลับถึงกรุงเทพมหานครเวลา 16:00 น.       

            นี่และครับภารกิจนิราศกรุงจาการ์ตาของผม ซึ่งก็ไม่ได้อันตรายอะไร แต่เป็นการทดสอบสมรรถนะของตนเองเท่านั้น


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
9  อื่นๆ / Cafe / เครื่องเตือนภัยอสังหาริมทรัพย์. . .ฟองสบู่แตก เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2022, 15:17:06
เครื่องเตือนภัยอสังหาริมทรัพย์. . .ฟองสบู่แตก
  AREA แถลง ฉบับที่ 817/2565: วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
ดร.โสภณ พรโชคชัย
 
            ครั้งหนึ่งนายกฯ บอกว่าวิทยุทรานซิสเตอร์เป็นเครื่องเตือนภัยธรรมชาติ (ซึ่งไม่จริง) แล้วเครื่องเตือนภัยเศรษฐกิจ-อสังหาริมทรัพย์คืออะไร คำตอบก็คือ “ข้อมูล” ที่ถูกต้องนั่นเอง ยิ่งในภาวะฟองสบู่ก่อตัวจนแตกนั่นเอง

            เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ประเทศที่เกิดการตื่นตัวสร้างเครื่องเตือนภัยเศรษฐกิจอันดับแรกๆ ก็คือมาเลเซีย โดย ดร.มาฮาดีร์ บิน โมฮามัด แห่งประเทศมาเลเซียในขณะนั้น ได้เร่งจัดตั้งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภายในระยะเวลาเพียง 9 เดือน นับแต่เกิดวิกฤติในกลางปี 2540 คือภายในปี 2541 ก็เริ่มต้นสร้างศูนย์ข้อมูลกันแล้ว  ศูนย์ข้อมูลแห่งนั้นชื่อ NAPIC ซึ่งย่อมาจาก National Property Information Centre หรือศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ

            สำหรับประเทศไทยก็ค่อนข้างเชื่องช้า รัฐบาลชวนเริ่มตั้งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ในปี 2543 โดยได้ว่าจ้าง ดร.โสภณ พรโชคชัยและคณะผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งศึกษาเพื่อวางแผนการตั้งศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติขึ้นมาเหมือนกัน  คณะทำงานก็เร่งทำงานกันจนถึงปี 2544 ก็แล้วเสร็จ มีเอกสารประกอบการศึกษาหนาหลายพันหน้า มีการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้องมากมาย  แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เปิด หลังจากศึกษาไปมาก็ปิดที่ทำการศูนย์ข้อมูล ล่ามโซ่เส้นใหญ่ไว้หน้าประตู  กว่าที่จะเปิดทำการศูนย์ข้อมูลจริงๆ ก็ปาเข้าไปถึงปี 2547 แสดงว่าไทยเราช้าไปกว่ามาเลเซียมาก เรียกได้ว่าตั้งแต่เกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 มาก็กว่าจะได้เปิดก็ปาเข้าไป 7 ปี

            ศูนย์ข้อมูลของไทยเป็นศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ที่เริ่มดำเนินการจริงเมื่อปี 2547 ไม่ใช่ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติดังที่ตั้งใจไว้แต่แรก และต่อมาในปี 2561 คณะกรรมการนโยบายที่อยู่อาศัยแห่งชาติ (ซึ่งไม่เคยได้ยินชื่อหรือเห็นผลงานกันเลย ไม่รู้ไปแอบ “ซุก” อยู่ที่ไหนก็ประชุมกันเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2561 มีมติเห็นชอบให้การเคหะแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบในการรวบรวมและจัดหาข้อมูลเพื่อจัดตั้งศูนย์ข้อมูลที่อยู่อาศัยแห่งชาติ ซึ่งก็ไม่รู้จะไป “บูรณาการ” กับศูนย์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์อย่างไร

            ดร.โสภณ ก็เคยได้รับเชิญให้ไปให้ความเห็นเกี่ยวกับการเป็นศูนย์ข้อมูลที่แท้ว่าควรจะทำอย่างไร อันที่จริงอย่างศูนย์ข้อมูลของเกาหลี คือ Korea Real Estate Board ก็มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนว่าจะ “จะรักษาเสถียรภาพและความเรียบร้อยในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ช่วยปกป้องผลกำไรและประโยชน์ของผู้บริโภคอสังหาริมทรัพย์ และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์” คือเป้าหมายสำคัญของศูนย์ข้อมูลที่แท้คือเพื่อผู้บริโภคเป็นสำคัญ ไม่ใช่เพื่อผู้ประกอบการพัฒนาที่ดิน

            อย่างไรก็ตามศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของไทยมีคณะกรรมการ 16 คนประกอบด้วยหัวหน้าส่วนราชการระดับกรมแล้ว ก็ยังผู้นำในวงการพัฒนาบ้านจัดสรร-อาคารชุด 3 สมาคม และจากหอการค้าไทย รวม 4 คน พอลงมาถึงระดับคณะกรรมการดำเนินงานก็ประกอบด้วยพนักงานของธนาคารอาคารสงเคราะห์ 3 คน และนายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร-อาคารชุดอีก 3 คน รวม 6 คน การมีผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคือนายกสมาคมมาเป็นกรรมการ หรืออาจมาล่วงรู้ข้อมูลไปก่อนในฐานะกรรมการอาจจะดูไม่เป็นกลาง และไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นสำคัญเช่นศูนย์ข้อมูลประเทศอื่นๆ

            อย่างในกรณีศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของมาเลเซีย ก็ขึ้นตรงต่อกรมประเมินค่าทรัพย์สินของกระทรวงการคลังโดยตรง และศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ของสิงคโปร์ ก็ขึ้นอยู่กับ Urban Redevelopment Authority ซึ่งเป็นองค์กรภาครัฐ ไม่มีภาคเอกชนไปนั่งเป็นกรรมการให้ล่วงรู้ข้อมูลก่อน ข้อมูลนั้นใครได้ไปก่อน ก็จะได้เปรียบบุคคลอื่น   อย่างไรก็ตามก็อาจมีบางท่านอ้างว่าการมีนักพัฒนาที่ดินมาเป็นกรรมการจะได้ช่วยกันกลั่นกรองข้อมูลก่อนที่จะเผยแพร่ จะได้ไม่ทำให้ประชาชนตกอกตกใจจนเกินไปหากเกิดภาวะล้นตลาดหรือฟองสบู่จะแตกขึ้นมา  แต่ข้ออ้างนี้ ดร.โสภณเคยแถลงไว้หลายครั้งว่านี่เป็นการดูถูกสติปัญญาของประชาชนหรืออย่างไร

            อันที่จริงในวงการอสังหาริมทรัพย์มีสมาคมนอกจากกลุ่มบริษัทพัฒนาที่อยู่อาศัยและอาคารชุดแล้ว ยังมีสถาบันการเงินอีกหลากหลาย ทั้งธนาคาร บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ ผู้ประกอบการด้านอื่นๆ ทั้งโรงแรม อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า นิคมอุตสาหกรรม ฯลฯ และยังมีนักวิชาชีพอื่นๆ อีกมาก เช่น สถาปนิก วิศวกร ผู้ประเมินค่าทรัพย์สิน นายหน้า นักบริหารทรัพย์สิน ฯลฯ ที่น่าจะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อทางราชการได้เช่นกัน  การ “ผูกขาด” เฉพาะสมาคมด้านบ้านจัดสรร-อาคารชุด จึงอาจไม่เหมาะสมนัก

            ในด้านการเผยแพร่ข้อมูลนั้น แน่นอนว่าคงไม่มีใครเสนอให้ใช้ “วิทยุทรานซิสเตอร์” แบบกรณีภัยธรรมชาติ แต่ต้องมีการเผยแพร่ข้อมูลที่ทันการ  จะสังเกตได้ว่าศูนย์ข้อมูลทุกประเทศที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง ฯลฯ ล้วนแต่ให้ข้อมูลฟรี โดยเผยแพร่อย่างถี่ยิบเพื่อให้ประชาชนได้นำข้อมูลไปใช้ประกอบการซื้อขายบ้าน การลงทุน ฯลฯ และผู้ประกอบการหรือสถาบันการเงิน ก็สามารถนำไปใช้ประกอบการวางแผนธุรกิจ

