ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 6
21  ความรู้ทั่วไป / Cryptocurrency / Re: **** ไปเทขายได้แล้ว BTC ขึ้น 11.28% แล้ว ***** เมื่อ: 23 มิถุนายน 2019, 10:56:31
มีขึ้น มีลง รอบนี้จะลากกันไปสูงแค่ไหน ใครลุกช้า ก็หมดตู็ดเหมือนเดิม
22  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / Re: ชาว Thaiseo เอาอุปกรณ์ชนิดไหนทำงานนอกออฟฟิศครับ เมื่อ: 23 มิถุนายน 2019, 10:51:55
Surface Pro, Macbook pro, ipad pro เมาส์ คีย์บอร์ดไร้สาย แอร์การ์ดทุกค่ายครับ ไปทำงานที่ไหนก็หายห่วง
23  < กดยุบ (ห้องยกเลิกการใช้งาน) / สาระคำถามทั่วไป (ย้ายไป cafe) / Re: เล่นหุ้นออนไลน์ ดีไหมครับ เมื่อ: 07 มิถุนายน 2019, 11:59:21
ดีจริงครับ ถ้าคุณเข้าใจมันดีแล้ว ถ้าคุณไม่รู้ว่าจะเล่นยังไง จะหาข้อมูลยังไง เริ่มต้นยังไง ก็ทำอย่างอื่นไปก่อน
ทุกอย่างต้องเริ่มศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเอง อย่างไปเชื่อคนง่าย ทำเงินได้จริงแต่เป็นแค่ช่วงสั้นๆ เท่านั้น กว่าคุณ
จะเป็นขาใหญ่ กว่าคุณจะได้ข้อมูลเชิงลึก กว่าคุณจะมีโอกาสโกงตลาดได้ ต้องมีประสบการณ์พอสมควร

ผมมีประสบการณ์รับเอาท์ซอร์สที่พัฒนา Matlab/Simulink บอทเทรด forex และ ตลาดหุ้นให้กับขาใหญ่กลุ่มหนึ่ง
ซึ่งปีที่แล้วกลุ่มนี้มีกำไร 7 แสนล้านบาทภายใน 6 เดือน ผมบอกได้เลยว่า AI ที่เขาหลอกขาย หลอกให้คนเชื่อ
หลอกให้คนงมงายอยู่นั้น ไม่มีความฉลาดมากพอ รับมือการโกงของคนไม่เป็น นั่นคือ ทำไม AI เหล่านี้จึงไม่ทำ
ให้พวกคุณรวยจริงๆ ซะที ผมเองก็ได้เงินจากฟอร์เร็กซ์และหุ้นบ้างก็เพราะ องค์ความรู้เหล่านี้

สิ่งแรกๆ ที่ต้องจำไว้ก็คือ
1. AI มีความฉลาดหลายระดับตั้งแต่ 1-10 ดั้งนั้น อย่าเชื่อว่า AI จะพาคุณไปเป็นเศรษฐี เพราะ AI ที่ฉลาดที่สุดบนโลกนี้
มี DeepMind ของกูเกิล เครื่องคอนตัมคอมพิวติ้งของ Google+นาซ่า นอกจากนั้นถือว่าเป็น AI หลอกหลวงทั้งนั้น ดูง่ายๆ
ก็ได้ไม่เคยมีกำไรเทรดเกิน 1 ล้านล้าน บาทเลย ทั้งที่ตลาดการเงินของโลกมีเงินหมุนเหวียน 900 ล้านล้านบาทต่อปีให้กอบ
โกย ถ้าฉลาดจริงมันต้องทำให้กลุ่มนั้นๆ รวยมากไปแล้ว
2. AI โกงไม่เป็น แต่คนโกง AI ได้ตลอด ในตลาดมีการโกงมากมาย ตัวบอทจะต้องผสมผสานให้เป็นส่วนหนึ่งในการโกงด้วย
ไม่งั้นไม่รวย เท่าที่ผมทำคือ ขาใหญ่จะใช้สื่อหลอกแมงเม่่าทั่วไปให้โง่ ขาใหญ่จะเกาะโบรกเกอร์เพื่อดึงข้อมูลส่วนตัว ดึงข้อมูล
การเทรดต่างๆ บอท AI ของแต่ละคนซึ่งระดับความฉลาดไม่เยอะ มาให้ AI ของขาใหญ่ที่ร่วมมือกับโบกเกอร์ต่างๆ จับกิน

การเล่นหุ้นต้องโกงคือ หลอกให้คนโง่ แล้วใช้ AI ที่ฉลาดระดับ 5-6 ซึ่งดีกว่า AI ของแมงเม่าทั่วไปที่อยู่ในระดับ 0-3 ถึงจะมี
กำไรงาม ต้องรู้ไว้เลยว่าบอทของขาใหญ่ในโลกเขาดึงข้อมูลจากโบรกเกอร์ไปประมวลผล เพื่อให้ บอทเทรดตัวเองหากิน ดังนั้น
คุณจะถูกโบกเกอร์หลอกเอาข้อมูลทุกอย่าง คุณจะถูกขาใหญ่หลอกปล่อยข่าวลือ คุณจะถูกขาใหญ่จับกิน คุณจะถูกหลอกว่าบอท
 AI ฉลาดกว่าคน หลอกว่ามีกำไรตลอดชาติ เรื่องเหล่านี้โกหกล้วนๆ ไม่ปนความจริงสักอย่าง

อยากรวยต้องรู้ว่า คนพวกนี้โกงคนอื่นยังไงบ้าง หลอกคนทั่วไปอย่างไรบ้าง ใช้ AI จับกินในตลาดอย่างไรบ้าง แล้วค่อยๆ พัฒนา
AI ของตัวเองขึ้นมา ทำหลายๆ ตัว เทสต์ไปเรื่อยๆ เมื่อใครหลอกคุณไ่ม่ได้ AI มันฉลาดมากกว่า AI ของโบรกเกอร์+ขาใหญ่
นั่นละ คุณถึงจะมีกำไรตลอดชีวิต จากประสบการณ์นะครับกลุ่มจะรวยจริงๆ คือ โกงตลาดยังไง + บอท AI ที่ดีกว่าตลาด ผมยัง
ไม่เคยเห็นข่าวว่า บอท AI ฉลาดเพรียวๆ ทำเงินหลักแสนล้านได้เลย การโกงตลาดมีมานานครับเข้าก็ใส่ AI มาช่วยให้โกงเร็วขึ้น
ผมเขียน Math Model พวกนี้ เทสต์พวกนี้เป็นหลายพันครั้ง ผมถึงบางอ้อว่า บอท AI ที่มีบนโลกนี้ยังไม่ฉลาดพอในตลาดหุ้น
ส่วนใหญ่ก็หลอกกันไปหลอกกันมาเท่านั้น

ผมเขียน AI มาสิบกว่าปี น้อยกว่าโบรกเกอร์ฝรั่ง 4 เท่า ก็พอรู้ว่าพวกมันฉลาดถึงไหนแล้ว ปัจจุบันผมก็ยังโดนทุบขาดทุนหลายครั้งครับ เพราะ
AI มันโกงคนไม่เป็น แต่คนโกง AI ได้ง่ายมาก ประสบการณ์จะทำให้แข็งแกร่ง แน่นอนว่า หากคุณอยากชนะคุณจะต้องรับ
มือพวกโกงคุณให้ได้ซะก่อน อย่าเชื่อคนง่าย อ่านข่าวต่าประเทศหลายๆ สื่อ อย่าคิด่ว่ามันง่าย ทำจากสิ่งเล็กๆ ที่เราเชี่ยวชาญมากที่สุดก่อน
รู้ว่าบริษัทที่เราจะลงทุนเป็นยังไง พนักงานแต่ละคนเก่งไหม มืออาชีพหรือไม่ ธุรกิจมีอนาคตหรือเปล่า
รู้ว่าสินค้าทางการเงินจะเป็นยังไง รู้ให้ทุกรูขุมขนเลย เล่นจากจุดเล็กๆ ให้ชำนาญ ค่อยต่อยอดไปเป็น AI แล้วขยับขึ้นไปสู้กับขาใหญ่
หากคุณไม่รู้ว่า ตลาดโกงคุณยังไง คุณก็คือเหยื่อของคนบางกลุ่มที่่กำลังจ้องตาเป็นมัน เพื่อรอเหยื่ออันโอชะให้ลงเข้ามาในตลาด

จำไว้ รู้ให้จริงทุกรูขุมขน อย่าหลงเชือคนง่าย อ่านให้เยอะมากที่สุดจากทุกสื่อ(ต่างประเทศ)อย่าให้ขาใหญ่โกงคุณและทุบคุณได้
พัฒนา AI ให้เป็นถึงจะชนะตลาด ผมเห็นคนที่ขาดทุนส่วนใหญ่ล้มหายตายจากไปหมด เพราะหลงเชื่อคนง่ายไปนะ
ถ้าคุณหาข้อมูลต่างประเทศไม่เป็น หาข้อมูลไม่รอบคอบพอ รับรองเสร็จหมดครับ แต่ในโลกอินเตอร์เน็ต คุณหาสิ่งเหล่านี้ได้
คุณสร้าง AI ให้ฉลาดได้ ขาใหญ่ต้นทุนสูงมากและปรับตัวยากมาก อนาคตอาจไม่มีขาใหญ่ก็ได้ซึ่ง AI ของคุณจะทำเงิน
ได้ง่าย หากไม่มีพวกโกงตลาด มันก็แค่วัดกันที่ AI เท่านั้น ถ้าคุณทำได้นี่คืออาชีพที่หาเงินได้สบายมากที่สุดในโลก

