ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น

  แสดงกระทู้
หน้า: [1]
1  ความรู้ทั่วไป / Cryptocurrency / Yahoo Japan เตรียมเปิดตัวกระดานซื้อขาย Bitcoin ในปีนี้ เมื่อ: 24 มีนาคม 2018, 15:11:01

Yahoo Japan เตรียมเปิดตัวกระดานซื้อขาย Bitcoin ในปีนี้



Yahoo Japan กำลังวางแผนที่จะเปิดตัวกระดานซื้อขายเหรียญ cryptocurrency ในเร็ว ๆ นี้ อ้างอิงจากรายงาน

ทางสำนักข่าว Nikkei Asian Review รายงานว่าบริษัทด้านอินเทอร์เนตยักษ์ใหญ่ Yahoo สาขาญี่ปุ่นกำลังจะเข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 40% จากบริษัท BitARG Exchange Tokyo ในเดือนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้เทคโนโลยีของ BitARG เพื่อสร้างเว็บเทรดเป็นของตัวเอง โดยมีแผนการว่าจะเปิดตัวในปีนี้

BitARG นั้นเป็นผู้ให้บริการเว็บเทรดที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในญี่ปุ่นกับ Financial Services Agency (FSA) แล้ว และเป็นที่คาดการณ์ว่าจะได้รับเงินลงทุนเพิ่มจาก Yahoo Japan ในช่วงต้นปี 2019

Yahoo Japan จะซื้อหุ้นของ BitARG ผ่านแพลทฟอร์ม forex นามว่า YJFX โดย 40% ที่ว่านี้จะมีราคาอยู่ที่ประมาณสองพันล้านเยน (19 ล้านดอลลาร์) อ้างอิงจาก Nikkei

ภายหลังจากการซื้อแล้ว ทีมงานจาก YJFX จะเริ่มทำการพัฒนาแพลทฟอร์มเว็บเทรดดังกล่าว และรวมถึงออกแบบและพัฒนาระบบภายในองค์กร, การดูแลลูกค้า และความปลอดภัย

ข่าวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางคำเตือนของทาง FSA ต่อเว็บเทรดนาม Binance ตามที่ได้รายงานไปแล้วในวันนี้ เมื่อเว็บเทรดสัญชาติฮ่องกงดังกล่าวได้ถูกเตือนในเรื่องเกี่ยวกับการไม่ได้รับใบอนุญาตที่ถูกต้องจากผู้ออกกฎหมายในญี่ปุ่น

ซึ่งนาย Zhao Changepeng หรือ CEO ของ Binance ก็ได้มารับทราบคำเตือนดังกล่าว และเผยว่าทางบริษัทกำลังทำการเจรจากับ FSA

 wanwan016
2  ความรู้ทั่วไป / Cryptocurrency / นักศึกษาอเมริกันกว่า 20% ใช้เงินกู้ กยศ. มาลงทุน Bitcoin เมื่อ: 24 มีนาคม 2018, 15:09:08
นักศึกษาอเมริกันกว่า 20% ใช้เงินกู้ กยศ. มาลงทุน Bitcoin



ในช่วงวันที่ 16 มีนาคมถึง 20 มีนาคมของปีนี้ ทางบริษัทด้านการวิจัยผลสำรวจในอเมริกานาม The Student Loan Report และ Pollfish ทำการเก็บผลสำรวจจากนักศึกษาจำนวน 1,000 คนที่มียอดหนี้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยหนึ่งในคำถามในแบบฟอร์มนั้นถามว่า “คุณเคยใช้เงินกู้เพื่อการศึกษาไปใช้ลงทุนใน cryptocurrency อย่าง Bitcoin หรือไม่” ผลสำรวจดังกล่าวทำให้พวกเขาต้องตกใจ
นักศึกษามหา’ลัยใช้เงินกู้ กยศ. เพื่อลงทุนคริปโต