            อย่างไรก็ตามในกรณีของประเทศไทย ปรากฏว่า ข้อมูลพื้นๆ อาจได้รับการเผยแพร่โดยศูนย์ข้อมูลในรูปข่าวสารต่างๆ เป็นระยะๆ แต่รายงานการสำรวจ ประชาชนกลับต้องซื้อในราคามากน้อยแตกต่างกัน อันที่จริงควรแจกข้อมูลอย่างละเอียดฟรีเช่นศูนย์ข้อมูลในประเทศอื่น ยิ่งถ้าเป็นข้อมูลการขาย การตลาด อัตราการขายได้ การเปลี่ยนแปลงราคาอย่างละเอียดแยกเป็นตามทำเลหรือเขต ตามประเภท และตามระดับราคาก็คงไม่มีขาย  แต่ก็ไม่ทราบว่ากรรมการทั้งหลายจะได้ไปใช้หรือไม่  กรรมการเหล่านั้นจะเผยแพร่ไปยังหน่วยงานในสังกัด หรือบริษัทสมาชิกสมาคมต่ออย่างละเอียดหรือไม่ และอาจทอดระยะเวลาเนิ่นนานไป จึงทำให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกันในด้านการได้รับข้อมูลหรือไม่

            โดยสรุปแล้วศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่ดีจะต้อง

            1. เผยแพร่ข้อมูลที่ทันสมัย เช่น ทุกเดือนศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) เผยแพร่ข้อมูลการเปิดตัวโครงการใหม่ภายในสัปดาห์แรกของเดือนต่อมา และสำรวจเพื่อประเมินสถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัยทุกไตรมาสในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เป็นต้น

            2. เผยแพร่ข้อมูลโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแก่ประชาชนและสังคมโดยไม่มีการแบ่งแยก ไม่ใช่ผู้ที่เสียเงินหรือผู้นำวงการจะได้รับข้อมูลไปก่อน เพื่อเน้นประโยชน์ของประชาชนผู้บริโภค ไม่ใช่ประโยชน์ของผู้ประกอบการ

            3. เป็นเสมือนคลังสมอง หรือสถาบันนโยบายที่ช่วยชี้นำให้เห็นถึงโอกาสในการล้นตลาดหรือไม่ โดยไม่เกรงใจนักพัฒนาที่ดิน

            ตัวอย่างเช่น ครั้งปี 2538 ที่มีการศึกษาปัญหาบ้านว่างโดย ดร.โสภณ โดยการว่าจ้างของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารในยุคนั้นก็เผยแพร่อย่างกว้างขวางแก่ประชาชนและวงการธุรกิจโดยไม่แบ่งแยก แต่อาจขัดผลประโยชน์กับผู้ประกอบการที่อาจทำให้ชาวบ้านชลอการซื้อเพื่อไม่ให้ฟองสบู่แตก  หากศูนย์ข้อมูลใดเห็นแก่ประโยชน์ของนักพัฒนาที่ดิน ก็เท่ากับไม่เห็นแก่ประโยชน์ของผู้บริโภคนั่นเอง  ในมาเลเซียรัฐบาลอาจสั่งให้หยุดพัฒนาในบางบริเวณที่อาจจะล้นตลาด (ตามข้อมูลของศูนย์ข้อมูล NAPIC) โดยไม่เกรงใจผลประโยชน์ของนายทุน เป็นต้น

            อย่าลืม การยึดผลประโยชน์ของผู้บริโภคก็เท่ากับการยึดผลประโยชน์ของนักพัฒนาที่ดินด้วย นักพัฒนาที่ดินที่ดีต้องทำตามความต้องการของผู้บริโภค แต่หากยึดแต่ประโยชน์ของนักพัฒนาที่ดิน ก็เท่ากับเป็นการทำให้ผู้บริโภคเสียหายได้

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
10  อื่นๆ / Cafe / นิราศตุปัดตุเป๋ไปสะหวันนะเขต เมื่อ: 09 พฤศจิกายน 2022, 15:30:18
นิราศตุปัดตุเป๋ไปสะหวันนะเขต
AREA แถลง ฉบับที่ 814/2565: วันพุธที่ 09 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ไปสะหวันนะเขต ลาว 1 กลางวันบวกเดินทาง 2 คืน คนแก่อย่างผมทำอย่างไรใน 36 ชั่วโมง บททดสอบสังขารครับ

            หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จ ผมก็ออกเดินทางจากบริษัทเวลา 18:15 น ของวันพุธที่ 19 ตุลาคม 2565 โดยนั่งวินไปรถไฟฟ้า BTS ช่องนนทรีย์ วิ่งแค่ 15 นาทีก็ถึง สนนราคาก็ 60 บาท จากนั้นก็ต่อรถไฟฟ้า รวดเร็วทันใจดี แต่มาใจหายตอนต่อรถไฟฟ้าอีกสายที่สยามสแควร์เพราะคนเข้าคิวยาว โชคดีที่คนอยู่หน้าผมถอดใจไม่ขึ้นเพราะเห็นรถแน่ ยืนรอขบวนต่อไป ผมจึงรีบเบียดขึ้นรถไฟฟ้าไปเพราะมีคนลงมากเช่นกัน ค่าโดยสารรถไฟฟ้าก็อีก 45 บาท

            รถไฟฟ้าวิ่งมาถึงหมอชิด ผมก็ลง และเจอวินพอดี บอกเขาว่าไปนครชัยแอร์ จตุจักร วินรีบบอกเลยว่า 80 บาทซึ่งถือว่าแพงมาก ระยะทางก็ใกล้นิดเดียว แต่ก็ต้องยอม ไม่ต่อสักคำ เพราะถือว่า “ผีถึงป่าช้าแล้ว ยังไงก็ต้องเผา”  น้องวินก็ขับแบบด่วนๆ (คงเผื่อจะได้ไปรับลูกค้ารายใหม่) แต่ผมก็พยายามบอกเขาว่าลุงไม่ต้องรีบ และสุดท้ายก็มาถึงสถานีเวลา 19:10 น รวมแล้วใช้เวลา 55 นาทีจากที่ทำงานถึงสถานี) ซึ่งก็ยังทันเวลาเพราะรถออกเวลา 19:41 น.

            ผมนั่งรอรถสักพักก็ได้ขึ้นรถ ที่น่าประทับใจคือพนักงานก็ดูแลดีมาก พอถึงเวลา 19:41 รถก็ออกเลย นับว่าตรงเวลามาก  น่าแปลกมากที่วันธรรมดาแท้ๆ ก็ยังมีคนนั่งรถทัวร์เต็มคันรถ เพราะผมหวังว่าจะได้นั่งคนเดียวในเก้าอี้คู่ในวันธรรมดา ทั้งนี้คงเป็นโชคดีของบริษัทรถทัวร์ ที่มุกดาหารไม่มีเครื่องบินลง ต้องลงอุบลราชธานี ซึ่งต้องใช้เวลาอีกราว 3 ชั่วโมงโดยทางรถยนต์จึงจะถึงมุกดาหาร ครั้นจาะลงนครพนม ก็มีเที่ยวบินน้อย

            รถถึงมุกดาหารเวลา 06:10 น ก็นับว่าตรงเวลา พอลงรถก็ซื้อตั๋วรถ บขส 99 ข้ามไปฝั่งสะหวันนะเขต ลาว (อันทีจริงพึงเรียกว่านครไกสอน พมวิหาน) รถออก 06:30 น  พอถึงฝั่งลาวก็มีผู้ประสานงานมารับไปทำงานสำรวจ ประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ นับว่าโชคดีเป็นอย่างมากที่คนรู้จักที่ดี เป็นรุ่นน้อง “เทพศิรินทร์” ของผม และท่านมีภริยาเป็นวิศวกรสาวชาวลาว  ผมอยู่สะวันนะเขตถึงราวบ่ายสามโมงก็ข้ามกลับมาฝั่งไทย ทุกอย่างราบรื่นดี