24  ความรู้ทั่วไป / E-commerce / Re: จะเอาสินค้าอะไรมาขาย ก็มีคนขายใน shopee lazada เยอะมากๆๆ ใจอ่อนเลย เมื่อ: 26 พฤษภาคม 2019, 17:34:51
ผมแนะนำให้ หาสินค้าที่ผลิตในไทยหรือในประเทศเพื่อนบ้าน
ที่ยังไม่ได้ขายในออนไลน์มาขายแทนนะ
เมือวาน ผมลองอ่านสกู๊ปข่่าวสงครามการค้าโลกหลายๆ แหล่ง
คุณ แบรนดอน ที่ปรึกษาโดนัล ทรัมป์ บอกว่าจีนผลิตสินค้าให้บริษัทสหรัฐฯ
อย่างเช่น ไอโฟน
อินเทล หรืออื่นๆ อีกมากมาย พอจีนส่งไปขายสหรัฐหรือประเทศอื่นจีนแทบ
ก็ไม่ได้เสียภาษีเลย แถมยังเอาเทคโนโลยีทีถ่ายทอดให้ไปทำของ
เลียนแบบด้อยคุณภาพต่างๆ ออกไปขายประเทศด้อยพัฒนาต่างๆ แทน

การที่จีนสนับสนุนเทคโนโลยีในประเทศตัวเอง ด้วยสินค้าเลียนแบบต่างๆ
อุดหนุนค่าขนส่ง สนับสนุนเงินวิจัยเลียนแบน เพราะได้เงินมาจากสินค้าเลียน
แบบเหล่านี้ เมื่อบริษัทเล็กๆ ในจีนจำนวนมากต้นทุนค่าขนส่งไม่มี ต้นทุนการ
ผลิตต่ำมาก เนืองจากรัฐอุดหนุนให้ ก็ทำให้ประเทศอื่นๆ ที่คาแรงถูกมากๆ
ไม่สามารถสู้ได้เลย

ซึ่ง คุณ แบรนดอน บอกว่า จีนเอาเปรียบทุกประเทศในโลกมากเกินไป
เพราะการค้าเสรีที่ไหนที่ค่าขนส่งเท่ากับศูนย์ ดังนั้นสงครามเศรษฐกิจจะ
ยืดเยื้อยาวนานแน่ จนจีนต้องปรับตัวใหม่ ลดการอุดหนุนบริษัทในประเทศ
ตัวเองลง แล้วปล่อยให้ประเทศอื่นสร้าางโปรดักส์มาแข่งขันได้บ้าง

เราเห็นค่าเงินหยวนอ่อนตัวลงมาก ถ้าจีนยังดันทุรัง อุดหนุดค่าขนส่งและอื่นๆ อีก
จะกลายเป็นภาระของรัฐทันที ปัญหาเศรษฐกิจจะใหญ่โตทันที นันคือ จีนจะ
ทำแบบเก่าไม่ได้แล้ว ถ้าเศรษฐกิจตายจะตายยกรังหมด

เท่าทีผมหาข่าวและบทสรุปต่างๆ ทางออกของจีนในตอนนี้คือจีนกำลังเลือก
ทางถอยว่าจะถอยจากวิธีเก่าๆ ยังไง ถ้าไม่ถอยก็ตาย ถ้ารีบถอยก็หกล้มบาเจ็บได้
การทดถอยของจีน จะกลายเป็นโอกาสสำหรับสินค้านอกประเทศจีน หรือบริษัทใน
ประเทศเล็กๆ แทน เพราะเมือรัฐจีนไม่อุ้นบริษัทจีนแล้ว ต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้น
ค่าขนส่งระหว่างประเทศก็แพงขึ้น ภาษีส่งออกก็แพงขึ้น ปีหน้าเราอาจจะเริ่มเห็น
สินค้าจีนไม่มีส่งฟรี ราคาสินค้าเริ่มสูงขึ้น ถ้าเอาเข้ามาขายในไทยหรือประเทศอื่น
ก็จะมีราคาสูงพอสมควรละ

คงสรุปได้ว่า นับตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป อีคอมเมิร์สในไทย ผ่าน 3 ค่ายจากทุน
จีนและสิงคโปร์ ราคาคงขยับตัวสูงขึ้นทุกสินค้า แน่นอนว่าคนรับของบริษัทจีนมา
ขายก็ลำบาก คนซื้อก็ลำบาก คนไทยก็ซื้อของแพงขึ้น แต่ผู้ผลิตในไทยจะดีขึ้น
สินค้าบริษัทเล็กๆ ในไทยจะมีโอกาสขายออนไลน์ได้มากขึ้น ทุกอย่างคือซีโร่
ซัมเกมส์ เมื่อมีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย

ดังนั้น จังหวะสำคัญนี้ลองหาสินค้าที่ผลิต
ในไทยหรือประเทศเพือนบ้านที่มีคุณภาพดีและทำตลาดได้ดีแน่ มาเตรียมไว้เลย
โดยส่วนตัวเชือว่ารัฐจีนต้องลดการอุดหนุนต้นทุน ลดอุดหนุนค่าขนส่่งอย่างแน่นอน
สินค้าจีนจะแพงแน่ๆ นั่นคือโอกาสของบริษัทเล็กๆ ของไทยหรือประเทศเพื่อนบ้านที่จะทำ
ตลาดออนไลน์ได้มากขึ้น และเราก็ต้องใช้สินค้าทีราคาแพงขึ้นบ้าง ตามวิวัฒนาการ
ของระบบเศรษฐกิจ ซึ่งต้องมีคนได้และย่อมมีคนเสียด้วยกันเสมอครับ
25  ความรู้ทั่วไป / Cryptocurrency / Re: ****---ทำอะไรกันอยู่ BTC ขั้นแล้ว ---**** เมื่อ: 21 พฤษภาคม 2019, 22:37:01
ถ้าขึ้นเยอะ เดี๋ยวแก็งค์นิวยูสบิทคอยน์จะกลับมารกกระทู้อีก

พวกเหยื่ออันโอชะ ของเซียนเทรดต่างประเทศ คือพยายามหลอกตัวเอง หลอกคนอื่นให้รวยเร็วๆ
สุดท้ายคนพวกนี้ก็ไม่เคยรวยสักที เพราะไม่รู้จริงสักเรื่อง พวกนี้จะท่องอยู่สองสามอย่าง

หนึ่งบอกว่า เงินดิจิตอลไม่มีใครคุมได้ หรือเป็นเจ้ามือได้ เพราะมันเป็นระบบกระจายตัว
แต่คนรวยจากบิทคอยน์จริงๆ เข้ารู้ว่าทุกการเทรดบนโลกนี้มีเจ้าที่อยู่เสมอ
ไม่ว่าจะเป็นฟอเร็กว์ที่วากันว่า ใครก็คุมสกุลเงินไม่ได้ แต่กลุ่มพวกคนรวยต่างๆ เขาก็กุม
อำนาจการต่อรองสกุลเอาไว้ได้ ทุกตลาดการเงินทุกตลาดการเทรดย่อมมีเจ้าเสมอ

เทคโนโลยีมันไม่มีเจ้ามือจริง แต่ระบบพวกนี้มันมีขาใหญ่ลงสนามกันเพรียบ
อย่างบิทคอยน์นี้ ช่วงที่ราคาต่ำสุดๆ ก็มีข่าวเล็ดลอดมาว่า มาซาโยชิ ซัน เจ้าของซอฟต์แบงค์
ผู้ถือหุ้นใหญ่กลุ่มอาลีบาบา สามสี่เดือนก่อนสงสัยหูดีว่าจีนจะโดนเล่นงานเรื่องไฮเทค
ป๋าซันโดดหนีจากเอเชีย ไปลงทุนสตาร์ทอัพเกษตรและเมืองแร่ในอเมริกาใต้ โดยเฉพราะที่บราซิล

ป๋าซันติดดอยบิทคอยน์อยู่สูงมาก อยู่ๆ เมื่อราคาตกลงมาต่ำสุดก็มีข่าวรั่วเรื่องนี้ออกมา บิทคอยน์ก็
กลับมาวิ่งฉิวอีกแล้ว จริงๆ แล้วคนรวยอย่าง บิล เกตต์ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก อีรอน มัค คนพวกนี้
เขาก็สะสมบิทคอยน์เอาไว้ทำการกุศล หรือบริจาคให้หน่วยงานที่เขาไม่อยากเป็นข่าว สมมุติเขาจะ
มอบเงินให้องก์กรรักข้ามเพศไปพัฒนาวิจัยเรื่องโรคเอดส์
คงไม่มีเศรษฐีคนไหน ออกเงินส่วนตัวให้คนรู้ว่าบริจาคเงิน รวมถึง การบริจาคให้วิกิพีเดีย โอเพ่นซอร์สอื่นๆ
การสะสมบิทคอยน์ของคนรวยล้นฟ้าพวกนี้ เป็นแค่การใช้งานเฉพาะตัว บางคนมีมากบางคนมีน้อย
แต่พอเอ่ยชื่นคนเหล่านี้ออกมา ราคาก็ดีดกลับมาอย่างมีนัยยะ ไม่ต้องสงสัยนะรอบนี้ฝรั่งเปิดเซฟรอเงินเข้าแล้ว