นาย Drew Cloud หรือผู้ก่อตั้ง Student Loan Report อธิบายว่า “เด็กนักศึกษาชาวอเมริกันกำลังตามกระแส cryptocurrency พวกเขาเป็นกลุ่มนักลงทุนที่กำลังตื่นตัวมากที่สุด และต้องการที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในวงการนี้ในทุก ๆ ทาง แต่ก่อนผมก็เชื่อว่าน่าจะมีคนทำแบบนี้ แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะเยอะขนาดนี้ ลองคิดดูสิการเป็นนักศึกษาคุณไม่ค่อยมีเงิน และเงินเหล่านั้นควรจะถูกนำไปใช้กับสิ่งจำเป็นอย่างค่าเช่าบ้าน, อาหาร, หรือหนังสือ” เขาให้สัมภาษณ์กับ Boston Globe

ผลสำรวจเผยว่า “มีนักศึกษาประมาณ 21.2% ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มียอดหนี้เงินกู้ได้ใช้เงิน กยศ. ไปใช้เพื่อลงทุนใน cryptocurrency” โดยนักศึกษาเหล่านั้นถูกถามคำถามว่าได้นำเงินที่กู้ไปลงทุนใน cryptocurrency หรือไม่ และผลที่ได้มาก็คือ

ทาง Student Loan Report ได้ข้อสรุปว่า “ตามหลักแล้วผู้กู้สามารถที่จะทำแบบนั้นได้เพราะข้อกำหนดของเงินกู้นั้นครอบคลุมไปถึงการใช้มันเพื่อ ‘ดำรงชีวิต’ ในบางครั้งลูกหนี้นักศึกษาบางรายยืมไปมากกว่าค่าเทอมที่กำหนดเสียอีก สังเกตได้จากการที่ทางมหาวิทยาลัยส่งเงินจำนวนส่วนเกินคืนให้กับนักศึกษาเวลาขออนุมัติกู้ที่เกินจำนวน”

อย่างไรก็ตาม เงินกู้ที่นักศึกษายืมไปนั้นมักจะไม่ได้ถูกตรวจสอบอย่างเป็นทางการ ทำให้จำนวนที่หลงเหลือถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่มีใครสามารถทราบได้ อีกหนึ่งในตัวแปรที่น่าสนใจก็คือเงินกู้นั้นมักจะไม่ได้ถูกคืนทันทีที่จบการศึกษา แต่มักจะใช้เวลาในอีกหกเดือนให้หลัง

 wanwan021

3  ความรู้ทั่วไป / Cryptocurrency / ธนาคารแห่งประเทศไทย คึกซุ่มคลอด “คริปโทบาท” CryptoBaht เมื่อ: 24 มีนาคม 2018, 14:26:09
ธปท.คึกซุ่มคลอด “คริปโทบาท” ชูโอนเงินระหว่างแบงก์ผ่านบล็อกเชน



ธปท.ซุ่มศึกษา 2 โครงการ “เงินดิจิทัล-ออกพันธบัตร” ผ่านบล็อกเชน ชี้ “โทเคนสกุลเงินบาท” เอื้อการโอนเงินระหว่างแบงก์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้านการออกพันธบัตรทำได้เร็วขึ้นใน 2 วัน ฟากสมาคมธนาคารไทย ผนึก 14 แบงก์และ 7 ธุรกิจรายใหญ่ สร้างชุมชนบล็อกเชนให้บริการออกหนังสือค้ำประกัน คาดเริ่มไตรมาส 3/61

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในงาน Bangkok Fintech Fair 2018 จัดขึ้นครั้งแรกของ ธปท. ว่า ธปท.อยู่ระหว่างการศึกษา “โครงการอินทนนท์” ซึ่งจะเป็นการออกเหรียญดิจิทัลเป็นสกุลเงินบาท (คริปโทบาท) เพื่อนำมาใช้ในการโอนเงินระหว่างธนาคารพาณิชย์ด้วยกันให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ ธปท.กำลังศึกษาหารูปแบบที่เหมาะสม ร่วมกับธนาคารทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 5 แห่ง