            ระหว่างอยู่ฝั่งลาว ผมยังได้มีโอกาสแวะไปดูนิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินค่าทรัพย์สิน แวะชมกาสิโนสะหวันรีสอร์ตซึ่งอยู่ติดกับทรัพย์สินที่ผมไปประเมิน นอกจากนี้ยังไปดูการจัดสรรที่ดินในพื้นที่นี้เพื่อเป็นข้อมูลที่ชี้ให้เห็นว่าตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ราคายังไม่เปลี่ยนแปลงอะไรมาก  ยิ่งกว่านั้นยังมีโอกาสไปไหว้พระและทำบุญที่วัดพระธาตุอิงฮังเพื่อเป็นสิริมงคลก่อนกลับมาฝั่งไทยอีกด้วย

            ผมมีเวลาอีกนานกว่าจะขึ้นรถกลับกรุงเทพมหานคร ก็ราวสองทุ่มครึ่ง เลยแวะไปหาพี่สาวของเพื่อนที่เป็นเจ้าของโรงแรมเคียงพิมาน และเพื่อน “เทพศิรินทร์” อีกคนที่เป็นเจ้าของร้านอะไหล่จักรยานยนต์รายใหญ่ของเมืองมุกดาหาร (ร้านชัยเจริญพาณิชย์) จากนั้นก็ยังได้ไปนวดตัว 2 ชั่วโมง สนนราคาแค่ 400 บาท คือผมตั้งใจไปหลับพักผ่อนก่อนจะนั่งรถทัวร์ตุปัดตุเป๋กลับ นวดเสร็จราว 6 โมงเย็น ผมได้อาบน้ำด้วยก่อนขึ้นเครื่อง (แต่ยังใส่ชุดเดิม โชคดีที่อากาศไม่ร้อน ไม่มีเหงื่อมากนัก)

            จากสถานที่นวด (Lb Massage) ตรงข้ามร้านชัยเจริญพาณิชย์ ถนนสมุทรศักดารักษ์ ใจกลางเมืองมุกดาหาร ผมพอมีเวลาอีก 2 ชั่วโมงครึ่ง เลยตัดสินใจเดินราว 2.3 กม ใช้เวลา 40 นาทีก็ถึงสถานีขนส่งมุกดาหาร (ค่อยๆ เดินผ่านตลาดราตรี-ตลาดกลางคืนประจำมุกดาหารไปด้วย) ช่วงนี้อากาศดี ฟ้าโปร่ง ไม่มีฝน อุณหภูมิอยู่ที่ 25 องศา เมื่อเดินถึงก็นั่งรอ พอถึงเวลา 20:29 รถก็ออก (ออกก่อนเวลา 1 นาทีเพราะคนครบแล้ว)

            สุดท้ายก็เดินทางมาถึงกรุงเทพมหานคร ก่อนเวลา 06:00 น ของวันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม 2565 ผมก็รีบขึ้นแท็กซี่มาถึงตลาดรุ่งเจริญ เขตยานนาวา ค่าโดยสารก็เพียง 130 บาท (จ่ายไป 140 บาท) มาถึงก็ซื้ออาหารคาวหวานไป “หม่ำ” กับแม่และน้องชายที่บ้านน้องชายตามปกติสุขทุกวันยามเช้า เสร็จแล้วก็กลับมาอาบน้ำพักผ่อนสักหน่อยก่อนมาลุยงานต่อในวันเดียวกัน

            ที่เล่ามานี้บางท่านอาจสงสารหรือถึงขั้นสมเพชที่ผมแก่ขนาดนี้ (อายุ 64 ปี) ยังออกตรากตรำทำงานเอง แต่ผมมองว่าเป็นการทดสอบสังขารและยังรักงานสำรวจวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามอยู่ครับ
 
นิราศตุปัดตุเป๋ไปสะหวันนะเขต https://fb.watch/gnrJwE5fuD/ .

หมายเหตุ
บทความนี้เคยลงใน: โลกวันนี้ คอลัมน์ “โลกอสังหาฯ”
อ่านเต็มๆได้ทางเว็บไซต์ “โลกวันนี้” https://www.lokwannee.com/web2013/?p=440897 .

ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
11  อื่นๆ / Cafe / เอพี (ไทยแลนด์) ยืนเบอร์ 1 เปิดตัวสูงสุดในปี 2565 เมื่อ: 08 พฤศจิกายน 2022, 15:39:16
เอพี (ไทยแลนด์) ยืนเบอร์ 1 เปิดตัวสูงสุดในปี 2565
  AREA แถลง ฉบับที่ 813/2565: วันอังคารที่ 08 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

            บมจ.เอ.พี. (ไทยแลนด์) ครองอันดับหนึ่งบริษัทที่เปิดตัวสูงสุดในรอบ 9 เดือนแรกของปี 2565 นับเป็นแชมป์ปีที่ 2 หลังจากที่ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท เคยครองแชมป์มานานนับสิบปี


            เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) ได้จัดงานแถลงผลการสำรวจตลาดที่อยู่อาศัยใน 9  เดือนแรกของปี 2565 เฉพาะในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  ปรากฏว่า บมจ.เอ.พี. (ไทยแลนด์) ครองแชมป์เป็นเบอร์ 1 ที่เปิดตัวมากที่สุด 33 โครงการ รวม 8,882 หน่วย รวมมูลค่า 45,377 ล้านบาท  โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.109 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 11% หรือเท่ากับว่าในทุกๆ 9 หน่วยของโครงการเปิดใหม่ เป็นของ บมจ.เอ.พี. (ไทยแลนด์) อยู่ 1 หน่วย

            อันดับสอง รองลงมาเป็นของของ บมจ.แสนสิริ โดยเปิดตัวโครงการ 22 โครงการ รวม 5,652 หน่วย รวมมูลค่า 30,350 ล้านบาท และมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 5.370 ล้านบาท ครองส่วนแบ่งในตลาดอยู่ 7% (ทุกๆ หน่วยขายเปิดใหม่ 14 หน่วย เป็นของบริษัทนี้อยู่ 1 หน่วย)  ส่วนอันดับที่ 3 ก็คือ บมจ.โนเบิล ดิเวลลอปเมนท์ ซึ่งแม้พัฒนาเพียง 8 โครงการ แต่มีหน่วยขายรวมกันถึง 5,085 หน่วย และมีมูลค่าการพัฒนาถึง 18,667 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทนี้พัฒนาที่อยู่อาศัยในราคาเฉลี่ยเพียง 3.671 ล้านบาท ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั่วไปที่ 4.274 ล้านบาท



 

            บริษัทอันดับที่ 4-10 ได้แก่ บมจ.แอสเซท ไวส์ บมจ.ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ บมจ.เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) บมจ.เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.เอสซี แอสเซท คอร์ปอเรชั่น และ บมจ.ศุภาลัย ทั้งนี้ บมจ.ศุภาลัย เน้นการพัฒนาที่อยู่อาศัยในต่างจังหวัดมากเป็นพิเศษในปี 2565 จึงมีผลงานในเขตกรุงเทพมหานครน้อยกว่าปีก่อนๆ  ส่วน บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ที่เคยเป็นแชมป์เปิดตัวโครงการสูงสุดมาอย่างยาวนานนับสิบปี ก็ยังมีหน่วยขายรอผู้ซื้ออยู่จำนวนหนึ่ง การเปิดตัวโครงการใหม่จึงยังไม่มากเช่นเดิม แต่มียอดขายที่เพิ่มขึ้น

 



 