ผมจะบอกให้ว่า ARK Investor เป็นบริษัทลงทุนที่ออกเปเปอร์มาแล้ว พวกนักลงทุนหรือคนรวยชอบเดินตาม
ใครสนใจเอาชื่อบริษํทไปเสิร์จดูได้ ในยูทูปก็มีไวท์เปเปอร์ต่างๆ ให้ดู ถ้าคุณค้นคว้าและวิจัยการลงทุนแล้วนำหน้า
บริษัทนี้ได้ 6 เดือนรับรองไม่อดตายหรอก คนรวยๆ เดินตามทางบริษัทนี้เยอะ เพียงคุณรู้ว่าเขาจะไปทางไหน
เลือกหุ้น เลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินอะไรบ้าง ก็ไปเก็งกำไรตัดหน้าก็สบายแล้ว มีคนรู้จักคนหนึ่งส่งซิกว่า
ขาใหญ่ลงมาบิทคอยน์เต็มสตีมแล้ว หาช่องโกยเลยนะ ผมมารู้ทีหลังว่า คนรวยๆ นักลงทุนส่วนใหญ่ เชื่อ ARK
อินเวสเตอร์กันมาก พอมีบทวิจัยออกมามักจะไปอิมแพคให้ตลาดมันเพี้ยนไป

ใครบอกตลาดใหญ่มากๆ แบบฟอร์เร็กซ์ไม่มีเจ้าไหนปั่นได้ ใครบอกเทคโนโลยี่บล็อกเชนไม่มีขาใหญ๋ที่ไหนคุมได้
ส่วนใหญ่คือพวกปลาซิว ปลาสร้อย รู้ละเอียดในเชิงเทคนิคดีมาก แต่่่่่่่่่รู้ไม่จริงในเชิงทำธุรกิจ นั่นคือ ซีโร่ซํมเกม เกมมีผู้แพ้
และผู้ชนะเสมอ เพียงแต่บางคนแพ้ขาดทุน ก็ยังท่องเป็นนกแก้วนักขุนทองตามที่ตัวเองเชื่ออยู่นั่นละ คนพวกนี้เลยไม่
รวยซะที เพราะฉลาดแต่ด้านเทคนิคปลีกย่อย ส่วนเรื่องจะรวยนั้นไม่เคยรู้จริงๆ เลยว่าต้องทำอย่างไร คนรวยก็ยิ้มกันต่อไป
26  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / โลกเราเสี่ยงมากขึ้นหากบริษัทเทคไจแอนท์มีมูลค่าเกิน 2 ล้านล้านดอลล่า เมื่อ: 12 พฤษภาคม 2019, 10:23:30
ช่วงนี้มีงานเขียนงานวิจัยของนักเศรษศาสตร์หลานคน เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับบริษัท
เทคไจแแอนท์ MAGA ซึ่งมี M=microsoft, A=amazon,G=google และ A=apple
ที่มีมูลค่าเกิน 1 ล้านล้านดอลล่า(32ล้านล้านบาท)มาแล้วหรือเกือบถึง มีหลายคนวิเคราะห์
ต่อไปว่า MAGA บริษัทไหนจะไปแตะ 2 ล้านล้านได้ก่อนกัน เพราะนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่
และนักวเคราะห์หุ้นหลายคนมองว่า บริษัทที่เกิน 2 ล้านล้านดอลล่าจะมีความมั่นคงได้เกิน
1 พันปีหรือบางคนบอกมั่นคงอย่างน้อย 1 หมื่นปี ซึ่งหนึ่งในไม้ใต้ของ MAGA คือบริการคลาวด์
และคลาวด์ซอฟต์แวร์ต่าง ซึ่ง ARK อินเวสต์เตอร์บริษัทวิเคราะห์การลงทุนชื่อดัง บอกไว้ว่าตลาด
คลาวด์ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าจะมีมูลค่า 12 ล้านล้านดอลล่า นั่นคือ ผลกระทบจะเกิดขึ้นกับทุกคน
อย่างแน่นอน เพราะทุกๆ บริษัทเกือบทั้งโลกล้วนใช้บริการของ MAGA ซึ่ง MAGA ก็จะซื้อหุ้นตัวเองคืน
เพื่อดันให้ราคาหุ้นสูงขึ้น MAGA เหมือนช่วนสหรัฐดูดเงินจากทั่วโลกเข้าประเทศมากขึ้น 
สหรัฐก็นำเงินไปขยายอิทธิพลด้านอวกาศมากขึ้น ผ่านบริษัทเทคโนโลยีอวกาศเกือบพันแห่ง
กลายเป็นกึ่งรัฐกึ่งธุรกิจมากขึ้น MAGA ที่จะซื้อหุ้นคืนได้คือบริษัทที่มีเงินสดสูงมากๆ อย่างแอปเปิล กับไมโคร
ซอฟต์ ซึ่งกำลังทำอยู่ทุกวัน การมุ่งไป 2 ล้านล้านของ MAGA นั่นย่อมส่งผลกระทบกับพวกเราโดยตรง
หลายคนคงรู้ดีแล้วว่าแอปเปิลขายสินค้าแพงมากๆ อนาคตบริษัททั่วโลกล้วนพึ่งพาคลาวด์ของ MAGA
เหมือนพึ่งอากาศหายใจ คงจะโดนบวกราคาแพงแน่ๆ เพราะเอาไปซื้อหุ้นคืนและดันมูลค่าบริษัทให้ไปถึง
2 ล้านล้าน นั่นย่อมส่งผลกระทบทั้งด้านบวกและไม่ดีต่อเราต่อลูกหลานเราทุกคน ดังนี้
ข้อดีคือ
- เราได้ใช้นวัตกรรมใหม่ๆ เร็วขึ้น ผ่านทางคลาด์เซอร์วิส
- การสื่อสารเร็วมากขึ้น ต่อเน็ตได้ทุกที่ ตอนนี้มีเทคโนโลยีที่เร็ว 5G ประมาณ 7 เท่าแล้ว
- มีรถไร้คนขับ เครื่องบินส่วนตัวไร้คนขับ แท็กซี่ไฮเทค บ้านแชริ่งไฮเท็ค
- MAGA จะซื้อหุ้นตัวเองคืนบ่อยมากๆ ใครจับจังหวะเป็นก็ทำกำไรได้ดีมาก
- เมื่อ MACA ซื้อหุ้นคืนมากขึ้น สหรัฐก็ดูดเงินจากทุกไปเทศเข้าไประดมเงินทุ่มด้านอวกาศได้
มากขึ้น ผ่านทางบริษัทไฮเทคต่างๆ
- คนมีเงินหลายคนได้ไปเที่ยวอวกาศเร็วขึ้น
- มีพลังงานสำรองนอกโลกเหลือใช้อีกนับล้านๆ ปี
- เมื่อนำพลังงานนอกโลกมาใช้ได้แล้ว สหรัฐก็ผลิตน้ำมันออกมามาทุ่มตลาดมากยิ่งขึ้น
น้ำมันก็ถูกลง ไฟฟ้าที่ผลิตจากก๊าสจากน้ำมันก็ถูกลง ไฟฟ้าก็ถูกลง ราคาพลังงานถูกลง
 อีคอมเมิร์สก็ยิ่งได้ประโยชน์ จะซื้อของจะกินจะจ่ายอะไร มันสะดวกรวดเร็วไปหมดเลย
- อื่นๆ


ข้อเสีย
- ราคาคลาวด์และซอฟต์แวร์แวร์คลาวด์ เพิ่มสูงมาก
- บริษัทต่างๆ ทั่วโลกที่ใช้บริการคลาวด์ของ MAGA จะเพิ่มราคาขึ้น เพราะต้นทุนแพงขึ้น
เช่นที่เกี่ยวข้องกับคนไทย โตโยต้า ฮอนด้า สตาร์บัค ค่ายมือถือในไทย
- บริษัทขนาดกลาง ขนาดเล็กทุกประเทศ เจอกับต้นทุนสูงขึ้นจนแข่งขันยากขึ้นไปอีก
- ประเทศขนาดกลางขนาดเล็กจะถูกดูดเงินออกไปจากประเทศเร็วมากขึ้น คนชั้นกลาง
ทุกๆ ประเทศกระทบหนักกว่าคนชั้นอื่น รวมถึงทุกคนในบอดร์ดนี้ด้วย
- บริษัททุกบริษัททั่วโลกรู้จักเรามากกว่าเรารู้จักตัวเอง ยิ่งเขารู้จักเราเขายิ่งเสนอบริการ
ยั่วให้เสียเงินดีขึ้น รายจ่ายก็เพิ่มสูงตามไปด้วย
- เราจะได้เห็นคนสหรัฐเป็นหนี้ต่อหัวมากกว่า 2 เท่าคล้ายคนญี่ปุ่นเวลานี้ แต่ความเป็นอยู่ดีกว่าประเทศ
ไม่มีหนี้เลยหลายเท่าตัว
- อีกมากมาย


ผมเขียนขึ้นโดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเรื่อง 1 trillion dollar, stock buyback
ข้อมูลจาก ARK อินเวสเตอร์และนักวิเคราะห์หุ้นเมืองนอกสองสามคน
และข้อมูลจากคนสหรัฐฯ ลูกเสี้ยวไทยอีกท่านหนึ่งครับ