โดยการที่ ธปท.หันมาศึกษา “ดิจิทัลเคอเรนซี” ในครั้งนี้ ถือเป็นการเตรียมพร้อมการรองรับกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งสอดคล้องกับธนาคารกลางชั้นนำทั่วโลก ที่ได้มีการศึกษานำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้เพื่อการโอนเงินเช่นเดียวกัน แต่ในต่างประเทศก็ยังไม่ได้นำออกมาใช้ในเวลานี้ เพราะยังมีหลายมิติที่เกี่ยวข้องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบก่อน



“ขอย้ำว่า โครงการนี้เป็นโครงการศึกษาที่อยู่ระหว่าง approve concept ซึ่งเป็นดิจิทัลเคอเรนซีที่ออกโดยธนาคารกลาง และใช้ในระบบชำระเงินของธนาคารพาณิชย์เท่านั้น ไม่ใช่สำหรับประชาชนทั่วไป ส่วนอนาคตก็เปิดให้มีการเชื่อมต่อกับประเทศอื่น ๆ ได้ด้วย ซึ่งรูปแบบนี้เหมือนเรามีโทเคนที่เป็นเงินบาท ประเทศอื่น ๆ ก็อาจมีโทเคน เป็นสิงคโปร์ดอลลาร์ ก็เอามาเชื่อมต่อกัน” นายวิรไทกล่าว

นายวิรไทกล่าวเพิ่มอีกว่า ธปท.ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการที่จะนำบล็อกเชนมาใช้ในการออกพันธบัตร ซึ่งจะทำให้นักลงทุนได้พันธบัตรรวดเร็วขึ้นในเวลา 2 วันทำการ จากปัจจุบันใช้ระยะเวลาดำเนินการ 15 วัน ซึ่งทั้ง 2 โครงการเป็นโครงการที่ทำผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน

นอกจากนี้ ธปท.ยังได้เล็งเห็นประโยชน์ในการนำเทคโนโลยีทางการเงินใหม่มาใช้ใน 3 มิติด้วยกัน คือ 1.ช่วยยกระดับผลิตภาพให้แก่ทั้งประชาชน และภาคเศรษฐกิจของไทย ที่ทำให้มีต้นทุนถูกลง 2.ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ ที่มีเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่ช่วยลดความสูญเสีย และช่วยป้องกันมิจฉาชีพทางการเงินได้มากขึ้น และ 3.ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่หลากหลาย แก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสในรายได้และทรัพย์สิน

ด้านนายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ล่าสุดมีความร่วมมือในโครงการ Thailand Blockchain Community Initiative หรือ การสร้างชุมชน blockchain เกิดจากความร่วมมือของ 14 ธนาคาร และธุรกิจขนาดใหญ่ 7 แห่ง โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 3/2561 จะเปิดให้บริการหนังสือค้ำประกัน (L/G) อิเล็กทรอนิกส์บนระบบบล็อกเชนได้ทั่วไป

ทั้งนี้ ปัจจุบันโครงการดังกล่าว ยังอยู่ระหว่างการทดสอบภายใต้การกำกับ (regulatory sandbox) ของ ธปท.รวมถึงการหารือระหว่างหน่วยงานเพื่อหารูปแบบ และกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้งาน อย่างไรก็ตามการทำ L/G ผ่านบล็อกเชนจะช่วยลดต้นทุน เพิ่มความปลอดภัยได้ชัดเจน

“ปัจจุบันการออก L/G บนกระดาษ จะมีกระบวนการมากมาย เช่น ลูกค้าวิ่งมาขอ L/G ที่แบงก์ จะต้องรอข้ามวัน และให้เมสเซนเจอร์มารับกระดาษ L/G มาส่งที่บริษัทที่จะค้ำประกัน แล้วต้องรอฝั่งบริษัทส่งกลับมาอีก ซึ่งถ้าเปลี่ยนขั้นตอนทั้งหมดเป็นดิจิทัลได้ ก็จะลดเวลาและต้นทุนของทุกฝ่าย รวมถึงธนาคารไปด้วย เราถือเป็นรายแรกในโลก ที่มีความร่วมมือและมีโครงการบล็อกเชนแบบนี้ ซึ่งยังสามารถพัฒนาไปใช้กับบริการอื่น ๆ ได้อีกเยอะ” นายปรีดีกล่าว

 wanwan011
หน้า: [1]