            ส่วนมูลค่าการพัฒนาสูงสุด อันดับที่ 1 และ 2 ยังเป็น บมจ.เอ.พี.(ไทยแลนด์) และ บมจ.แสนสิริ  แต่อันดับที่ 3 กลับเป็น บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น ซึ่งสร้างสินค้าขายในราคาเฉลี่ย 9.55 ล้านบาท รวมมูลค่า 30,350 ล้านบาท จำนวนหน่วย 5,652 หน่วย  ยิ่งกว่านั้นยังมี บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ที่พัฒนา 10 โครงการ แต่มูลค่ารวมสูงถึง 10,549 ล้านบาท รวม 440 หน่วย (หน่วยละ 23.98 ล้านบาท) และ บมจ.ควอลิตี้ เฮาส์ ซึ่งแม้พัฒนา 4 โครงการเช่นกัน แต่มูลค่ารวมถึง 9,724 หน่วย รวม 899 หน่วย หรือราคาหน่วยละ 10.82 ล้านบาท

            ในอดีตที่ผ่ามา บริษัทที่ใหญ่ที่สุดคือ บมจ.บางกอกแลนด์ที่พัฒนาเมือง (Township) ขนาดใหญ่ที่มีสินคาหลากหลายในที่เดียวกัน  ต่อมา Business Model ก็เปลี่ยนเป็นการพัฒนาหลากทำเล (แต่เน้นราคาสูง) โดย บมจ.แลนด์แอนด์เฮาส์คว้าอันดับหนึ่ง  และต่อมา บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท ก็มาเป็นอันดับหนึ่งแทนเพราะพัฒนาหลายทำเล และแทบทุกระดับราคา และขณะนี้ก็มีการผลัดเปลี่ยนแชมป์กันตามภาวะตลาด

            อาจกล่าวได้ว่าในจำนวน 10 บริษัทนี้ มีส่วนแบ่งในตลาดถึง 54%  บริษัทมหาชนที่เหลืออีก 30 กว่าบริษัท ก็มีส่วนแบ่งในตลาดอีก 21% ที่เหลืออีกราว 25% เป็นบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ขนาดใหญ่น้อยนับร้อยแห่ง และคาดว่าที่เป็นบริษัทพัฒนาที่ดินขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) คงมีเพียง 15% ของทั้งตลาดเท่านั้น ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในประเทศไทย จึงดูเป็นธุรกิจกึ่งผูกขาด
12  อื่นๆ / Cafe / มาประเมินราคาเครื่องบินกันเถอะ เมื่อ: 04 พฤศจิกายน 2022, 16:03:26
มาประเมินราคาเครื่องบินกันเถอะ
  AREA แถลง ฉบับที่ 803/2565: วันศุกร์ที่ 04 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

 
            ปัจจุบันนี้เครื่องบินอาจมีมากกว่าความต้องการใช้งาน ทำให้ต้องจอดทิ้งไว้บ้าง หรือใช้งานไม่ได้เต็มประสิทธิภาพบ้าง  เครื่องบินบางลำก็มีขนาดใหญ่เกินการใช้งานทั่วไป  สายการบินหลายแห่งก็ขายเครื่องบินที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานไป  สำหรับเครื่องบินหรืออากาศยานที่ไม่ได้บินมานาน แม้จะมีการซ่อมบำรุงตามระยะเวลา แต่หากมีการซื้อขายจริง ก็ควรมีการตรวจสอบสภาพเสียก่อน

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) ให้สัมภาษณ์ WorkPoint เรื่องการขายชาติ ขายแผ่นดิน ชี้ให้เห็นว่าคนไทย! อาจต้องเช่าบ้านอยู่ หากเดินหน้ากฎหมายให้สิทธิต่างชาติซื้อที่ดิน

            ในการประเมินค่าเครื่องบินนั้น วิธีพื้นฐานวิธีหนึ่งก็คือการเปรียบเทียบตลาด แต่ปัญหาสำคัญของเราก็คือ แวเราจะเอาข้อมูลที่ไหนมาเปรียบเทียบการซื้อขายเครื่องบินได้

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) ให้ความเห็นต่อการหาข้อมูลตลาดของการซื้อขายเครื่องบินพาณิชย์ว่ามีแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจหลายแหล่งที่สามารถจะใช้ประกอบการหาข้อมูลเพื่อใช้ในการประเมินค่าเครื่องบินพาณิชย์โดยวิธีเปรียบเทียบตลาดได้ เช่น

ข้อมูลจาก Internet ทั่วไป โดยค้นหาจาก google หรือ search engine ต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้เป็นข้อมูลที่หาได้ง่ายที่สุด  แต่อาจจะมีความน่าเชื่อถือไม่มากนัก เพราะยังไม่มีการตรวจสอบข้อมูลที่น่าชัดเท่าที่ควร
ข้อมูลจากบทความวิชาการต่างๆ ในวารสารการประเมินค่าทรัพย์สินและอสังหาริมทรัพย์ระดับนานาชาติจากสถาบันการศึกษาต่างๆ หรือสมาคมวิชาการอสังหาริมทรัพย์ เช่น Asian Real Estate Society, Pacific Rim Real Estate Society หรือ European Real Estate Society เป็นต้น  บทความหลายบทในกลุ่มนี้จะเป็น peer review article ที่น่าเชื่อถือมาก
ข้อมูลจากวารสารของสมาคมวิชาชีพประเมินค่าทรัพย์สิน โดยต้องเป็นสมาชิกของสมาคมประเมินค่าทรัพย์สินระดับโลก เช่น the Appraisal Institute, International Association of Assessing Officers หรือ American Society of Appraisers เป็นต้น โดยในบทความวิชาการเหล่านี้จะมีบทวิเคราะห์ที่น่าสนใจ
ข้อมูลจากแหล่งอ้างอิงสำคัญที่ต้องซื้อข้อมูลบันทึกการซื้อขายเครื่องบินตามประเภทและรุ่นต่างๆ ในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งข้อมูลส่วนนี้เป็นข้อมูลที่สำคัญมากที่สุดอันหนึ่ง ทั้งนี้มีแหล่งซื้อขายข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้หลายแห่งซึ่งควรที่จะซื้อไว้ประกอบการวิเคราะห์มูลค่าตามวิธีเปรียบเทียบตลาดเป็นอย่างยิ่ง
ข้อมูลจากผู้ประเมินค่าทรัพย์สินในประเทศอื่น ทั้งนี้ ดร.โสภณ ในฐานะที่เป็นประธานมูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย และประธานสมาคม FIABCI-Thai ซึ่ง FIABCI เป็นสมาคมอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและมีสมาชิกอยู่ทั่วโลก จึงทำให้รู้จักผู้ประเมินค่าทรัพย์สินจากภาคเอกชน และภาครัฐเป็นจำนวนมากที่จะสามารถขอข้อมูลมาใช้เปรียบเทียบในการประเมินค่าเครื่องบินแต่ละลำที่ได้รับมอบหมายได้
            ถ้าไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ การประเมินค่าทรัพย์สินประเภทเครื่องบินก็จะไม่สามารถทำได้  ยิ่งกว่านั้น เรายังต้องการข้อมูลตลาดการบิน แนวโน้มในอนาคตของอุตสาหกรรมการบิน และสายการบินที่เราได้รับการว่าจ้างให้ประเมินด้วย ข้อมูลเหล่านี้ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน  อย่างเช่นทุกวันนี้เราอาจพอรู้อยู่ว่าธุรกิจการบินกำลังแย่ แต่จะดีขึ้นเมื่อไหร่  และถึงแม้ธุรกิจการบินกำลังแย่ แต่ใช่ว่าทุกสายการบินจะอยู่ในสถานะเดียวกัน

         อนึ่งศูนย์ข้อมูลฯ มีประสบการณ์ในการสำรวจและประเมินค่าเครื่องบินหลายรุ่น หลายลำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้งนี้คณะผู้ประเมินและผู้เชี่ยวชาญการสำรวจอาจเดินทางไปยังท่าอากาศยานต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อสำรวจสภาพเครื่องบิน-อากาศยานได้ ดร.โสภณ กล่าวว่าที่ศูนย์ข้อมูลฯ มีผู้เชี่ยวชาญการตรวจสอบสภาพเครื่องบิน-อากาศยานก่อนการรับ/ส่งมอบในกรณีการซื้อขาย  หากส่วนราชการ หรือวิสาหกิจเอกชนใดต้องการจะใช้บริการทางด้านนี้ สามารถติดต่อศูนย์ข้อมูลฯ ได้ที่ โทร. 02.295.3905 ต่อ 114 คุณสัญชัย