ก่อนจาก ใครคิดว่าจะคว่ำบาตรสหรัฐฯหรือไม่ยอมจ่ายค่าคลาวด์หรือซอฟต์แวร์คลาวด์ของเขาไม่เกิน 30 ปี
สหรัฐเขาเตรียมเครื่องมือทำลายดีเอ็นเอ โดยยิงรังสีไร้สีจากดวงจันทร์มากระทบกับดาวเทียมวงจรต่ำ
ขนาดเท่าทิชชู 100 ล้านดวงเพื่อให้ผู้นำหรือคนที่บอกไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย เพื่อให้สมองเสื่อม อายุสั้นลง
 และเกิดโรคง่ายขึ้น เหรียญมันมีสองด้านเสมอครับ เมื่อเกิดมาแล้วก็ต้องมองแต่ด้านสวยงามของโลกเข้าไว้
27  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / มาดูว่ากระแสโจมตีค่ายแอปเปิ้ลในช่วงที่ผานมา ใครคือคนที่ได้ประโยชน์ เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2019, 12:40:06
จากข่าวที่ออกมาจากทั้งสื่อนอกบ้างสื่อ สื่อไทยหลายๆ สื่อเกี่ยวกับแบนด์แอปเปิ้ล
หลายคนคิดว่ายอดขายไอโฟนที่ลดลงในช่วง 5-6 เดือนก่อนคงทำให้หุ้นตกลงเยอะมาก
และคนถือหุ้นแอปเปิ้ลคงขาดทุนกระจุยแน่ ทำให้กองทุนหลายๆ ทั่วโลกขายทิ้งในราคาถูก
แต่มีคนหนึ่งที่เก็บหุ้นแอปเปิลอยางต่อเนื่อง คือ คุณ วอเรนต์ บัฟเฟต ซึ่งเขาประกาศถือหุ้น
แอปเปิลมาปีกว่าๆ แล้ว หลายคนคงไม่แปลกใจหรอก นับตั้งแต่หุ้นแอปเปิลตกลงจนถึงจุดต่ำสุด
คุณวอเรนต์ บัฟเฟต เป็นคนเดียวที่กล้าประกาศว่าจะทุ่มเงินส่วนตัวซื้อต่อไป
มาวันนี้ท่ามกลางข่าวแย่ๆ ของแอปเปิล หุ้นแอปเปิลกับหุ้นอเมซอน กระโดดขึ้นมาใกล้เคียงจุดสูงสุดเดิมแล้ว
นั่นทำให้คุณ วอเรนต์ บัฟเฟต กลายเป็นคนที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากข่าวด้านลบของแบรนด์แอปเปิล
อย่างน้อยๆ รอบนี้แกน่าจะทำเงินจากหุ้นแอปเปิในช่วงสั้นๆ ได้หลายแสนล้านภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 เดือน
ส่วนหุ้นแอปเปิลในพอร์ตบริษัทของเขาก็คงกลับมาทำกำไรได้ต่อไป
ท่ามกลางข่าวร้ายย่อมมีข่าวดี นั่นคือ ข่าวร้ายของแอปเปิลในช่วงที่ผ่านมา คนที่ได้ประโยชน์สูงสุด คือ คุณวอเรนต์
บัฟเฟต แม้ว่ากองทุนในบริษัทตัวเองจะกำไรไม่มากแต่
สิ้นสุดสัปดาห์นี้ อเมซอน ไมโครซอฟต์ และแอปเปิล ก็มีมูลค่าบริษัทเกิน 32 ล้านล้านบาท (1ทิลเลียนดอลล์)
ส่วนกูเกิลยังติดภาระต้องจ่ายค่าปรับบ่อยเลยยังขึ้นมาไม่ถึงซะที หากใครนึกความใหญ่โตของบริษัทเหล่านี้ไม่ออก
ผมเทียบให้ก็ได้ว่าใหญ่กว่า ปตท. 18 เท่า ใหญ่กว่าบริษัทมือถือไทย 30 เท่า ใหญ่กว่าค้าปลีกดังๆ ไทย 50 เท่า
อันนี้ล้อเล่นใหญ่กว่าพอร์ตหุ้นของผม 1 หมื่นเท่า
สรุป คนได้ประโยชน์สูงสุดก็คือ วอเรนต์ บัฟเฟตครับ ส่วนผมก็ได้กำไรบ้างเพราะเมียกลัวบอกอย่าเล่นหุ้นตามคนแก่
ไม่อย่างนั้นคงฟันกำไรบานแล้วละ
28  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / Re: Facebook นี่เขาใช้ sharehost หรือ vps ครับ เมื่อ: 15 เมษายน 2019, 14:29:05
มีดาต้าเซนเตอร์ของตัวเองหลายสิบแห่ง รองรับระบบคลาวด์ตัวเอง + AWS บางประเทศ
ลูกค้า เฟสบุค 2.6 พันล้านคน ลูกค้า Whatapps 1.4 พันล้านคน ลูกค้าอินสตาแกรม 800 ล้านคน

3 แอป เซอร์วิสหลักๆ อีกหลายร้อย กว่าจะอยู่ตัวคงอีกนานพอสมควร เพราะลูกค้าประเทศใหม่ๆ เพิ่มเรื่อยๆ
ถ้าคนใช้สักร้อยล้านคนแล้วคลาวด์ล่มนี้ ก็สมควรตำหนิ แต่คนใช้หลายพันล้านคนแล้วล่มบ้าง เพื่อปรับตัว
ระบบ และเซอร์วิสใหม่ๆ เอาแค่พัฒนาเซอร์วิสแบนไลฟ์ที่มีความรุนแรง ก็ยังใช้เวลาเป็นเดือนกว่าระบบจะอยู่ตัว

ไม่น่าแปลกถ้า google facebook มีคนใช้งานทั่วโลกแล้วล่มบ้าง เพราะผู้ใช้เพิ่มขึ้น ถ้าเป็นองค์กรธนาคาร
ลูกค้าไม่เกิน 100 ล้านล่มนี้ บางธนาคารอยู่บนคลาวด์แล้วด้วยก็ยังล่มเลย ธนาคารเซอร์วิสน้อยกว่า google
facebook เยอะ ถ้าธนาคารมีเงิน 10 ล้านล้านบาท ทำคลาวด์แบบเขาคงไม่ล่มหรอก เพราะฮาร์ดแวร์มันขยาย
ได้มากกว่าลูกค้าแล้ว ธนาคารทำดาต้าเซนเตอร์เองก็ไม่ได้ ไม่มีเงินพอ ซื้อคลาวด์ทั่วไปก็เสี่ยงความปลอดภัย
ถ้าฝีมือพัฒนาคลาวด์ไม่ถึง รับรองธนาคาเจ๊งแน่

ถ้าจะทำดาต้าเซนเตอร์แบบเฟสบุค เงินอย่างน้อยประมาณ 2 ล้านล้านบาทนะ ทีมพัฒนาอีกหลายพันคน ถึงจะ
รองรับคนรถับ 4-5 พันล้านคนไหว ไม่ทำแบบนี้ก็เจ๊งไปเอง
29  ความรู้ทั่วไป / Social Media Marketing / Re: สอบถามหน่อยค่ะ แฟนเพจโดนลบ อยากรู้ว่าโดนเพราะอะไรคะ เมื่อ: 11 เมษายน 2019, 17:24:55
ระบบ AI ของเฟสบุคน่าจะจำคุณได้ละครับ หากเคยทำ Amazon Aff จะรู้ดีว่า
เขาไล่แบนคนนั้นแบบต่อเนื่องเลย คาดว่าเฟสบุคก็คงจะเดินแนวทางนั้นละ
คือหากจำได้ว่าคนนี้ทำผิดแบบนี้แล้ว มันจะจำชื่อ สกุล เลขไอพี แมคแอดเดรส
ของเครื่องคอม จำรุ่นวินโดว์ได้ จำเราท์เตอร์ได้ จำชื่อแฟน ชื่อน้อง ชื่อญาติได้
ก็ไล่แบนเร็วขึ้นหน่อย
หากมีประสบการณ์ถูกแบนจาก Amazon Aff มาคงจะรู้วิธีแก้ไขบ้างก็คือ ล้าง
ข้อมูลตัวตน ล้างแนวทางเนื้อหา ล้างอุปกรณ์ ให้นึกเสมอว่าเราเกิดใหม่ในเฟสบุคแล้ว ไม่งั้น
ก็คงโดนแบนเรื่อยๆ ครับ แบนช้าแบนเร็วก็ขึ้นอยู่กับว่ามันรู้จักคุณคนเก่ามากแค่ไหน
ถ้ารู้เยอะ ก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไรในการแบนไอดี

ทางที่ง่ายที่สุดคือเปลี่ยนแนวไปเล่นทวิตเตอร์แทนครับ ทางเก่าเดินต่อยากแล้วละ
30  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: RankBrain & Neural Matching อัลกอริทึมต่างกันอย่างไร และมีผลกับ SEO อย่างไร? เมื่อ: 30 มีนาคม 2019, 12:24:02
Neural Matching ไม่น่าจะธรรมดา คงต้องมีอะไรให้คิดเพิ่มอีกเยอะนะผมว่า ถ้าให้เดานะ อย่างค้นหาคำว่า "ต้องการรองเท้าวิ่งสบายเท้า" มันอาจจะเอาเนื้อหาเกี่ยวกับ "วิ่งแล้วปวดเท้าเพราะรองเท้าไม่ดี" อันนี้แย่เลยนะ เพราะต้องเขียนคีเวิร์ดดักกันอีกเยอะ


AI ทั้งสองตัวนี้ต่อยอดมาจาก Deepmind ครับ เป็นบริษัทอังกฤษที่กูเกิลซื้อไว้ เข้าไปดูผลงานในยูทูปได้ครับ
ช่องยูปทูปชื่อ Deepmind ปัจจุบันจะสร้างอัลกอลิทึ่ม AI แข่งกับเกมส์ ที่สำเร็จไปแล้วก็เกมส์โกะ ตอนนี้ในช่องยูทูปก็โชว์
ผลงาน Ai เล่นเกมส์ dota2 แข่งกับทีมมนุษย์ การแข่งความฉลาดกับมนุษย์ได้ ก็เหมือน Google แข่งกับ
ความฉลาดในความคิดของมนุษย์ ยิ่ง AI มันฉลาดกว่า กูเกิลก็จับความฉลาดมาเพิ่มใน AI การค้นหา มีหลายคนแปลกใจ
ว่าทำไมเขาถึงเน้นสร้าง ai แข่งเกมส์กับคน เพราะเขาต้องการให้ ai ไปดูดซับความฉลาดหรืออัลกอลิทึ่มจากคนเก่งๆ มา

Stadia หรือ การเล่นเกมส์สตีมมิ่งบนยูทูปนั่น คือ ai พวกนี้จะคอยดูดความฉลาดจากพวกอัลกอลิทึ่มในสมองดีมาต่อยอด
เรียกว่า สร้าง ai ขึ้นมากินหลายต่อ กินได้ทุกแนวรบ ทั้งเสิร์จ ทั้งรู้ใจคน ทั้งฉลาดกว่าคน อนาคตก็คือมันฉลาดมากกว่าคน
ทั่วไปแน่นอนเดาทางถูกหมด ใครฉลาดกว่า ai มันก็จะยอมตกเป็นเครื่องมือรับใช้ที่แสนเชื่องเพื่อเรียนรู้จากคนเก่ง


Deepmind ได้แนวคิดมาจาก อลัน ทัวริ่ง คนที่คิดค้นสร้างเครื่องจักรถอดรหัส เครื่อง อีนิกม่า ของนาซีในสงครามโลกครั้งที่สองนั่นละ
จนได้รับฉายาว่า เป็นบิดาแห่งยุคข้อมูลข่าวสาร หรือ ผู้คิดค้นอัลกอลิที่ม

อลัน ทัวริ่ง คิดว่า จะต้องไม่มานั่งถอดรหัสอยู่ทุกวันหรือทุกครั้ง ที่ทางนาซีเปลี่ยนฮาร์ดแวร์ เปลี่ยนชุดคำสั่งใหม่
ด้วยการใส่สมองให้กับเครื่องจักรไว้เลย เรียกว่า สื่อสารกันรูปแบบเก่า รูปแบบใหม่ รูปแบบอนาคต เงื่อนไขสำคัญของ
นาซีคือข้อความที่ส่งนั้นจะมีอายุแค่เพียง 1 วันส่งวันละหลายพันหลายหมื่นข้อความ คนเป็นล้านมานั่งถอดรหัสก็ไม่หมด

ยังไงก็ไม่หมด แต่เครื่องจักรของ อลัน ทัวริ่ง ทำงานได้เร็วมากและถูกต้องเสมอ นั่นคือ เขาเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์
อย่างแรก ก็คือ สร้างฮาร์ดแวร์(คอมพิวเตอร์) อย่างที่สองก็คือซอฟต์แวร์(มีโอเอส และ แอปต่าง) โหลด(เก็บ)ไว้ในหน่วยความจำก่อน
ทั้งหมดนี้เรียกว่า สมองของเครื่องจักร อลัน ทัวริ่ง หากนาซีเปลี่ยนเครื่องมือสื่อสารใหม่ อังกฤษก็สร้างแอปใหม่เพิ่มเติม(สมัยนั้นเรียกว่า
อัลกอลิทึ่มหรือสูตรทางคณิตศาสตร์) แล้วใส่เพิ่มลงไปในหน่วยความจำของเครื่อง หากเป็นคนถอดรหัสก็ต้องมาคิดมานั่งคำนวณกันใหม่อีกนาก

นั่นคือ เปรียบเทียบให้เห็นภาพ เครื่องจักร อลัน ทัวริ่ง กับคอมพิวเตอร์ในยุคปัจจุบันเหมือนกันคือ ต้องมีฮาร์ดแวร์ประสิทธิภาพสูง บ้านเรา
เรียกสเปคสูง แล้วก็ลงวินโดว์ไว้ สมมุติว่านาซีใช้โปรแกรม Word เข้ารหัส เราก็แค่ลง Word ไป ถ้านาซีใช้โปรแกรม photoshop เข้ารหัส
ก็เพียงแค่ใส่ photoshop เพิ่มไป หากมีรูปแบบการเข้ารหัสเป็นร้อยล้านรูปแบบ ก็ลงโปรแกรมถอดรหัสร้อยล้านแบบไปในหน่วยความจำ
ไม่จำเป็นจะต้องมาสร้างเครื่องจักรใหม่อีก
หรือต้องคอยให้คนมานั่งถอดรหัสใหม่อยู่ตลอดเวลา เครื่องทำงานได้เร็ว ทำซ้ำได้ง่าย แม่นยำมาก และถอดระหัสได้ทั้งวันทั้งคืน จนนาซีพ่ายแพ้ไปในที่สุด

บริษัท DeepMind ก็พัฒนาบนหลักการของ อลัน ทัวริ่ง เพิ่มขึ้นคือ นอกจากใส่ความรู้ในสมองคอมพิวเตอร์ให้มากขึ้น เปรียบเทียบได้คือ
ลงโปรแกรมให้วินโดว์ไปสักแสนโปรแกรม(คอมพิวเตอร์ในจินตนาการ) ทาง DeepMind ก็สั่งให้คอมพิวเตอร์นี้เอาองค์ความรู้จากหลายแสน
โปรแกรมที่คนใช้งานนี้มาคาดการณ์อนาคตว่า มนุษย์หรือคนนี้อยากได้โปรแกรมแนวไหน หน้าตาเป็นอย่างไร มีฟีดเจอร์อะไรบ้าง โดยดึงเอา
ความรู้จากการใช้งานของคนมาเป็นฐานความรู้เพื่อต่อยอดว่า โปรแกรมในอนาคตสำหรับคนนี้คืออะไร ทุกวันนี้ก็เรียก AI นั่นละ และ Deepmind
ก็ทำไม่ต่างจากบริษัทอื่นๆ ทำด้วย

แต่ DeepMind ต่างจาก AI ธรรมดา ก็คือ เขาใช้หลักการของ Deep Learning เข้ามาช่วย เพื่อให้การคาดการณ์ในอนาคตแม่นยำมากยิ่งขึ้น
นั่นคือ โปรแกรมใหม่ที่คอมพิวเตอร์สร้างมาให้คนนั่น มันจะต้องรู้จิตใจ รู้ความต้องการแทบทุกอย่าง ด้วยการเก็บข้อมูลผู้ใช้แบบละเอียดยิบ แล้วแยก
แยะคัดสรรฟีดเจอร์ที่ผู้ใช้นั่นต้องการใช้งานจริงๆ โปรแกรมมีขนาดเล็ก ประสิทธิภาพสูง ปลอดบั๊ก

หลักการจริงๆ ของ Deep Learning มันจะพัฒนาความรู้ต่อไปให้ดีขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดสิ้นสุด หรือสิ้นสุดเป็นเวอร์ชั่นๆ ไป
แต่ตามหลักการของ อลัน ทัวริ่งแล้ว มันจะใส่ความรู้ของมันไปในหน่วยความจำโดยไม่มีวันที่เสร็จ
ถ้ามันเรียนรู้เสร็จก็หมายความว่ามันฉลาดกว่ามนุษย์ซึ่งไม่มีทางเป็นจริงไปได้ เพราะสมองเรามีโครงสร้าง
และการทำงานแบบควอนตัมที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้เลย แต่ Ai เก่งกว่าคนโง่นี้ไม่แปลกอะไร เพราะพวกนี้บรรจุความรู้ไว้ในสมองน้อย
อยู่แล้ว นั่นคือ อนาคต Ai อาจมองคนโง่เป็นแค่ขยะของโลกก็ได้ ต้องฆ่าทิ้ง แล้วมันจะยกย่องคนฉลาดว่าเป็นพระเจ้าของมัน

เปรียบ AI ธรรมดา กับ AI Deep Learning ได้เหมือนการปาเป้าลูกดอก หากเป็น Ai ธรรมดา ปาโดนเป้าก็ประสบความสำเร็จแล้ว แต่
ถ้าเป็น Deep learning ปาโดนเป้าไม่พอ ต้องเรียนรู้ต่อไปจนกว่าจะปาโดนจุดดำตรงกลางถึงเรียกว่าสำเร็จ นั่นคือ Deep Learning จุดประสบ
ความสำเร็จมันอยู่สูงมาก เรียกว่าสร้าง Ai แบบนี้ต้องใช้เวลานานมาก ต้องใช้พลังคอมฯ สูงมาก คนมักพัฒนาบนระบบคลาวด์