13  อื่นๆ / Cafe / ต้นไม้ยักษ์และทรัพยากรป่าไม้ ประเมินค่าได้อย่างไร เมื่อ: 03 พฤศจิกายน 2022, 10:11:08
ต้นไม้ยักษ์และทรัพยากรป่าไม้ ประเมินค่าได้อย่างไร
  AREA แถลง ฉบับที่ 797/2565: วันพฤหัสบดีที่ 03 พฤศจิกายน 2565

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th https://www.facebook.com/dr.sopon4
 

            ต้นไม้มีมูลค่าทั้งต้นไม้ยักษ์ใจกลางเมือง และทรัพยากรป่าไม้ทั้งป่า โดยเฉพาะต้นไม้ขนาดใหญ่ที่อยู่ในเมืองมีค่ามากกว่าที่คิด ป่าเขาจะประเมินค่าอย่างไร เป็นสิ่งที่ผู้เกี่ยวข้องต้องทราบ


            ในกรุงเทพมหานคร มีต้นไม้ขนาดใหญ่นับพันต้น  และที่ผ่านมาเคยมีการจัดประกวดต้นไม้ยักษ์ โดยกลุ่มโซเชียลมีเดีย “บิ๊กทรี” (BigTrees Project) ร่วมกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นหลายแห่ง  และปรากฏว่ามีต้นไม้ที่ชนะการประกวด เช่น ต้นไม้ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพมหานคร (มีเส้นรอบวงตั้งแต่ 2 เมตรขึ้นไป) รางวัลชนะเลิศ  คือต้น “ไทรย้อย” (ขนาดเส้นรอบวง 16.5 เมตร) ในโรงเรียนพระรามหกเทคโนโลยี ถนนจรัญสนิทวงศ์ เขตบางพลัด ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 คือ “ต้นกร่าง” (ขนาดเส้นรอบวง 15.67 เมตร) ตั้งอยู่ในโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย ถนนเจริญกรุง ซอยเจริญกรุง 57 และรองชนะเลิศอันดับ 2 ต้นไทร (ขนาดเส้นรอบวง 13.77 เมตร) ขึ้นอยู่บนเชิงสะพานบางขุนเทียน ถนนจอมทอง

            ประเภทที่ 2 ต้นไม้ที่สูงสุดในกรุงเทพมหานคร ชนะเลิศ คือ “ต้นยางนา” (สูง 33.24 เมตร) อยู่ในพื้นที่ของโรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์ (วัดน้อยใน) ในพระราชูปถัมภ์ฯ แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ “ต้นโพธิ์” (สูง 30.18 เมตร) สถานที่ตั้งอยู่ในสุดซอยมังกร 2 ถนนมังกร  เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และรองชนะเลิศอันดับ 2 คือ “ต้นสมพง” (สูง 30.03 เมตร) อยู่ในโรงแรมสวิสโฮเต็ล ปาร์คนายเลิศ ถนนวิทยุ

            ประเภทที่ 3 ต้นไม้ที่สมบูรณ์สุดในกรุงเทพมหานคร โดยวัดจากโหวตในสังคมออนไลน์ ปรากฏว่า “ต้นประดู่”   ในโรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย  ในซอยเจริญกรุง 57 ถนนเจริญกรุง คว้ารางวัลชนะเลิศด้วยผลโหวต 828 คะแนน และ “ต้นมะฮอกกานี” ในถนนหลัก หมู่บ้านนวธานี ถนนเสรีไทย เขตบึงกุ่ม ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ   ด้วยคะแนน 229 คะแนน และ “ต้นจามจุรี” ในบ้านเลขที่ 212 ซอยรามอินทรา 46 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ส่วน “ต้นไทร” บริเวณปากซอยวิภาวดี 29 ริมทางคู่ขนานวิภาวดีรังสิตคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2

            สำหรับประเภทที่ 4 ต้นไม้ทรงคุณค่าที่สุดในกรุงเทพมหานคร ที่คัดเลือกโดยการโหวตเช่นกันคือ “ต้นไกร” ในธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย ถนนโยธา ได้รางวัลชนะเลิศ และ “ต้นโพธิ์” บริเวณหน้าธนาคารไทยพาณิชย์ สำนักงานใหญ่ (รัชโยธิน) ได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 1 ขณะที่ต้นไทรในสวนวชิรเบญจทัศหรือสวนรถไฟ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2

            ต้นไม้ในเมืองเหล่านี้ไม่ได้มีมูลค่าจาการขายเนื้อไม้ หรือผลิตผลจากไม้ (เช่น ยางไม้) เพราะมูลค่าเหล่านี้มีไม่มากนัก เช่น  ถ้าต้นยางนาสูง 33 เมตร เมื่อริดกิ่งแล้วสมมติเหลือลำต้นยาว 25 เมตร มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง สมมติมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร จะได้ปริมาณเนื้อไม้

            = (22/7 * r ยกกำลัง 2) * ความยาว

            = (22/7 * 1.5 *1.5 * 25)

            = 176.7857 ลบ.ม.

            ถ้าราคาหน้าโรงงาน สมมติเป็นเงินตันละ 2,400 บาท ราคาต้นยางนายักษ์ ก็จะเป็นเงิน 424,286 บาท และเมื่อหักค่าแรงทำไม้ประมาณ 30% ก็จะเป็นเงินสุทธิประมาณ 297,000 บาท

            อย่างไรก็ตามต้นยางนายักษ์ในเมืองมีมูลค่ามากกว่านั้น เพราะยังมีมูลค่าจาก

            1. การให้เข้าชม ซึ่งเป็นรายได้ทางหนึ่ง

            2. การเช่าใช้สถานที่ เช่น การถ่ายทำละคร

            3. รายได้เกี่ยวเนื่อง เช่น การวิจัย การขายสินค้าและบริการในพื้นที่

            4. การใช้ประกอบการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เช่น การสร้างอาคารให้สอดรับกับต้นไม้นั้นๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าของอาคารให้สูงกว่าปกติ เป็นต้น

            5. การมีส่วนเกื้อหนุน (Contribution) ต่อ (วิสาหกิจ) เจ้าของสถานที่ที่ครอบครอบต้นไม้นี้

            สำหรับป่าผืนหนึ่งมีมูลค่าเท่าไหร่ จะประเมินค่าเป็นตัวเงินได้อย่างไรบ้าง การประเมินนี้มีไว้เพื่อการวางแผนการจัดการป่าไม้เป็นสำคัญนั้น ในประเทศไทย และในต่างประเทศมีการศึกษาเกี่ยวกับการประเมินมูลค่าป่าไม้เพื่อการวางแผนการจัดการทรัพยากรป่าไม้ เช่นทางองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ หรือทางราชการของญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา

            อาจกล่าวได้ว่า มูลค่าของทรัพยากรป่าไม้มาจากมูลค่าของสิ่งที่สามารถซื้อ-ขายได้โดยตรง อันได้แก่

            1. ต้นไม้ (เช่น การขุดล้อมต้นไม้) เนื้อไม้ที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ เช่น เป็นวัสดุก่อสร้าง หรือใช้เพื่อการเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

            2. ของป่าที่จะหาได้จากป่าไม้นั้นๆ

            3. สัตว์ป่า

            4. รายได้จากการท่องเที่ยวที่เกี่ยวกับป่าไม้ รวมทั้งที่พัก ที่สันทนาการ ประชุมสัมมนาในพื้นที่เขตป่าหรือเขตอุทยานแห่งชาติ

            นอกจากนี้ยังมีมูลค่าของทรัพย์สินในกรณีของการดำรงอยู่ของป่าไม้ เช่น ป่าไม้ช่วยป้องกันพายุ โดยวัดจากความเสียหายหากไม่มีป่าไม้ การป้องกันการพังทลายของดิน การดูดซับแก๊สพิษต่างๆ  การเป็นแหล่งต้นน้ำของสายธารหรือแม่น้ำลำคลองต่างๆ   ถ้าขาดป่าไม้ผืนนี้จะทำให้เกิดความเสียหายประการใดบ้าง ซึ่งสามารถตีค่าเป็นจำนวนเงิน เพื่อการวัดคุณค่าของป่าไม้นั้นๆ