สรูปก็คือ Google ก็แยก AI Deepmind ออกไปในหลายๆ ด้านเท่านั่นละ ด้วยที่เป็นข้อมูลระบบใหญ่จึงพัฒนาไปได้ทีละนิด ถ้าเป็นบริษัทเล็กๆ
อาจทำ AI เป็นร้อยเป็นพันรูปแบบแล้ว อย่างพวกทำบอทเทรด เขาก็ทำ ai deepmind เป็นร้อยเป็นพันรูปแบบ เพราะมี
ข้อมูลไม่เยอะเหมือนกูเกิลจึงทำได้ง่าย ดังนั้นอย่าแปลกใจหากกูเกิลจะใส่ ai เข้ามาเรื่อยๆ จนกว่าความถูกต้องจะขยับจาก 70% ไป
เป็น 100% อาจจะใช้เวลานานเป็นพันปี หลายล้านปีหรือโลกนี้ไม่มีอยู่แล้วนั่นละ

ฝากไว้คอนเทนต์ดีนี้คือพระเจ้า ยังไงกูเกิลก็ต้องยอมให้พระเจ้า สายคอนเทนต์นี้จะยิ่งได้เปรียบเมื่อ ai ตัวใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา ยิ่ง Ai ฉลาด
ก็หมายความว่า Content is the King ก็ใช้ได้ตลอดไปครับ
31  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / Re: สหรัฐฯ มุ่งสร้าง wi-fi ของโลกด้วยอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม เมื่อ: 20 มีนาคม 2019, 20:35:52
เป็นดาวเทียมค้างฟ้า หรือวงโคจรต่ำครับ

 wanwan017

มี 2 วงโคจรอยู่ระดับต่ำหมดครับ วงต่ำสุดอยู่ที่ 100-120 กม.จากพื้นโลกมีจำนวนครึ่งหนึ่ง 6 พันกว่าดวง(ขนาดเล็ก)
และอยูที่วงโคจรต่ำบนระดับ 370-380 กม. อีกครึ่งหนึ่ง 6 พันกว่าดวง

ทั้งสองชั้นนี้หมุนรอบโลกด้วยอัตราเร็วเดียวกันครับ
พูดง่ายๆ ก็คือวิ่งวนอยู่บนฟ้าแบบอัตโนมัติหมุนรอบโลกด้วยอัตราเร็วเดียวกัน ดาวเทียมชั้นบนหรืออยู่สูงกว่า จะสื่อสารระหว่าง
ดาวเทียมเป็นหลัก ส่วนดาวเทียมต่ำสุดจะสื่อสารกับภาครับพื้นดินครับ

หากสังเกตุจากรูปในยูทูปดีๆ จะเห็นสองระดับนี้อย่างชัดเจน ภาพอนิเมชั่นบางคลิปทำดีเลย

ค่า network latency จะอยู่ที่ 2-3 ms ถือว่าเร็วมากๆ ซึ่งอินเตอร์เน็ตดาวเทียมยุคเก่า
ดาวเทียมจะอยู่วงโคจรสูง ระดับ 3,750 km เป็นส่วนใหญ่ ค่า network latency เลยสูงมาก
จนคนไม่อยากใช้ และมีอุปกรณ์พิเศษด้วย

ตอนนี้ยังไม่มีใครให้รายละเอียดได้ว่าล่าสุด spacex จะใช้เทคโนโลยีใดเป็นหลัก เพราะที่ส่งขึ้นไปทุกวันนี้
เป็นดาวเทียมอินเตอร์เน็ตจากประเทศอื่นๆ หรือหน่วยงานอื่นเป็นส่วนใหญ่
32  ความรู้ทั่วไป / General (ถามคุยวิชาการ IM) / สหรัฐฯ มุ่งสร้าง wi-fi ของโลกด้วยอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม เมื่อ: 20 มีนาคม 2019, 13:54:40
ผมรวบรวมข้อมูลจากช่องยูทูปและในกูเกิลนะครับ สามารถค้นหาว่า spacex starlink internet
สหรัฐฯ ต้องการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านดาวเทียม หรือ โครงการ wi-fi ของโลกผ่านบริษัทสเปซเอ็กซ์
แล้วจะได้ทุนมาจากไหน เมื่อสภาครองเกสได้อนุมัติงบในการสำรวจและหาพลังงานบนดวงจันทร์เป็นเงินมหาศาลมาก
ในกลางเดือนนี้ และได้ทุ่มเงินให้สเปซเอ็กซ์มากเกินพอที่จะเร่งทำให้โครงการนี้ให้เสร็จเร็วๆ ได้
พอคาดเดาได้ว่า สหรัฐฯ จะเร่งทำ wi-fi ของโลกผ่านทางสเปซเอ็กซ์ ส่วนจะประสบความสำเร็จไหม ไม่มีใครตอบได้
เพราะอินเตอร์เน็ตดาวเทียมก็เคยมีมานานแล้ว ยุโรปก็รีบไปกอดคอกับรัสเซียเพื่อร่วมชิงชัยด้วย

สเปซเอ็กซ์เพิ่งปล่อยดาวเทียมในโครงการ starlink หรือ wi-fi ของโลกไปประมาณหลักสิบ
ยังขาดอยู่แค่ 12,000 ดวงเอง เพื่อทำให้โครงการเสร็จในปี 2024 หรือ 2027 หลังจากได้สัญญาจ้างงาน
มหาศาลในโครงการอวกาศจากนาซ่าแล้ว คงไม่แปลกใจหากสเปซเอ็กซ์จะเร่งสร้างโครงการนี้ให้สำเร็จเร็วขึ้น

หลายคนสงสัยข้อความทวีตของคุณ โดนัล ทรัมป์ ว่าสหรัฐจะต้องเร่งพัฒนา 5g และ 6g โดยทันที
ทั้งที่ 6g ยังไม่มีใครวิจัยกันเลย
คำว่า 6g ของแกก็คือ wi-fi ของโลกนี่ละ คนแก่แล้วมักแก่เลยไม่รู้ว่า เทคโนโลยีมันคนละอย่างกัน ที่จริงคุณทรัมป์
ควรทวีตว่าต้องเร่งทำอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศ เพราะพื้นที่สหรัฐฯกว้างใหญ่มากตั้งเสาสัญญาณจนครบลำบาก
6g ของคุณทรัมป์ ก็คือโครงการ strarlink internet นี่ละ เพียงแต่ใช้สเปซเอ็กซ์เป็นนอมินี

พวกเราจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง
1. เล่นเกมร่วมกันได้ทั่วโลก เพราะค่าความช้าพอๆ กัน ความเร็วเน็ตเท่ากันทั่วโลก
2. ไปติดเกาะร้างที่ไหน ก็โทรผ่านแอป wi-fi ได้
3. เชื่อมต่อพวกหุ่นยนต์เดินได้ รถไร้คนขับ เครื่องบิน บล็อกเชน สมาร์ทโฮมต่างๆ ง่ายขึ้น
4. แพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งเร่งสร้างคอนเทนต์ดีๆ มาให้เสพเร็วขึ้น
5. ไม่ต้องเดินหาความแรงของสัญญาณให้เมื่อย เพราะเป็น wi-fi ที่ไร้พรหมแดน

ข้อเสีย ค่าเน็ตแพงกว่าไฟเบอร์บ้านเราพอสมควร สภาพอากาศมีผลต่อความแรง

5g คือ อนาคตของคนทั้งโลก หรือจะเป็น 6g ในนาม wi-fi ของโลกที่เข้ามาชิงชัยด้วย ไม่เกิน 5 ปีนี้รู้กัน
33  ความรู้ทั่วไป / Adsense / Re: ขอเสียงคนที่ยังทำ เว็บ Adsense หน่อย เป็นยังไงกันบ้างครับ เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2019, 19:40:14
2019 แล้วยังมีมั้ยครับ  Lips Sealed

รายได้น้อยลง คนทำน้อยลง แต่ยังเหลือคนทำอยู่อีกเยอะ
บางคนก็หันไปทำยูทูปเสริมหรือทำเป็นอาชีพไปเลย

หาเงินออนไลน์มันยากทุกแนวนั่นละ ขายของออนไลน์ก็ยาก ทำเว็บติดแอดก็ยาก
ทำแอฟฟิเลียตก็ยากขึ้น ทำยูทูปก็ยากขึ้นทุกวัน เพราะคนใหม่ๆ โดดเข้ามาแข่ง
มากขึ้น จึงเหลือแต่คนเก่า คนเก่งที่ยังรอดและสบายอยู่
34  พัฒนาเว็บไซต์ / CMS & Free Script / Re: มีท่านใดรำคาญ Editor แบบใหม่ของ WordPress บ้างครับ เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2019, 19:33:12
ผมว่าเขาดีไซต์ให้ไปทางโปรแกรมเวิรด์นะ ช่วงแรกๆ คนอาจไม่ชอบ
แต่พอพัฒนานานๆ ไป คนอาจจะติดใจกว่าแบบเดิมด้วยซ้ำ
มองโลกในแง่ดีเข้าไว้ การพัฒนามาแนวใหม่ เขาคิดกันหลายคนมาก
ภายในกลุ่มโอเพ่นซอร์ส เขาเปิดวิพากย์วิจารณ์หลายครั้ง ก่อนจะเปลี่ยน
มาเป็นแบบใหม่
การเปลี่ยนอะไรให้ก้าวหน้ามากขึ้น ช่วงแรกๆ ก็ยุ่งยากลำบากบ้าง
ไม่เกินสองปีน่าจะปรับปรุงจนดีขึ้นมากละ ใครลำบาก็ใช้ปลั๊กอินไปก่อน
35  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: 31/1 อันดับของ Google ขึ้นลงแปลกๆไหม ครับ เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2019, 19:25:51
เว็บขนาดกลาง ขนาดเล็ก เป็นเว็บที่จะโดนผลกระทบก่อนเสมอ
หากเล็กแล้วใหม่ด้วย นี่โอกาสแกว่งบ่อยมาก และจะรู้เลยว่า
ตอนนี้กูเกิลปรับอัลกอบางอย่างก่อนเพื่อน

มองในแง่ดีก็คือ ได้รู้ว่ามีการปรับอัลกอบางอย่าง มองในแง่ไม่ดี
ก็คือตกใจ กลัวรายได้หาย คนดูเว็บหายหมด เพราะฉนั้นมองโลก
ในแง่ดีเข้าไว้ หากไม่ใหญ่จริง
36  ความรู้ทั่วไป / Social Media Marketing / Re: Google Photos​ จำกัดไฟล์วีดีโอไม่รองรับ แล้ววีดีโอหนังจะยังอัพได้อีกไหม เมื่อ: 03 กุมภาพันธ์ 2019, 19:20:07
หลายวันแล้ว​ที่ไม่สามารถอัพโหลด​วีดีโอ​ได้ ใครเป็นเหมือนกัน​บ้างไหม และโดนแจ้ง​ให้ลบวีดีโอ​ไม่​รองรับ​ทั้ง​ๆ​ที่​เป็นmp4​ตามเงื่อนไข​แต่เป็นไฟล์​วีดีโอ​หนัง  แบบนี้ต่อไปคิดว่าคงอัพโหลด​วีดีโอ​หนังลง photo ไม่ได้อีกแล้วแน่ๆ แล้วความเสี่ยงที่จะปิดแอพ เหมือน Google+ จะมีไหมนะ เก็บหนังไว้ในphotos เยอะเลย

ไฟล์หนังรับรอง โดนลบเกลี้ยงแน่ แต่ช้าเร็วไม่เท่ากัน เพราะตัว ai ของกูเกิล
เริ่มรู้จักไฟล์หนัง ไฟล์เพลง ฟอร์แมทต่างๆ มันเริ่มเรียนรู้มากขึ้นๆ แล้วละ
ยังไงก็หายเกลี้ยงแน่ แต่คงไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก รอเวลาจน ai มันฉลาดแล้วโน่นละ
เกลี้ยงไดร์ฟเป็นแถวๆ แน่

google photos ยังไงก็ไม่ปิดบริการหรอก เพราะมันพ่วงกับโอเอส แอนดอร์ย คือ
มีไว้แข่งกับไอโอเอส ยังไงๆ ก็อยู่อีกหลายพันล้านปีแสงโน่นละ จนกว่ามนุษย์พันธ์ฉลาด
กลุ่มหนึ่ง ป้องกันอุกาบาตถล่มได้ แล้วพากันย้ายไปดาวดวงอื่นหมด เขาถึงเลิกให้บริการ

รอมนุษย์พันธ์ฉลาดที่ป้องกันอุกาบาตยักษ์ได้พากันย้ายไปดาวอื่นหมดแล้วโน่นละ สบายใจได้
อีกไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านปีโน่น สบายใจได้ google photos ก็ให้ใช้อีกนานแสนนาน
37  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: Zanroo.com เสิร์ชเอนจินมาใหม่ฝีมือคนไทย! เมื่อ: 28 มกราคม 2019, 14:25:44
ทำไมต้อง connect facebook ผมว่าสร้างระบบสมาชิกเองเลย
หรือไม่ก็เชื่อมต่อได้กับทุก Social เลยครับ

เชื่อมต่อไม่ได้ครับ ขนาดกูเกิล เฟสบุค ยังปิดการเชื่อมต่อกับแอปภายในของตัวเองไป
หมดแล้ว หลังจากมีช่องให้คนค้นข้อมูลสมาชิกได้ส่วนหนึ่ง ไม่มีทางที่จะไปเชื่อม
ต่อฐานข้อมูลโซเซียลมีเดียได้เลย ส่วนกูเกิลเขาก็ให้เชื่อมได้เฉพาะผลการค้นหา ระ
บบสมาชิกของกูเกิลเขาก็ไม่ได้ใครเชื่อมต่ออยู่แล้ว นั่นคือ ไม่มีแอปหรือโปรแกรม
ไหนยอมให้เข้าถึงฐานสมาชิกเขาได้หรอก อย่างมากก็เก็บข้อมูลจากผลการค้นหา
เท่านั้น ถ้าทำได้ปานนี้เว็บอเมซอนที่มีระบบ ai ก้าวหน้ากว่าทุกบริษัทยักษ์ใหญ่ 2-3 ปี
เชื่อมฐานข้อมูลกูเกิล เฟสบุค อินสตาแกรม ไลน์ ทวิตเตอร์ และอื่นๆ จบเลย
บริษัทอื่นๆ แทบจะแข่งไม่ได้เลย หากอเมซอนไปเปิดตัวเต็มที่ในพื้นที่นั้น ยังไง
ก็ไม่มีทางที่โซเซียลมีเดียไม่มีทางจะเชื่อมฐานข้อมูลเขาได้เลย ไม่งั้นใครมี ai เก่งกว่า
ก็จับลูกค้าไปกินหมด อเมซอนล้ำหน้าที่สุดในโลกจะได้ประโยชน์มากที่สุด

ผมรู้จักพี่คนหนึ่ง เป็นคนเขียน ai เทรดฟอร์เร็กซ์ระดับชั้นนำของโลกบอกว่า
ธนาคาร กับ โบรกเกอร์นี่ละ เก็บข้อมูลเราแล้ว เปลี่ยนข้อมูลความต้องการของคน
เป็นเงินได้ทันที พี่คนนี้มีทีมงานส่วนตัวเป็นคนต่างประเทศเกือบหมด ได้เข้าไป
แก้ไขและปรับปรุงระบบ ai เทรดให้กับโบรกเกอร์ใหญ่แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในเกาะไซปรัส

เชื่อไมว่า โบรกเกอร์ ต่างๆ เก็บข้อมูลรายละเอียดสมาชิกคล้ายโซเซียลมีเดียทุกอย่าง ตอน
นี้พวกเขาปรับปรุงระบบ ai เพื่อนำมาใช้ดักความต้องการของลูกค้า เพราะโบรกเกอร์เจ้านี้ เหมือน
เป็นนายหน้าให้โบรกเกอร์อื่นๆ คือ มันจะรวมเอาข้อมูลส่วนตัว นิสัย อารมณ์ ที่อยู่ ญาติพี่น้อง
เพื่อน กินอาหาร ช๊อปที่ไหน ออนไลน์ยังไงบ้าง เมลล์ ข้อความสั้นตอบกลับบ้างไหม มีหมด

เพื่อที่จะดักข้อมูลเหล่านี้มาเป็นฐานให้ตัวเองเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ต่อไปได้ ท่ามกลาง ai ที่
ฉลาดมากขึ้น คนทั่วโลกคิดค้น สร้างมันได้ง่ายขึ้น เร็วกว่า และเข้าถึงข้อมูลลับต่างๆ ได้ง่าย
กว่าที่ผ่านมา โบรกเกอร์หลายแห่งจึงจำเป็นต้องผลักภาระให้กับลูกค้า

สมัยก่อน ลูกค้ารายใหญ่ได้ผลประโยชน์จากข้อมูลวงใน ข้อมูลลับก่อนลูกค้าทั่วไป จนสร้างผล
กำไรให้กับลูกค้าได้ ลูกค้ารายย่อยก็ได้บ้างตามลำดับชั้น ทั้งโบรกเกอร์และลูกค้าต่างแฮปปี้ด้วยกัน
แต่เมื่อ ai มันสร้างได้ง่าย ฉลาดมากขึ้น อยู่บนระบบคลาวด์ที่เชื่อมต่อกับโบรกระดับโลกได้ทันที
ทำให้โบรกเกอร์เริ่มรายได้หาย การดักข้อมูลทุกอย่างจึงเข้มข้นมากขึ้น ใช้ ai ไปดักจับความต้องการ
ของลูกค้าตัวเองว่าจะทำอะไรบ้าง แน่นอนลูกค้าเจ๊งโบรกเกอร์ก็อยู่ไม่ได้ แต่ยังไงเพื่อความอยู่รอด
โบรกเกอร์ก็พยายามผลักดัน ai มาดักพฤติกรรม ผลประโยชน์ของลูกค้าก่อน

บางคนห่วงแต่โซเซียลมีเดีย เก็บข้อมุลเรา แต่จริงๆ โบรกเกอร์กับธนาคาร เก็บข้อมูลเราแล้วเปลี่ยน
เป็นเงินได้ทันที ทุกคนไม่เห็นเพราะโบรกเกอร์ออนไลน์ ธนาคารออนไลน์ กำลังพัฒนา ai อยู่ยังหากไกล
จากกูเกิล เฟสบุค อเมซอน ไมโครซอฟต์เยอะมาก

แต่เชื่อว่าไม่เกิน 4-5 ปี โบรกเกอร์บางรายจะเอาข้อมูลรายละเอียดทุกอย่างของลูกค้าไปใช้ประโยชน์ได้เต็มที่
ยิ่งโบรกเกอร์รายใดปรับตัวไม่ได้