            อย่างไรก็ตามในการวัดค่าจริงๆ บางครั้งอาจไม่มีข้อมูลราคาซื้อขายจริง ก็อาจสมมติเป็นราคาซื้อขายสินค้าที่เทียบเคียงกันได้ เช่น ถ้าไม่มีไม้ อาจต้องใช้พลาสติกแทน หรือวัสดุก่อสร้างอื่น หรือถ้าไม่มีข้อมูลตลาดของการซื้อขาย ก็อาจใช้ต้นทุนการก่อร่างสร้างป่า ลบด้วยมูลค่าที่พึงได้ หรืออาจพิจารณาถึงปัจจัยอื่นๆ  ที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณีของป่าแต่ละพื้นที่และป่าแต่ละประเภท  ผู้ประเมินค่าต้นไม้ใหญ่หรือกระทั่งทรัพยากรป่าไม้จึงต้องสำรวจข้อมูลให้ชัดเจนจากแหล่งต่างๆ ให้ครอบคลุมให้มากที่สุดและอาศัยเครื่องมือทางการเงินมาทำการวิเคราะห์ต่อไป

            ต้นไม้และป่าไม้มีมูลค่าอเนกอนันต์ สามารถตีค่าเป็นเงินได้เสมอ



         ที่มา: pixabay.com/th/photos/ต้นไม้-สวนสาธารณะ-ในเมือง-1122363/

 


ผู้แถลง:
ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th ): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน
14  อื่นๆ / Cafe / กด https://rb.gy/l5oohh มีรางวัล เมื่อ: 19 มกราคม 2021, 11:36:48
กด https://rb.gy/l5oohh มีรางวัล
  AREA แถลง ฉบับที่ 50/2564: วันอังคารที่ 19 มกราคม 2564

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th

            เมื่อท่านกดเข้าไปในเว็บนี้ https://rb.gy/l5oohh และตอบคำถาม ท่านจะได้รับรางวัลในฐานะผู้สนับสนุนการเผยแพร่ข่าวสารความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นกลาง ตามนโยบาย “ความรู้ไม่ใช่สมบัติส่วนตัว” (ต้องเผยแพร่: Knowledge Is Not Private Property)

15  อื่นๆ / Cafe / เผยความลับในตลาดอสังหาฯ ที่ไม่มีใครรู้ เมื่อ: 19 มกราคม 2021, 11:36:27
 AREA แถลง ฉบับที่ 49/2564: วันอังคารที่ 19 มกราคม 2564

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th

 

            ความลับที่ท่านทราบหรือไม่ว่าตอนนี้ที่บางกะปิ บางขัน บางเขน บางแค บางนา บางบอน บางบัวทอง บางพลัด บางพลี บางยี่เรือ บางวัว ฯลฯ (ประมาณ 78 ทำเลทั่วเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล) ในขณะนี้:


            1. มีหน่วยขายรอคนซื้ออยู่เท่าไหร่กันแน่ แยกตามประเภท (บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ห้องชุด และที่ดินจัดสรร และในแต่ละระดับราคาที่แตกต่างกัน)

            2. ในช่วงปีที่ผ่านมา ขายไปได้แล้วเท่าไหร่

            3. อัตราการขายได้ต่อเดือนเป็นอย่างไร

            4. ประเภทไหน ระดับราคาไหนที่ราคาเพิ่มขึ้น / ลดลง

            5. มีหน่วยเปิดใหม่เท่าไหร่ แยกตามประเภทและระดับราคา

            6. โครงการไหนที่ขายดีน่าจับตามองว่าทำไมจึงขายดี

            7. ประเภทและระดับราคาในทำเลใดที่ขายไม่ออก ไม่ควรพัฒนามาขาย ฯลฯ

            ผู้ที่จะสามารถเผยความลับเหล่านี้ได้คือ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) ซึ่งสำรวจข้อมูลทุกพื้นที่ทุกทำเลทั่วเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล  ท่านที่สนใจจะได้รับรายงานฉบับเต็มประมาณ 1,000 หน้า (มี 2 เล่ม เล่มรายงานและเล่มภาคผนวก)

            ลงทะเบียนด่วน https://www.trebs.ac.th/th/15/Exclusive-Seminar-in-English
16  อื่นๆ / Cafe / ราคาบ้านทั่วโลกยังเพิ่มสวนกระแสโควิด เมื่อ: 18 มกราคม 2021, 14:18:02
AREA แถลง ฉบับที่ 48/2564: วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2564

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th

            น่าแปลกใจมากว่าทำไมราคาบ้านจึงยังเพิ่มขึ้นสวนกระแสโควิดที่กำลังระบาดหนัก ในความคาดเดา โควิดน่าจะทำให้ราคาบ้านตกต่ำวินาศสันตะโรมากกว่าทำให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้น ทำไมจึงเป็นอย่างนั้น


            ในฐานะที่ผมเป็นประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตทท แอฟแฟร์ส (www.area.th ) จึงได้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงราคาที่อยู่อาศัยทั่วโลกมาเพื่อประกอบการวิเคราะห์ตลาดที่อยู่อาศัย และเห็นว่าราคาตลาดไม่ได้ลดลงแต่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นปรากฏการณ์ที่ผิดจากความคาดหมายที่ว่าราคาบ้านน่าจะตกเพราะโควิดจะส่งผลให้เศรษฐกิจไม่ดีเท่าที่ควร

            แต่ก่อนอื่นมาดูสถานการณ์เรื่องโควิดสักนิด นับถึงวันที่ 23 ธันวาคม 2563 พบว่ามีผู้ติดเชื่อทั่วโลก 78,360,768 คน เสียชีวิต 1,723,771ราย หายแล้ว 55,121,982 ราย ยังป่วยอยู่ 21,515,015 ราย และ 99.5% อยู่ในภาวะป่วยเล็กน้อย ที่อยู่ในขั้นวิกฤติมี 106,353 รายหรือคิดเป็น 0.5%  อาจกล่าวได้ว่าในจำนวน 56,845,753 รายที่ “ปิดบัญชี” ไปแล้ว 97% หายขาด และมีเพียง 3% ที่เสียชีวิต จึงนับว่าโรคนี้แม้ติดง่ายแต่ก็ไม่ตายมากมายถึง 20-30% เช่นกรณีซาร์ส หรือเมอร์สแต่อย่างใด

            ข้อสังเกตหนึ่งก็คือแม้ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตวันละ 12,000  คน มากกว่าช่วงแรกๆ ในเดือนเมษายน 2563 ที่เสียชีวิตวันละ 8,000 คนก็ตาม  แต่ในช่วงนี้มีผู้ติดเชื้อวันละ 700,000 คน ในขณะที่ช่วงแรกๆ มีผู้ติดเชื้อวันละเพียง 90,000 คน แสดงว่าอัตราการเสียชีวิตในช่วงแรกๆ สูงกว่ามาก  ในช่วงหลังมานี้แม้ติดโควิดกันมาก แต่ส่วนมากหายเองในเวลาต่อมา  ไม่ใช่ติดแล้วจะไม่หายหรือหายแล้วมีปัญหากับปอดไปตลอดชีวิต

            สำหรับในกรณีประเทศไทย จะพบว่ามีผู้ติดเชื้อแล้ว 5,716 คน เสียชีวิต 60 ราย อัตราการรอดชีวิตคือ 99% ในขณะที่ทั่วโลกอยู่ที่ 97%  แม้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะมีปัญหาเรื่องแรงงานเมียนมาแพร่เชื้อโควิดและแพร่กระจายไปทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก  แต่ก็อย่าได้วิตก เพราะถ้าโควิดร้ายแรงจริงๆ ป่านนี้คนเก็บขยะ คนเร่ร่อน คนกวาดถนน หรือแม้แต่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ก็คงมีข่าวป่วยกันระนาวบ้างล่ะ