บางคนยังคิดว่าโซเซียลมีเดียเก็บข้อมูลแล้วน่ากลัว จริงๆ เขาเปลี่ยนความเข้าใจเป็นโฆษณา แต่โบรกเกอร์
กับธนาคาร เปลี่ยนต้องมูลของเราเป็นผลประโยชน์เกี่ยวกับเงินทองได้ทันที โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย เช่น คนเทรด
หุ้น เทรดทอง กองทุนต่างๆ แล้วมีโอกาสขาดทุนโบรกก็จับกินเองโดยที่คุณไม่รู้เลย หรือจับคู่กับโบรกเกอร์ในเครือ
ยิ่งเขารู้ข้อมูลมากเท่าไร โบรกเกอร์หรือธนาคาร ยิ่งมีช่องทางหารายได้มากขึ้นเท่านั้น โดยผลักภาระให้กับลูกค้า
แน่นอนว่า ธนาคารที่ดีก็มีเยอะ โบรกเกอร์มาตรฐานระดับโลกก็มีมาก

แต่ผมได้ฟังมาจากคนที่เขามีรายได้จากการทำระบบระดับโลกแล้ว โบรกเกอร์กับธนาคารนี้ละจะน่ากลัวมากที่สุด
ในยุคต่อไป ที่จะเสนอความต้องการทั้งแบบดี
และแบบเราไม่รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อนว่าจะโดน เพราะโบรกเกอร์และธนาคาร กำลังจะโดนคลื่นเทคโนโลยี ai และบล็อกเชน
มาเขย่าทำให้รายได้หดตัวลง บางโบรกเกอร์ก็ต้องอำลาจากไปโดยเฉพาะพวกที่อยู่ตามเกาะต่างๆ ก่อนไปข้อมูลลูกค้า
จะถูกนำมาใช้หาผลประโยชน์เร็วๆ ทิ้งทวนรวยก้อนสุดท้ายก่อนปิดตัวไป

ขอเตือนสติทุกคนอย่าคิดว่าโซเซียลมีเดียเท่านั้นที่เก็บข้อมุลต่างๆ ของคุณ ทุกแอป ทุกโปรแกรมก็เก็บด้วยกันทั้งนั้น
เพียงแต่โซเซียลมีเดียคนใช้เยอะ ใช้หลายชั่วโมง ต่างจากแอปธนาคารหรือโบรกเกอร์ที่ตามเก็บรายละเอียดของ
เราเองเช่นเดียวกัน เพียงแต่เขายังใช้ขอมูลของเราไม่เป็น แต่คงไม่เกิน 4-5 ปี ข้อมูลจากโบรกเกอร์ ธนาคาร
จะถูกนำมาใช้แบบลับๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวหรือรู้ตัวแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะมันพ่วงอยู่กับบริการพื้นฐานของเราเอง

โซเซียลมีเดีย เรารู้ว่าเขาใช้เพราะมีโฆษณาขึ้นมาให้เห็น แต่แอปอื่นๆ
เขาเก็บไปใช้โดยที่เราเองไม่รู้ก็เยอะ บางรายก็ขายข้อมูลด้วย เพียงแต่แอปไม่ใหญ่เลยเก็บข้อมูลคนได้ไม่กี่คน
จึงไม่ดังคนไม่สนใจว่าจะเก็บข้อมูลไปทำอะไรได้

การเชื่อมต่อโซเซียลมีเดีย เป็นไปไม่ได้แน่นอนคงไม่มีใครให้เชื่อมฐานข้อมูลหรอก เพราะมันเป็นผลประโยชน์โดยตรง
อย่างเว็บเทรดฟอเร็กซ์ออนไลน์ etoro เขาก็ดักข้อมุลการเทรด ดัก ai ของแต่ละคนว่าทำงานอย่างไร มีการให้รางวัล
ai ที่ทำกำไรสูงสุด มีขายซิกแนลให้เพื่อนสมาชิกเพื่อสร้างรายได้ให้คนพัฒนา ai แต่สุดท้ายข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะถูก
โบรกเกอร์ กองทุนรายใหญ่ชื่อดัง เอาข้อมูลเหล่านี้ไปเขียน ai ดักจับข้อมูล รายละเอียดต่างๆ ที่ซับซ้อนมากๆ
เพื่อนเปลี่ยนเป็นเงินทันที บางครั้งการอยู่รอดคือการผลักภาระไปให้คนที่อ่อนแอกว่า อนาคตหลายคนต้องเจอแน่
คนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวเลยว่าถูกดักจับข้อมูลโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางการเงิน เปรียบได้กับการหาปลานั่นละ เขายิ่งรู้ข้อมูล
เกี่ยวกับปลามากเท่าไร เขาก็ทำกำไรจับปลาได้มากเท่านั้น

ยุคก่อนโบรกเกอร์รวย ลูกค้ารายใหญ่รวยมาก ลูกค้ารายย่อยรวยปานกลาง ยุคโบรกเกอร์แพ้เทคโนโลยีจะไปไม่รอด
เขาก็จะเอาข้อมูลต่างๆ ของลุกค้ามาทำมาหากินรอบสุดท้ายก่อนจะจากไป
ใครคิดจะรวยจากหุ้น กองทุน ฟอร์เร็กซ์ ทอง หรืออื่นๆ ระวังให้ดีหากไม่รู้จัก ai ดีพอแล้ว
คุณจะเป็นเหยื่อแน่นอน โบรกเกอร์ไม่ยอมตายก่อนลูกค้าตัวเองหรอก ลูกค้าตายห่าพร้อมกันหมดนั่นละ ถึงได้เวลาปิดตัวลง
38  ความรู้ทั่วไป / Search Engine Optimization / Re: สอบถามเกี่ยวกับ site map หน่อยครับ เมื่อ: 26 มกราคม 2019, 23:05:39
ไม่ตกครับ แต่จะเป็นบวกมากกว่า เพราะบอทมันจะเก็บข้อมูล
ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น เพราะมันจะเรียนรู้เว็บเราได้ง่ายว่า เก็บส่วน
ไหนไปไว้ไหนและเชื่อมโยงกับตรงไหนอย่างไร

คีย์ที่ติดก็จะดีขึ้น มากน้อยแล้วแต่คุณภาพของคอนเทนต์และ
ตัวบทความรองรับ seo แค่ไหน ส่วนคีย์ที่ไม่ติดก็อาจจะมีโอกาส
ติดและดันอันดับขึ้นมาได้บ้างนิดหน่อยครับ

การทำไซต์แม็ป กูเกิลชอบเว็บแบบนี้มากครับ ไม่ต้องห่วงว่าจะ
หายไป โอกาสจะเกิดเลวร้ายมากที่สุดก็แค่อันดับแกว่งในช่วงสั้นๆ ครับ
39  ความรู้ทั่วไป / Social Media Marketing / Re: มาร์คปฏิรูปใหม่! ควบรวมสามทัพ ฟุ้งเสริมสร้างความแข็งแกร่ง-ชูเพิ่มรายได้ เมื่อ: 26 มกราคม 2019, 22:52:56
3 แพล็ตฟอร์ม คนออนไลน์พร้อมกันวันละ 2.6 พันล้านคน
สามารถส่งข้อความพร้อมกันได้เลย ใครเจาะกลุ่มแต่ละกลุ่ม
ส่งข้อความได้ ใช้บอทเก่ง รับรองรวยเละ
ถ้าขายไฟล์เพลง ไฟล์หนังสือ ได้ 1 ไฟล์ ไฟล์ละ 1 ดอลล์

สมมุติขายหมดในวันเดียว กำไรเนาะๆ 2.6 พันล้านดอลล์
อายุน้อย รวยหลายหมื่นล้านบาท ภายในวันเดียวเลย
40  ความรู้ทั่วไป / Social Media Marketing / Re: โหดจัด รัสเซียเตรียมบล็อก Facebook และ Twiiter หลังละเมิดกฎหมาย! เมื่อ: 24 มกราคม 2019, 12:17:01
เพิ่งไปเที่ยวหน้าหนาวในยุโรป และรัสเซียมา โซเซียลมีเดียทั้งอเมริกาและรัสเซียเองก็โดน
เพราะว่าจะมีการบล็อกบางช่อง บางคอนเท้นต์ ที่ไปกะทบคนสำคัญ นั้นต้องลบได้ทันที
แต่บริษัทโซเซียลส่วนใหญ่ กว่าจะลบอาจเป็นอาทิตย์เป็นเดือนก็ได้

แต่เรื่อง ดาต้าเซนเตอร์ อย่าง อเมซอน AWS ไมโคซอตฟ์อาซูรีและกูเกิลคลาวด์ กลับไม่จำเป็น
ต้องตั้งดาต้าเซนเตอร์ในรัสเซียก็ได้ หลังๆ ก็เห็นแล้วว่าจีน ให้ 3 ยักษ์ใหญ่ของโลกในเทคโนโลยี
คลาวด์ไปตั้งดาต้าเซนเตอร์ได้ สนุกดีละ เพนตากอน มีดาต้าเซนเตอร์ลับใหญ่กว่ายักษ์ใหญ๋ แต่เช่า
ของ 3 ค่ายนี้อีก แล้วระยะยายจีนกับรัสเซียจะถอยหลังกลับไว้ไหม

ต้นปีนี้ข่าวเปิดเผยว่า เพนตากอน เซนเช่าระบบดาต้าเซนเตอร์ของไมโครซอฟต์ระยะยาว 15% ของ AWS พอๆกัน
ของกูเกิลน่าจะมากกว่านี้ หากเทคโนโลยีคลาวด์เกิดเต็มรูปแบบ จีนกับรัสเซีย จะถอยกลับไปตั้งหลักเทคโนโลยีคลาวด์
ทันไหม ไม่เกิน 20 ปี รู้กัน
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 6