            ในขณะที่โควิดทำให้ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตรวม 1,723,771 ราย แต่ก็ยังมีสาเหตุการตายที่รุนแรงกว่าโควิดเป็นจำนวนมาก เช่น 12,710,945 รายที่ตายเพราะโรคติดต่อ 8,041,594 รายที่ตายเพราะมะเร็ง  7,442,496 รายที่ตายตั้งแต่ยังเป็นเด็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ  4,894,845 ตายเพราะการสูบบุหรี่ 2,448,912 ตายเพราะดื่มแอลกอฮอล์

 


 

            ส่วนการตายประเทศไทยนั้นเป็นเพราะโควิดมีเพียง 60 ราย ที่ว่ากำลังติดอยู่ทุกวันนี้ยังไม่มีรายงานข่าวการเสียชีวิต แต่ในไทยมีอัตราการฆาตกรรมถึง 3,467 ราย ฆ่าตัวตายเอง 3,755 ราย เอดส์ 4,000 ราย ทั้งนี้การตายเพราะการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์และมะเร็ง ครองแชมป์สูงสุดนับหมื่นๆ คน  โควิดจึงไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากนัก  ด้วยเหตุนี้แม้หลายคนจะกลัวติดโควิด แต่ก็ใช่ว่าจะมีความรุนแรงของปัญหามากนัก

 

            มาดูการเปลี่ยนแปลงราคาบ้านจะพบว่า
            1. สหรัฐอเมริกา: จากข้อมูลของ Federal Housing Finance Agency ราคาบ้านเพิ่มขึ้นประมาณ 1% ในรอบเดือน และในรอบ 1 ปีเพิ่มขึ้น 6% สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดถึง 18,684,628 คนแล้ว แต่ราคาบ้านก็ยังไม่ตกต่ำลง

            2. อังกฤษ: ณ เดือนตุลาคม 2563 ราคาบ้านในอังกฤษเฉลี่ยมีราคา 245,443 ปอนด์ (9.94 ล้านบาท) ราคาบ้านเพิ่มขึ้น 0.7% ในรอบ 1 เอือนที่ผ่านมา ทำให้ราคาทั้งปีเพิ่มขึ้น 5.4% ที่เป็นเช่นนี้เป็นเพราะอังกฤษมีมาตรการกระตุ้นการซื้อบ้านอยู่ในขณะนี้ จึงทำให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้น

            3. เยอรมนี: ราคาบ้านตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง ตุลาคม 2563 เพิ่มขึ้นแล้ว 7.1% จากดัชนี 171.87 เป็น 185.2266  เศรษฐกิจเยอรมนียังเดินหน้าต่อไปแม้จะเผชิญกับการคุกคามของโควิดก็ตาม

            4. อิตาลี: อาจถือได้ว่าประเทศนี้เป็นศูนย์กลางของโควิดก็ว่าได้ แต่ราคาบ้านก็ยังเพิ่มขึ้นจากดัชนี 98.6 ในเดือนมกราคม 2563 เป็น 102.5 ในเดือนกรกฎาคม 2563 หรือเพิ่มขึ้น 4% ซึ่งนับว่าไม่เลวเลยทีเดียว

            5. สิงคโปร์: ราคาบ้านก็เพิ่มขึ้น 0.8% ในรอบไตรมาสที่ 2-3 ของปี 2563 ถึงแม้ว่าโควิดจะติดกันงอมแงมในสิงคโปร์ แต่ส่วนมากติดในหมู่คนงาน ไม่ใช่ชาวสิงคโปร์เอง

 

            ในกรณีประเทศไทย ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตทท แอฟแฟร์ส ได้สำรวจจนได้ข้อค้นพบว่า
            1. สินค้าใหม่ในตลาด กรณีบ้านหรือห้องชุดหลังเดิมที่ผู้ประกอบการขาย ณ เดือนธันวาคม 2562 เมื่อเทียบกับ ณ เดือนมิถุนายน 2563 (6 เดือน) ปรากฏว่าราคาลดลงเฉลี่ย 3.5%

            2. สินค้าที่เปิดขายใหม่ที่เปิดในปี 2562 ทั้งที เทียบกับสินค้าที่เปิดขายในปี 2563 พบว่าราคาเพิ่มขึ้น 2% แสดงว่าไม่ได้ก่อสร้างขายบ้าน/ห้องชุดในราคาต่ำมากนัก เพราะผู้มีรายได้สูง/ปานกลางค่อนข้างสูงยังมีกำลังซื้อ แต่ผู้มีรายได้น้อย กำลังซื้อถดถอย

            3. สินค้ามือสองทั้งบ้านและห้องชุดที่เพิ่งเสร็จได้ไม่เกิน 2ปี สภาพยังใหม่อยู่ ปรากฏว่าราคาเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 1% และมีอัตราผลตอบแทนจากการให้เช่าประมาณ 3-4% เท่านั้น

            4. ส่วนสินค้ามือสอง เช่น ห้องชุดมือสองอายุ 20-30 ปี ปรากฏว่าราคาไม่ลดลงเลย มีค่าความเปลี่ยนแปลงเท่ากับ 0% ทั้งนี้เพราะสินค้ากลุ่มนี้มีราคาต่ำกว่าสินค้ามือหนึ่งประมาณ 30% อยู่แล้ว

            แต่ก็ใช่ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์โดยรวมจะไม่ตกต่ำลง เพราะถ้าเป็นโรงแรม รีสอร์ตเพื่อการท่องเที่ยวราคาคงตกต่ำลงแน่นอนเพราะนักท่องเที่ยวมีจำกัดลงกว่าแต่ก่อนมาก ราคาอาจลดลงประมาณ 10-30% ก็ว่าได้  ยิ่งกว่านั้นบ้านในแหล่งท่องเที่ยวก็อาจลดราคาลงได้เช่นกันเพราะผู้อยู่อาศัยอาจย้ายออกเนื่องจากไม่มีงานด้านการท่องเที่ยวให้ทำอีกต่อไปในระยะเวลาประมาณ 2 ปีนี้

            อย่างไรก็ตามโควิดก็เป็นเพียงปรากฏการณ์ชั่วคราวที่แม้ว่าจะอยู่กับเราต่อไปอีกนาน แต่เราก็จะสามารถปรับตัวได้ มีวัคซีนไว้ป้องกัน  การเดินทางท่องเที่ยวต่างๆ ก็จะกลับมา  ที่สำคัญคือกิจกรรมทางเศรษฐกิจก็ยังต้องดำเนินต่อไป ซึ่งกรณีนี้อาจแตกต่างจากกรณีวิกฤติเศรษฐกิจที่การเปิดตัวโครงการใหม่แทบไม่มีเลย  แต่ในช่วงโควิดนี้ยังมีการเปิดตัวโครงการน้อยกว่าก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งในสี่ และยังมีหลายโครงการที่ขายได้หมดภายในเวลา 1-2 เดือนนับจากการเปิดตัว  เพราะทำเลดี ราคาโดยเปรียบเทียบแล้วคุ้มค่าน่าซื้อกว่าโครงการอื่นนั่นเอง

            อย่าปริวิตกกับโควิดจนเกินไป ทางออกยังมี ทางสว่างยังรอเราอยู่
17  อื่นๆ / Cafe / หนังสือ “อาชิว ชิว ชิว” รับได้ฟรี ๆ เมื่อ: 18 มกราคม 2021, 14:17:30
AREA แถลง ฉบับที่ 47/2564: วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2564

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th

            “Knowledge Is Not Private Property” ดร.โสภณ พรโชคชัยมาแจกหนังสือฟรี ท่านเคยได้เห็นหรือยัง “อาชิว ชิว ชิว” Download รับได้ฟรีๆ

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) ขอมอบหนังสือ “อาชิว ชิว ชิว” เพื่อเป็นอภินันทนาการแก่ท่านผู้มีอุปาระคุณทุกท่าน หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะมีสาระตามสมควร โดยท่านสามารถ download ได้ตาม link http://bit.ly/1UtPNdf

            ในท้ายนี้ และถ้าท่านสนใจสั่งซื้อ ก็นับเป็นนิมิตหมายที่ดียิ่ง โดยรายได้โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆ มอบให้มูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย เพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ ท่านก็สามารถทำได้ โดยติดต่อ คุณนงลักษณ์ จตุเทน โทร. 02.295.3905 ต่อ 109

โปรดคลิก Link นี้เพื่อดาวน์โหลด   http://bit.ly/1UtPNdf
           
ดูรายการหนังสือทั้งหมดตาม link นี้ https://www.thaiappraisal.org/thai/journal/publication.php
18  อื่นๆ / Cafe / เชิญฟังกรณีศึกษาโครงการอสังหาฯ ดีเด่นระดับโลก เมื่อ: 18 มกราคม 2021, 14:17:02
AREA แถลง ฉบับที่ 45/2564: วันจันทร์ที่ 18 มกราคม 2564

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th

 
FIABCI หรือ สมาคมอสังหาริมทรัพย์สากล โดยคณะกรรมการฝ่ายนักพัฒนาที่ดินและนักลงทุนจะจัดให้มี Online Forum Series เรื่องโครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่นในวันพฤหัสบดีที่ 21 มกราคม 2564 เวลา 20:00 น. (เวลาประเทศไทย) โดยจะมีโครงการอสังหาริมทรัพย์ดีเด่นจาก 3 ประเทศ ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา และอินโดนีเซียมานำเสนอให้ทุกท่านได้ชม
 
ท่านสามารถเข้าร่มว zoom ได้ฟรีที่ https://zoom.us/j/94655631565 หรืออาจจะชมสดทาง FB Live ที่ https://www.facebook.com/FIABCIofficial.   การสัมมนาครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อนักพัฒนาที่ดิน นักลงทุนและนักวิชาชีพด้านอสังหาริมทรัพย์ทุกท่าน


อนึ่ง ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) เป็นนายกสมาคม FIABCI ประจำประเทศไทย (www.fiabci-thai.org ) ท่านที่สนใจสามารถสมัครเป็นสมาชิก FIABCI เพื่อการเชื่อมต่อกับทั่วโลกได้ โดยดูรายได้ละเอียดได้ตามเว็บไซต์

19  อื่นๆ / Cafe / เล่าเรื่องขึ้นภูกระดึงตอนอายุ 63 ปี เมื่อ: 18 มกราคม 2021, 14:16:24
AREA แถลง ฉบับที่ 43/2564: วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th

            ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) เล่าเรื่องการขึ้นภูกระดึงในครั้งนี้เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้สูงวัยได้ลองขึ้นภูกระดึงดู  แม้ ดร.โสภณจะถือว่าอาวุโสกว่าใครๆ ที่ขึ้นภูกระดึง แต่ในระหว่างทางก็ยังมีผู้ที่อาวุโสสูงกว่า ยังสามารถขึ้นภูกระดึงได้เช่นกัน  ลองฟังเรื่องเล่านี้ดู

 
เล่าเรื่องขึ้นภูกระดึงตอนอายุ 63 ปี
https://youtu.be/O9HpPjRl1G0
20  อื่นๆ / Cafe / อาลัย “ทวีลาภ เอกอินทร์” เมื่อ: 18 มกราคม 2021, 14:15:51
AREA แถลง ฉบับที่ 42/2564: วันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564

ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก.เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส sopon@area.co.th

            คุณทวีลาภ เอกอินทร์ ผู้ประเมินค่าทรัพย์สินรุ่นพี่ของผมได้จากไปเมื่อวันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2564 นี่ผ่านมา  ถึงวันนี้ (15 มกราคม 2564) ผมก็เพิ่งทราบ จึงขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณทวีลาภด้วย

            คุณทวีลาภ หรือ “พี่ลาภ” ของผม เกิดเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2496 ก่อนผม 5 ปี ผมพบคุณทวีลาภครั้งแรกในปี 2533 หรือเมื่อ 31 ปีก่อน  คุณทวีลาภเป็นคนมีอารมณ์ขัน  ตอนนั้นผมเป็นผู้จัดการทั่วไปอยู่ บจก.ทีมดี ซึ่งเป็นบริษัทประเมินเช่นเดียวกับ บจก.ไทยประเมินราคาที่คุณทวีลาภเคยทำงานอยู่  คุณทวีลาภทักผมว่ามาจาก “ทีมดี” แล้ว “ทีมไม่ดี” อยู่ไหน เล่นเอาฮากันทั้งโต๊ะ


            ต่อมาคุณทวีลาภก็ออกมาตั้งบริษัทประเมินของตนเองร่วมกับเพื่อนๆ ในนาม บจก.กรุงเทพประเมินราคา ก่อนผมตั้งศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส (www.area.co.th ) ในปี 2534  บริษัทของเราอยู่คลอยเตยเหมือนกัน ผมเลยแวะเวียนไปเยี่ยมเยียนเป็นระยะๆ  จนเมื่อผมย้ายที่ตั้งบริษัทไปอยู่แถวยานนาวา  การพะปะกันก็ค่อยๆ น้อยลงตามลำดับ  ตอนหลังคุณทวีลาภก็ตั้ง บจก.ที.เอ.มาเนจเม้นท์ คอร์โปเรชั่น (1999)

            แต่นับแต่ปี 2541 เป็นต้นมา คุณทวีลาภและผมก็เป็นกรรมการสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทย ช่วยกันพัฒนากิจกรรมของสมาคมเรื่อยมา  ในปี 2542 สมาคมเราไปประชุมสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งอาเซียนที่กรุงฮานอย คุณทวีลาภก็ไปด้วย  ผมจำได้แม่นว่าเข็มขัดของผมขาด ไม่สามารถใช้การได้  คุณทวีลาภกรุณาให้ผมยืมเข็มขัดที่คุณทวีลาภได้เตรียมไว้อีกเส้นหนึ่ง  ผมทึ่งมากที่คุณทวีลาภเป็นคนละเอียดลออขนาดที่ผมคาดไม่ถึงเลย

            ผมทึ่งในตัวคุณทวีลาภอีกหลายอย่าง เช่น ครั้งหนึ่ง ขณะที่ผมขอติดรถคุณทวีลาภกลับจากประชุมด้วยกัน ปรากฏว่าคุณทวีลาภคุยมือถือกับลูกค้าบ้าง สั่งงานบ้างอยู่ตลอดเวลา  นับเป็นคนที่ใส่ใจกับการทำงานเป็นอย่างยิ่ง  คุณทวีลาภยังเป็นคนที่มองการณ์ไกลในการลงทุน เพราะจำได้ว่าคุณทวีลาภได้ลงทุนสร้างอะพาร์ตเมนต์เพื่อการเก็บกินรายได้ในระยะยาวในขณะที่ผมยังเพิ่งซื้อที่ตั้งบริษัทของผมได้ไม่นานเมื่อเกือบ 30 ปีก่อน

            กระทั่งผมมาตั้งมูลนิธิประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยเพื่อเผยแพร่ความรู้การประเมินค่าทรัพย์สินแก่สาธารณะ แต่ก็ยังเป็นสมาชิกของทั้งสมาคมผู้ประเมินค่าทรัพย์สินแห่งประเทศไทยและสมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย  ผมก็ไม่ค่อยได้พบปะกับคุณทวีลาภนัก  ยกเว้นไปพบกันในงานต่างๆ จนในที่สุดผมเพิ่งมาทราบก่อนคุณทวีลาภจากโลกนี้ไปว่าคุณทวีลาภมาเป็นอุปนายกสมาคมนักประเมินราคาอิสระไทย

            คุณทวีลาภนับเป็นกัลยาณมิตรที่ผมหลับตานึกถึงทีไร ก็เห็นมิตรภาพอันดีงาม  ขอให้คุณทวีลาภหลับให้สบาย และคอยชื่นชมความรุ่งเรืองของบุตรหลานต่อไป

 

ดร.โสภณ พรโชคชัย
ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย
บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส


RIP ทวีลาภ เอกอินทร์
https://www.youtube.com/watch?v=WQzd5AIB7-E

นายทวีลาภ เอกอินทร์
https://www.youtube.com/watch?v=kXSGNFfLlbE
หน้า: [1] 2 3 4